สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 123
บทที่ 123 จะไม่อดทนอีกต่อไป
ซูเหลยที่อยู่ข้างๆ ก็ทำสีหน้าที่แปลกพิลึกอยู่เหมือนกัน เธอก็เป็นคนฉลาด และสามารถฟังออกอย่างชัดเจนว่าคำพูดของซูเสี่ยวหยุนนั้นมีความหมายโดยนัย
“ซูเสี่ยวหยุน! ” ดวงตาคู่สวยของหลีชิงเยียนจับจ้องซูเสี่ยวหยุนไว้ ผู้หญิงคนนี้ที่ดูโตเป็นผู้หญิงและดูมีเสน่ห์คนนี้ ไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด คิดจะหักหน้าเธออย่างไม่เหลือชิ้นดี
ซูเสี่ยวหยุนสีหน้าที่นิ่งเฉย “เป็นอะไรไป? ”
“ฉันพูดอะไรไปหรือยัง? ” ซูเสี่ยวหยุนหรี่ตาคู่สวยลง แล้วทำท่าทางที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
เฉินเป่ยกำลังกินอาหารเช้า พอเห็นผู้หญิงสองคนนี้กำลังจะหาเรื่องกัน จู่ๆ มือถือจึงดังขึ้น
เฉินเป่ยเอามือถือออกมา แล้วใช้สายตากวาดมองหน้าจอ เป็นข้อความเนื้อหาที่ส่งที่อยู่และเวลาจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก และไม่ได้ระบุนามอะไร กลับทำให้เฉินเป่ยทำนัยน์ตาทั้งสองข้างเลือดเย็น ทันใดนั้นก็เปล่งประกายความอาฆาตออกมา
ที่อยู่ข้อความนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ ว่าต้องเป็นหลีเช่าเทียนส่งมา และนัดเขาไปที่โรงน้ำชา
เฉินเป่ยทำนัยน์ตาที่ดูลุ่มลึกและเย็นชา เหมือนดาบคมสองด้าม เขาอดทนไม่ได้อีกต่อไป เป็นเวลาที่สมควรตัดสินใจบางอย่างอย่างเด็ดขาดกับคุณชายตระกูลหลีที่เป็นผู้ที่สูงส่งและชอบทำตัวยโสโอหังคนนี้แล้ว!
ไม่เพียงแต่แบบนี้ เขาก็ได้ตัดสินใจ ต้องมีสักวันที่เขาจะอยู่ในเยี่ยนจิง แล้วทุบประตูใหญ่ของตระกูลหลีและให้ตระกูลหลีต้องยอมจำนน!
เพียงเวลาชั่วพริบตาเดียว ความคิดของเฉินเป่ยก็หลุดลอยไป ความอาฆาตก็ได้หายไป
ข้างๆ ซูเหลยกำลังทำนัยน์ตาที่สงสัย ตอนที่นัยน์ตาของเฉินเป่ยเปล่งประกายความอาฆาตออกมา ซูเหลยช่างสังเกตคนก็ได้เห็นถึงบางอย่างที่ผิดปกติไปของเฉินเป่ย ทำให้เธอนัยน์ตาของเธอเปล่งประกายความสงสัยออกมา
ณ เวลานั้น ทั้งเรือนร่างของเขาแผ่รังสีความอาฆาตออกมา ทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงมาก เหมือนเป็นความหวาดกลัวที่ผุดออกมาจากส่วนลึกของวิญญาณ!
ความรู้สึกแบบนี้ เธอแค่เคยเห็นในเรือนร่างของคนส่วนน้อยมากๆ เท่านั้น คนพวกนั้นล้วนเป็นปีศาจสุดสยองขวัญที่เข่นฆ่าและเชือดชีวิตคนจนนับไม่ถ้วน!
