สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 433
บทที่ 433 ยังไงก็ไม่ไป
เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้ฟังอะไรเขามากมายนัก แต่สิ่งที่ดีก็คือผู้ชายคนนี้ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย ถ้าไม่เช่นนั้นคงเกิดเรื่องแน่นอน
เธอก็ปรับสภาพอารมณ์แล้วก็กำลังจะเอามือถือของตัวเองขึ้นมา แต่กลับคิดถึงเรื่องที่มีดนั้นกำลังจ่อคอเธออยู่
“เอามีดออกไป แล้วจะลบรูปภาพ” เสิ่นอีเวยพูดอย่างเย็นชา
ผู้ชายยิ้ม แล้วก็มีน้ำเสียงที่เสียดสีว่า “อะไรรึ จะยังมาเสนอเงื่อนไขกับฉันรึ ?”
เสิ่นอีเวยก็ไม่ได้ไปสนใจเขา ตอนที่กำลังจะคิดว่าจะให้อีกฝ่ายนั้นยอมยังไง ผู้ชายคนนั้นกลับเอามือปล่อยออกมา
ความรู้สึกที่เสียววูบนั้นก็ได้หายไป เสิ่นอีเวยก็เหมือนถูกปลดปล่อย ขาทั้งสองข้างนั้นเริ่มไม่มีแรง ทั้งร่างกายก็กำลังจะล้มลงไป ผู้ชายคนนั้นก็ได้ช่วยพยุงขึ้นมา
ตั้งแต่เริ่มใจไม่ดีตอนนั้น ณ เวลานั้นก็เหมือนจะดีขึ้นมาสักหน่อยหนึ่ง
เสิ่นอีเวยสูดหายใจลึก ๆ แล้วก็ได้เอามือถือขึ้นมา แล้วก็เปิดที่รูปภาพของตัวเอง แล้วก็ได้เอาให้ผู้ชายคนนั้นดู “ดูให้ชัดเจนนะ”
เธอได้ใช้มือนั้นกดลบไปยังรูปภาพตรงนั้น
ผู้ชายก็พูดคำหนึ่งว่า “อืม” ซึ่งไม่ได้แสดงถึงอารมณ์อะไร แล้วก็พูดว่า “ถ่ายเพียงแค่รูปเดียวรึ ? ”
“ใช่” เสิ่นอีเวยตอบ
รูปที่ตั้งใจถ่ายนั้นมีแค่รูปเดียว แต่รูปอื่นนั้นเป็นการถ่ายสภาพบรรยากาศและสภาพแวดล้อมรอบข้าง เพียงแต่เขานั้นเข้ามาติดในเฟรมเท่านั้นเอง ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เห็นถึง เธอก็คิดที่จะบอกให้รู้
ผู้ชายคนนี้ดูไปแล้วยิ่งอยู่ยิ่งมีปัญหา รูปของเขานั้น ไม่แน่อาจจะใช้ได้ในสักวันหนึ่ง เสิ่นอีเวยก็คิดอยู่แบบนั้น
เสิ่นอีเวยไม่ใช่คนที่เมื่อตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายแล้ว ก็จะไปคิดถึงและคำนึงถึงเรื่องของนิสัยฝ่ายตรงข้าม ถึงเวลาควรจะเข้มแข็งก็จะต้องเข้มแข็ง แต่เมื่อถึงตอนที่จะต้องยอมก็จะต้องยอม เพราะว่าประสบการณ์การใช้ชีวิตอันโดดเดี่ยวของเธอนั่นเอง
ขณะที่ลบรูปภาพและเรื่องราวทั้งหมดนั้น เสิ่นอีเวยรักษาสภาพความเย็นชาและเงียบสงบได้ดีมาก ๆ ดูไปแล้วไม่ได้มีความกลัวอะไรเลย
ผู้ชายคนนั้นเก็บมีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เดินเข้ามาที่เตียง แล้วพูดว่า “เมื่อสักครู่นี้รู้ได้ยังไงว่ามีคนอยู่”
เสิ่นอีเวยตกใจแล้วขมวดคิ้วว่า “จะถามทำไม ? ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรคุณ ในเมื่อสิ่งที่คุณอยากได้ก็เสร็จแล้ว ก็รบกวนออกไปจากที่นี่”
เธอนั้นมีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ แต่ผู้ชายคนนี้ก็เหมือนจะไม่ได้คิดจะออกไปจากที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือนั่งอยู่บนเตียงแล้ว เสิ่นอีเวยขมวดคิ้ว ผู้ชายคนนี้จะทำอะไร ?
