สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 104
บทที่104 หาเรื่อง?
ที่ลานกว้างหน้าประตูอาคารตระกูลหลี บรรยากาศกลิ่นดินปืนเข้มข้น ได้เข้าสู่ขั้นที่สถานการณ์ตึงเครียด
จากในบริษัทตระกูลีกรุ๊ป พนักงานรักษาความปลอดภัยแต่ละคนมือจับกระบองไฟฟ้าแรงสูงไว้ เฮโลกันออกไป กับผู้ชายเสื้อลายดอกที่ท่าทางดุดันกลุ่มนั้นที่หน้าประตู กลายเป็นสถานการณ์ที่คุมเชิงกัน
ส่วนผู้ชายเสื้อลายดอกสองคนที่เป็นหัวหน้าจับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่หัวแตกเลือดอาบคนนั้นไว้แน่น สีหน้าดุร้ายก้าวร้าวอย่างมาก
“แม่ง ยังกล้าเรียกคนมาอีกเหรอ? นี่คือไม่ได้เห็นพวกเราสำนักอื้อจูถังอยู่ในสายตาสักนิดเลยสินะ” ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกสองคนหมดความอดทน ตะโกนเสียงดังลั่นอาคารตระกูลหลี ทำให้พนักงานนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายในโถงใหญ่สีหน้าเปลี่ยนมาก แตกตื่นกันหมด!
ใครๆ ต่างก็ไม่รู้ว่าพวกเสื้อลายดอกนี้มาทำไม คาดไม่ถึงว่าจะกล้าก่อเรื่องวุ่นวายหน้าประตูบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไป ไม่เพียงเพราะสีหน้าดุร้ายของพวกเสื้อลายดอก………ที่สำคัญกว่านั้นคืออิทธิพลสำนักอื้อจูถังที่อยู่เบื้องหลังของพวกเสื้อลายดอกนี้
นั่นคือที่เมืองหู้ไห่ อิทธิใต้ดินที่หายาก ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นของเมืองหู้ไห่!
ท่านนั้นของสำนักอื้อจูถังที่เมืองหู้ไห่มีเล่ห์เหลี่ยมอย่างยิ่ง คนที่เมืองหู้ไห่ล้วนรู้กันทั้งนั้น อิทธิพลใต้ดินของเมืองหู้ไห่มีเพียงสำนักอื้อจูถังที่หาเรื่องไม่ได้มากที่สุด!
และตอนนี้ สำนักอื้อจูถังมาหาเรื่องวุ่นวายกับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปอย่างคาดไม่ถึง ภายในใจแต่ละคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคลุ้มคลั่งตื่นตระหนก ตระกูลหลี……เกรงว่าจะจบเห่แล้วสิ!
หน้าประตูอาคารตระกูลหลี นับวันฝูงชนที่รวมตัวกันยิ่งมาก ค่อยๆ กลายเป็นคลื่นมหาชนสีดำผืนหนึ่ง จำนวนคนมากมายขยับไปมา คนที่นับวันยิ่งมากต่างหยุดดูจากที่ไกล เริ่มอยากรู้อยากเห็นว่าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะจัดการความขัดแย้งครั้งนี้อย่างไรกัน
ผู้ชายเสื้อลายดอกสองคนจับพนักงานรักษาความปลอดภัยผู้โชคร้ายไว้ ถีบไปไม่หยุด ชุดเครื่องแบบบนตัวของพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นมีรอยเลือดแทรกซึมตั้งนานแล้ว ย่ำแย่จนทนดูไม่ได้
ทันใดนั้นผู้ชายที่ใส่ชุดสูทเดินออกมาจากหน้าประตูอาคารตระกูลหลี พูดเสียงดังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ใครกัน มาก่อเรื่องวุ่นวายที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปของพวกเรา?”
“ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ พวกฉันก็ไม่ปิดซ่อนชื่อจริง สำนักอื้อจูถัง!” ชายเสื้อลายดอกสองคนส่งเสียงหัวเราะเยาะ เชิดหน้าตะโกน
“สำนักอื้อจูถัง?” ผู้ชายคนนั้นสีหน้าฝืด กวาดตามองทางผู้ชายเสื้อลายดอกสองคน ภายในใจสั่นอย่างแรง เห็นได้ชัดว่าประหลาดใจมาก
“เหล่าสหายสำนักอื้อจูถัง วันนี้มาถึงบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมีอะไรให้พวกเรารับใช้ครับ?” ผู้ชายสีหน้าผ่อนคลายลง ฝืนแสดงรอยยิ้มที่อึดอัดนิดๆ ถามขึ้น ชื่อเสียงสำนักอื้อจูถังสะเทือนเมืองหู้ไห่ ขอเพียงเป็นองค์มืด ใครบ้างจะไม่เคยได้ยินบ้าง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทตระกูลหลีคนนี้ แค่ได้ยินสามคำนี้ ขาก็ใกล้อ่อนไปหมดแล้ว
“ผมเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของที่นี่ ทั้งสองท่านมีอะไรไม่พอใจสามารถแนะนำบอกกับผมได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องให้มากมายขนาดนั้นมาที่นี่……” ชายหนุ่มพยักหน้าโค้งตัว ไม่ได้มีท่าทางหยิ่งยโสแบบก่อนหน้าสักนิด ท่าทางประจบสอพลอ ทำให้พนักงานไม่น้อยที่ล้อมรอบสั่นไปทั่วตัว
เปลี่ยนท่าทางเร็วยิ่งกว่าเปลี่ยนหน้ากระดาษ หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้ปกติคุ้มครองความปลอดภัยของอาคารตระกูลหลีอย่างไรกัน?
เพราะคนแบบนี้ มิน่าถึงมีแขกไม่ได้รับเชิญมาลอบสังหารหลีชิงเยียนอย่างกำเริบเสิบสานได้ถึงหน้าประตูอาคารตระกูลหลี
ผู้ชายเสื้อลายดอกสองคนกวาดตามอง ยิ้มบอกอย่างโอหัง “ไม่พอใจ? ฉันมองตึกเชี้ยนี้ของแกแล้วไม่พอใจ แกจะรื้อให้ฉันได้รึไง?”
“นี่……” ผู้ชายคนนั้นสีหน้าแข็งทื่อ หลังจากที่พื้นที่โดยรอบฮือฮากันตามมาด้วยความเงียบเหงาราวกับความตาย
เห็นได้ชัดว่ามาหาเรื่องวุ่นวาย แม้กระทั่งไร้เหตุผลสิ้นดี
“ทำไม่ได้แกจะมาเพ้อเจ้ออะไร!” ทันใดนั้นผู้ชายเสื้อลายดอกคนหนึ่งถีบหน้าอกของผู้ชายนั้นไปทีหนึ่ง
เสียงกระดูกแตกดังกังวาน หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปคนนี้กระเด็นออกไปไกลหลายสิบเมตรอย่างโหดเหี้ยม เลือดสดพ่นออก กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปในอากาศ!
ซ่า!
สั่นสะเทือนจิตใจผู้ชมทั้งหมด!
ด้านหน้าของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ทำร้ายคนอย่างเหี้ยมโหดต่อหน้าสาธารณชน วางมาดหยิ่งยโสโอหังสุดๆ!!
ดวงตาทั้งคู่ของพนักงานมากมายใกล้จะมีไฟแค้นพ่นออกมา ผู้คนนับไม่ถ้วนที่โมโหแต่ไม่กล้าพูดอะไร และผู้ชายเสื้อลายดอกที่ลงมือคนนั้นกวาดตามองอย่างกำเริบพลางด่าว่า “นี่มันสวะอะไร ถึงเอามาเป็นหัวหน้ายามได้ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปรับพวกสวะไว้เหรอ?”
“ตีมันให้ตาย!” ผู้ชายเสื้อลายดอกอีกคนพูดเสียงเย็นยะเยือก
“หยุดนะ!”
