สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 166
บทที่ 166 ยินดีกับประธานเฉิน
อาคารตระกูลหลี
ภายในห้องทำงานของประธาน เฉินเป่ยนั่งทำหน้าบึ้งอยู่ตรงประตู ทนกับสายตาที่มองมาอย่างพิจารณาด้วยความสงสัย จนแทบอยากจะกระโดดออกหน้าต่าง
แต่เขามองดูแล้ว รู้สึกว่ากระโดดลงไปแบบนี้…ร่างกายคงแทบจะแทบเป็นผุยผงแต่ไม่ตายแน่ๆ
หลีชิงเยียนลงโทษเขา ให้เขาเอาเก้าอี้ไปนั่งที่หน้าประตูนานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว นั่งอยู่ตรงประตูหน้าห้องทำงานของประธานทุกวัน เหมือนเป็นเครื่องรางมงคลให้คนอื่นมาชม
นี่เป็นการแก้แค้นของหลีชิงเยียน เฉินเป่ยไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ เขาทำได้เพียงกัดฟันอดทนเอาไว้
ปกติถูกพนักงานของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปนินทายังไม่เท่าไหร่ แต่พนักงานพวกนั้นของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกลับค่อยๆเข้ามาใกล้เฉินเป่ย ถึงขั้นพูดคุยหยอกล้อกับเธอต่อหน้าเขา พอเวลาผ่านไปนานเข้า เขาแทบจะนิ่งดูดายไม่ได้
ทันใดนั้นเอง ภายในใจของเฉินเป่ยคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พอดี เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรออก
อย่างรวดเร็ว ประตูห้องทำงานของเลขาที่อยู่ไม่ไกลจากห้องทำงานของประธานถูกเปิดออก หลินเฉว่เดินออกมา เธอเดินไปตรงหน้าเฉินเป่ย แล้วถามขึ้นเสียงแข็ง “เฉินเป่ย เป็นอะไรไป?”
“ช่วยเติมน้ำให้ผมแก้วหนึ่งได้ไหม เครื่องกดน้ำในห้องทำงานของประธานหลีไม่มีน้ำแล้ว” เฉินเป่ยยิ้มแล้วพูดขึ้น
หลินเฉว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอพยักหน้า แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน จากนั้นยกน้ำออกมาหนึ่งแก้วด้วยความรวดเร็ว ยื่นให้กับเฉินเป่ย
“ขอบคุณครับ” เฉินเป่ยยิ้ม แล้วรับแก้วน้ำมา มือหนาหยาบกร้านของเขาสัมผัสกับมือเนียนสวยของหลินเฉว่ หลินเฉว่ตกใจเหมือนกระต่ายน้อย เธอดึงมือกลับด้วยความรวดเร็ว
“ไม่มีเรื่องอะไรแล้วฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อน” ใบหน้าสวยๆของหลินเฉว่แดงระเรื่อ เธอรีบกลับเข้าไปในห้องทำงานของตนเองทันที
“ครับ” เฉินเป่ยพยักหน้าแล้วคลายยิ้ม ทำให้พนักงานที่อยู่ไม่ไกลสองคนที่กำลังนินทาเขาอยู่ถึงกับอึ้ง
“ให้ตายสิ……เมื่อกี้ฉันเห็นอะไร เลขาหลินถึงขั้นยกน้ำมาให้ไอ้คนเฝ้าประตู!”
“แม่เอ้ย เลขาหลินเป็นผู้หญิงที่สวยเป็นอันดับสองรองมาจากประธานหลี ทำไมต้องมาพูดคุยกับไอ้บ้านี่ด้วย!”
“ไอ้สารเลว มันทำให้นางฟ้าของฉันต้องแปดเปื้อน! ฉันไม่มีวันปล่อยมันไปแน่!”
