สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 17
บทที่17 เจออันตราย
ที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นพนักงานของ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ทั้งหมด พวกเขาเคยได้ยินหมด ว่า หลีชิงเยียนมีสามีลึกลับคนหนึ่ง บริษัทก็มีข่าวลือซุบซิบเกี่ยวกับสามีของ หลีชิงเยียน แต่เมื่อ เฉินเป่ย ได้ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ กลับทำให้หลายคนไม่อยากจะเชื่อ
“นี่คือสามีของ ประธานหลีจริงๆหรือ? ตระกูลหลี ยังไงก็เป็นตระกูลร่ำรวยใน เมืองหู้ไห่ แต่เขากลับดูโทรมทรามมากขนาดนี้?”
“เกรงว่า นี่จะเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ที่สุดของตระกูลหลีแล้วมั้ง?”
หลายคนแอบพูดในใจ แต่ เฉินเป่ยเพิกเฉยไม่สนใจต่อสายตาที่เลือกเหยียดหยามเหล่านั้น มองไปที่ หลีชิงเยียน
หลีชิงเยียน จ้องเขม็ง เฉินเป่ยอย่างเย็นชา ดวงตาที่สวยงามเต็มไปด้วยความโกรธเกี้ยว!
ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเตือนไอ้หมอนี่แล้ว ให้เขาอย่าออกจากคฤหาสน์ แต่สุดท้ายแล้ว เขาดันมาที่บริษัทของตัวเองจริงๆ!
“ประธานหลีเขาบอกว่าเขาเป็นสามีของคุณ ดังนั้นอยากจะเข้าไป ฉันกำลังสอบประวัติของเขาอยู่ตลอด……” พนักงานหญิงต้องรับที่อยู่ด้านข้าง พูดจาเสียงเบา ไม่กล้าที่จะหายใจดังด้วยซ้ำ
หลีชิงเยียน เหลือบมองไปพนักงานหญิงต้อนรับอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็ทิ้งประโยคหนึ่งให้ เฉินเป่ย อย่างเย็นชา “ตามฉันมา” จากนั้นก็หันกลับไป เหยียบรองเท้าส้นสูงไว้เดินเข้าไปที่ห้องทำงานอย่างสง่า
เฉินเป่ยเหลือบมองไปที่พนักงานหญิงต้อนรับ พนักงานหญิงต้อนรับสับสนมึนงง ตกตะลึงอย่างยิ่ง
แม้ว่าหลีชิงเยียนจะไม่ได้อธิบายโดยตรง แต่ปฏิกิริยาของเธอในเมื่อครู่ ก็อธิบายทุกอย่างได้แล้ว
ผู้ชายที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง สกปรกเลอะเทอะคนนั้น เป็นสามีของประธานหลี จริงๆด้วย……
ตระกูลหลีคือหาลูกเขยไม่เจอแล้วหรือไง?
ฝูงชนค่อยๆแยกย้ายกันไป แต่พายุฝนที่เกิดขึ้น ก็ไม่สามารถสงบเป็นเวลานาน และในไม่ช้า คำพรรณนาที่เกี่ยวกับ เฉินเป่ย ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งบริษัท
แม้ว่าพนักงานหลายคนภายนอกจะไม่กล้าพูดอะไร แต่ลับหลังก็พูดวิพากษ์วิจารณ์ถึงเฉินเป่ย สายตาประชดประชัน
หลีชิงเยียน ประธานของ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ที่ชื่อเสียงโด่งดัง กลับหาสามีที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ ได้ยินมาว่ายังเป็นแค่พ่อบ้านคนหนึ่ง อ่อนแอไร้ความสามารถ
ไม่แปลกใจที่ หลีชิงเยียนไม่พาเขาออกมา สามีที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ ใครจะอยากให้คนอื่นได้รับรู้
หลีชิงเยียน สองมือกอดอก เดินไปทางห้องทำงานอย่างโกรธเกี้ยว รองเท้าส้นสูงกระแทกใส่พื้น เสียงดังคมชัด
หลังจากที่ หลีชิงเยียนพุ่งเข้าไปในห้องทำงาน เฉินเป่ย ก็เดินตามเข้าไปและทันทีที่เข้าไป ก็เห็น ไต้ห้าวหนานที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้
“ชิงเยียน คุณเฉิน มาได้ยังไง?” ไต้ห้าวหนานได้เห็นเฉินเป่ย ชะงักเล็กน้อย
“ฉันก็อยากถามเหมือนกัน ฉันไม่ได้นายมาที่บริษัทไม่ใช่หรือ?” หลีชิงเยียนถามอย่างเย็นชา
“ประธานหลี ก็ฉันเป็นห่วงร่างกายของคุณไง?” เฉินเป่ยยิ้มอย่างเก้อเขิน
“ฉันขอบคุณความหวังดีของนาย ไม่จำเป็น!” หลีชิงเยียนหยิบกล่องใส่ปากกาขึ้นมา เหวี่ยงมันไปทางเฉินเป่ยอย่างกะทันหัน!
