สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 403
บทที่ 403 พวกเราไม่มีทางกลับมาคืนดีกัน
“แต่ฉันจะขอเตือนคุณไว้ว่า จากเรื่องที่คุณเล่ามา เพราะสิ่งที่พ่อกับแม่คุณทำไว้กับเสิ่นหุ้ยในอดีต ตอนนี้เห็นชัดแล้วว่าเธอเห็นคุณเป็นศัตรู แม้ว่าเธอจะพูดว่าเมื่อไหร่ที่อารมณ์ไม่ดีจะมาจัดการคุณ อย่าไปเชื่อคำพูดทั้งหมดของหล่อนเป็นอันขาด ตอนนี้คุณต้องเริ่มระมัดระวังตัวให้มากขึ้น”
เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดทั้งหมดนี้อย่างจริงจัง เสิ่นอีเวยได้แต่พยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไร
ทั้งสองต่างก็นิ่งเงียบ เสิ่นอีเวยเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เอามือตีหัวตัวเองแล้วพูดว่า: “ตายแล้ว ดึกขนาดนี้แล้วฉันยังไม่กลับบ้าน อันหรานคงจะพาเหมียนเหมียนไปที่บ้านแล้ว หล่อนหาฉันไม่เจอคงต้องร้อนใจมากแน่ๆ”
พูดจบก็รีบลุกขึ้นยืนเตรียมจะออกไปหาโทรศัพท์มือถือ
ตอนนี้เองที่ได้ยินเสียงพูดเนิบๆของเซิ่งเจ๋อเฉิงดังขึ้นมาว่า: “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมโทรไปบอกผู้จัดการคนนั้นแล้ว”
เสิ่นอีเวยชะงักไปทันที ตกใจเบิกตาโต: “อะไรนะ”
“ใช้โทรศัพท์มือถือคุณโทรไป แสดงให้เห็นว่าผมอยู่กับคุณ มีคนดูแล พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง “เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดย่างจริงจังมีเหตุมีผล
เสิ่นอีเวย “……..”
“คุณโทรหาหยางอันหรานเหรอเขารู้ว่าคุณคือใครเหรอ เขาถามว่าฉันเป็นอย่างไรบ้างมั้ย คุณบอกเขาเหรอว่าพวกเราอยู่ด้วยกันคืนนี้”
เสิ่นอีเวยถามคำถามที่พรั่งพรูเหล่านี้ไม่หยุดด้วยเวลาไม่กี่นาที เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้แต่มองหล่อนนิ่งๆ แล้วตอบด้วยท่าทีสงบอย่างไม่น่าเชื่อ: “ข้อหนึ่ง ใช่ ผมเป็นคนโทรหาหยางอันหรานเอง ข้อสอง ผมไม่รู้ว่าเธอรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร ข้อสาม จริงๆแล้วเธอก็อยากจะถามว่าคุณเป็นอย่างไรบ้าง แต่ผมไม่ได้ให้โอกาสเธอพูด ข้อสี่ ผมไม่ได้บอกว่าคืนนี้พวกเราสองคนอยู่ด้วยกัน เพราะผมคิดว่าเรื่องราวมันก็เห็นกันอยู่ชัดเจนแล้ว ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็น่าจะคิดได้เอง”
เซิ่งเจ๋อเฉิงตอบอย่างชัดเจนเป็นข้อๆ ทำเอาเสิ่นอีเวยมึนไปเลยทีเดียว
ชั่วเสี้ยววินาทีไม่รู้ทำไม เหมือนกับสวมวิญญาณนางเอกผู้ตีบทแตก เสิ่นอีเวยยกนิ้วขึ้นมาชี้เซิ่งเจ๋อเฉิง ไม่รู้ว่าเพราะคืนนี้หล่อนดื่มมากไปหรือเปล่า เสิ่นอีเวยรู้สึกว่านิ้วของหล่อนเหมือนจะไม่ฟังคำสั่ง จึงมีอาการสั่นเล็กน้อย
“คุ ๆๆๆคุณทำลายชื่อเสียงฉัน” เสิ่นอีเวยตะโกนออกมาอย่างขุ่นเคือง
เพราะหล่อนรู้นิสัยของหยางอันหรานดี ถ้าหากจับคนพูดมากได้แล้วห้ามปล่อยมือเด็ดขาด เสิ่นอีเวยพอจะคาดเดาได้ว่าภายในครึ่งเดือนหลังจากนี้ หล่อนอาจจะถูกคนที่พูดมากอย่างหยางอันหรานระรานไม่หยุด
ช่วงนี้ก็เพิ่งจะเกิดเรื่องที่เหมียนเหมียนจะหาแฟนให้หล่อนในงานmeeting แฟนคลับ เรื่องนี้เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน ถ้าหยางอันหรานรู้ว่าหล่อนอยู่กับผู้ชายคนอื่นอีก
แล้วผู้ชายคนนั้นยังเป็นท่านประธานแห่งบริษัทเซิ่งซื่อผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง แค่ค้นหาชื่อเขาทางอินเทอร์เน็ตข้อมูลต่างๆของเขาก็พรั่งพรูขึ้นมา
บรรลัยแล้วจริงๆ
เสิ่นอีเวยมองเซิ่งเจ๋อเฉิงอยากจะร้องแต่ก็ร้องไม่ออก ในใจโกรธมาก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะคืนนี้ถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ หล่อนดื่มจนตายที่บาร์นั่นก็อาจจะไม่มีใครรู้
หลังจากที่เซิ่งเจ๋อเฉิงเดินออกจากห้องน้ำไป สิ่งแรกที่เสิ่นอีเวยทำคือหยิบโทรศัพท์โทรไปหาหยางอันหราน
ก่อนที่จะโทรออกหล่อนก็พบว่า หน้าบันทึกการโทรนั้นมีหลายสายที่ไม่ได้รับ ทั้งหมดเป็นเบอร์ของหยางอันหรานโทรมา เซิ่งเจ๋อเฉิงตั้งใจไม่รับสาย เป็นเพราะหล่อนเมาไม่ได้สติ จึงไม่รู้เรื่องอะไร