ปีศาจแบบนั้น ปกติแล้วก็มีความสามารถที่น่าหวาดผวาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาคือผู้ที่มีอิทธิพลและอำนาจ ตอนแรกตอนที่อยู่ในทีมกองกำลังพิเศษของหัวเซี่ย ก็เคยดำเนินภารกิจ ก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งที่สามารถล้อมปราบในต่างแดนได้อย่างเก่งกาจ
คนคนหนึ่งที่เป็นยอดฝีมือ และใช้วิธีการอันน่ากลัว แล้วลอบสังหารณ์ผู้คนมากมายในหัวเซี่ย มีคนแก่ คนอ่อนแอ คนป่วยและคนพิการหลายคนถูกทรมานอย่างทารุณก่อนที่จะเสียชีวิต!
ครั้งนั้น กองกำลังพิเศษก็ได้ออกไปจู่โจมกันทั้งกองทัพ และใช้พละกำลังทั้งหมดที่มี จึงจะสามารถฆ่ายอดฝีมือคนนั้นได้ ทว่าครั้งนั้น หน่วยกองกำลังพิเศษนั้นก็เสียหายไปหนักมา จึงมีคนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บไปกว่าครึ่งทุกคนที่อยู่ในกองกำลังพิเศษ ต่างก็คือยอดฝีมือที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีแล้ว ทุกคนต่างก็คือคนชั้นสูงที่อยู่ในชนชั้นสูง ที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากรมหาศาลของหัวเซี่ย
และก็คือครั้งที่แล้ว ซูเหลยจึงได้รู้จักกับบุคคลประเภทนี้ใหม่ ความเย็นชาแบบนั้นเหมือนสามารถทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอาฆาตได้ และชีวิตนี้ซูเหลยก็ไม่มีทางลืมแน่นอน!
เวลานั้น ซูเหลยสามารถสังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่า ท่าทีที่เฉินเป่ยแสดงออกมาเมื่อกี้นี้ ทำให้เธอยากที่จะเชื่อจริงๆ
หรือว่าตัวเองตาฝาดไป? ภายในของซูเหลยกำลังแอบพึมพำขึ้น ทำไมเธอไม่กล้าเชื่อ เฉินเป่ยที่เป็นนักต้มตุ๋นตัวโยง กลับมีความสัมพันธ์กับปีศาจอันน่าหวาดผวาที่อยู่ต่างแดนพวกนั้นด้วย
ซูเหลยจึงเอาแต่บอกตัวเอง อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองตาลายไป เธอจึงสังเกตมองเฉินเป่ยอย่างละเอียดอีกครั้ง และเธอก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความอาฆาตที่เลือดเย็นและน่ากลัวเหมือนเมื่อกี้นี้
เฉินเป่ยในวันนี้ก็เหมือนดั่งที่ผ่านมา ยังคงมีพฤติกรรมที่เอ้อระเหยลอยชาย ไม่มีจุดไหนที่ดูพิเศษเลยสักนิด
หลีชิงเยียนและซูเสี่ยวหยุนถกเถียงกันไปสักพัก ก็ได้มุ่งหน้าไปยังบริษัท
และหลังจากที่หลีชิงเยียนออกบ้านไป เฉินเป่ยก็รีบออกบ้านไปเหมือนกัน
“เสี่ยวเยียนออกไปทำงาน นายจะออกไปทำอะไร? ” ซูเสี่ยวหยุนพูดขึ้นอย่างสงสัย
“ไปซื้อกับข้าว” เฉินเป่ยหาข้ออ้าง แล้วก็ปั่นจักรยานออกไป จากนั้นก็ปั่นไปยังโรงน้ำชาที่อยู่ที่ไกลอย่างช้าๆ
……
ในโรงน้ำชา หลีเช่าเทียนนั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างหน้าต่าง และข้างๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเสน่ห์เดินมา ในมือจับเหยือกชาไว้ แล้วกำลังส่งยิ้มให้หลีเช่าเทียน จากนั้นก็มีของเหลวที่เป็นแอลกอฮอล์สีแดงถูกเทเข้าไปในแก้วเหล้า จากนั้นก็ทำให้ได้กลิ่นหอมของชาที่แรงมากๆ ทำให้คนรู้สึกสดชื่น
