สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 413
บทที่ 413 คำเชิญชวนที่ไม่ต้องการ
Alex มองไปที่บัตรเชิญในมือเสิ่นอีเวย เขาปุ้ยปากพูดว่า:“นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรอ?ในช่วงเวลาที่พวกเราร่วมงานกับประธานเซิ่ง ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นเดือนหน้าจึงตัดสินใจเชิญชวนทุกคนไปเที่ยวประเทศไทยด้วยกันเป็นเวลาเจ็ดวัน พูดก็พูด เหมือนกับว่าผมจะเคยไปเที่ยวทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยกเว้นประเทศไทย ที่จริงอยากไปเที่ยวมานานแล้ว ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี!”
เสิ่นอีเวยมองดูใบหน้าที่กำลังวาดฝันของบอสตนเอง ที่จริงในใจลึกๆไม่อยากทำลายความฝันของเขา แต่ไม่มีทางเลือก คำเชิญการท่องเที่ยวครั้งนี้ เธอไม่ต้องการตอบตกลงจริงๆ
เหตุผลข้อเดียวคือ แค่คิดว่าต้องร่วมเดินทางกับผู้ชายที่น่ารำคาญไปตลอดทาง เสิ่นอีเวยก็รู้สึกหายใจไม่ออก
ตอนอยู่ในประเทศก็รับมือยากพอแล้ว ถ้าโดนเซิ่งเจ๋อเฉิงก่อกวนไม่หยุดในประเทศที่ตนเองไม่คุ้นเคย จะทำอย่างไร?
ก้มลงมองบัตรเชิญในมือของตนเอง เสิ่นอีเวยรู้สึกปวดหัว เธอทิ้งบัตรเชิญไว้บนโต๊ะทำงาน เอามือนวดหน้าผากและพูดว่า:“ถ้าหากครั้งนี้ฉันไม่ไป เมื่อถึงตอนนั้นฝากขอบคุณประธานเซิ่งแทนฉันด้วย ครั้งนี้คุณพาทุกคนไปเที่ยวก็พอแล้ว”
ถึงอย่างไรบนบัตรเชิญเขียนไว้ว่าเรียนเชิญพนักงานทุกคน ไม่ได้เขียนว่าเรียนเชิญเธอเพียงคนเดียว งั้นเธอควร“อ้างว่า”ติดธุระไม่สามารถไปได้จะดูมีเหตุผล เสิ่นอีเวยคิดว่าตนเองควรหาเหตุผลที่เหมาะสมสักข้อหนึ่ง
Alex ยักไหล่อย่างไม่สนใจ เขาพูดเตือนว่า:“อีเวย คุณน่าจะลองอ่านรายละเอียดคำเชิญที่เขียนไว้ด้านล่างอีกครั้งนะ?”
เสิ่นอีเวยได้ฟังประโยคที่เขาพูด จึงสะดุ้งโหยงทันที เธอคิดว่าตนเองพลาดรายละเอียดบางอย่างที่สำคัญไป จึงรีบหยิบบัตรเชิญขึ้นมา เมื่ออ่านอยากละเอียดจึงพบว่า ประโยคคำเชิญด้านล่างที่เพิ่งจะอ่าน ดูเหมือนว่าจะมีตัวหนังสือตราประทับเล็กๆแถวหนึ่ง
ตัวอักษรสีทองแดง ภายใต้การหักเหของแสงในระดับต่างๆจะปรากฏความเข้มอ่อนของตัวอักษรที่ไม่เหมือนกัน น่าแปลกที่เมื่อสักครู่ตนเองมองไม่เห็น
เสิ่นอีเวยก้มลงไปมองให้ชัด เธอมองไปพลางๆและอ่านเสียงเบาไปพลางๆ:“ถ้าคุณเสิ่นปฏิเสธคำเชิญครั้งนี้ เป็นอันว่าคำเชิญนี้เทียบเท่ากับโมฆะ……”
เสิ่นอีเวยตะลึงตาโต ในที่สุดตนเองก็มองไม่ผิด เธอพูดออกมาอย่างแทบไม่อยากเชื่อว่า:“ทำไมเซิ่งเจ๋อเฉิงถึงได้ลื่นเป็นปลาไหลแบบนี้!”