หลังจากที่พนักงานทั้งสองคนเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของหลินเฉว่ พวกเขาก็ยิ่งโมโห เรียกพนักงานคนอื่นๆมารวมตัวกัน
“ไอ้ผู้ชายคนนี้มีสิทธิ์อะไร ลูกเขยของตระกูลหลี แต่กลับทำตัวเหมือนเป็นสุนัขรับใช้ของประธานหลี ทั้งยังได้รับความชอบจากเลขาหลิน! ฉันมาทำงานที่บริษัทตั้งหลายปี ยังมีความสัมพันธ์ธรรมดาๆกับเลขาหลินเท่านั้น แต่มันไม่ได้เป็นแม้แต่คนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปของพวกเรา!”
“เลขาหลินถึงกับหน้าแดง! เขามันก็แค่สุนัขรับใช้ที่ตระกูลหลีเลี้ยงเอาไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเส้นใหญ่มีประธานหลีคอยคุ้มหัว เขาจะมีฐานะหรือตำแหน่งอะไรในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป?”
คำพูดนินทาต่างๆค่อยๆดังขึ้น พนักงานชายคนหนึ่งมองไปทางเฉินเป่ยด้วยสายตาอิจฉา บรรยากาศเคล้าไปด้วยกลิ่นหึงหวง
“ใช่ คนอย่างมัน แม้แต่ประตูของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก็ยังไม่คู่ควรที่จะเข้าไป!”
คำพูดของหนึ่งในพนักงานได้รับความเห็นด้วยจากพนักงานคนอื่นๆ ถ้าหากก่อนหน้านี้เฉินเป่ยได้รับความไม่พอใจจากคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ตอนนี้เขาได้รับความไม่พอใจจากคนกลุ่มใหญ่แล้ว
จากคำพูดของพนักงานชายพวกนั้น เฉินเป่ยเป็นคนกินอาหารในถ้วยมองอาหารในกระทะ เขาไม่ใช่แม้แต่คนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เขามีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับผู้หญิงในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป?
หลีชิงเยียนที่เป็นถึงคนกำหนดกฎของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป หลีชิงเยียนทำตามกฎอย่างเคร่งครัด เขามีสิทธิ์อะไรในการทำผิดกฎ?
ในเวลานี้เอง พนักงานคนหนึ่งเดินไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาพูดกับเฉินเป่ย “นายไม่ใช่คนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป นายไม่รู้สึกว่าการอยู่ที่นี้แบบนี้มันเกินไปหน่อยหรอ?”
คนจำนวนไม่น้อยมองไปที่พนักงานคนนั้น หนึ่งในพวกเขาจำพนักงานคนนั้นได้ “หยางเหวินห้าว หัวหน้าระดับสูงของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ตอนที่เลขาหลินเข้ามาเป็นพนักงานฝึกงานของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เขาได้ตามจีบเลขาหลินมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมตัดใจ”
“ปกติหัวหน้าหยางเป็นคนผูกใจเจ็บอยู่แล้ว เขาออกหน้าหาเรื่องคนนามสกุลเฉินคนนั้น เขาต้องซวยแน่ๆ!”พนักงานหัวเราะในลำคอ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเย้ยหยัน รอที่จะดูหน้าเฉินเป่ยตอนที่ถูกฉีกหน้า
แววตาของหยางเหวินห้าวเย็นชา เขาจ้องมองไปที่เฉินเป่ย นัยน์ตาฉายความอิจฉาออกมา
นับตั้งแต่เลขาหลินเข้ามาทำงานที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เขาชอบเธอตั้งแต่ตอนนั้น แต่เลขาหลินกับประธานคนสวยสนิทสนมกันมาก และเธอก็ไม่ได้ชอบเขา เขาทำให้เธอหลายอย่างแต่สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์
ไม่รู้ว่าเขาสารภาพรักเลขาหลินมาแล้วกี่ครั้ง แต่สุดท้ายเลขาหลินก็หาข้ออ้างมาปฏิเสธเขา ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์มาก
หยางเหวินห้าวเคยควงผู้หญิงมามากมาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีฐานะอย่างเลขาหลิน เป็นผู้หญิงที่ทั้งสาวทั้งสาว เขาควงมานับไม่ถ้วนแล้วต่อหน้าหัวหน้าระดับสูงของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป น้อยครั้งนักที่ผู้หญิงพวกนั้นจะปฏิเสธเขา พวกเธอต่างก็ยินดีที่จะมานอนกับเขา
จนสุดท้ายเขาทำให้ผู้หญิงท้องไปหลายคน……ทว่าหยางเหวินห้าวกับชอบเลขาหลิน เพราะสิ่งที่เลขาหลินมีผู้หญิงพวกนั้นไม่มี เธอทำให้หยางเหวินห้าวตาสว่าง รู้สึกเหมือนมีแมวมาข่วนหัวใจ อยากจะครอบครองเธอทันที
ตั้งแต่เริ่มจนจบก็ไม่เป็นไปตามความต้องการ ไม่ว่าหยางเหวินห้าวจะบีบต้อนหลินเฉว่ยังไง เธอก็ไม่มีทีท่าเปลี่ยนไป
ท้ายที่สุดสิ่งที่เขาได้เห็นในวันนี้คืออะไร?