“ขอบคุณครับ” แม้ว่าหลีเช่าเทียนเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก แต่หลังจากที่เข้าโรงน้ำชาไป เขาก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาดูสุขุมและสง่า จากนั้นก็ได้ขอบคุณเถ้าแก่เนี้ยด้วยความเกรงอกเกรงใจ
คนที่กำลังเทชาเป็นเถ้าแก่เนี้ยของโรงน้ำชา และเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ทว่าทุกท่าทีและการกระทำ และทุกรอยยิ้มยังคงดูมีเสน่ห์และน่าเย้ายวน เรือนร่างของเธอเผยความมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองออกมา ทำให้เขาลุ่มหลง
ภายในโรงน้ำชามีหลีเช่าเทียนแค่คนเดียว เถ้าแก่เนี้ยจึงเอ่ยพูดด้วยเสียงเบา “ทีแรกวันนี้โรงน้ำชาไม่ต้อนรับแขก ทว่าไหนๆ คุณชายหลีอยากจะแก้ปัญหาบางอย่างที่นี่ งั้นก็คงต้องเป็นข้อยกเว้นในการปิดร้านในวันนี้”
“ดีครับ ขอบคุณมากๆ ครับ รอให้ผมแก้ปัญหาเสร็จ วันหลังผมจะมาเยือนเพื่อเป็นการขอบคุณเป็นด้วยตัวเองครับ” หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่จริงจัง แล้วทำท่าทีที่ดูเคารพนับถือเถ้าแก่คนนี้มากๆ แม้กระทั่งยังทำท่าทางที่หวาดกลัวเธอเล็กน้อย
เพราะว่าเถ้าแก่เนี้ยท่านนี้มีฐานะที่ทรงอำนาจ โรงน้ำชาร้านนี้ที่เธอเปิด ไม่ได้ต้อนรับแขกธรรมดาทั่วไป แค่บางครั้งตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์พิเศษเท่านั้น จึงจะต้อนรับแขกระดับอย่างหลีเช่าเทียน
แม้กระทั่งคุณชายจากตระกูลชั้นสูงมากมาย ยังไม่มีสิทธิ์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถซื้อได้โดยการใช้เงิน
“ไม่เป็นไรค่ะ” เถ้าแก่เนี้ยคลายยิ้มบางๆ รอยยิ้มนั้นดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูด ความสง่างามนั้นดูไม่มีที่สิ้นสุดจนเกือบจะทำให้หลีเช่าเทียนมองจนตาค้าง
“แขกมาแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ” เถ้าแก่เนี้ยพูดด้วยเสียงเบา แล้วก็ถอยไปข้างนอกอย่างเงียบๆ
“มาแล้วหรอ? ” หลีเช่าเทียนเงยหน้าขึ้น แล้วใช้สายตาที่เย็นชากวาดมองไปนอกหน้าต่าง จากนั้นก็เห็นจักรยานหนึ่งคันกำลังขับเสไปมาแล้วมุ่งหน้ามาที่นี่
หลีเช่าเทียนมองคนคนนั้นที่ขี่จักรยาน ดวงตาทั้งสองข้างเปล่งประกายแสงแห่งความเลือดเย็นออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา!
เขามาสักที!
เฉินเป่ยขี่จักรยาน แล้วค่อยๆ ปั่นมาอย่างไม่รีบร้อนและไม่ชักช้ามาก ทำให้เห็นว่าเขากำลังปั่นอย่างชิวๆ สุดท้ายก็จอดลงตรงข้างถนน แล้วเงยหน้าขึ้นมองแผ่นโลหะที่มีรอยแตก
“ชาต้าหงเผา” เฉินเป่ยอ่านด้วยเสียงต่ำ โรงน้ำชาที่กล้าเอาชื่อชาต้าหงเผามาตั้งนั้นแทบจะไม่เคยพบเจอ มีเพียงโรงน้ำชาที่นี่ กลับกล้าเอาชื่อชาต้าหงเผามาตั้งเป็นชื่อร้าน ถือว่ามีความกล้ามาก หรือว่าที่นี่จะมีชาต้าหงเผาอยู่จริง?