ในเวลานี้เสียงที่น่าดึงดูดเย็นเฉียบลอยมาจากอาคารตระกูลหลีกรุ๊ปทันใด ทำให้มือของสองคนเสื้อลายดอกนั้นค้างอยู่กลางอากาศ
ฝูงชนแยกออก ต้นแถวของฝูงชนนั้น มีคนรูปร่างงดงามที่เซ็กซี่สง่าปรากฏตัวขึ้น ใบหน้างดงามเพริศพริ้ง เต็มไปความหนาวเย็น กำลังกวาดตามมาอย่างเย็นชา
พนักงานไม่น้อยตื่นตกใจ คาดไม่ถึงเรื่องนี้รบกวนไปถึงประธานหลีแล้ว
ด้านหลังของหลีชิงเยียนนั้น ซ้ายขวาตามมาด้วยหลินเฉว่กับซูเหลยที่พบเจอได้ยากมาก
ดวงตางดงามของหลินเฉว่จ้องมองผู้ชายเสื้อลายดอกสองคนนี้แน่นขนัด ขอเพียงเรื่องราวเปลี่ยนมาเกินกว่าการควบคุม เธอจะต้องแจ้งตำรวจอย่างไม่ลังเลสักนิดแน่
ส่วนซูเหลยก็กวาดตามองสองคนนี้ ส่วนลึกภายในดวงตามีแสงแปลกๆ ที่ประกายขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่บ้าง
“เธอเป็นใคร?” ผู้ชายเสื้อลายสองคนยิ้มแล้วมองหน้ากัน ขณะที่มองไปยังหลีชิงเยียนซึ่งสูงตระหง่าน ชั่วขณะนั้นสายตาเพิ่มความร้อนแผดเผาและมุ่งร้ายออกมา
“ฉันประธานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป มีเรื่องอะไรสามารถพูดกับฉันได้ ถ้าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมีตรงไหนที่ทำไม่ถูก พวกเราจะจัดการอย่างเป็นธรรมแน่นอน”
หลีชิงเยียนพูดไปหยุดพักหนึ่ง ทันใดนั้นก็เบนหัวข้อสนทนา “แน่นอนว่าถ้าพนักงานของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปถูกข่มเหง พวกเราก็จะปกป้องผลประโยชน์ของพนักงานพวกเราด้วยแน่นอน”
พนักงานไม่น้อยจิตใจฮึกเหิม มองทางหลีชิงเยียน นี่คือท่าทีของประธานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเหรอ!
คำพูดของหลีชิงเยียนเย็นมาก เธอไม่มีความรู้สึกดีใดๆ ต่อสองคนนี้เลยสักนิด
“เฮ้ย ความหมายของเธอคือพวกฉันตีคนของเธอไม่ได้เลยรึไง?” ผู้ชายเสื้อลายดอกสองคนนั้นหัวเราะเยาะเสียดสี ทันใดนั้นยกมือขึ้น ตบเข้าไปทางพนักงานรักษาความปลอดภัยในมือคนนั้นอย่างรุนแรงทีหนึ่ง
ใบหน้างดงามอันหนาวเย็นของหลีชิงเยียนเปลี่ยนไป นี่คือการจงใจ! จงใจตบหน้า!
“ป๊าบ!”
แก้มของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่มีเลือดสดอาบไปทั้งตัวคนนั้นบวมนูนขึ้น เหมือนกับหัวหมู ช่างน่าสงสารมากเหลือเกิน เศร้าสลดอย่างมาก
เสียงตบที่ดังกังวานนั้นทำให้ภายในใจพนักงานทุกคนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่สบายมาก
เพื่อนร่วมงานของตนเองถูกคนรังแกทำร้ายต่อหน้าต่อตาผู้คน อาละวาดสุดๆ!
คนมากมายกำลังก่อหวอดที่จะก่อการร้าย ลุกขึ้นมาทวงคืนความยุติธรรม แต่ก็ไม่กล้า
สำนักอื้อจูถัง ใครจะหาเรื่องได้?
มือที่ละเอียดขาวเนียนของหลีชิงเยียนกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ดวงตางดงามจ้องมองชายเสื้อลายดอกไม่กะพริบ สะท้อนแสงที่เต็มไปด้วยเจตนาอันเป็นศัตรู
นี่คือการยั่วยุหาเรื่องต่อหน้าสาธารณชน แม้กระทั่งเหตุผลยังขี้เกียจจะหามา!