โทรศัพท์ดังอยู่สองวินาที เสียงโวยวายของหยางอันหรานก็ดังมาจากอีกด้าน: “ในที่สุดเธอก็ยอมรับสายแล้ว ฉันนี่เกือบจะไปแจ้งความแล้ว เธอรู้มั้ย”
เมื่อต้องมาเจอกับคนขี้โวยวายอย่างหยางอันหราน เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร ได้แต่ปลอบอย่างใจเย็นว่า: “พอแล้ว ๆ เธอไม่ต้องมาโวยวายใส่ฉันแล้ว ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าคืนนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้ ฉันก็แค่อารมณ์ไม่มี ก็เลยไปดื่มที่บาร์คนเดียวสักสองสามแก้ว สุดท้ายเมาแล้วก็ถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงพากลับมา
“ดังนั้น เธอก็หมายความว่า ตอนนี้เธออยู่บ้านของเขานะสิ”เสียงหยางอันหรานถามมาจากอีกด้าน
“ใช่”
“แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่บาร์”
เสิ่นอีเวยเดิมตั้งใจจะบอกความจริง แต่ก็รู้สึกว่าการที่ต้องมานั่งอธิบายแบบนี้มันเสียเวลา จึงพูดขึ้นว่า: “ที่เหลือมีเวลาว่างแล้วจะเล่าให้ฟังอีกที”
“เดี๋ยวๆๆ ยังมีต่อจากนี้อีก ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ในห้องเดียวกัน เวยเวยเธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
หยางอันหรานเตือนด้วยความหวังดี
เสิ่นอีเวยเตรียมจะพูดต่อแต่ถูกหยางอันหรานตัดบทขึ้นมาก่อนว่า : “แต่ไม่ต้องก็ได้นะ เพราะคนเค้าไปตามหาเธอที่บาร์ดึกๆดื่นๆ แล้วยังพากลับมาดูแลที่บ้าน อย่างน้อยก็ต้องมีใจให้เธออยู่ ไม่อย่างนั้นไม่ทำแบบนี้หรอก พูดไปพูดมาพวกเธอสองคนจะกลับมาคืนดีกันเหรอ
ก็ดีนะ งั้นเธอก็ไม่ต้องดูแลตัวเองดีๆละ ปล่อยตัวปล่อยใจไปเถอะ ทำให้เหมียนเหมียนกลับมามีพ่อเหมือนเดิม แถมยังเป็นพ่อที่รวยและแสนจะเพอร์เฟคอีกด้วย”
คำพูดเลอะเทอะมั่วซั่วของหยางอันหราน เสิ่นอีเวยไม่คิดจะใส่ใจ แล้วพูดว่า: ” เธออย่าเที่ยวทั่วพูดจาเลอะเทอะ ฉันไม่มีทางคืนดีกับเขา อยู่ร่วมบ้านก็ไม่มีทาง ไม่มีทางทั้งนั้น เรื่องที่จะหาพ่อให้เหมียนเหมียน ในใจฉันก็คิดอยู่ แต่ก็แค่ยังไม่เจอใครที่เหมาะสมเท่านั้นเอง”
หยางอันหรานเตรียมตัวจะพูด แต่เสิ่นอีเวยก็พูดต่อว่า: “เหมียนเหมียนคืนนี้ก็อยู่กับเธอใช่มั้ย ช่วยดูแลแทนฉันที แล้ววันหลังฉันจะเลี้ยงข้าว”
หยางอันหรานเห็นเสิ่นอีเวยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา จึงรู้ว่าหล่อนอาจจะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้วจริงๆ จึงไม่อยากเซ้าซี้ ได้แต่ตอบรับหล่อนไปว่า: “เธอไม่ต้องเป็นห่วง เหมียนเหมียนนอนหลับไปแล้ว”
การที่ได้ยินหยางอันหรานพูดแบบนี้ เสิ่นอีเวยจึงวางสายได้อย่างสบายใจ
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะวางสายเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เดินเข้ามาจากด้านนอกประตูห้องนอน สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก
เสิ่นอีเวยเห็นเขาอยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น จึงคิดได้ว่า เขาอาจจะได้ยินที่หล่อนพูดในโทรศัพท์เมื่อสักครู่ จึงถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณ
เซิ่งเจ๋อเฉิงขยับใกล้เข้ามาอีกก้าว แล้วถามเสียงเย็นว่า : “เมื่อกี้คุณพูดในโทรศัพท์ว่าไม่มีทางคืนดีกับผม อยู่ร่วมบ้านกับผมก็ไม่มีทาง”
เสิ่นอีเวยตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นโครมคราม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะคำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากหล่อนจริงๆ
“แถมยังพูดว่าจะหาพ่อให้เหมียนเหมียน”ตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดประโยคนี้น้ำเสียงมีความอันตรายน่ากลัว
เสิ่นอีเวยมองหน้าเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่พักใหญ่พลางตอบอย่างใจเย็นว่า: “ใช่ ฉันไม่อยากโกหกคุณ”
พอพูดจบ เสิ่นอีเวยก็เตรียมตัวเตรียมใจรับฝนฟ้าคะนอง ที่น่าจะใกล้เข้ามาแล้ว