ชาต้าหงเผาเป็นชาที่ผลิตขึ้นน้อยในแต่ปี ส่วนมากก็แค่จะอุปทานให้กับคนชั้นสูงในเยี่ยนจิงเท่านั้น และสินค้าที่จะเข้าสู่ตลาดนั้นมีจำนวนที่น้อยมาก
แม้ว่าจะมีใครบางคนที่มีวิธีที่ยอดเยี่ยมที่จะได้ชาต้าหงเผามาครอบครอง แต่ก็ถือว่าเป็นของล้ำค่ามีที่ไว้แบ่งปันให้กับแขกคนสำคัญได้ลิ้มลองเท่านั้น
และที่นี่คือโรงน้ำชา มีคนกลับกล้าเอาชาต้าหงเผามาเปิดร้านด้วยหรอ?
เฉินเป่ยทำนัยน์ตาที่ลุ่มลึก โรงน้ำชาร้านนี้ต้องมีเบื้องหลังที่มีอำนาจที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ต้องเป็นน้ำที่ก้นลึกแน่นอน
เฉินเป่ยผลักประตูโรงน้ำชาออก หลีเช่าเทียนกำลังจับถ้วยน้ำชา แล้วกำลังดมกลิ่นหอมของชา ท่าทางของเขาดูดื่มด่ำมาก
ชวา!
เหมือนจะสัมผัสได้ว่าเฉินเป่ยเข้ามา หลีเช่าเทียนจึงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วมองไปยังเฉินเป่ย สีหน้าดูนิ่งสงบมากๆ ทว่านัยน์ตากลับดูเลือดเย็น
“ฉันรอนายนานแล้ว” หลีเช่าเทียนค่อยๆ พูดขึ้น เขาไม่ได้ดูนิ่งเฉยเท่าครั้งแรกที่ได้เจอกับเฉินเป่ยตอนครั้งที่แล้วแล้ว
ครั้งแรกที่เจอเฉินเป่ย เขาไม่ได้รู้จักนาย ไม่ได้สนใจนายสักนิด
แต่ตอนนี้ เขามองเฉินเป่ยเหมือนศัตรูใหญ่ และอยากจะกำจัดเขาโดยเร็วอย่างเต็มทน
เฉินเป่ยนั่งลง หลีเช่าเทียนก็ปรบมือ เถ้าแก่เนี้ยก็ยกเหยือกชาออกมา แล้วรินน้ำชาให้เฉินเป่ย
ตอนที่เถ้าแก่เนี้ยหันหลังออกมา นัยน์ตาของเฉินเป่ยก็จับจ้องไปยังเถ้าแก่เนี้ย คอดเอวของนั้นดูโค้งได้ทรงอย่างเซ็กซี่ ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาออกมาอย่างนมนาน
หลีเช่าเทียนแสยะยิ้มอย่างดูหมิ่น ดูๆ แล้วเฉินเป่ยยังคงลามกเหมือนเดิม
ทว่าเรื่องที่เขาไม่รู้ ภายใต้ดวงตาส่วนลึกของเฉินเป่ย ดูลุ่มลึกมากๆ เพราะว่าการก้าวเดินของเถ้าแก่เนี้ยเมื่อครู่นี้ ทำให้เฉินเป่ยรู้สึกเหนือความคาดหมายจริงๆ
