สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 7
บทที่7 ผู้หญิงที่มาหาเรื่อง
บทที่ ผู้หญิงที่มาหาเรื่อง
เสิ่นอีเวยรีบดึงแขนเชิ่งเจ๋อเฉิงหลบขณะตะโกนเดือน ปฏิ กิริยาของเขาฉับไวเสมอ ปลายแหลมของมีดเฉียดเนื้อผ้าของ สูทไป
ผู้หญิงคนนั้นเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้น
มีคนตะโกนขึ้นมา “บอดี้การ์ด! บอดี้การ์ด! ”
ผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นโดนบอดี้การ์ดจับกดกับพื้นอย่าง ง่ายดาย แต่กลับทั้งร้องทั้งติ้น เสิ่นอีเวยมองเหตุการณ์ข้างหน้า อย่างเคว้งคว้าง ไม่รู้จะทำยังไงดี
หล่อนตะโกนชื่อเขาเมื่อกี้ เธอหันมองไปเขาในบัดดล ริม ฝีปากเขาเม้มแน่น สีหน้าเคร่งเครียด
“เซึ่งเจ๋อเฉิง! คืนลูกสาวฉันมานะ ฉันมีลูกสาวแค่คน เดียว! กลับโดนนายย่ำยีซะแล้ว! ”
ผู้หญิงบนพื้นร่ายยาวเหมือนโดนของเข้าไปแล้ว น้ำหู
น้ำตาไหลอาบหน้า
เสิ่นอีเวยมองหล่อนก็รู้สึกว่าเรื่องมันต้องมีอะไรไม่ชอบมา พากลแน่ๆ เธออยู่ข้างเขามายี่สิบกว่าปี เขาเย็นชากับทุกคน จุดนี้เธอรู้ดี
แถมเขายังโดนความกดดันจากตระกูล อายุแค่นี้ก็เข้าวงการมาสู้งานหลายปี ก็ต้องมีความคิดและวิธีการของตัวเอง อยู่แล้ว แทบจะพูดได้ว่าไม่ใช่คนดี แต่ถ้ามีใครมาบอกว่าเขา ทำผิดศีลธรรมกฎหมายล่ะก็ เธอไม่เชื่อโดยเด็ดขาด
เธอทำใจสงบ มองผู้หญิงคนนั้นอย่างเย็นชา “คุณว่าเซิ่ง เจ๋อเฉิงย่ำยีลูกสาวคุณ งั้นขอดูหลักฐานหน่อยสิ”
เสียงของเธอใสกระจ่างเหมือนทับทิมชั้นดี ทำเอาพวกที่ หวังก่อกวนเงียบปากทันควัน
สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนทันที ทำท่าเหมือนจะทุ่มสุด ตัว หล่อนนั่งอยู่ที่พื้นเริ่มร้องให้ออกมา
“ลูกสาวฉันปีนี้อายุยี่สิบสอง เป็นพนักงานตัวเล็กๆ ใน บริษัทของเซิ่งเจ๋อเฉิง สามวันก่อนฉันจู่ๆก็ได้รับจดหมายที่ ลูกสาวฉันวานคนเอามาให้ ในจดหมายบอกว่า…เซึ่งเจ๋อเฉิง สนใจเธอ พยายามลวนลามเธอที่บริษัทหลายครั้ง”
คลับคล้ายมีคนทำเสียงสะอีกลอยมาจากไทยมุง เสิ่นอีเว ยมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ
“เขาพาเธอไปเปิดห้องจนสุดท้ายลูกสาวฉันก็ท้อง เลยจะ ไปขอให้เขารับผิดชอบ แต่ไม่คิดว่าเขากลับหน้าด้านไม่รับผิด ชอบ! พูดอยู่คำเดียวว่าไม่รู้จักลูกสาวฉัน แถมยังให้คนไล่เธอ ออกอีก! ”
หล่อนพูดไปปาดน้ำตาไป “ลูกสาวที่น่าสงสารของฉัน ขาดที่พึ่งและงานไปในเวลาเดียวกัน กลัวพวกเราเป็นห่วงเลย ไม่กล้ากลับบ้านมาบอก สุดท้ายเธอคิดไม่ตก หาทางออกไม่ได้….ก็เลยฆ่าตัวตาย! ”
เสิ่นอีเวยขมวดคิ้วหนัก มองเห็นฝูงชนเริ่มเมาท์แตกกัน
ภาพลักษณ์ของประธานเซิ่งที่อยู่บนที่สูงเปลี่ยนเป็นระดับ ผู้ชายสารเลวไม่รับผิดชอบ ไม่ว่าเป็นใครคงอดสนใจไม่ได้ หรอกจริงไหม!
เสิ่นอีเวยพูดต่ออย่างเย็นชา “คุณมีหลักฐานไหม?”
