สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 127
บทที่ 127 ยาหม่องเขียว
เรื่องนี้หากถูกส่งไปที่โลกชั่วร้าย ก็คงจะทำให้เหล่าเทพเจ้าตกใจจนขึงตาโต และทำให้ภายในของพวกเขายุ่งวุ่นวายแน่นอน!
โม่ถีซือ…….นั่นเป็นตั้งเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาแห่งโลกชั่วร้ายเชียวนะ เป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโลกชั่วร้าย เป็นบุคคลมีถูกคนมากมายน้อมก้มกราบ
แค่เพียงพระราชวังกระจกของโม่ถีซือ ก็คือสถานที่ที่ที่หรูหราและงดงาม ไม่แพ้คฤหาสน์ของตระกูลหลี
และตอนนี้ เทพธิดาแห่งภูมิปัญญาที่ถูกคนมากมายอิจฉาริษยา บั้นท้ายของเธอกลับถูกเฉินเป่ยตีอย่างบ้าคลั่งและน่ากลัว
เรื่องนี้คงจะทำให้ต่างแดนเกิดความวุ่นวาย และสะเทือนโลกชั่วร้ายแน่นอน
โม่ถีซือ ดอกกุหลาบป่าที่งดงามกลับเอาชีวิตของคนอื่นไปได้ดอกนี้ ไม่มีใครกล้าเด็ด ต่อให้เป็นเทพเจ้าแห่งโลกชั่วร้าย ทุกคนต่างก็สัมผัสถึงความแกร่งของเธอ ก็แค่มีคนกล้าคิด แล้วใครจะกล้าแตะต้องเธอจริงๆ
พวกเขาถูกความเก่งกาจของโม่ถีซือสั่งสอน ถ้าไปแตะต้องผู้หญิงคนนี้เข้าจริงๆ ไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะถูกขายทิ้ง แล้วยังต้องช่วยเธอนับเงินอีก
นี่เป็นดอกไม้ดอกเดียวที่สวยจนได้แค่มองอยู่ที่ไกลๆ แต่ไม่กล้ามีใครแตะต้องและหยอกเล่น
แต่ตอนนี้กลับถูกคนที่วางอำนาจเด็ดกลีบดอกไม้ และยังถูกบี้ในมืออีก!
ไม่มีใครช่างกล้าขนาดนี้ คนที่ถูกเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาสนใจ ไม่มีใครมีจุดจบที่สวยงาม
“หลง คุณกล้า……” โม่ถีซืออดใจไม่ไหว แล้วใช้เสียงแหลมเพื่ออยากจะข่มขู่เฉินเป่ย
แต่ตอนที่เธอยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ๆ เรือนร่างของโม่ถีซือสั่นเทาอย่างไวต่อความรู้สึก เสียงที่กรีดร้องขึ้นด้วยเสียงแหลมก็เปลี่ยนเป็นเสียงอื่น เฉินเป่ยก็ใช้ฝ่ามือฟาดลงไปอีกครั้ง ทำให้คำพูดของเธอถูกขัดจังหวะ
“ยกบั้นท้ายขึ้นก็จะไม่เจ็บขนาดนั้นแล้ว” เสียงเสียงนั้นส่งเข้าหูโม่ถีซือ ทำให้เธอโกรธจนลำตัวสั่นเทา และอยากจะรีบจัดการกับไอ้หมอนี่อย่างสิ้นซาก
ที่ผ่านมาเธออยู่ในที่สูงส่งตลอด เขาเคยถูกใครกลั่นแกล้งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?!
“หลง แกจบแล้ว! ผู้หญิงคนนั้นต้องตาย! ” โม่ถีซือกรีดร้องด้วยเสียงแหลม
“เพี๊ยะ! ” เฉินเป่ยเปล่งประกายนัยน์ตาทั้งสองข้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา
จากนั้นเขาจึงออกแรงทั้งหมดอย่างไม่ลังเล แรงทั้งตัวของเขาถูกใช้ไปรวบรวมตรงกลางฝ่ายมือแล้วตบลงไป!
ครั้งนี้ เสียงกรีดร้องเสียงแหลมดังสนั่นทะลุประตูห้องไป ทำให้เสียงสะท้อนไปตรงระเบียง!
“แกต้องตาย! ฉันไม่มีทางปล่อยแกไปแน่นอน! ” โม่ถีซือกัดฟันกรอด นัยน์ตาที่อับอายทิ้งไว้แต่เพียงความอาฆาตแค้น!