“ทั้งสองคนมีอะไรไม่พอใจสามารถเข้าไปพูดในห้องประชุมของฉันได้ โถงใหญ่คนมาก คงไม่ค่อยดีนัก” ริมฝีปากแดงของหลีชิงเยียนฝืนพ่นคำพูดออกมา ร่างอ่อนช้อยสั่นเทา นี่คือเธออดกลั้นไว้อย่างสุดๆ
“พูด มีอะไรให้น่าพูดกัน? หรือว่ามีเธอสาวสวยขนาดนี้คนหนึ่งมาดื่มน้ำสักแก้วเป็นเพื่อนพวกฉันที่ห้องประชุม?” ทั้งสองคนยิ้มมองหน้ากัน สายตาเปลือยเปล่ากำลังสังเกตร่างอ่อนช้อยของหลีชิงเยียน สายตายิ่งเต็มไปด้วยการรุกราน
“ถ้าทั้งสองคนไม่ยอมไกล่เกลี่ยก็เชิญกลับไป” ในที่สุดหลีชิงเยียนก็ทนไม่ไหว เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา หมุนตัวเดินกลับไปทางหน้าประตูอาคารตระกูลหลี
“ให้เธอไปได้แล้วรึไง?” สองคนหัวเราะอย่างกำเริบ ยื่นมือเข้าไปจับที่ไหล่หอมนุ่มราวกับหยกนั้นของหลีชิงเยียน
ในดวงตาของทั้งสองคนสะท้อนความชั่วร้ายและความร้อนที่กำเริบเสิบสานออกมา นางฟ้าผู้โด่งดังแห่งวงการธุรกิจเมืองหู้ไห่ สาวงามที่ยากจะเจอ พวกเขาจะปล่อยไปได้อย่างไร?
ทันใดนั้น ตอนที่มือเหม็นๆ เหมือนกีบหมูของสองคนนั้นแตะโดนผิวพรรณที่ละเอียดอ่อนของหลีชิงเยียน สาวทรวดทรงงดงามคนหนึ่งก็พุ่งออกจากด้านข้างราวฟ้าแลบ ขวางด้านหน้ากรงเล็บปีศาจสองคนนั้นไว้
“ทั้งสองคนมาจากทางไหนกลับไปทางนั้นเถอะ ประธานหลีของพวกเราไม่ต้อนรับทั้งสอง” ซูเหลยกอดหน้าอกไว้ พูดจาเย็นชา
“นังตัวแสบ ไสหัวไปซะ! แกถือว่าเป็นใครกัน กล้าขวางตรงหน้าฉัน!” ในที่สุดผู้ชายเสื้อลายดอกหนึ่งในนั้นก็ไม่อดทนอีกต่อไป ระเบิดอารมณ์ตะโกนใส่ คิดจะผลักซูเหลยออก
ในตาลึกของซูเหลย ทันใดนั้นประกายแสงเย็นที่แหลมคมราวกับดาบ ร่างอ่อนช้อยตึงแน่น การกระทำเร็วราวกับสายฟ้า แกว่งขาข้างหนึ่งยิงถล่ม ถีบหน้าอกของชายเสื้อลายดอกอย่างรุนแรง ถีบกระเด็นในชั่วพริบตาเดียว!
“นังคนต่ำ!”
ผู้ชายเสื้อลายดอกอีกคนดวงตาคู่หนึ่งเป็นประกาย ดึงกริชขึ้นมา แทงไปทางด้านหน้าของซูเหลยอย่างโหดเหี้ยม
การกระทำของคนเสื้อลายดอกคนนั้นรวดเร็วทรงพลัง ในฝูงชนต่างส่งเสียงร้องตกใจขึ้น กริชเล่มนี้แหลมคมที่สุด ความเร็วยิ่งไวมาก ขอเพียงแทงลงไป ซูเหลยคงเสียโฉมเป็นแน่ หนังถลอกเนื้อแตก เหลือรอยแผลเป็นที่น่าตกใจ
“ตายซะเถอะ!” ชายเสื้อลายดอกคนนั้นหัวเราะอย่างอัปลักษณ์ และในชั่วแวบเดียว รอยยิ้มของเขาก็แข็งค้าง
คาดไม่ถึงว่าซูเหลยจะหายตัวไปอยู่ที่ไกลออกไปอย่างน่าประหลาด กริชของเขาตกลงฉับพลัน!
จากนั้นขายาวคู่หนึ่งก็พันที่เอวของเขา ซูเหลยออกแรงที่เอวทันใด ชายเสื้อลายดอกตรงหน้าก็รู้สึกโลกหมุนวน ล้มลงบนพื้นอย่างแรง
“ปัง!”
พื้นที่ลานกว้างแตกระแหง ผู้ชายเสื้อลายดอกสองคนล้มลงที่พื้น กระเซอะกระเซิงอย่างสุดจะทน สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง……