สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 142
บทที่142 ให้โลกทั้งใบกับเธอแล้วยังไง
สีหน้าของหลีชิงเยียนเผ็ดร้อน หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอครางออกมาเบาๆอย่างควบคุมไม่ได้……ฟังดูแล้ว ทำให้คนคิดไปไกลได้ง่าย!
“ไสหัวไปเลย!”หลีชิงเยียนกัดฟันกรอด เธอเองยังคิดไม่ถึง ว่าจะส่งเสียงครางออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้!
หลีชิงเยียนอยากจะยกขาเรียวยาวทั้งสองนี้ขึ้น แต่เรือนร่างที่บอบบางของเธออ่อนเรี่ยวแรง ไม่มีแม้แต่แรงจะขยับด้วยซ้ำ จึงปล่อยให้เฉินเป่ยกระทำ!
“ประธานหลี คุณไม่ได้นวดนานแล้วนะ คราวที่แล้วตอนที่แก้อาการป่วย แต่ก็ยังมีโรคฝังอยู่ ถ้าเว้นระยะไว้นานจะเกิดเรื่องได้”เฉินเป่ยพูดอย่างหนักแน่น“ต้องนวดเป็นระยะ ถึงจะหายดี”
“ไปตายซะเถอะ!”หลีชิงเยียนหน้าแดงก่ำ มองเฉินเป่ยอย่างดุดัน จนแทบจะเอามีดพันเล่มเสียบเฉินเป่ยด้วยซ้ำ!
“นวดเหรอ ดีสิ นวดเยอะๆดีต่อสุขภาพ”ซูเสี่ยวหยุนพูดอยู่ข้างๆ
“หุบปากไปเลย!”หลีชิงเยียนมองซูเสี่ยวหยุนอย่างเดือด เธอแทบจะลุกขึ้นด่าโดยไม่ปวดเอว!
หลีชิงเยียนจะไปรับได้อย่างไร มือของเฉินเป่ยคล่องแคล่วขนาดนี้ เมื่อมานวดเท้าอรชรอ้อนแอ้น นิ้วมือของเขาจึงไต่ไปตามจุดต่างๆ ทำให้แต่ละจุดของเธอทั้งปวดทั้งร้อน ไม่นานเธอก็รู้สึกร้อน ผ่าวไปทั่วสรรพางค์กาย อีกทั้งปวดแสบปวดร้อน จึงส่งเสียงครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ตอนนี้ท่านประธานเทพธิดาทุลักทุเลเหลือเกิน ผมดำขลับแผ่อยู่กลางหลัง ร่างบอบบางสั่นเทิ้มไม่หยุด มือเรียวเล็กอุดปากเธอไว้ พยายามไม่ให้เธอออกเสียง!
ท่าทางแบบนี้ ถ้าให้คนนอกมาเห็นเข้า คงจะตกตะลึงไม่น้อย!เทพธิดาแห่งวงการธุรกิจ เซเลบแห่งเมืองหู้ไห่ มีวันหนึ่ง เพราะโดนนวด กลับมีปฏิกิริยาที่อ่อนไหวเช่นนี้
“ประธานหลี ถ้าทนไม่ไหวจะตะโกนร้องออกมาก็ได้ นี่เป็นอาการป่วยที่คุณสะสมมาหลายปี”เฉินเป่ยพูด
แววตาคู่สวยของหลีชิงเยียนจ้องไปที่เฉินเป่ย“ไสหัวไปนะ!ฉันไม่นวด!”
“ประธานหลี ขั้นตอนหนึ่งยังไม่เสร็จเลย อาการปวดไม่หมดไปหรอกนะ นอกจากอดทนจนจบ”เฉินเป่ยกล่าว
“คุณ!”หลีชิงเยียนแทบจะประสาทแดก ช่างน่าอดสูจริงๆ!เสียงแบบนี้ เธอเองยังทนฟังไม่ได้เลย!
ส่วนเฉินเป่ยกำลังก้มหน้า ตั้งอกตั้งใจนวดเฟ้นให้หลีชิงเยียน เท้าบอบบางคู่นี้ช่างเหมือนงานศิลปะชั้นเลิศ ไร้รอยตำหนิ หาตำหนิใดๆไม่ได้เลย
พอได้ยินประธานเทพธิดาร้องออกมาแบบนี้ ไม่ต้องบอกหรอกว่าเฉินเป่ยสะใจแค่ไหน
เขานวดพลาง ในใจอาจหาญคิดเรื่องลามก เสียงของประธานเทพธิดานี่ช่างใสกังวาลจริงๆ แค่นวดก็ยังเย้ายวนได้ขนาดนี้……ถ้าหากว่าจะจัดสรรทำเรื่องที่ยากจะบรรยายอีกสักหน่อยล่ะ……เฉินเป่ยคิดไปไกล ในห้องส่วนตัวของประธานเทพธิดานี่ ประธานเทพธิดาหน้าแดงก่ำ น้ำเสียงน่าฟังดังลอดออกมา……เลือดแห่งสัตว์พรั่งพรูอยู่ในกายเฉินเป่ย!
