สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 4
บทที่4 โดนเมาท์กระจาย
เสิ่นอีเวยไม่ได้พูดอะไร เธอรอให้เขาพูดต่ออย่างเงียบๆ
“สองปีก่อนเธอทำร้ายเสิ่นหุ้ยจนกลายเป็นเจ้าหญิ งนิทรายังไม่รู้จักสำนึกอีก
ให้เธอตายนะมันง่ายไป เธอก็สบายไปสิ
สู้เอาเธอมาอยู่ข้างกายค่อยๆทรมาน ฉันว่าเป็นวิธีการลงโทษที่ดีที่สุดนะ”
ทำร้ายเสิ่นหุ้ยจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา…
เธอยังจำได้ถึงกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนั่น
ในห้องมืดๆนั่น เธอรู้สึกได้ว่าสวี่อันฉิงเคยเข้าไป
แต่ไม่มีใครเชื่อเธอ
เพราะสวี่อันฉิงเป็นเพื่อนรักของเสิ่นหุ้ย หล่อนไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งเสิ่นหุ้ยแล้วเข้ามาช่วยเธ
อ
เธอยิ้มเยาะตัวเอง
เพราะวินาทีนี้เธอรับรู้ได้ว่าพวกนักโทษตอนได้รับ ประกาศให้จำคุกตลอดชีวิตรู้สึกยังไงแล้ว
คงเหมือนเธอตอนนี้ล่ะ
ฉันไม่ฆ่าเธอ ดีกับเธอ
แต่ก็ทวนตอกย้ำความผิดที่เธอเคยทำซ้ำแล้วซ้ำเล่
าให้เธอรู้สึกว่าตัวเองสมควรตาย
แม้ว่านั่นจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตามใช่สิ นี่สิถึงจะสมเป็นเซิ่งเจ๋อเฉิง
งานแต่งงานเลิศหรูอะไร ก็แค่ภาพลวงตา เป็นกรงที่เขาใช้กักขังเธอเพื่อลงโทษต่างหาก
“คืนพรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงกับฉัน
โลเคชั่นเดี่ยวพรุ่งนี้ส่งไปให้งานเริ่มสองทุ่ม
อย่าสายล่ะ”
เสิ่นอีเวยเหนื่อยหมดแรงนอนแบบบนเตียง ไม่มีแรงคิดวิเคราะห์คำพูดของขา
“ใส่ให้สวยด้วยล่ะอย่าให้ฉันขายหน้า” พูดจบ เซิ่งเจอเฉิงไม่สนใจเธออีก และเปิดประตูเดินออกไปเลย
เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉันขายหน้าให้กับนายไม่เหลือแล้ว ทั้งๆที่เป็นสามีภรรยากัน ทั้งๆที่กลับบ้านเดียวกัน แต่เขากลับไม่คิดแม้แต่จะถามไถ่เธอสักคำ.
“หัวหน้าฝ่ายดีไซน์ที่พึ่งมาเมื่อเดือนก่อนของบริษั ทเราน่ะ มีใครคุ้นเคยกับหล่อนบ้าง?”
“เธอหมายถึงหัวหน้าเสิ่นหรอ ทำไมอ่ะ?”
ที่ไหนมีผู้หญิงที่นั่นมีข่าวเมาท์
ความจริงข้อนี้เสิ่นอีเวยรู้ดี แต่เธอไม่คิดว่าในบริษัทใหญ่แบบนี้ก็มีด้วย
พอกดน้ำชักโครกเธอยังไม่ออก แต่นั่งฟังเหล่าสาวๆเมาท์กันกระจายก่อน
“พวกเธอไม่คิดว่าหล่อนหยิ่งหรอ? เธอดูปกติท่าทางหล่อนตอนเดินสิเหมือนไม่เห็นใครในสายตาเลย ให้ฉันเดานะ บางทีอาจเป็นพวกแบมือขอเงินพ่อแม่ก็ได้ ได้ยินว่าแม่หล่อนก่อนนี้ก็ทำงานด้านนี้นะ แถมยังเป็นรุ่นท็อปซะด้วย”
พอได้ยินถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยสีหน้าเปลี่ยนทันที
“อันนี้ไม่ชัวร์อะ
แค่รู้สึกว่าหล่อนสนิทกับเจ้านายเรา” พูดไปก็ส่งสายตารู้กันกับเพื่อน
“ไม่จริงน่ะ? เล่นเส้นหรอ?เจ้านายเราถึงจะจบนอก แต่หน้าตาหัวหน้าเสิ่นก็พอได้หรอก
แต่ถ้ามาเทียบกับเจ้านายเราเหมือนจะด้อยไปหน่ อย แถมหล่อนยังเก่งด้วยนะ”
“สมัยนี้ใครเขาสนหน้าตากันล่ะ
ผู้หญิงที่ชอบเงินมีถมไป หัวหน้าเสิ่นอาจจะ”
จู่ๆแขนของคนที่พูดอยู่ก็โดนดึง
เหล่าสาวที่ยืนแต่งหน้าหน้าอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ พอมองเห็นคนที่ยืนด้านหลังจากกระจกตรงหน้า ทั้งสามคนก็เหลือบมองกันและเงียบในบัดดล
เสิ่นอีเวยสองมือกอดอกยิ้มบอกว่า
“ทุกคนดูจะมีเวลาว่างพอดูนะ
ไม่คิดว่าฉันจะได้รับเกียรติเป็นหัวข้อเมาท์กระจาย
ยามพักของทุกคน”
นิสัยของเธอปกติก็ค่อนข้างเงียบแล้ว
ไม่เคยไยดีอะไรใครนอกจากเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอเองได้รับฉายาเย่อหยิ่ง
เชิดเริศมาตั้งแต่เล็กจนโต ชินซะแล้วล่ะแต่ประโยคที่ว่าแบมือขอเงินพ่อแม่ เธอกลับรู้สึกแสลงหู
เธอเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ถึงจะยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มนั่นกลับไปไม่ถึงดวงตา เธอเหยียดตามอง
“แต่ว่าฉันขอแก้ข่าวหน่อยละกัน
แม่ฉันเป็นระดับท็อปของวงการนี้จริง แต่พ่อแม่ฉันเสียไปตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว เรื่องที่ว่าฉันยังแบมือขอเงินพวกเขา
คิดให้ดีก่อนพูดจะดีกว่า”
พูดจบ เธอสะบัดสายตามีดบินใส่ก่อนเดินไป แววตาปิดความเจ็บปวดไม่มิด กำมือแน่นซ่อนในกลีบกระโปรง
“อำ? พ่อแม่ของหัวหน้าเสิ่นตายยังไง? ฉันสนใจนะเนี่ย”
อยู่ดีๆก็มีเสียงแทรกขึ้นมาจากช่องทางเดินด้านซ้า ยของเสิ่นอีเวย พอหันไปดู
สวีอันฉิง