สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 458
บทที่ 458อยากคืนโลกใบเดิมให้หล่อน
แต่สิ่งที่เธอไม่เคยรู้นั้น ถึงแม้ว่าสีหน้าของเซิงเจ๋อเฉิงจะดูไม่ได้ แต่ในใจกลับตื่นเต้นแทน
ใช่ ผู้หญิงคนนี้พูดถูกไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปเลย อาศัยความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ แถมยังมีเรื่องของสวี่อันฉิงที่ทำให้เธอเข้าใจตัวเขาผิดไปอีก เธอไม่ต้องการคำอธิบายใดๆจากตัวเขาเลย
แต่เขาก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ เรื่องที่ยังคั่งค้างอยู่ในใจ ตอนนี้มาพูดว่าเรื่องที่ค้างอยู่ในใจบางทีมันอาจเป็นเรื่องตลกไปก็ได้ เพราะเขาแทบไม่รู้เลยว่าเธอจะเลือกรับความรักจากเขาอีกครั้งหนึ่งหรือป่าว
แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า คืนนั้นที่เขาเข้าไปในห้องแล้วเห็นรอยจูบประพรมไปทั่วบริเวณลำคอของหล่อนนั้น ในเวลานั้นเขาโมโหจริงๆ ยังไงก็ต้องไปคิดบัญชีกับหานฉีเฟิงอยู่ดี
“หานฉีเฟิงต้องการทำให้ฉันเป็นเหมือนผู้หญิงของเขาจริงๆ เรื่องนี้มันก็เป็นแค่การปกป้องฉันเท่านั้นเอง เพราะงั้นในค่ำคืนนั้นเขาเลยตั้งใจที่จะให้มีรอยจูบไปทั่วลำคอเพื่อให้คนอื่นได้เห็น ก็เท่านั้นเอง”
เสิ่นอีเวยอธิบายให้เขาฟังด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง เธอแทบไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองต้องมาอธิบายเรื่องพวกนี้ด้วยนะ
เซิ่งเจ๋อเฉิงหันหลังให้เธออยู่ เพราะฉะนั้นเสิ่นอีเวยเลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ ส่วนเขานั้นกระตุกยิ้มบริเวณมุมปากแต่ก็หายวับไปในพริบตา
ในเวลานั้นเองกลับมีเสียงโทรศัพท์ของเซิ่งเจ๋อเฉิงดังขึ้นมา เขาหยิบออกมาดูแล้วขมวดคิ้วพลางเดินไปรับโทรศัพท์อีกทางหนึ่ง
“ไปอาบน้ำ” เขาพูดลอยๆออกมาจากนั้นก็เดินไปออกไประเบียงด้านนอก
อาบน้ำงั้นหรอ… เสิ่นอีเวยถึงกับลังเลอยู่ซักพัก เพราะในห้องนี้มีแค่เธอกับเขาแค่สองคน แต่หลังจากก้มมองสภาพของตนเองที่สกปรกเหลือเกิน แถมด้านหลังมือก็มีแต่รอยถลอกเต็มไปหมด มีทั้งฝุ่นเกาะ และมีรอยเลือดอีก เธอควรจะเข้าไปอาบน้ำจริงๆ
เสียงน้ำในห้องน้ำดังขึ้นมา เซิ่งเจ๋อเฉิงถึงยอมรับโทรศัพท์
สื่อมวลชนสายงานธุรกิจเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาแถมพยายามบีบบังคับต่อรองซักถามเขาว่าทำไมการซื้อกิจการในครั้งนี้ถึงได้พ่ายแพ้ยับเยินไปได้
เรื่องนี้มันผ่านไปตั้งสามวันแล้ว ทว่าข่าวนี้กลับไม่จบๆกันไปสักที จนถึงตอนนี้ในเวลานี้ยังมีพวกสื่อมวลชนโทรศัพท์หาเขาไม่หยุดหย่อน
เซิ่งเจ๋อเฉิงมองแสงท้องฟ้าที่ไกลแสนไกลแล้วยิ้มอย่างเย็นชาให้กับความมืดนั้น จากนั้นก็เดินเข้าห้อง
หลังจากกลับเข้ามาในห้อง เขาได้ยินเสียงน้ำไหลมาจากในห้องน้ำ เขาวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ ด้วยความคิดที่ยุ่งเหยิงอยู่ในใจเลยหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบแทน
ยิ่งเขาดูเวลาในตอนนี้มันก็ปาเข้าไปตีสองแล้ว พวกนักข่าวกัดไม่ยอมปล่อยพวกนี้ยังกล้าโทรศัพท์มาหาเขาได้อีกหรอ ดูท่าแล้วเรื่องนี้จะร้ายแรงอยู่พอตัว
ผู้ถือหุ้นของบริษัทเซิ่งซื่อในช่วงเวลานี้นั้นเริ่มเคลื่อนไหวเป็นระลอก พวกเขาต้องการใช้เหตุการณ์เรื่องที่เขาพ่ายแพ้ต่อการเข้าซื้อกิจการทำให้มันดูเป็นเรื่องใหญ่ร้ายแรง เพราะฉะนั้นเขาเลยต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองอย่างระมัดระวัง
ทว่า ผู้หญิงที่กำลังอาบน้ำเธอใช้ชีวิตลำพังอยู่ในภูเขาจิ่วเหมิ่ง แถมยังโดนลักพาตัวอีก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องนอกเหนือความคิดของเขามาก ตอนแรกคิดว่าให้เฉิงฟ่างพวกเขาออกหน้าแทนก็สามารถจัดการปัญหาได้แล้ว แต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากเฉิงฟ่างแล้ว ถึงรู้ว่าเธอตกอยู่ในมือของคนในแก๊งนั้น ในเวลานั้นเขาถึงกับนั่งไม่ติดเลยทีเดียว
ในเวลาที่เขาตัดสินใจมาที่ภูเขาจิ่วเหมิ่งด้วยตนเองนั้น เขาแทบไม่เสียดายที่ปล่อยโอกาสในการซื้อกิจการนั้นไปเลย
ในเวลานั้นเขาคาดการณ์ไว้ว่าพวกผู้ถือหุ้นนั้นจะต้องคอยแทงข้างหลังเขาเรื่องนี้แน่ๆ แต่ตัวเองก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างก็เพื่อผู้หญิงคนนั้น
เขาไม่มีทางที่จะปล่อยปัญหานี้ให้หลุดลอยไปได้
ตลอดการเดินที่ต้องเร่งรีบ เขาไม่มีโอกาสที่จะเสียใจในสิ่งที่เขาเพิ่งทำลงไป แต่ว่าในตอนนี้ที่อยู่กันสองต่อสองกับผู้หญิงคนนี้ในห้อง เขากลับพบว่ามีบางอย่างสำคัญมาก——
เขาเป็นนักธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ได้แค่คิดไปเอง แต่ในวงการธุรกิจเหล่านักธุรกิจมากมายต่างก็เห็นเขาเป็นคนยอดเยี่ยมจริงๆ วันที่เขาได้สืบทอดตำแหน่งประธานบริษัทเซิ่งซื่อในวันนั้น ในใจเขาคิดว่าเซิ่งซื่อเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
ชั่วชีวิตของเขานี้ เขาต้องการทำให้ตัวเองยืนในตำแหน่งยอดนักธุรกิจอันดับแถวหน้า
แต่หลังจากที่แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แล้ว แนวคิดนี้ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อย ตอนแรกเขาก็มั่นใจว่าเธอเป็นศัตรู เพราะเธอเป็นคนทำร้ายเสิ่นหุ้ย แต่หลังจากที่เขาคอยให้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลับๆแล้วกลับพบว่ามันไม่ใช่
เรื่องที่เกิดขึ้นในผับวันนั้น สวี่อันฉิงเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมา เพราะว่าหล่อนอยากยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ถึงได้หลอกเสิ่นอีเวยกับเสิ่นหุ้ยมาที่ผับนั่น จากนั้นก็ให้พวกแก๊งนั้นทำร้ายพวกหล่อน
ดีที่ว่า เรื่องในวันนี้ไม่เหมือนกับในวันนั้น เพราะเขาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้วและก็จัดการได้ดีเช่นกัน
ในที่สุด ก็สามารถคืนความบริสุทธิ์ให้เธอกลับมาสู่โลกใบเดิมได้อย่างงดงาม
เมื่อคิดมาถึงเรื่องนี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงถึงกลับกระตุกยิ้มอย่างสบายอกสบายใจขึ้นมา
“โครม!”
ในวินาทีนั้น เขาได้ยินเสียงสิ่งของบางอย่างดังออกมาจากห้องน้ำ เซิ่งเจ๋อเฉิงถึงกลับหยุดสูบบุหรี่แล้วลุกยืนเพื่อเดินไปทางห้องน้ำทันที
เซิ่งเจ๋อเฉิงยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำพลางเคาะประตูถามเธอ: “เป็นอะไรหรือป่าว?”
ทว่ากลับไม่มีเสียงใดๆดังออกมาจากด้านใน
เซิ่งเจ๋อเฉิงรู้สึกว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ๆ ที่นี่แค่โรงแรมเล็กๆ ประตูไม่น่าจะกั้นเสียงเรียกคนจากด้านนอกได้สักเท่าไหร่ ใบหน้าหญิงสาวซีดเผือดปรากฏต่อหน้าเขา เซิ่งเจ๋อเฉิงถึงกลับร้อนใจ เขาใช้เท้าถีบประตูห้องน้ำทันที
ประตูถูกล็อกแต่คุณภาพของประตูไม่ดีเอาซะเลย ถึงยังไงก็ไม่สามารถทนต่อแรงมหาศาลของเซิ่งเจ๋อเฉิงไปได้
ยามเปิดประตูเข้าไป กลิ่นครีมอาบน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศภายในห้องน้ำกระทบเข้าจมูกทันที
ไฟสีเหลืองอ่อนในห้องน้ำเปิดอยู่ ท่ามกลางกลุ่มละอองน้ำที่พวยพุ่งอยู่ทั่วห้อง เซิ่งเจ๋อเฉิงมองเห็นหลังของเสิ่นอีเวยมาทางเขาแต่ตัวเธอล้มนอนอยู่กับพื้น
สัดส่วนช่างวิจิตรงดงาม ส่วนเว้าส่วนโค้งทุกอย่างดูไม่มีอะไรติดขัด ผิวพรรณบริเวณด้านหลังก็ขาวเกลี้ยงเกลาอย่างกับผิวพรรณของเด็กทารก
“อีเวย!”
คนที่นอนบนพื้นกลับไม่ขยับเลยสักนิด ดูแล้วเหมือนไม่ได้สติ หัวใจเซิ่งเจ๋อเฉิงถึงกับบีบรัดแน่นพยายามตะโกนเรียกชื่อเธอ ทว่าคนนอนอยู่ที่พื้นก็ยังไม่ได้สติดังเดิม
เซิ่งเจ๋อเฉิงงอเข่าลงเพื่อพยุงไหล่เล็กๆของเสิ่นอีเวยขึ้นมา ดูจากลักษณะแล้วคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จเพราะไม่มีฟองครีมอาบน้ำบนตัวแล้ว แถมน้ำที่เกาะผิวอยู่ก็ไหลลงด้านล่างเรื่อยๆ ช่างงดงามราวกับภาพวาดเสียจริง
“เสี่ยวเวย ตื่นๆ!” เซิ่งเจ๋อเฉิงยื่นมือออกมาตบหน้านุ่มนวลของเสิ่นอีเวยเบาๆ ดวงตาของเธอปิดสนิทอยู่ในอ้อมกอดของเขา ขนาดริมฝีปากยังซีดเผือด
เซิ่งเจ๋อเฉิงรู้ว่าสาเหตุว่าการที่ทำให้เธอเป็นลมไประหว่างอาบน้ำนั้นมันมาจากร่างกายของเธอเหนื่อยล้าหรือนานแล้วที่เธอไม่ได้รับประทานอาหาร อีกสักพักเธอก็คงตื่นขึ้นมา
แต่ว่าไม่มีวิธีอื่น ใจของเขาทนไม่ได้กับการที่ต้องเป็นห่วงและหวาดกลัว เขาทนไม่ได้จริงๆ…
หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้น สี่ปีก่อนเธอเคยหายไปแล้วครั้งหนึ่ง ในเวลานั้นเธอกลับไม่ทิ้งข้อความอะไรไว้เลยแล้วหายไปดื้อๆ ปล่อยให้เขาคอยตามหาเธออย่างไร้จุดหมายบนโลกใบนี้คนเดียว