หลินเฉว่ยกน้ำมาให้ผู้ชายอีกคน อีกทั้งยังหน้าแดงเพราะผู้ชายคนนั้นอีก
สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาเป็นลูกเขยของตระกูลหลี และสิ่งที่ทำให้หยางเหวินห้าวรู้สึกเจ็บใจก็คือ ตนเองไม่เคยเห็นลูกเขยคนนี้อยู่ในสายตา แต่สุดท้าย เขากลับค่อยๆมาตีสนิทแล้วจีบหลินเฉว่โดยที่ตนไม่ทันได้รู้ตัว อีกทั้งยังคุยกันได้ถูกคอด้วย
ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงคนนี้ทั้งหน้าตาไม่ดีและไม่มีเงิน เป็นผู้ชายที่ประธานหลีเลี้ยงเอาไว้เท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาได้หัวใจของหลินเฉว่?
ภายในใจของหยางเหวินห้าวรู้สึกเซ็งมาก เขากัดฟันกรอดด้วยความแค้น ตนเองไม่สามารถเทียบกับผู้ชายต่ำๆแบบนั้นได้เลยหรอ?
ในเวลานี้เอง เฉินเป่ยเผชิญหน้ากับคำถามของหยางเหวินห้าว เขานิ่งค้างไปครู่หนึ่งก่อน จากนั้นพูดขึ้น “ประธานหลีทำงานอยู่ที่นี่ ผมมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ มีปัญหาหรอ?”
“กฎระเบียบของบริษัทได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจน แขกที่ไม่ใช่คนของบริษัท ถ้าไม่ได้สวมบัตรผู้ขออนุญาตเข้าบริษัทเอาไว้ ไม่อนุญาตให้เข้ามาในบริษัท แม้แต่ประธานหลีก็ยังต้องทำตามกฎนี้อย่างเคร่งครัด” หยางเหวินห้าวพูดเสียงเรียบ “แน่นอน ต่อให้คุณจะมีบัตรผู้ขออนุญาตเข้าบริษัทจริง คุณสามารถอยู่ได้แค่สองชั่วโมง เมื่อถึงเวลา คุณต้องไสหัวออกไป”
หยางเหวินห้าวพูดด้วยความเย้ยหยัน “ประธานหลีเป็นคนที่เคร่งครัดเรื่องกฎระเบียบมาก คุณคิดว่าเธอจะยอมทำผิดกฎข้อนี้ของบริษัทหรอ?”
สีหน้าของเฉินเป่ยเศร้าหมอง เขาหันไปมองด้านในห้องทำงาน สีหน้าหมองไปหมด……ให้ตายสิ ทำไมตนเองไม่เคยได้ยินกฎข้อนี้มาก่อน หลีชิงเยียนคงกินอิ่มมากเกินไปมั้ง ถึงได้ตั้งกฎบ้าๆแบบนี้ขึ้นมา!
“รีบไสหัวออกไป เดี๋ยวตอนประธานหลีออกมาจะได้ไม่ต้องไล่คุณออกไป” หยางเหวินห้าวหัวเราะในลำคอด้วยความเย้ยหยัน
เฉินเป่ยเบะปาก ลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินออกไป
ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมด พนักงานจำนวนมากกำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนที่เห็นภาพนี้ พวกเขาเริ่มจากมองตาค้าง ตามด้วยนับถือหัวใจของหยางเหวินห้าว!
“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ไอ้บ้านี่ยอมออกไปจริงๆ!”
“หัวหน้าหยางเก่งจริงๆ พูดแค่ไม่กี่คำ ก็ไล่มันออกไปได้แล้ว!”
“หึ เมื่อกี้มันยังได้ใจอยู่เลยไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้เหมือหมาไร้บ้านได้ กระดิกหางไปมาแล้วรีบเดินออกไป”
พนักงานพวกรั้นเอาแต่พูดกันไปต่างๆนานา เสียงของพวกเขาดังเข้าไปในโสตประสาทของเฉินเป่ย เฉินเป่ยทำเหมือนไม่ได้ยิน จากนั้นเดินออกไป
เมื่อเฉินเป่ยไม่มีท่าทีอะไร ทำให้คนพวกนั้นยิ่งไม่กลัว พวกเขาชี้หน้าต่อว่าเฉินเป่ย แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความดูถูก
ความหึงหวงของคนพวกนั้นฟุ้งไปหมด ในสายตาของพวกเขา ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินอย่างเฉินเป่ย ไม่มีอะไรคู่ควรกับหลีชิงเยียนสักนิด การที่เฉินเป่ยสามารถแต่งงานกับหลีชิงเยียนได้ ล้วนเป็นเพราะเขายอมเป็นสุนัขรับใช้
ขณะที่พวกเขากำลังพูดนินทาต่างๆนานานั้น ไม่มีใครรู้เลยว่ามุมปากของเฉินเป่ยกำลังแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่หยั่งลึก
หลังจากเดินออกมาจากอาคารตระกูลหลี เฉินเป่ยหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน หลังจากนั้นไม่นานมือทั้งสองข้างของเขาซุกเข้าไปในกระเป๋า คาบบุหรี่เอาไว้ แล้วเดินไปร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกล
ภายในห้องทำงานเลขา หลินเฉ่วได้ยินเสียงดังขึ้นด้านนอก เธอนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไปนอกห้องทำงาน ขวางทางพนักงานคนหนึ่งเอาไว้แล้วถามคำถาม
ผ่านไปไม่นาน หลังจากหลินเฉว่ได้ฟังสิ่งที่พนักงานพูด สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย หมุนตัว เธอรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของประธาน
หลินเฉว่มองดูหลีชิงเยียนที่กำลังทำงาน เธอพูดขึ้นเสียงเบา “ประธานหลี แย่แล้วค่ะ!”