สมองของเธอแทบจะระเบิดออกมา……ผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนปีศาจที่แสนชั่วร้ายจริงๆ
ประโยคสุดท้าย มองดูแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ แต่กลับคุกคามเสิ่นอีเวย ความหมายคือ:ถ้าหากเธอไม่ไป คนในบริษัทก็ไม่ต้องไป
เสิ่นอีเวยพยายายสงบอารมณ์อยู่สักพัก และถาม Alex ว่า:“คำเชิญทุกคนไปเที่ยวประเทศไทยจากเซิ่งเจ๋อเฉิง ตอนนี้มีใครในบริษัทที่รู้เรื่องบ้าง?”
Alex หัวเราะอย่างอารมณ์ดี :“อีเวย ถ้าพูดแล้วอย่าตกใจนะ แท้จริงแล้วคุณคือคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้”
เสิ่นอีเวย:“……”
เธอเข้าใจผิดทันทีว่า Alex ตั้งใจบอกเธอเป็นคนสุดท้าย เธอจึงรู้สึกแย่:“บอกฉันได้ไหม ความจริงคุณอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?ฉันยังเป็นพนักงานของคุณหรือเปล่า……”
เมื่อ Alex ได้ยินเธอพูดออกมาเช่นนั้น จึงรีบโบกมืออย่างรวดเร็วเพื่อชี้แจงให้ตัวเอง :“ไม่ใช่อย่างนั้น คุณอย่าเข้าใจผมผิดสิ ผู้ช่วยหลินไม่ได้ส่งบัตรเชิญให้คุณคนเดียว แต่ยังรวมทั้งพนักงานจำนวนไม่น้อยที่ร่วมการออกแบบเครื่องประดับและการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้ เขาส่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ละคนได้รับคนละใบ ดังนั้นตอนนี้ทุกคนจึงรู้เรื่องว่าเดือนหน้าจะได้ไปเที่ยวประเทศไทย”
มือซ้ายของเสิ่นอีเวยจับคางของตนเองอย่างไร้เรี่ยวแรง ในครั้งนี้เซิ่งเจ๋อเฉิง เห็นได้ชัดว่าเดินหมากได้ดีมาก
ช่วงนี้ตนเองหลบหน้าไม่ยอมพบเจอเขา เขาจึงใช้วิธีการขั้นรุนแรง“มัดมือชก”ตนเอง
งั้นไปก็ได้ ถึงแม้ในใจของตนเองจะไม่มีความสุข แต่ถ้าหากไม่ไป ทุกคนในบริษัทก็จะรู้ว่า สุดท้ายเพราะเธอไม่เห็นด้วย จึงทำให้ทุกคนอดไปเที่ยว ลึกๆในใจของเสิ่นอีเวยก็ไม่ต้องการเป็นคนไม่ดี
ฉันควรทำอย่างไรดี……มันเป็นวิธีเดียวที่จะประนีประนอมกับปีศาจใช่ไหม?เสิ่นอีเวยฟุบหน้าลงบนโต๊ะทำงานตนเอง อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
ในขณะนี้ Alex มองเห็นเธอมีท่าทางทุกข์ทรมานใจ เขาจึงเข้าไปนั่งใกล้เธอและหยอกล้อว่า:“เรื่องนี้มันรบกวนจิตใจของคุณหรอ?เวลาทำงานบางครั้งเจอปัญหามากมาย ไม่เคยเห็นคุณขมวดคิ้วเลยสักครั้ง แท้จริงแล้วครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น?”
เสิ่นอีเวยเบะปาก เธอไม่เงยหน้าขึ้นมา ยังคงฟุบหน้าอยู่ในอ้อมแขนตนเองต่อไป เธอตอบอย่างโมโหว่า:“เห้อ เรื่องบางเรื่องคุณไม่เข้าใจ……ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็ค่อนข้างหัวเสีย”
Alex หัวเราะอย่างสดใส พูดว่า:“มีอะไรที่ผมไม่เข้าใจ นั่นไม่ใช่ว่าประธานเซิ่งคนนั้นต้องการขอร้องให้คุณกลับไปเป็นภรรยาหรอ?”