เฉินเป่ยหลบหลีกไม่ทัน โดนกล่องปากกาฟาดโดน น่าสมเพชยิ่งนัก……
ไต้ห้าวหนานเหลือบมองไปที่เฉินเป่ย ส่วนลึกในแววตา ความเหยียดหยามอย่างลึกซึ้ง ค่อยๆกลั่นกรองออกมา…… เขาลุกขึ้น พูดยิ้มกับหลีชิงเยียน
“ชิงเยียน ในเมื่อได้คุยกันเกือบจะเสร็จแล้ว ฉันก็ขอตัวก่อนแล้วกัน คืนนี้ฉันเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง เรียนเชิญคุณทั้งสอง”
หลีชิงเยียนมุมปากยกขึ้น ยกเป็นส่วนโค้งตื้นๆ รอยยิ้มที่มีเสน่ห์
หลังจากส่ง ไต้ห้าวหนานออกไป หลีชิงเยียนก็นั่งลงบนเก้าอี้ห้องทำงานโดยตรง สองมือกอดอกไว้ จ้องมองเฉินเป่ยที่นั่งอยู่บนโซฟา ด้วยใบหน้าที่เย็นเฉียบ
เฉินเป่ยยิ้มประจบรินน้ำให้หลีชิงเยียนแก้วหนึ่ง แล้วพูดว่า “ประธานหลี ใจเย็น ๆ……”
หลีชิงเยียน เงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่งดงามประณีตราวกับแกะสลัก จ้องมองท่าทางที่กะล่อนปลิ้นปล้อนของเฉินเป่ย ความรู้สึกดีเล็กน้อย ที่เกิดขึ้นในใจพังทลายจางหายในทันที เธอในตอนนี้ อยากจะถีบ เฉินเป่ยออกจากอาคารอาคารตระกูลหลีแทบตาย!
คำเตือนของเธอ ใช้ไม่ได้ผลกับเฉินเป่ยเลยสักนิด ไอ้หมอนี่ ล้วนทำแต่เรื่องให้ตัวเองอับอายขายหน้า ต่อไปเธอจะอยู่ในบริษัทได้อย่างไร!
วันนี้พนักงานจำนวนมากในบริษัท ก็ได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเธอหมด
ต่อไปข่าวลือซุบซิบนินทา จะไม่น้อยอย่างแน่นอน…… หลีชิงเยียนพูดด้วยท่าทางรังเกียจ “วางกระติกน้ำร้อนไว้ที่นั่น รีบไปให้พ้น!”