“แควก! ”
เฉินเป่ยยื่นมือออกมา ชุดเดรสของโม่ถีซือถูกฉีกเป็นเศษๆ แล้วหลุดลงมาในพริบตา
ร่างอันผอมบางเหมือนงาช้างขาวของโม่ถีซือถูกเปลือยออกมา ทำให้เห็นถึงผิวพรรณที่ขาวเหมือนหิมะ ทำให้คนอดไม่ได้ที่กลืนน้ำลาย
ของชั้นดี! เฉินเป่ยหายใจแรง กวาดสายตาอันแดงก่ำคู่นั้นไปที่รูปร่างอันอรชรอ้อนแอ้นของเธอ อก เอว สะโพก มันช่างได้สัดส่วนจริงๆ เพอร์เฟกต์สุดๆไปเลย
เฉินเป่ยเคยเจอสวยงามเยอะจนนับไม่ถ้วน น้อยมากที่จะมีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบแบบนี้
“หลง…..ถ้าแกกล้าแตะต้องแม้แต่นิ้วมือนิ้วเดียวของฉันอีก ฉันจะล้างผลาญตระกูลหลีไปเก้าชั่วรุ่น! ” โม่ถีซือรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่เฉินเป่ยมองเธอ จึงรีบพูดขึ้น
เธอไม่พูดเรื่องมันคงไม่ร้ายแรงขนาดนี้ ตอนที่ได้ยินคำขู่ของเธอ นัยน์ตาของเฉินเป่ยเย็นชากว่าเดิม จากนั้นก็กดลำตัวลงไปอย่างรุนแรง “แกล้างผลาญกี่ชั่วรุ่น ฉันก็จะให้แกตายไปกี่ครั้ง! ”
ในห้องเหมาวีไอพี เสียงคำรามอันโมโหของเฉินเป่ยสะท้อนขึ้น ใบหน้าที่สวยงามของโม่ถีซือจึงบิดไปบิดมาอย่างทรมาน ความรู้สึกที่คุ้นเคยนั้น ทำให้เธอนึกย้อนถึงครั้งนั้นในค่ำคืนนั้น
แค่ว่าครั้งนี้เฉินเป่ยบ้าคลั่งกว่าเดิม ในใจของโม่ถีซือสะดุ้งตกใจ ครั้งนี้เธอใช้ปริมาณยาที่เยอะกว่าครั้งก่อนเป็นหลายเท่า คนธรรมดาก็คงจะตายไปภายในไม่กี่วิ……ทว่าเฉินเป่ยกลับสามารถฝืนทนจนถึงตอนนี้!
โม่ถีซือยากที่จะคาดคิด สภาพร่างของเฉินเป่ยทำถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แม้กระทั่งยาโป๊สุ้ยยังสามารถต้านทานได้!
“หลง……ฉันผิดไปแล้ว……คุณปล่อยฉันเถอะ……” สุดท้าย โม่ถีซือยากที่อดทน จึงเรียกขึ้นอ้ำๆ อึ้งๆ
“มารู้สึกผิดตอนนี้? สายไปไหม! ” สิ่งที่ตอบกลับโม่ถีซือเป็นเพียงเสียงเย็นชาที่พูดขึ้นแบบนี้ของเฉินเป่ยเท่านั้น แล้วยังมีเสียงของเตียงที่สั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง
อุณหภูมิที่ห้องเหมาวีไอพีจึงพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง อากาศในห้องเคล้าด้วยกลิ่นอันน่าแปลก
และยังมีโม่ถีซือที่รู้สึกทุกข์ทรมานและเสียใจ อีกทั้งยังมีเฉินเป่ยที่เหมือนสัตว์ป่าดุร้ายที่หลุดออกมากรงกักขัง!
โม่ถีซือรู้สึกเสียใจจริงๆ เธอนึกไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะมีชีวิตชีวาขนาดนี้……เขาเหมือนสัตว์ป่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย!
วันนี้เธอถูกทรมานอย่างเต็มที่ แล้วยังทรมานกว่าครั้งที่แล้ว! เธอรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะสลบไป!
……..
ตอนกลางดึก ในคลับแห่งหนึ่ง ชิงเหนียนที่รูปหล่อกำลังโทรหาเฉินเป่ยไม่หยุด แล้วพึมพำขึ้น “น่าแปลก ไม่รับสายฉันอีก ผิดปกติไปหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ? ”
ชิงเหนียนที่รูปหล่อจึงรู้สึกขนหัวลุกทันที เขานึกถึงเฉิ่นเเป่ยอาจจะไปหาโม่ถีซือ โม่ถีซือเป็นถึงเทพธิดาแห่งภูมิปัญญา หรือว่าเฉินเป่ยเกิดอุบัติเหตุ?
ชิงเหนียนที่รูปหล่อครุ่นคิดอย่างละเอียดก็ยิ่งรู้สึกกลัว เขาเริ่มตามหาเฉินเป่ย พอหาไปสักพัก สุดท้ายก็หาพิกัดของเฉินเป่ยจนเจอ
และตอนที่ชิงเหนียนที่รูปหล่อมองตามแผนที่ของดาวเทียม ก็เห็นเฉินเป่ยเข้าๆ ออกๆ ในโรงแรมแห่งหนึ่ง สีหน้าจึงดูแปลกใจขึ้นมาทันที
“ให้ตายเถอะ เข้าโรงแรมทั้งคืนแล้วยังไม่คิดกลับบ้าน……ลูกพี่ ข้างในคงไม่ใช่เทพธิดาแห่งภูมิปัญญาใช่ไหม? ” ชิงเหนียนที่รูปหล่อพูดเองเออเอง
“โอ้แม่เจ้า ถ้าเป็นเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาจริงๆ งั้นลูกพี่คงเก่งมาก” ชิงเหนียนที่รูปหล่อทำนัยน์ตาที่เปล่งประกาย แล้วพูดเองเออเองอย่างตื่นเต้นดีใจ “นี่กำลังกู้หน้าเพื่อชาติ เก่งกาจจริงๆ! ”
ชิงเหนียนรูปหล่อกลับไม่รู้ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว
…….
ตอนกลางดึก นอกโรงแรมเต็มไปด้วยความเงียบกริบ มีเพียงห้องห้องหนึ่งที่ยังคงเปิดไฟสว่าง แล้วผ้าปูก็เปียกโชกไปด้วยของเหลว
โม่ถีซือนอนอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง และทั้งตัวหมดแรง จากนั้นเสียงก็กลายเป็นเสียงที่แหบพร่า “หลง……ไม่ ไม่ได้แล้ว มันบวมหมดแล้ว”
เฉินเป่ยไม่สนใจ เขาเหมือนสัตว์ป่าหลุดออกจากกรง ทำให้โม่ถีซือแทบเป็นบ้า!
คำโบราณกล่าวว่า มีเพียงควายที่เหนื่อยง่าย ไม่มีนาที่ถูกควายไถจนเสีย ทว่าตอนนี้ โม่ถีซือกำลังถูกไถจนร่างกายเสื่อมเสียไปแล้ว!
“หลง……ฉันรู้สึกผิดจริงๆ คุณปล่อยฉันไปเถอะ……” โม่ถีซือส่ายหน้า นัยน์ตาไหลรินลงมา
“นี่เป็นสิ่งที่คุณต้องชดใช้เมื่อคุณมาท้าทายความโมโหของผม! ” เฉินเป่ยกัดฟัน ดวงตาสองข้างเคล้าด้วยความแดงก่ำ เขาก็รู้สึกเหนื่อยเพราะออกแรงทั้งหมดที่มี ทว่าเขายังคงกัดฟันชำเราเธอ!
จู่ๆ เฉินเป่ยก็เอายาหม่องเขียวมาหนึ่งขวด แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “คุณไม่ใช่ว่าไม่มีแรงหรือไง? “,
“คุณคิดจะทำอะไร? ” โม่ถีซือทำสีหน้าป้องกันตัว แล้วรู้สึกว่าเขาไม่มีทางทำเรื่องดี
ไม่นาน……ในห้องจึงมีเสียงสะท้อนที่แปลกประหลาดส่งมาจากนอกหน้าต่าง ทำให้ก้องดังไปทั่วฟ้า
……
เช้าตรู่ของวันถัดไป เฉินเป่ยลุกขึ้น ทั้งเรือนร่างปวดเมื่อยไม่มีทาง เมื่อคืนเขาต่อสู้ไปเก้าครั้งเต็มๆ! หนึ่งคืนทำไปเก้าครั้ง!
เพราะว่าโม่ถีซือบอกว่าจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปเก้ารุ่น! สุดท้ายเขาจึงใช้แรงทั้งหมดที่มี อดทนชำเราเธอ
เขากวาดสายตามองโม่ถีซือ โม่ถีซือไม่แม้แต่จะห่มผ้า เธอกอดแขนข้างหนึ่งของเขาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความงดงามที่เคล้าด้วยความเหนื่อยหน่าย
โม่ถีซือถูกกระทำจนถึงสุดท้าย ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนแรง อย่ามาแต่ห่มผ้า กระทั่งเสียงแหบพร่ายังตะโกนไม่ออก! ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับ!
สุดท้ายเธอก็รับรู้ถึงว่าทำไมเฉินเป่ยถึงถูกคนต่างชาติมองว่าเขาคือซาตาน!
เขาไม่ใช่คนจริงๆ!
ไอ้หมอนี้สามารถทำทุกอย่างออกมาได้ แม้แต่ยาหม่องเขียวยังเอาออกมาได้! ทำให้เธอทรมานจนปานตาย!
เฉินเป่ยควักมือถือออกมา แล้วมองสายที่ไม่ได้รับและข้อความที่ส่งเข้ามาจนนับไม่ถ้วน ในใจจึงสะเออะขึ้น
โม่ถีซือบอกว่าองค์กรนักฆ่าทั้งองค์กรซุ่มซ่อนอยู่ในเมืองหู้ไห่ ไม่รู้ว่าหลีชิงเยียนเป็นยังไงบ้างตอนนี้?