เสิ่นอีเวยอึ้งไปสักพัก ทันใดนั้นเสียง“ฉึ่ง”ดังขึ้นมา เธอถามคำถามอย่างตาโต:“ ทำไมคุณถึงรู้เรื่องนี้?”
Alex เอามือวางบนหน้าผาก ใช้สายตารู้สึกผิดมองเสิ่นอีเวย:“ปกติคุณสามารถเอาแบ่งสมาธิในการทำงาน ไปฟังเรื่องนินทาในบริษัทได้ไหม?คุณกับประธานเซิ่งเคยเป็นสามีภรรยากัน หลังจากนั้นก็หย่า ตอนนี้เขาอยากขอร้องให้คุณกลับไป เรื่องนี้เขารู้กันทั่วบริษัทตั้งนานแล้ว”
เสิ่นอีเวยประหลาดใจ:“ข่าวนี้เริ่มแพร่กระจายตั้งแต่เมื่อไหร่?”
Alex ทำท่าคิดสักพัก จึงสามารถให้คำตอบเธออย่างชัดเจน:“ประมาณช่วงครั้งก่อนที่ประธานเซิ่งมาส่งคุณทำงาน!”
เสิ่นอีเวยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา จำได้ดีว่าในวันนั้นตนเองกังวลว่าจะมีคนนินทา ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธเซิ่งเจ๋อเฉิงระหว่างทางที่มาส่งตนเองทำงาน ทำไมถึงไม่หนักแน่นนะ?ทำไมตอนนั้นถึงยอมประณีประนอม?
“วันนั้นตอนที่รถของประธานเซิ่งขับเข้ามา ประจวบเหมาะโดนพนักงานในบริษัทเห็นเข้า คุณก็รู้ดี เด็กผู้หญิงวัยรุ่น ช่างพูดคุยนินทาเรื่องชาวบ้าน อีกทั้งบริษัทของพวกเรามีจำนวนพนักงานหญิงมากกว่าพนักงานชาย ข่าวซุบซิบแบบนี้จึงแพร่กระจายอย่างไม่สามารถหยุดยั้งได้ ดังนั้นในที่สุดทุกคนจึงรู้ไง!”
เนื่องจากน้ำเสียงการพูดของ Alex มีแนวโน้มที่จะทำให้รู้สึกเป็น“การแสดง”ดังนั้นเสิ่นอีเวยจึงมองบนใส่เขายกใหญ่
“แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ……”เสิ่นอีเวยพูดเสียงเบา
“อีเวย——”Alex ยืนขึ้นและวางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะตรงข้ามเธอ
“เรื่องระหว่างชายหญิง เป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าคุณต้องการที่จะยอมรับเขา ก็อย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่น อย่างไรเสียชีวิตก็เป็นของคุณ ไม่จำเป็นต้องฟังคำวิจารณ์ของผู้อื่นตลอด แต่ถ้าหากคุณไม่ต้องการยอมรับเขา ก็จงรักษาความภาคภูมิใจของตนเองไว้ตลอด อย่าปล่อยให้เสียงจากภายนอกรบกวนจิตใจของคุณเอง รู้ว่าตนเองต้องการอะไร นั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
เมื่อ Alex พูดจบ ดวงตาของเสิ่นอีเวยก็เกิดความสว่างขึ้นมา ความสนใจเรื่องเมื่อสักครู่จึงลดลงมาหน่อย เธอหยอกล้อบอสตนเองว่า:“โอ้โห ?ช่วงนี้ภาษาจีนนับวันยิ่งดีขึ้นนะ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะพูดจาสร้างแรงบันดาลใจผู้คนได้”
Alex หัวเราะอย่างสดชื่น เขายักไหล่:“เรื่องเล็กน้อย ถึงอย่างไรท้ายที่สุดหนังสือเหล่านั้นเกี่ยวกับการทำสมาธิในพระพุทธศาสนาก็ไม่ได้ถูกอ่านอย่างไร้ประโยชน์”