เพียงสักครู่นี้ทั้งเรือนร่างถูกบีบบังคับ แล้วก็เต็มไปด้วยความกลัว ดังนั้นเสิ่นอีเวยก็ไม่ได้มองรูปร่างของชายคนนี้อย่างชัดเจน ณ เวลานี้เขานั้นได้นั่งอยู่ที่เตียง แล้วแสงของไฟนั้นก็ได้มาสาดส่องที่ใบหน้าของเขา
ผู้ชายคนนี้มีใบหน้าที่งดงาม คิ้วนั้นก็แสดงถึงความสง่างาม สายตาก็มีความเยือกเย็นนิดหน่อย
เสิ่นอีเวยในใจก็รู้สึกอึดอัด แล้วก็พูดว่า “ฉันลบรูปคุณแล้ว คุณไปได้แล้ว”
ผู้ชายคนนี้ก็ได้ยื่นมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วก็นอนอยู่บนเตียง แล้วก็พูดว่า “ตอนนี้คุณกำลังทำอะไร ?”
เสิ่นอีเวยตกใจแล้วพูดว่า “คุณพูดอะไร ? “
“ฉันถามว่าคุณตอนนี้ทำงานอะไร ?” ผู้ชายคนนั้นใช้น้ำเสียงที่อดทนพูดออกมา
ตอนนี้เสิ่นอีเวยก็รู้สึกสับสนแล้วก็เงียบไปหลายวินาทีแล้วพูดว่า “ปัญหานี้เกี่ยวอะไรกับคุณ ? ฉันและคุณไม่ได้รู้จักกัน คุณกำลังมาทำลายความเป็นส่วนตัวของฉัน”
มองไปที่สายของผู้ชายคนนั้น เสิ่นอีเวยก็สั่นไปหมด ซึ่งความอันตรายนี้ยังไม่ได้หมดไป เพียงแค่ผู้ชายคนนี้อยู่ในที่นี้นานเท่าไหร่ เธอก็จะต้องรักษาความปลอดภัยของตัวเองให้มากที่สุด
เสิ่นอีเวยก็คิดไปคิดมา แล้วก็คิดว่าจะให้ตัวเองนั้นหลุดพ้นจากตรงนี้ได้ยังไง ไม่ได้มาหุบเขาจิ่วเหมิงนาน เธอก็ไม่ได้รู้เลยว่าที่นี่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้
เสิ่นอีเวยก็รู้สึกคิดอะไรได้ แล้วก็คิดว่าตอนเองนั้นไม่ได้เปิดเผยความอ่อนแอของตัวเอง
มาหุบเขาจิ่วเหมิงครั้งนี้ เธอรู้ว่าจะไปวัดชิงเหยียนนั้นจะต้องผ่านเส้นทางที่ลำบาก เพื่อที่จะเดินได้สะดวกเธอก็เลยได้ใส่เสื้อเท้าที่เดินสบาย รองเท้านี้ไม่เพียงแต่ทนทาน และทั้งยังมีความแข็งแรง แล้วก็ใช้ห้องนี้มีพื้นไม้ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ หากขยับสักหน่อยก็จะได้ยินเสียงขึ้นมา
เสิ่นอีเวยเห็นผู้ชายคนนี้นอนอยู่บนเตียงของเธอนั้น ก็เลยตั้งใจที่จะกระแทกรองเท้าลงบนพื้น
เมื่อสักครู่ที่เธอนั้นจ่ายเงินเข้ามาอยู่ที่นี่ก็เลยสำรวจพบว่าห้องนั้นไม่ได้เก็บเสียง และในเวลานี้ เพียงแต่ทำให้เสียงดังขึ้น จะทำให้ห้องข้างล่างนั้นถูกรบกวนได้
อาศัยที่เธอนั้นกำลังกระแทกอยู่นั้น ไม่เกินห้านาที ข้างล่างห้องก็ได้มีเสียงดังขึ้นมา แล้วก็มาเคาะประตู เธอก็จะใช้เวลานี้หนีออกไป
และเวลาผ่านไปหลายนาที เสิ่นอีเวยก็รู้สึกใจนั้นมีความเหน็บหนาว สี่ทิศนั้นเงียบสงบ เหมือนกับเสียงเคาะกระแทกของตัวเองนั้นนอกจากเสียงนี้แล้ว ก็ไม่มีเสียงอะไรอีกเลย
ในค่ำคืนที่มืดมิด เงียบจนทำให้คนนั้นรู้สึกแปลก ๆ ไป
เสิ่นอีเวยก็เลยเคาะต่อไป แล้วในตอนนี้ ผู้ชายคนนั้นก็ได้เตือนเธอว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฟังผมแล้วกันนะ คุณไม่ต้องใช้วิธีนี้หรอก สถานที่อโคจรเช่นนี้ ทุกคนนั้นเอาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว ไม่มีใครมาจัดการเรื่องของคนอื่นหรอก”
เสิ่นอีเวยตกใจ เพราะผู้ชายคนนี้รู้ถึงความคิดของตนเอง
ในการกระทำเช่นนี้ คนอื่นอาจจะคิดว่าเป็นการกระทำที่เป็นธรรมชาติ แต่เขากลับพูดอย่างกับรู้ใจของเธอเช่นนั้น
เมื่อสักครู่นี้เธอรู้ว่าชายคนนี้นั้นเป็นมวย หากไม่ใช่นั้นแล้วล่ะก็ เธอก็คงจะจัดการตบไปที่หน้าเสียแล้ว