การก้าวเดินของเถ้าแก่เนี้ยในเมื่อครู่นี้ แม้กระทั่งหลีเช่าเทียนก็ยังไม่ทันได้สังเกตเห็น ทุกก้าวของเธอดูสง่าอย่างไร้ข้อผิดพลาดใดๆ ทุกก้าวที่ก้าวเดินเหมือนกัน ทว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายกลับไม่เหมือนปกติ
เฉินเป่ยจึงกวาดสายตามองไปโดยรอบไม่หยุด เหมือนเขาไม่เห็นหลีเช่าเทียนในสายตา ทำให้หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เย็นชา แล้วไอ้อันธพาลนี้ ใกล้ถึงได้ตายแล้ว ยังไม่ได้สังเกตเห็นแม้แต่นิดเดียวเลยหรือไง
ในความเป็นจริงแล้ว เฉินเป่ยกำลังสังเกตถึงการตกแต่งภายในของโรงน้ำชา
“วันนี้ฉันมาหานายเพื่อที่จะเจรจาอะไรบางอย่าง” หลีเช่าเทียนเอ่ยปากพูด แล้วมองเฉินเป่ยอย่างแปลกใจ “ไม่งั้นเรามาทำข้อแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งกันไหม? ”
“ลองว่ามาดู”
“นายให้ตระกูลหลีมอบสิทธิ์และอำนาจของการบุกเบิกท่าเรือและสนามบินนั่นให้ฉัน พวกนายอยากได้อะไร เงื่อนไขก็แล้วแต่พวกนายจะตั้ง” หลีเช่าเทียนหยุดชะงักไป “หลังจากกลับไปถึงเยี่ยนจิง จะไม่ไปหาเรื่องพวกนายอีก ฉันสามารถให้คำมั่นสัญญาได้”
เฉินเป่ยครุ่นคิดสักพัก เหมือนกำลังตั้งใจครุ่นคิด หลีเช่าเทียนจึงพูดขึ้นต่อ “ถ้านายยอมทำตามฉัน ฉันสามารถให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลกธุรกิจในเยี่ยนจิง ฉันจะใช้ทรัพยากรทั้งหมด ทำให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปได้รับชื่อเสียงในต่างประเทศด้วย”
หลีเช่าเทียนเสนอข้อดีที่ดึงดูดเขาเป็นอย่างมาก แต่เขาเป็นคนที่ใจเย็น แม้ว่าหลีชิงเยียนและหลีหยางจะเป็นเส้นเอ็นที่เป็นจุดอ่อนของเฉินเป่ย ฉะนั้นถ้าทำเพื่อพวกเขา เฉินเป่ยไม่มีทางไม่คิดคำนึงดีๆ
หลีเช่าเทียนเสนอผลประโยชน์ที่มากเกินไป ความฝันตลอดชีวิตนี้ของหลีหยางคือสามารถทำให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกลายเป็นธุรกิจที่แกร่งที่สุดในห้าร้อยอันดับแรกของต่างประเทศ!
และเขาหลีเช่าเทียน แค่ต้องพูดเพียงประโยคเดียวก็สามารถทำให้ทุกอย่างเป็นจริง!