“ได้เลย” เฉินเป่ยเดินออกจากอาคารอาคารตระกูลหลี ขี่จักรยาน ค่อยๆออกห่างไป ไม่ได้สังเกตเลยสักนิด ในรถสีดำไม่ไกลจากจักรยาน ไต้ห้าวหนานสวมแว่นกันแดดไว้ จ้องมอง เฉินเป่ยอย่างเย็นชา มุมปากยกขึ้นอย่างลึกซึ้ง
“พ่อ คืนนี้ฉันก็จะส่งคนไปจัดการเขา มอบให้กับราชวงศ์ ประเทศฝรั่งเศษ……สำหรับ หลีชิงเยียน……” ในหัวสมองของ ไต้ห้าวหนานปรากฏร่างที่สวยงามไร้ที่ติ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์มีเลศนัย เขาจะปล่อย หลีชิงเยียน ไปได้อย่างไร
เขายังคงจำได้เสมอว่า ในสมัยมัธยมปลาย หลีชิงเยียนทำให้เขาเป็นกลายเป็นตัวตลกของทั้งโรงเรียน ปัจจุบันกลายเป็นสาวสวยลำดับหนึ่งที่โด่งดังในวงการธุรกิจแห่ง เมืองหู้ไห่ จะต้องเป็นตัวเลือกลำดับแรกในการเป็นของเล่นของเขา
เมื่อเขาจินตนาการถึงผู้หญิงที่เซ็กซี่สุดๆ ในคืนนี้จะกลายเป็นของเล่นของเขา ปล่อยให้เขาเล่นตามอำเภอใจ ในแววตาของเขา ประกายความเร่าร้อน
แน่นอนว่า เขาจะให้ เฉินเป่ย ผู้เป็นสามีที่ไร้ประโยชน์คนนี้ ได้เห็นด้วยตาตัวเอง หลีชิงเยียนในฝ่ามือของตัวเอง จะค่อยๆตกไปอยู่ในความเลวร้ายได้อย่างไร
…………….
ในค่ำคืน หลีชิงเยียนกลับไปที่คฤหาสน์ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเยือกเย็น โดยไม่ได้สนใจ เฉินเป่ย สักคำเดียว ทำให้ความกระตือรือร้นของเฉินเป่ยได้รับแต่ความเย็นชากลับมา
หลีชิงเยียน ใช้เวลาอยู่ในห้องนอนบนชั้นสองเป็นเวลานาน ก็เปลี่ยนเป็นชุดรัดรูป ทำให้ เฉินเป่ย มองแทบจะอึ้งทึ่งไปเลย
“มองอะไรกัน!” หลังจากที่ หลีชิงเยียนสังเกตเห็นว่า เฉินเป่ยมองจนตาแทบจะทะลัก ตำหนิขึ้นเสียงดัง ดึงชายกระโปรงอย่างแรง ปิดกั้นแววตาที่
ลุกเป็นไฟอย่างโจ่งแจ้งของเฉินเป่ยเฉินเป่ยถึงได้ดึงสายตากลับมา ยิ้ม
เล็กน้อย “ประธานหลีจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“ไม่แน่ใจ” หลีชิงเยียน ทิ้งประโยชน์หนึ่งยังรีบร้อน ก็ได้เดินออกจากคฤหาสน์เลย
งานเลี้ยงครั้งนี้ มีความสำคัญยิ่งนัก หลีชิงเยียนไม่กล้าที่จะล่าช้าเสียเวลา ความร่วมมือระหว่าง บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกับ ไต้ห้าวหนานได้มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญมากที่สุดแล้ว ห้ามมีความประมาทแม้แต่น้อย
หลีชิงเยียน ต้องการใช้อาหารมื้อนี้ เพื่อบรรลุความร่วมมือกับ ไต้ห้าวหนานให้สำเร็จ
เฉินเป่ย เดินไปที่ข้างหน้าต่าง มองดู หลีชิงเยียน มุดเข้าไปใน รถMaybach
รถMaybach ส่งเสียงคำราม ออกจากคฤหาสน์
ตั้งแต่ซูเหลยกลายเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของหลีชิงเยียนคนขับรถส่วนตัวของ หลีชิงเยียนก็ถูกไล่ออกแล้ว เปลี่ยนเป็น ซูเหลยที่ขับรถตลอด
