สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 146
บทที่146 ขอชีวิต!
“ฉันอยู่ทั้งคนน่า ไม่มีใครกล้ารังแกเธอหรอก ใครกล้ารังแก ฉันจะเอาคืนให้สองเท่า!”เฉินเป่ยกอดถังโหรวไว้แน่น ถังโหรวอวบอิ่ม ส่วนเว้าส่วนโค้งของเจ้าหล่อนแปะอยู่ที่เขา มีแรงสะท้านดี ทำให้คนฟุ้งซ่านได้ง่าย
น้ำเสียงเฉินเป่ยราบเรียบ แต่คำพูดนั้น กลับแฝงไปด้วยแรงพิฆาต เขาพูดกระทบคนของพี่หลง ว่านี่เป็นคำเตือนของเขา!
ถ้าแก๊งค์มาเฟียโลกตะวันตกมายืนตรงนี้ รับรองว่าต้องขนลุก เนื้อตัวสั่นเทา เพราะว่าในตอนแรก คำเตือนพรรคนี้ของเฉินเป่ย พวกเขาไม่ได้ใส่ใจ……จากนั้น ก็ต้องชดใช้อย่างสาสม!
ในครั้งนั้น โลกตะวันตกสั่นสะเทือน โลกมืดถูกล้างด้วยเลือด คนจำนวนมากไม่เข้าใจ คำเตือนของราชาหลง เป็นตัวแทนของการหลั่งเลือด ต้องใช้กำลังทั้งหมดในการป้องกัน!
หลังพิงหาเขา และกำลังจ้องเขม็งไปที่รถของพี่หลง พอได้คำพูดนี้ กลับไม่ใส่ใจอะไร มุมปากเชิดขึ้น คำพูดของเฉินเป่ย ทำเป็นหูทวนลม!
พี่หลงกำลังรวบรวมสมาธิเพ่งไปข้างหน้า รถที่พุ่งมาจากทางด้านหน้า ทำให้ในใจเขาเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดี รถที่ดูดุดันคันนี้ เกรงว่าจะมาไม่ดี!
“สิบ เก้า แปด เจ็ด……”เฉินเป่ยชี้นิ้ว ตะโกนออกมา
“เสแสร้งเข้าไป สิบวินาทีให้หลัง จะเป็นวันตายของแก”พวกอันธพาลหัวเราะ
ถ้าเฉินเป่ยไม่ได้รนหาที่ตายตั้งแต่แรก ก็คงยังมีโอกาสรอด แต่น่าเสียดาย เขากล้าวางก้ามกับพี่หลง!
พี่หลงบันดาลโทสะขึ้นมาละก็ สาหัสน่าดู!
“ยัยหนูนั่นหน้าตาไม่เลว เดี๋ยวจับกลับไป เล่นกับมันก่อน แล้วค่อยส่งให้พี่สองจัดการ”อันธพาลบางคนใช้สายตาแทะโลมถังโหรว แววตาดูหื่นกาม พวกมันใช้สายตาในการแทะโลมถังโหลว
เรือนร่างน้อยๆของถังโหรวสั่นเทา ใบหน้าขาวซีดหลบอยู่หลังเฉินเป่ย
ในเวลานี้ นอกจากเฉินเป่ยแล้ว เธอไม่มีใครที่พึ่งพาได้เลย!
เฉินเป่ยหรี่ตา กวาดตามองอันธพาลเหล่านั้น สาดสายตาเย็นชาไปให้
“สี่ สาม……”
แววตาอันธพาลเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก พวกมันใช้ความเจ้าเล่ห์ในการรุกฆาต!
รถสองสามคันนั้นค่อยๆเร่งความเร็วขึ้น หลังจากที่พี่หลงเห็นทะเบียนรถ สีหน้าจึงค่อยๆเคร่งขรึมขึ้นมา
ประตูรถเปิดออก เงาหนึ่งลงมาจากรถ รองเท้าหนังคู่หนึ่งเงียบลง ทำให้ใจพี่หลงไม่เป็นระส่ำ
“สอง หนึ่ง”
เฉินเป่ยเก็บนิ้ว สายตาดุเลือดราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ!
พวกอันธพาลตัวสั่นเทา ในจังหวะนั้น เฉินเป่ยทำให้พวกเขารู้สึกราวกับเจออสูร แววตาคู่นั้น เป็นแววตาแห่งอสูรก็ไม่ปาน!
ภายในร่างกายของเฉินเป่ย ราวกับปลุกสัตว์ร้ายให้ตื่น คุกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งความพิฆาต!
“ฆ่า!”นับถอยหลังจบ พวกอันธพาลชูอาวุธขึ้น บุกไปทางเฉินเป่ย!
เสียงตะโกนก้องหู ผู้คนโดยรอบตื่นตระหนก!ในใจสั่นไหว!นี่แหละพลังแห่งหลงหุ้ย!!
ถังโหรวร้องเสียงหลง หวาดกลัวถึงขีดสุด!
เฉินเป่ยกอดถังโหรวแน่น ในสถานการณ์ที่ฉุกละหุกเช่นนี้ จู่ๆก็มีเสียงคำรามก้อง ดังสะท้อน
กลางอากาศ!
“จะดูว่าใครกล้าอีก!”
เสียงนั้นประหนึ่งสายฟ้าฟาด ฉันพลันทำให้ผู้คนสะท้าน น้ำเสียงที่ไม่ต้องสงสัย ราวกับออกคำ
สั่ง!
ลูกน้องอันธพาลของหลงหุ้ยชะงักฝีเท้า ส่วนพี่หลง ในตอนที่ฟังน้ำเสียงที่คุ้นหู ใจก็เต้นไม่เป็นระส่ำ!
เห็นเพียงเงาๆหนึ่ง ออกมาจากรถ ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งลงมา ค่อยๆเดินเข้ามาทางหลงหุ้ย!
เงานี้ค่อยๆย่างก้าว เขาสวมแว่นตาดำ สีหน้าลุ่มลึก ทำให้คนเดาใจไม่ถูก
ในเวลานี้เอง ใบหน้าของเขา ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายเพชณฆาต เขาถอดแว่นดำลง ปล่อยรังสีออกไป สุดท้ายไปตกอยู่บนตัวพี่หลง
อันธพาลเหล่านั้น ในตอนที่เห็นเงา ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด พวกเขาหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
ราวกับวิญญาณจะออกจากร่าง
พี่หลงมองเงานั้น เขารู้สึกคุ้นตา แต่ก็ยังคงไม่เปิดเผยตัวตน
“แกเป็นใคร”พี่หลงยื่นมือไป บอกให้พวกอันธพาลหยุด มองไปตามเสียง สีหน้าเคร่งขรึม
คนคนนั้นไม่ได้กล่าวอะไร เดินมาหยุดตรงหน้าพี่หลง ทันใดนั้นลงมือไวว่องปานฟ้าแลบ ตบเปรี้ยงลงบนหน้าพี่หลง!
“ผัวะ!”
ฝ่ามือนี้สั่นสะเทือน แม้แต่พี่หลงเองก็เซ่อไป เขากำลังจะลงมือ แต่โดนเงาน่าสะพรึงนั้นชิงลงมือก่อนจนไม่กล้าโต้ตอบ!
“สารเลว”เงานั้นพูดขึ้นเสียงนิ่ง น้ำเสียงฟังดูโกรธขึ้ง
“ท่านใต้เท้าเป็นใคร กระผมนึกไม่ออกจริงๆ”พี่หลงพูดเสียงค่อย เขามีความรู้สึกรุนแรง คนคนนี้ไม่ธรรมดา ราวกับเคยเจอที่ไหน แต่นึกไม่ออก
“คนสารเลว แม้แต่ท่านโจวยังลืม แกสมควรตาย!!”ชายชุดดำข้างๆพูดขึ้น สีหน้าพี่หลงแข็งทื่อ
กึก!
บรรยากาศเย็นยะเยือก ทุกคนเงียบนิ่ง สายตาทุกคนส่องมาที่เงาลึกลับ
เขา……ก็คือท่านโจวในตำนานอย่างนั้นหรอกหรือ?!
ผู้คนโดยรอบรีบแห่กันขึ้นมา ตามที่กล่าวขานมีอยู่ท่านหนึ่ง คือท่านโจวผู้ที่เป็นผู้มีอภินิหาร กลับมาเยือนถึงถิ่นด้วยหรือ
พี่หลงกุมหน้า สีหน้าผวา แววตาแน่นิ่ง
ท่านโจว…ประมุขแห่งถานกง เป็นเขาเองหรือ!
พี่หลงเงยหน้า มองไปยังใบหน้าที่นิ่งชา สีหน้ายากที่จะเชื่อถือ ตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
“ท่าน……ท่านโจวเหรอ”พี่หลงเสียงสั่น น้ำเสียงติดอ่าง ถามยืนยันถึงฐานะเขาอย่างระมัดระวัง
“ในตอนแรก ฉันไม่น่าจะส่งเสริมแก”ท่านโจวพูดเสียงราบเรียบ ส่วนพี่หลงพอได้ยินคำพูดนี้ ก็สั่นสะเทิ้มไปทั้งตัว เข่าทรุดฮวบ
พี่หลงจึงคิดขึ้นได้ว่า เมื่อต้นปีที่แล้ว ตอนที่มีงานประชุมโลกใต้ดิน เขายังเป็นเพียงคนกระจอกงอกง่อยไร้ชื่อเสียง ยืนเก้ๆกังๆอยู่ด้านหลังท่านโจว……ในเวลานั้นท่านโจวเห็นว่าเขาคล่องแคล่ว จึงออกปากชมขึ้นทีหนึ่ง นับจากนั้น ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับพลิกฟ้าแผ่นดิน และได้รับโอกาสอันยากที่จะคิดถึง กลายเป็นผู้มีอิทธิพล
ท่านโจวเป็นผู้มีพระคุณอันสูงส่งของเขา หากไม่มีท่านโจวเสียแล้ว โลกอันโหดร้ายใบนี้ เขาคงได้ตายทั้งเป็นไม่รู้กี่รอบ
พี่หลงร่างกายสั่นเทา ก้มผงกหัวไม่หยุด พูดเสียงดังกังวาน“ท่านโจวเป็นผู้มีพระคุณ ผู้น้อยไม่เคยลืมเลือน”
ท่านโจวยิ้มขึ้นที่มุมปาก น้ำเสียงเย้ยหยัน“ไม่ลืมซึ่งพระคุณอย่างนั้นเหรอ ขนาดฉันแกยังจำไม่ได้……”
“ท่านโจว ผมผิดไปแล้ว อภัยด้วยเถอะ จะให้ทำอะไรก็ยอม!”พี่หลงใจสั่นสะเทิ้ม เขาจะไปคิดได้อย่างไรเล่า ว่าท่านโจวจะมาด้วยตัวเอง!
ท่านโจวละเลยเขา แล้วเดินไปทางเฉินเป่ย
อันธพาลพวกนั้นไหนเลยจะกล้าขัด ต่างก็หลีกทางให้
“เขามาทำอะไรเหรอ”ถังโหรวถามเบาๆ ขาทั้งสองข้างเริ่มอ่อนแรง
เดิมทีคนที่มาเรียกพี่หลงก็ตกใจจะแย่อยู่แล้ว ตอนนี้มีท่านโจวโผล่ออกมาอีกคน ยิ่งน่ากลัวกว่าพี่หลงเป็นไหนๆ
แม้ว่าแบ็คกราวด์ของถังโหรวจะแข็งแกร่ง แต่เธอไม่เคยข้องเกี่ยวกับโลกใต้ดินพวกนี้ พอเห็นอันธพาลแบบนี้ ดวงตาคู่สวยก็เริ่มสะอื้นน้ำตา
“ไม่เป็นไรนะ”เฉินเป่ยปลอบโยน
ส่วนพี่หลงเงยหน้าขึ้น มองดูท่านโจวค่อยๆก้าวเท้าเดินไปหาเฉินเป่ย ขมวดคิ้ว หรือว่าท่านโจวจะรู้จักชายคนนี้
“คุณเฉิน ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”ท่านโจวเปลี่ยนสีหน้าจริงจังเป็นละมุน เผยรอยยิ้มออกมา พูดด้วยอย่างให้เกียรติ
กึก!
สีหน้าพี่หลงเปลี่ยนไป พวกอันธพาลเหล่านั้นก็นิ่งอึ้งเช่นกัน!
ท่านโจว……ทำไมถึงได้เกรงใจสองคนนั้นขนาดนั้น?!
ทุกคนขยี้ตา แทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง!
ผู้คนที่รายล้อมต่างก็แตกตื่น เวลาที่ท่านโจวคุยกับเฉินเป่ย น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนมาก ถึงขนาดที่ว่าเอาใจเลยทีเดียว ทำให้พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อ!
ถังโหรวผู้ซึ่งเกาะแขนเฉินเป่ยอยู่ งงเป็นไก่ตาแตก เมื่อเห็นการสนทนากันระหว่างท่านโจวกับ
เฉินเป่ย ท่านโจวเองก็ไม่ได้วางมาดแบบเดิม ที่ทำให้เธอต้องยำเกรง!
นี่……นี่เป็นเจ้าพ่อเมืองหู้ไห่นี่นา!เมื่อกี้ทำเสียพี่หลงตกใจจนเกือบร้องไห้ออกมา ตอนนี้กลับคุณกับเฉินเป่ยอย่างถูกคอ!
“พี่หลง เกิดอะไรขึ้น”มีอันธพาลถามเสียงค่อย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”พี่หลงพึมพำ ในใจสับสนประดุจคลื่นซัด!
เขาจึงเข้าใจการนับถอยหลังของเฉินเป่ยขึ้นมาทันที……รู้ถึงความยโสของเฉินเป่ยแล้ว……ที่แท้……เขากับท่านโจวยังมีความสัมพันธ์กันอีกขึ้น!
“คุณเฉิน หมู่นี้สบายดีหรือไม่”ท่านโจวยิ้มให้อย่างสุภาพ
“ดีอะไรเล่า เมื่อกี้ยังโดนล้อมอยู่เลย บอกว่าจะฉุดเพื่อนผม แล้วหักกระดูกผมทั้งหมด206ท่อน”เฉินเป่ยยิ้มสงบ
“กึก!”
บรรยากาศเงียบสงบขึ้น พี่หลงเริ่มรู้สึกไม่ดี ท่านโจวหันหน้าไปหาเขา พูดน้ำเสียงแข็งกร้าว“กล้ายั่วยุคุณเฉินเหรอ แกตาบอดหรือไง”
พี่หลงตัวสั่นเทิ้ม คุกเข่าลง วิงวอน“ผู้น้อยมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักคุณเฉิน ขอให้ผู้ใหญ่อยากคุณเฉินเมตตา อย่าถือสาหาความผู้น้อยและลูกน้องเถอะ!”
“ตึงๆๆ!”
พอพี่หลงพูดแบบนี้ออกไป พวกลูกน้องอันธพาลของหลงหุ้ยต่างก็คุกเข่าตาม วิงวอนขอชีวิต พวกเขาถึงได้เข้าใจ ว่าคนที่เย้ยหยันไปเมื่อครู่ เป็นคนที่ท่านโจวให้ความเคารพ!
ตกลงคุณเฉินคราวนี้เป็นใคร พวกเขาไม่รู้ แต่ยิ่งคิดยิ่งกลัว เฉินเป่ย ชาตินี้ทั้งชาติพวกเขาคงไม่มีปัญญาจะยั่วยุ!
ถังโหรวกะพริบตา เห็นพวกอันธพาลที่ดุดันเมื่อกี้ คุกเข่าลงหมด เธอค่อนข้างงุนงง จนตอนนี้ก็ ยังงงอยู่
ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง มองไปที่เงาของเฉินเป่ยกับถังโหรว ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ใครจะไปคาดคิด สองคนกลับเป็นญาติของท่านโจวเสียนี่ ปฏิบัติด้วยความเกรงใจ ยิ่งทำให้หลงหุ้ยต้อง คุกเข่าวิงวอน!
“คุณเฉิน ขออภัยด้วย!”
“คุณเฉิน จออภัยด้วย!”
เงาผู้คนทยอยกันคุกเข่าลง พูดขึ้นพร้อมกัน เสียงวิงวอนดังเข้าหู ดังสะท้านไปหมด
“ว่าไง ยกโทษให้พวกเขาไหม”เฉินเป่ยหันหน้า มองไปที่ถังโหรว ยิ้มพลางถาม
“อืม……”ถังโหรวกะพริบตา เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะถามขึ้น จึงแสดงความลังเลออกไป
“คุณหนูเฉินครับ ผมยอมเป็นวัวเป็นม้า ต่อไปโทรศัพท์ของคุณเรียกแล้วผมจะไปทันที จะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ คุณหนูเฉินครับ ปล่อยพวกเราไปเถอะครับ!”พี่หลงวิงวอนไม่หยุด
“ใครคือคุณหนูเฉิน!”ถังโหรวถลึงตาดู สีหน้าแดงก่ำ
“ช่างเถอะ พวกเขาเองก็ไม่รู้ ปล่อยไปเถอะ”ถังโหรวปัดมือน้อยๆ
“ลุกขึ้นเถอะ”เฉินเป่ยพยักหน้า หลงหุ้ยค่อยๆลุกขึ้น
“ต่อไปรู้แล้วนะ”เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ พี่หลงพยักหน้าหงึกๆราวกับลูกเจี๊ยบ สีหน้าเอาใจด้วยความหวาดกลัว
น่าขันสิ้นดี พี่หลงสาบานในใจว่ากลับไปจะต้องบอกสมาชิกของหลงหุ้ยทุกคน ว่าถ้าเจอสองคนนี้ให้หลีกทาง หลบไปยิ่งไกลยิ่งดี!
คนที่ท่านโจวเกรงใจได้ขนาดนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ รอดชีวิตมาได้ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว!
“ยังมีอีกนะ ฉันไม่อยากได้ยินชื่อหลงอีก”เฉินเป่ยพูดเสริม“พวกแกใช้ชื่อนี้ เป็นมลทินเปล่าๆ”
“ครับ”พี่หลงลนลาน ตอบรับ โดยไม่ต้องคิด
แค่ชื่อ เทียบอะไรไม่ได้กับชีวิต
“เธอว่าชื่ออะไรดี”เฉินเป่ยหันไปถามถังโหรว
ถังโหรวกะพริบตา ปากแดงๆเอ่ยขึ้น ตอบเบาๆ“ฉอง(แปลว่าหนอน)แล้วกัน”
“ได้ยินไหม”ท่านโจวก้มหน้า มองไปที่พี่หลงที่กำลังตัวสั่นงันงก
“ครับ ต่อไปชื่อฉองหุ้ย”พี่หลงกล้าปฏิเสธเสียที่ไหน ใบหน้าเผ็ดร้อน ในใจรู้สึกถูกหยามเกียรติ ฉองหุ้ย พี่ฉอง……ชื่อนี้ ใช้ไปได้ไม่นานหรอก เขาต้องกลายเป็นตัวตลกโลกใต้ดินแน่