จู่ๆ เฉินเป่ยจึงเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ถ้านายยอมทำตามฉัน ฉันสามารถให้นายกลายเป็นผู้ควบคุมทั้งตลาดธุรกิจของต่างประเทศ! ”
“เหอะๆ! ” หลีเช่าเทียนกำลังดื่มชา แล้วได้ยินเฉินเป่ยพูดแบบนี้ จึงทำให้เขาสำลักน้ำชาในลำคอทันที เลยทำให้เขาอายไม่หยุด สีหน้าของเขาดูหม่นหมองขึ้นมา
“นายนึกว่าฉันกำลังล้อเล่นกับนายอยู่หรอ? ทั้งตลาดธุรกิจของต่างประเทศ แล้วทำไมไม่บอกว่าธุรกิจของทั่วโลกล่ะ! ” หลีเช่าเทียนทำน้ำเสียงที่เลือดเย็น
“โลกเป็นของฉัน ให้นายไม่ได้” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“ของนายหรอ? ” หลีเช่าเทียนก็อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป จึงหัวเราะเสียงดังขึ้น เขาหัวเราะได้อย่างเหยียบหยามมาก “นายบ้าไปแล้วหรอ? กำลังฝันกลางวันอะไรอยู่……นายยังมีหน้ามาบอกว่าโลกนี้เป็นของนายอีกหรอ กินยาผิดไปหรือเปล่า? ”
“โคตรโง่ ไม่เข้าใจเหตุผล” เฉินเป่ยส่ายหน้าแล้วพูดคำคำนี้ออกมา
“คืนบริษัทของฉันให้ฉัน ฉันจะไม่เอาเรื่องแกทั้งหมด” หลีเช่าเทียนเอ่ยพูดอย่างโอ้อวด
สิ่งที่เขาตั้งหลักในหู้ไห่ถูกเฉินเป่ยแก่งแย่งไปหมด ต่อจากนี้เขาก็คงต้องกลับตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงมาอย่างน่าอับอาย ก็คงจะถูกคนนับไม่ถ้วนมองบนใส่และแสยะยิ้มใส่แน่นอน
เขาคือคุณชายรองแห่งตระกูลหลี เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้แบบนั้นได้ยังไง?!
ตอนนี้เขาก็ถือว่าโกรธเกรี้ยวและเคร่งเครียดมากๆ และไม่มีทางปล่อยท่าทีที่หยิ่งยโสของตัวเองลงได้ แม้ตอนนี้เขาไม่ไปทำเอาเรื่องก็ถือว่าเป็นบุญวาสนาที่ใหญ่หลวงที่สุดแล้ว!
“เอาเรื่องฉัน แกคู่ควรหรือไง? ” เฉินเป่ยเอ่ยพูด ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นเกินไปแล้ว
วันนี้เขามา ก็เพื่อที่จะจบทุกอย่างลง มีเพียงเท่านี้ หลีชิงเยียนจึงจะได้รับความปลอดภัยชั่วคราว
“เฉินเป่ย ฉันให้โอกาสแกแล้วนะ แกเองที่ไม่รับมันไว้! ” มือที่จับถ้วยชาของหลีเช่าเทียนสั่นเทาขึ้นมา บรรยากาศรอบๆ นั้นต่ำลงเรื่อยๆ
หลีเช่าเทียนจับจ้องเฉินเป่ยไว้อย่างเลือดเย็น ความอดทนของเขา กำลังจะหมดไป
“แกไม่เหลืออะไรสักอย่างแล้ว แล้วแกยังจะเอาอะไรมาต่อรองกับฉัน? ” เฉินเป่ยกระตุกมุมปากขึ้น แล้วเอ่ยพูดด้วยความหยิ่งยโส
ทันใดนั้น เขาก็ยื่นมือออกมาเหมือนฟ้าแลบ จากนั้นก็ฟาดลงบนใบหน้าของหลีเช่าเทียน!
หลีเช่าเทียนนิ่งงันไป! เขายังคงมองเฉินเป่ย ผ่านไปเป็นเวลาก็ไม่ได้กลับมา!
“การตบครั้งนี้ ฉันตบเพื่อภรรยาของฉัน” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบเฉย และถือโอกาสตอนที่หลีเช่าเทียนยังไม่ได้สติ ตบลงไปอีกครั้ง!
“เพี๊ยะ! ”
หลีเช่าเทียนหยุดชะงักไปเพราะด้วยตกตะลึง และโดนตบอีกครั้ง! เฉินเป่ยจึงเกิดท่าทีที่อาฆาตในใจขึ้นมา!
“ตบครั้งนี้ ฉันตบเพื่อพ่อตาของฉัน” เฉินเป่ยเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉย พอลงไม้ลงมือไปแล้ว ผลที่ตามมาจะร้ายแรงขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจเลยสักนิด
“เพี๊ยะ! ”
“ตบเพื่อพวกคนที่ถูกแกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า”
“เพี๊ยะ! ”
“ตบเพื่อแกที่ชอบทำตัวหยิ่งผยอง ”
“เพี๊ยะ! ”
เสียงตบที่ดังฟังชัดได้สะท้อนกลับมากลางโรงน้ำชา เฉินเป่ยลงไม้ลงแรงได้แรงเกินไป และว่องไวเหมือนฟ้าแลบ หลีเช่าเทียนแทบจะไม่ทันที่จะหลบเลี่ยง!