ทักษะการขับรถของซูเหลยดีมาก ไม่ด้อยไปกว่าคนขับรถส่วนตัวก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
หลังจาก รถMaybach มาถึงโรงแรม ซูเหลยต้องการติดตามข้างๆ หลีชิงเยียน แต่ถูก หลีชิงเยียน ห้ามไว้ “นิสัยคุณสมบัติจอง ไต้ห้าวหนานฉันไว้ใจมาก มีบุคคลที่สามอยู่ ฉันกลัวว่าจะกระทบต่องาน เธอรออยู่ในรถก็พอได้”
“แต่ว่า ประธานหลี คุณเพิ่งถูกลอบสังหารเมื่อไม่นานมานี้……” ซูเหลย พูดอย่างลังเล
“ไม่เป็นไร ไต้ห้าวหนานไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันกับเขา รู้จักกันตอนมัธยมแล้ว ฉันเชื่อเขา “หลีชิงเยียน พูดอย่างไพเราะมีพลัง
หลีชิงเยียน เข้าไปในโรงแรมอย่างสง่า เพิ่งเดินเข้าไปในห้องส่วนตัว กลับไม่ได้เห็นไต้ห้าวหนานเลย แต่มีชายร่างใหญ่กำยำห้าหกคน นั่งอยู่ข้างใน
หัวใจของ หลีชิงเยียน กระตุกวูบ มองชายฉกรรจ์ห้าหกคนนี้ หัวใจของเธอก็สั่นสะท้าน พร้อมกับลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“ขอโทษ ฉันเดินเข้าห้องผิด……” หลีชิงเยียนยังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งก็ปิดปากเธอไว้ จากนั้นชายฉกรรจ์ห้าหกคน ก็กดตัวเธอลงบนโต๊ะ
“พวกนายเป็นใคร?” ใบหน้าที่บอบบางสวยงามของหลีชิงเยียนซีดเผือดเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!
ชายฉกรรจ์ห้าหกคนนั้น ยิ้มแสยะจ้องมองหลีชิงเยียน หยิบเชือกออกมาเส้นหนึ่ง มัดมือของ หลีชิงเยียนเข้าด้วยกัน
หลีชิงเยียนตัวสั่นเทา ตื่นตระหนกตกใจ แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย!
ในพริบตา กระดุมเม็ดหนึ่ง ก็ถูกดึงออก เสื้อเชิ้ตสีขาวรัดรูปของ หลีชิงเยียน
ก็สูญเสียพันธนาการในทันที
ชายฉกรรจ์ทั้งหลาย แววตาเร่าร้อน จ้องมองร่างที่สง่างามเย้ายวนใจของหลีชิงเยียน อย่างร้อนแรง ทันใดนั้นชายฉกรรจ์คนนั้น ก็ลงมืออีกครั้งราวกับสายฟ้า ดึงกระดุมออกอีกเม็ดหนึ่ง!
ดวงตาที่สวยงามของหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ ตะโกนพูดเสียงดัง “พวกนายปล่อยฉันไป! นี่พวกนายแบบกำลังทำความผิดอยู่!!”
แต่ลุงพวกนั้น กลับไม่สนใจไยดีอะไรเลย รอยยิ้มยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
ในห้องถัดไป ไต้ห้าวหนานฟังเสียงที่มาจากห้องข้างๆ รอยยิ้มลึกล้ำเยือกเย็น
เขาในตอนนี้ กำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่าง จิบไวน์แดงลาฟิตอย่างช้าๆ มองออกไปในยามราตรีที่มืดมิด แววตายังคงทอดยาว……
ในครั้งนี้ ไม่มีใครสามารถช่วย หลีชิงเยียน ได้ สามีไร้ประโยชน์ของเธอคนนั้น ในเวลานี้ เกรงว่าคงจะถูกคนของไต้ห้าวหนานต่อยตีจนกระดูกหักในคฤหาสน์แล้ว !
ฉัวะ……
กระโปรงของหลีชิงเยียน ถูกฉีกขาด ตื่นตระหนกยิ่งนัก
“อ๊าก! อย่านะ ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไป เฉินเป่ย นายอยู่ไหน……