มือทั้งสองของเฉินเป่ยค่อยๆไล่ขึ้นไปตามท่อนขาทั้งสองข้าง หลังจากที่เช็ดขาของหลีชิงเยียนจนแห้งสนิท จึงเริ่มปลดเสื้อเชิ้ตออก แล้วค่อยๆนวดเฟ้นไปตามท้องน้อยนั้น
สะดือกลมชุ่มไปด้วยน้ำ เฉินเป่ยค่อยๆคลึงเป็นวง หลีชิงเยียนตัวสั่นเทิ้ม คิดต่อต้านอย่างแรง แต่ร่างกายที่อ่อนแรงแทบจะไม่ไหว!
หลีชิงเยียนได้แต่นอนราบในอ้อมแขนของเฉินเป่ย และสัมผัสใกล้ชิดกับเขา ทำให้เธอโกรธจน แทบอยากจะฆ่าคน!
ผิวเนียนละเอียดบอบบางของหลีชิงเยียนสัมผัสเข้ากับมืออันสากกระด้างของเขา การที่ได้สัมผัสผิวนุ่มราวทารก ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง เธอแทบคลั่ง!
สำหรับเธอแล้วมันคือความทรมาน ทุกวินาทีและทุกนาที!
…………
ที่สนามบินนานาชาติหู้ไห่ เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งบินวนท่ามกลางความมืด แล้วลงจอด
ภายในห้องโดยสาร เงาๆหนึ่งเดินออกมา สาวเท้าราวมังกรผงาดพยัคฆ์ทะยาน แววตาลุ่มลึกราวกับซุกซ่อนดวงเดินไว้
การก้าวเท้าแต่ละก้าวของเขา เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นดังกึกๆ เวลาไหลผ่านอย่างแม่นยำ!
เขามาแล้ว จากเยี่ยนจิงมาหู้ไห่!
เขานำพาภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้นของหลีเช่าเทียนมาด้วย และมาเพื่อเกียรติยศของตระกูลหลี!
เขาเป็นนายน้อยตระกูลหลี หลีเช่าหง !เป็นมังกรผู้สั่นสะเทือนวงการราชการแห่งเยี่ยนจิง!
อีกด้าน มีอีกเงาหนึ่งออกมาจากห้องโดยสาร เป็นเลขาสาวสวยของหลีเช่าหง……หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นเมียน้อยหลีเช่าหง!
ถ้าเลขาผู้นี้ปฏิบัติได้ดี หลีเช่าหงก็อาจจะเก็บไว้ แล้วก็จะมั่งมีศรีสุขไปตลอดชาติ ขึ้นตำแหน่งอย่างรวดเร็ว!
“ไปเถอะ”สายตาหลีเช่าหงกวาดไปทั่วเครื่องบิน เขาพูดอย่างช้าๆ น้ำเสียงหนักแน่น
“คุณชายใหญ่”ชายสวมสูทดำสองสามคนเดินมา ยืนเรียงแถว หลังจากที่หลีเช่าหงเข้าใกล้ จึงคำนับพร้อมกัน!
หลีเช่าหงหยุดฝีเท้า มองไปไกล
คนสวมชุดดำสองสามคนเดินตามหลังหลีเช่าหง คนสวมชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้นว่า”คุณชายใหญ่ บริษัทตระกูลผังกรุ๊ปแห่งเมืองหู้ไห่จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำไว้ ต้องการจะเลี้ยงรับรองครับ……”
“ไม่ต้องสนใจ”หลีเช่าหงพูดเสียงเรียบ พูดอย่างมั่นใจ ทำให้คนชุดดำหลายคนเงียบสนิท
หลีเช่าหงมีความมั่นใจสูงเกินไปแล้ว บริษัทตระกูลผังกรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองหู้ไห่เลยทีเดียว!ต่อให้หลีเช่าเทียนก็ไม่กล้าปฏิเสธ แต่คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลีคนนี้ กลับไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา!
เมืองหู้ไห่ มีตระกูลที่มั่งคั่งมากมาย แต่ที่ใหญ่ที่สุดเห็นจะไม่พ้นบริษัทตระกูลผังกรุ๊ป ตระกูลผังจัดเป็นตระกูลทองคำมั่งคั่งแห่งเมืองหู้ไห่มาตั้งแต่โบราณกาล เป็นสิ่งที่ยากจะหยั่งถึง!
ตระกูลผังควบคุมเมืองหู้ไห่ ถ้าพูดอย่างไม่เกินเลย เมืองหู้ไห่แซ่ผังก็ได้!
หลายคนบอกว่า ขนาดของบริษัทตระกูลผังกรุ๊ป ต่อให้อยู่เมืองเยี่ยนจิง ก็ใหญ่กว่าหล่ายตระกูลอยู่ดี
การต้อนรับจากบริษัทตระกูลผังกรุ๊ป แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเกียรติสูงสุด!
หลีเช่าหง กลับไม่เห็นอยู่ในสายตา!
หลีเช่าหงไปถึงจุดจอดเครื่องบินโดยเร็ว เขาค่อยๆชะลอฝีเท้า กวาดตาไปรอบๆ ทอดสายตายาวไกล ฉายแววเย็นชา“พวกนี้เป็นยอดฝีมือของตระกูลหลีทั้งนั้น มีคนหนึ่งที่คอยสนับสนุนผมตลอดเวลา แต่กลับโดนเสียกระอักเลือด!”
“คุณชายใหญ่ ให้คนทำความสะอาดร่องรอยเหล่านี้ไหมครับ”ชายชุดดำคนหนึ่งเปิดปากถาม
“ไม่ต้อง”หลีเช่าหงส่ายหน้า น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความเย็นชา“นี่เป็นความอัปยศของตระกูลหลี ที่ผมมาครั้งนี้ เพราะต้องการจะใช้เลือดล้างความอัปยศ!”
“ผู้เฒ่าตระกูลหลีของเราตายที่นี่ ถ้าผมให้คำอธิบายกับวงศ์ตระกูลไม่ได้ ผมไม่มีวันสบายใจ”หลีเช่าหงบ่นพึมพำ“เฉินเป่ย ผมหวังว่าคุณ จะไม่อ่อนแอเกินไป!”
ชายชุดดำที่ตามรู้สึกสะเทือนใจ หลีเช่าหง ต้องการไม่ให้เฉินเป่ยอ่อนแอเกินไปงั้นเหรอ?!
คุณชายสองตระกูลหลีรถคว่ำที่นี่ คุณชายใหญ่กลับวางท่ายโสโอหัง!
“ตัดแขนหนึ่งข้างของขยะอย่างเช่าเทียนออกไปไม่นับว่าอะไร ไอคิวสูงหน่อยสร้างผลงานในกิจการห้างก็ไม่นับว่าเท่าไหร่ สู้แก่งแย่งชิงดีไม่ได้ เมื่อเทียบกับศึกเลือดในวงการ จะรู้สึกเหมือนแพ้ไปทั้งกระดาน เขาไม่เคยประสบ”หลีเช่าหงราวกับอ่านทะลุความคิดชายชุดดำ เขาเปิดปากพูดอย่างสงบ
“ในเยี่ยนจิง คนที่ทำได้ มีไม่น้อย”หลีเช่าหงเปิดปากพูด ชายชุดดำเหล่านั้นพยักหน้า แสดงความนอบน้อม
ตระกูลในเยี่ยนจิงมีมากมายเต็มไปหมด และยังมีตำหนักรโหฐานอีกมาก เป็นยุคแห่งความรุ่งโรจน์ เมืองหู้ไห่จะเจริญรุ่งเรืองแค่ไหน ก็มิอาจเปรียบได้กับเยี่ยนจิง
“คนต่ำช้าอย่างหลีชิงเยียน เดิมทีก็เป็นก้อนเลือดโสมมของบ้านเราอยู่แล้ว เขายังยอมแต่งเข้าบ้านอีก เรื่องนี้มันช่างขัดกับความลับบนตัวเขาเสียเหลือเกิน”หลีเช่าหงพูดกับตัวเอง สายตาลุ่มลึก
“หรือว่าเขาจะเอาหลีชิงเยียนมาเป็นเกราะกำบังตัว”ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้น
“หลีชิงเยียนมีชื่อเสียงในเมืองหู้ไห่ไม่น้อย แบบนี้เขาจะทำตัวเป็นจุดสนใจ จุดประสงค์ของเขา ค่อนข้างแปลกประหลาด”หลีเช่าหงครุ่นคิดอย่างละเอียดลออ ถ้าหากว่าเฉินเป่ยอยู่ที่นี่ด้วย แล้วได้ยินหลีเช่าหงพูดแบบนี้ คงจะตกใจน่าดู หลีเช่าหงประเมินคนได้เก่งนัก ถึงกับเริ่มอ่านตัวตนเฉินเป่ยออก!
“หาโรงแรมที่มันโลว์โปรไฟล์เข้าพักหน่อย แล้วปฏิเสธทุกงานเลี้ยง คอยจับตาดูคนตระกูลหลีให้ดี”หลีเช่าหงเดินออกจากสนามบิน นั่งขึ้นไปบนรถคันดำปักธงแดง น้ำเสียงลุ่มลึก ดังลอดออกมาจากในตัวรถ
“ครับ”ชายชุดดำรับคำ ในใจสั่นไหว
หลีเช่าหงกับหลีเช่าเทียนไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย คุณชายใหญ่ความคิดลุ่มลึก ยากที่ใครจะเข้าถึง!
…………
ภายในคฤหาสน์ตระกูลหลี หลีชิงเยียนที่เจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัวกำลังนอนไม่รู้สึกรู้สาบนโซ
ฟา เธอหลับอย่างสบาย
หลังจากที่เฉินเป่ยนวดให้หลีชิงเยียนเรียบร้อย จึงค่อยๆใช้มือช้อนอุ้มเธอขึ้นมา แล้วค่อยๆประ คองขึ้นชั้นสอง
พอวางหลีชิงเยียนลงบนเตียง ห่มผ้าให้เรียบร้อย เฉินเป่ยจึงเดินลงมาจากชั้นสอง
“นายนี่ช่างกล้าดีขึ้นทุกวันนะ”ซูเสี่ยวหยุนมองเขาอย่างมีความหมาย
เฉินเป่ยหัวเราะแหะๆ“พี่ซูเป็นคนอบรมไม่ใช่หรือฮะ”
“ฉันไม่ได้อบรมให้ทำทุเรศกับเมียนะจ๊ะ”ซูเสี่ยวหยุนกลอกลูกตาอันเซ็กส์ซี่เย้ายวน“คุณรู้ไหมว่าทำไมเสี่ยวเยียนถึงดูถูกนายนัก”
เฉินเป่ยสีหน้าสงบ“ผมรู้”
“ที่จริงคุณจะทำดีกับเธอมากแค่ไหน ก็สู้ออกไปหางานทำไม่ได้หรอกนะ แบบนี้อย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ดูถูกคุณ”ซูเสี่ยวหยุนพูดอย่างสัตย์ซื่อ
“พี่ซูครับ ผมเคยมีโลกทั้งใบ แต่ตอนนี้ผมแค่อยากปกป้องพวกคุณ”เฉินเป่ยยิ้มจางๆ พูดเสียงเรียบ
“เริ่มโม้อีกแล้วนะ”ซูเสี่ยวหยุนกระตุกมุมปาก“ทำไมไม่บอกว่าเป็นเจ้าโลกซะเลยล่ะ”
“ผมเคยเป็น พี่รู้แล้วเหรอ”เฉินเป่ยพยักหน้า
“จุดแสงสว่างให้คุณก็เจิดจรัสเอง”ซูเสี่ยวหยุนรู้สึกขำเฉินเป่ย เขาดูท่าทีจริงจังของเฉินเป่ย“ได้คืบจะเอาศอก ไปฝันเอาตอนนอนหลับแล้วกัน”
เฉินเป่ยสีหน้าเรียบเฉย ถ้าซูเสี่ยวหยุนรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเฉินเป่ยละก็ คงจะสงสัยจนประสาทกิน!
“รอให้เธอยอมรับผมก่อน จะให้โลกทั้งใบกับเธอก็ยังได้……”เฉินเป่ยเดินหมุนตัวกลับขึ้นห้องชั้นบน มีเสียงๆหนึ่งจากด้านบนดังลอดลงมา
“อย่าให้เธอเลี้ยงคุณเป็นหนุ่มหน้าขาวค่อยพูดนะ”ซูเสี่ยวหยุนพูดเสียงดัง
เฉินเป่ยขึ้นข้างบน หลังจากกลับเข้าไปในห้องนอน เสียงโทรศัพท์ก็ดังรัวๆ“พี่ใหญ่ ตรวจออกมาแล้ว ช่วงนี้บริษัทที่จับจ้องกลุ่มตระกูลหลีอยู่ ในประเทศมีราวๆหกบริษัท ต่างประเทศมีเป็นสิบสิบ เบื้องหลังพวกเขาลึกมาก ยากที่จะหยั่งถึง”
“ยังมีอีกนะครับ ความวุ่นวายน่าจะมาถึงแล้วล่ะ เมื่อกี้มีเครื่องบินของเยี่ยนจิงร่อนลงที่หู้ไห่”ชิงเหนียนน้ำเสียงตื่นกลัว“พี่ชายของหลีเช่าเทียน……หลีเช่าหง”
แววตาเฉินเป่ยราบเรียบ“บุญสัมพันธ์ของฉันกับน้องชายเขาแน่นแฟ้า พี่ชายเขามา ฉันต้องไปถามไถ่หน่อย!