ตอนนี้แก้มของหลีเช่าเทียนแดงมาก และดูบวมเหมือนหัวหมู ตอนนี้เขาไม่มีแรงไปเอาคืน เขาถูกเฉินเป่ยตบจนมึนงง และรู้สึกวงเวียนศีรษะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโดนตบไปกี่รอบ
“ตระกูลหลีของฉันเป็น…….” หลีเช่าเทียนอดไม่ได้อีกต่อไป แค่เขาเพิ่งจะย้ายออกจากบ้านหลีก็ตกใจมากพอแล้ว เฉินเป่ยยังจะมาตบเขาอีก
ตระกูลหลี ถือว่าเป็นตัวอะไร?
อยากจะเอาตระกูลหลีมาทำให้เฉินเป่ยรู้สึกช็อตหรอ ฝันไปเถอะ!
รอให้ตบจนทำให้ปากของหลีเช่าเทียนบวม เฉินเป่ยจึงจะจัดเสื้อเชิ้ตของตัวเอง แล้วตักเตือนด้วยเสียงเย็นชา “ต่อให้เป็นราชาแห่งสวรรค์ ถ้าแกมายุ่งเกี่ยวกับภรรยาของฉัน ฉันก็จะตบแกแบบนี้แหละ! ”
นี่เป็นหนึ่งครั้งที่เฉินเป่ยใช้แรงในการจู่โจมกลับ สุดท้ายเขาก็ไม่ยอมอดกลั้นไว้อีกต่อไป แล้วเขาก็เหยียบย่ำหลีเช่าเทียนอย่างรุนแรง นี่เป็นการจู่โจมกลับของเขา!
สุดท้าย ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตที่ดูอำมหิต เฉินเป่ยหันหลังแล้วเดินออกจากโรงน้ำชา
หลีเช่าเทียนมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของเขา สีหน้าดูโมโหเป็นฟืนเป็นไฟนั้นโหดเหี้ยมมากๆ เหมือนซาตานจริงๆ!
เขาควักมือถือออกมา แล้วส่งข้อความออกไป จากนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างโมโหโดยไม่ลังเลใจอะไร “ลงมือได้! ”
เขาจะให้เฉินเป่ยตาย ตายอยู่ที่นี่!
“ตูม! ”
เฉินเป่ยออกจากโรงน้ำชา แล้วหยุดอยู่ตรงประตู จากนั้นรถยนต์คันหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็ระเบิดทันที จากนั้นก็กลายเป็นเปลวไฟที่ลุกโชน แล้วทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วฟ้า!
ในพริบตาเดียวเท่านั้น ทางเข้าโรงน้ำชาก็กลายเป็นทะเลเพลิง และตรงประตูโรงน้ำชาก็ถูกปิดสนิทจนไม่มีใครสามารถออกไปได้!
“ตายเถอะ! ” หลีเช่าเทียนหัวเราะเสียงดัง สีหน้าดูโหดเหี้ยม
เขามองเฉินเป่ยที่หายตัวไปจากเปลวไฟที่ระเบิดเมื่อกี้ ภายในใจขึงเขารู้สึกสบายใจมาก จากนั้นเขาก็ถอนหายใจอันร้ายกาจออกมา
ทันใดนั้น หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เกร็งทันที เพราะว่าเฉินเป่ยปรากฏตัวอยู่ตรงข้างๆ ทะเลเพลิง และไม่เห็นว่าเขาจะบาดเจ็บตรงไหนเลย มองจากนัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต ไม่มีแม้แต่จะบดบังความรู้สึกภายในใจ!