“เป็นอะไรไป?” หลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้น
“เฉินเป่ย……ถูกทำให้โมโหจนเดินออกไปแล้วค่ะ” ใบหน้าที่ใสซื่อและสวยงามของหลินเฉว่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“ถูกทำให้โมโหจนเดินออกไป?” ใบหน้าสวยๆของหลีชิงเยียนตะลึงเล็กน้อย หลินเฉว่พยักหน้า จากนั้นเล่าเรื่องทุกอย่างที่เธอได้ฟังมาให้หลีชิงเยียน
“หยางเหวินห้าวมีกรรมการบริษัทคนหนึ่งคอยสนับสนุน เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาไม่กลัวฉัน……” สีหน้าของหลีชิงเยียนนิ่งเล็กน้อย เธอพูดถึงเหตุผลที่หยางเหวินห้าวกล้าทำแบบนี้กับเฉินเป่ย
“คะ?” หลินเฉว่ขมวดคิ้ว “สัปดาห์นี้คุณเฉินนั่งอยู่หน้าห้องทำงานมาทั้งสัปดาห์ เขาถูกคนนินทาต่างๆนานามามากพอแล้ว ตอนนี้ทั่วทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป กำลังต่อว่าเขา……ประธานหลีคะ ฉันกลัวว่าเขาจะถูกรังแกมากไป จนทำเรื่องไม่คาดคิด……” หลินเฉว่พูดเตือนด้วยความระมัดระวัง
เมื่อหลินเฉว่พูดแบบนี้ สีหน้าของหลีชิงเยียนเปลี่ยนไปทันที นึกถึงสิ่งที่เฉินเป่ยทำก่อนหน้านี้ สีหน้าของเธอกระวนกระวายขึ้นมาทันที
หลีชิงเยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แววตาคู่สวยเหมือนตระหนักรู้…….ในสิ่งที่ตนทำ เหมือนว่าเธอจะทำเกินไปกับเฉินเป่ย……ผู้ชายคนหนึ่ง อย่างน้อยๆก็มีศักดิ์ศรี แต่เธอกลับทำแบบนี้ เป็นการทำลายชื่อเสียงของเฉินเป่ยชัดๆ
หลีชิงเยียนหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา จากนั้นโทรออก แต่ตอนที่เธอโทรศัพท์ไปนั้น……หัวใจของเธอหนักอึ้ง สุดท้ายเฉินเป่ยก็ยังคงไม่รับสายเธอ!
“เธอไปหาเขาหน่อยสิ ดูท่าฉันจะทำเกินไปจริงๆ ควรจะให้อะไรทดแทนเขาหน่อย” หลีชิงเยียนนึกถึงคำแนะนำที่หลีหยางบอกกับเธอ เธอหัวเราะในลำคอ……คิดไม่ถึงว่าเขาจะเดาออกแต่แรกว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
หลังจากเฉินเป่ยออกมาจากร้านกาแฟ เขาเดินถือกาแฟมาหนึ่งถุง กลับไปยังอาคารตระกูลหลี
และในเวลานี้ หยางเหวินห้าวกำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากห้องทำงานของประธาน ฟังคำชื่นชมของพนักงานพวกนั้น ภายในใจของเขารู้สึกดีมาก
“ประธานหยาง ผู้ชายคนนั้นจะเทียบกับคุณได้ยังไง คนขี้โกงอย่างมัน ถูกคุณพูดตำหนินิดหน่อย กระดิกหางเดินออกไปแล้ว” หนึ่งในพนักงานพูดขึ้น
“ใช่ครับ มันหน้าด้านไร้ยางอาย เลขาหลินน่าจะแค่ฝืนยิ้มให้มันครับ ผมเห็นประธานหลีทำหน้าไม่พอใจให้มันบ่อยๆ แต่มันก็ยังขยันประจบสอพลออยู่นั่นแหละ”
พนักงานหลายคนผลัดกันพูด สีหน้าของหยางเหวินห้าวนิ่งเฉย “เขาไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ไม่ใช่แม้แต่พนักงาน ก่อนหน้านี้ที่ฉันไม่ยอมไล่มันออกไป เป็นเพราะเห็นแก่หน้าประธานหลี”
“ใช่ คนทำความสะอาดในบริษัทของพวกเรายังดีกว่าคนไร้ประโยชน์อย่างมัน”
“ทำไมมันไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง ว่าตนเองหน้าตายังไง ถึงได้กล้ามายุ่งกับเลขาหลิน”
ขณะที่หยางเหวินห้าวฟังคำดูถูกของพนักงาน เขาเงยหน้าขึ้นไปครั้งคราว มองไปทางห้องทำงานของประธาน คล้ายว่ากำลังรอหลินเฉว่
ทันใดนั้นเอง หนึ่งในพนักงานกวาดตามอง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ “มันกลับมาแล้ว!”
“หืม?” หยางเหวินห้าวหันหน้าไปมอง เมื่อเห็นเฉินเป่ย แววตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมา!
เฉินเป่ยถือกาแฟหนึ่งถุง เดินตรงไปยังห้องทำงานของประธาน
นัยน์ตาของหยางเหวินห้าวฉายความเกลียดแค้น เขาก้าวเท้าออกไป ยืนขวางหน้าเฉินเป่ย
“คุณเข้าไปไม่ได้” หยางเหวินห้าวพูดเสียงเข้ม
เฉินเป่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง “ทำไม?”
“เลขาหลินกำลังนำเสนองานให้กับประธานหลี คุณไม่ใช่คนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป คุณไม่มีสิทธิ์เข้าไป” หยางเหวินห้าวพูดด้วยความทระนง สายตาที่มองไปทางเฉินเป่ย เต็มไปด้วยความดูถูก
ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยหรี่ลง หยางเหวินห้าวยิ่งไม่รู้สึกกลัว ทำให้นัยน์ตาของเฉินเป่ยฉายความอาฆาตออกมา
“ภรรยาของฉันอยู่ในห้อง ฉันจะไปหาภรรยาของฉัน นายจะขวางทางฉัน?” เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ น้ำเสียงของเขาหยั่งลึกมากกว่าเดิม
“แน่นอน” หยางเหวินห้าวพยักหน้า จากนั้นหัวเราะ “ทำไม นายคิดอยากจะเข้าไปให้ได้หรอ?” น้ำเสียงของหยางเหวินห้าวนิ่งไป “ที่นี่คือบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป นายไม่มีสิทธิ์มาลามปามที่นี่”
“คนที่ลามปามคือคุณต่างหาก” สีหน้าของเฉินเป่ยนิ่งเฉย เขาพูดขึ้น “ฉันให้เวลาคุณสิบวินาที หลังจากสิบวินาทีผ่านไป คุณต้องเสียใจแน่”
หยางเหวินห้าวนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเย้ยหยัน “เสียใจ? จนถึงทุกวันนี้ฉันยังสะกดคำว่าเสียใจไม่เป็น!”
พนักงานมุงกันเข้ามา สายตาของแต่ละคนแปรเปลี่ยนเป็นดูเรื่องสนุก
เฉินเป่ยนับในใจ มือขวาของเขากำหมัดแน่น นัยน์ตาฉายความเหี้ยมโหดออกมา
“ไม่ได้เป็นแม้แต่พนักงานของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ถ้าไม่มีประธานหลี คุณคิดว่าตัวเองยังสามารถอยู่ที่นี่ได้?” หยางเหวินห้าวหัวเราะเย้ยหยัน
“ยังให้ฉันต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป คำพูดเดียวของฉัน แม้แต่ประธานหลียังต้องคิดพิจารณาเป็นอย่างดี” หยางเหวินห้าวพูดด้วยความอวดดี
ทักคนต่างพยักหน้า หยางเหวินห้าวเป็นหัวหน้าระดับสูงของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป แต่เฉินเป่ยเป็นแค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงอย่างประธานหลี เป็นแมงดาเกาะผู้หญิง ความสำคัญของทั้งสองคน แค่มองก็รู้แล้ว
แม้แต่หลีชิงเยียนก็ไม่สามารถคุ้มครองเขาได้!
“คุณจะเอาอะไรมาทำให้ผมเสียใจ?” หยางเหวินห้าวเตะออกไป น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดูถูก!
ในเวลานี้เอง ประตูห้องทำงานเปิดออก
สีหน้าของหยางเหวินห้าวนิ่งงัน เขาเก็บสีหน้าทันที หันไปมองหลินเฉว่ ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนมากขึ้น
ทางด้านหลินเฉว่ไม่สนใจแม้แต่มองหน้าหยางเหวินห้าว หลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องทำงาน เธอหันไปมองเฉินเป่ย ใบหน้าสวยๆเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วยค่ะ ประธานเฉิน”
ทันใดนั้นเอง ทุกอย่างเงียบไปหมด