เหมือนเตรียมไปนานแล้ว ผู้หญิงวัยกลางคนคนั้นหยิบ ของออกมาโยนลงพื้นจากกระเป๋า ร้องให้ตะโกนว่า “ฉันมีหลัก ฐานนะ! นี้เป็นคลิปอัดจากโรงแรมที่เขาพาลูกสาวฉันไปเปิด ห้องยังมีพินัยกรรมที่ลูกสาวฉันเขียนด้วยตัวเอง! ”
เสิ่นอีเวยเหล่มองไปที่ของบนพื้น รูปภาพก็เยอะอยู่ มี ประมาณเจ็ดแปดใบ ดูเหมือนถ่ายจากทางเดินในโรงแรม ที่ไหนสักที่
ในนั้นมีผู้ชายและผู้หญิงอย่างละคน แต่เป็นภาพด้านหลัง ไม่มีรูปไหนถ่ายเห็นหน้าชัดเลย
เธอมองรูปพวกนั้นก่อนก้มลงหยิบขึ้นมาจากพื้น
เพิ่งเจ๋อเฉิงเหล่มองรูปพวกนั้นหนึ่งที่ ก่อนมองผู้หญิงที่นั่ง บนพื้น ฝ่ายหลังตกใจจากรังสีอำมหิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด รีบก้มหน้าลง
พอเห็นเซึ่งเจ๋อเฉิงไม่หวั่นไหวอะไร ผู้หญิงกลางคนคนนั้นกลับไม่พอใจ “ทุกคนมาดูกันสิ! หรือว่าคนอย่างเขาทำให้คน ตายนี่ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดินกันหรือไง? ยังมีกฎหมายอยู่ใหม เนี่ย ! ”
พอตะโกนขึ้นมา คนทุกคนในนั้นก็เริ่มเข้าใจเรื่องราว เสี่ นอีเวยได้ยินเสียงไทยมุงเมนท์แตกกันกระจาย
“ประธานเซิ่งนี่ก็เป็นม้ามีตของวงการนะ เดิมที่คิดว่าอายุ ยังน้อย ถึงจะมารับกิจการก็คงไม่ได้ทำอะไรมาก ไม่คิดเลยว่า รับกิจการมาได้สามปีก็ทำธุรกิจซองตระกูลเซิ่งขยับขยายจาก อันดับห้าขึ้นถึงระดับสูงสุดของวงการได้! ”
ธุรกิจของตระกูลเพิ่งใหญ่แค่ไหนเธอไม่ใช่ไม่รู้ เรื่องผู้หญิง นี่ใช้เงินจัดการมาเยอะแล้ว ยังต้องถึงศาลอีกหรอ?”
เสิ่นอีเวยได้ยินคำซุบซิบนินานนั่น รู้สึกเลือดขึ้นหน้าทันที
ในที่ๆรวมตัวกันของนักธุรกิจมากหน้าหลายตา ต้องมีนัก ข่าวไม่มากก็น้อยแน่ๆ ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ถึงจะไม่ได้กระทบ เครือบริษัทตระกูลเซิ่ง แต่ชื่อเสียงของเขาก็คงจะตกต่ำไปไม่ น้อย
เส้นอีเวยเดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นก้าวหนึ่งพลางว่า “ในเมื่อในมือคุณมีหลักฐานเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่เอา ให้
ตำรวจล่ะ?”
หล่อนโดนถามจนอึ้งไป
“ใครไม่รู้วิธีการของคนรวยอย่างพวกคุณล่ะ? ทำอะไรผิด ไม่ต้องขึ้นศาล เอาเงินฟาดหน้าคนได้หมดแล้ว! ”
เสิ่นอีเวยหัวเราะออกมาถามว่า “อ๋อ? งั้นความหมายของ คุณคือหาต่ารวจไม่มีประโยชน์ มาก่อกวนที่นี่ถึงจะมีประโยชน์ งั้นสิ? แต่คุณคิดว่าที่นั่งกันอยู่นี่เป็นนักธุรกิจที่หน้าเลือดเห็นแต่ ผลประโยชน์ แล้วจะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้คุณ พร้อมทั้งเป็นศัตรูกับประธานเพิ่งงั้นหรอ?”
“ฉันไม่สน! ขอแค่มีหลักฐานพวกนี้ ถึงเขาไม่ต้องเข้าคุก ชื่อเสียงก็ตกต่ำไม่เหลือดีแน่! ”
“งั้นคุณก็จงใจเอาของพวกนี้มาบรรลุเป้าหมายคุณล่ะสิ? หรือจะพูดว่าบรรลุเป้าหมายของคนที่บงการคุณอยู่เบื้องหลัง?”
ไม่รอให้หล่อนไหวตัว เสิ่นอีเวยใส่ต่อเป็นชุดว่า “รบกวน คุณช่วยก้มมองของในมือตัวเองหน่อยนะ คลิปจากกล้อง วงจรปิดของโรงแรมเนี่ย คุณไม่คิดซะหน่อยหรอ ยังไม่ต้องพูด ถึงว่าพินัยกรรมนี้จริงหรือปลอม และไม่พูดว่าแผ่นหลังของ ผู้ชายในคลิปเป็นประธานเชิ่งจริงไหม ของพวกนี้มีแต่ตำรวจ เปิดคดีทำการสืบค้นถึงจะมีสิทธิ์ไปขอ แล้วคนธรรมดาอย่าง คุณทำยังไงให้ได้มาล่ะ?”
ผู้หญิงคนนั้นตกใจกับการถามไม่หยุดของเธอ
“ฉันเตือนคุณอย่าเหนื่อยแกล้งโกหกต่อไปเลย พูดมา เถอะ ใครบงการคุณมาที่นี่กันแน่?”