สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 175
บทที่ 175 ผลกระทบอันน่ากลัว!
ซูเหลยมองเฉินเป่ยอย่างสงสัย ไอ้หมอนี่เป็นคนถ่อยและขี้โกง……กลับพูดคำพูดพวกนี้ออกมาต่อหน้าพวกเธอได้ยังไงกัน!
ขัดต่อประเพณีและศีลธรรม ช่างหน้าไม่อายจริงๆ!
แม้แต่หลีชิงเยียน ยังทำสีหน้าที่อึดอัดใจและประหม่าที่แสดงออกมาผ่านใบหน้าที่สวยงามไร้ที่ติของเธอ แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “ช่างเถอะ เวลาก็สายมากแล้ว มีอะไรก็ค่อยว่ากันพรุ่งนี้ไม่ดีหรือไง? ”
ซูเหลยเหลือบตามองเฉินเป่ยด้วยนัยน์ตาที่เคล้าด้วยความลุ่มลึก แค่ได้ยินคำพูดที่หลีชิงเยียนพูด เธอก็ไม่ทำทีท่าที่กัดไม่ปล่อยอีกต่อไป จากนั้นก็หันหลังกลับห้องนอนของตนเอง
เฉินเป่ยเห็นซูเหลยและหลีชิงเยียนกลับห้องนอนของตนเอง จึงรีบล็อคประตูทันที แล้วถอนหายใจออกมายาวๆ
เขาเปิดผ้าห่มบนเตียง เห็นแค่ผ้าสีดำที่ใช้ปกปิดใบหน้าของตนเอง ถ้าถูกซูเหลยเห็น ฐานะของเขา ไม่มีทางปิดบังไว้อีกแน่นอน นี่คือค้อนหินที่ทำจากเหล็ก!
เมื่อครู่หัวใจของเฉินเป่ยเต้นรัว และรู้สึกตื่นเต้นมาก กลัวว่าซูเหลยจะพุ่งเข้ามาในห้องนอน แล้วจะเห็นผ้าสีดำที่เขาซุกซ่อนไว้ไม่ทัน
หลังจากที่สติจิตใจลงไปสักพัก เฉินเป่ยก็นั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะ แล้วจับไฟแช็กขึ้นมา จากนั้นก็ค่อยๆ เผาผ้าสีดำผืนนี้ทิ้ง แล้วมันก็กลายๆ กลายเป็นขี้เถ้า จากนั้นก็ตกลงไปในที่เขี่ยบุหรี่
……
รถเก๋งสีดำวิ่งอยู่บนถนนด้วยความเร็วสูง ไม่นานก็กลับไปถึงโรงแรม หน่วยสืบราชการลับหลายๆ คนยกหัวหน้ากลุ่มลงจากในรถ แล้วรีบพุ่งเข้าไปในโรงแรม
ในห้องเพรสซิเดนท์สูท ก็ได้มีเสียงเคาะประตูอันเร่งรีบดังขึ้นจากนอกประตู
ไฟตรงหัวเตียงสว่างขึ้นมาทันที หลีเช่าหงที่เปลือยกายท่อนบนแล้วลุกขึ้นมานั่ง สีหน้าเลือดเย็น และเคล้าด้วยความโมโห
“ดึกป่านนี้แล้ว รำคาญจริงๆ ” บนเตียง มีเลขาสาวที่มีเรือนร่างผอมบางและกำลังบิดคอดเอวไปมาเหมือนดั่งงูในน้ำ ใบหน้าอันสะสวยยังเคล้าด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ เธอเพิ่งจะถูกป้อนจนอิ่ม และเพิ่งจะนอนหลับไป ทว่ากลับถูกปลุกให้ตื่น ทำให้ใบหน้าของเธอเคล้าด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไร? ” หลีเช่าหงตะโกนใส่ออกไปตรงนอกประตู
“คุณชายใหญ่ เกิดเรื่องไม่ดีแล้ว……คนของท่าน พ่ายแพ้ทั้งหมดแล้ว! ” นอกประตูมีเสียงอันน่าตกใจและหวาดกลัวของลูกน้องดังขึ้น
ดวงตาทั้งสองของหลีเช่าหงแผ่รังสีแห่งความเลือดเย็นที่เหมือนดั่งคมดาบที่เปล่งประกายความเฉียดคมออกมา เขารีบสวมใส่เสื้อเชิ้ดสีขาวและเสื้อสูทสีดำที่สั่งตัดมาพิเศษอย่างว่องไว้ แล้วรีบลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นก็ปล่อยให้เลขาสาวสวยที่มีหน้าตาสะสวยเหมือนดั่งแม่หม้ายที่อยู่บนเตียงตามลำพัง จากนั้นก็ปล่อยให้เฝ้าห้องอันว่างเปล่า……
ข้างห้องเพรสซิเดนท์สูท หัวหน้ากลุ่มนอนอยู่บนเตียง และหายใจอย่างแผ่วเบา แล้วยังมีหมอสองท่านยืนอยู่ทั้งสองข้าง เพื่อที่จะตรวจสภาพร่างกายให้เขาอยู่ สีหน้าดูแย่มาก
รอบๆ ข้างผู้ป่วยมุมล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ทุกคนต่างก็เป็นลูกน้องของหัวหน้ากลุ่ม พวกเขาทุกคน ต่างก็คือหน่วยลับยอดที่ถูกคัดเลือกออกจากเยี่ยนจิงโดยเฉพาะ!
ทว่าวันนี้ ตอนอยู่ในคฤหาสน์ พวกเขาที่เย่อหยิ่งโอหังกลับถูกคนคนหนึ่งกดขี่อย่างบ้าคลั่ง พวกเขาต้องเจอกับความพ่ายแพ้และกินแห้ว!
พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นชนชั้นสูง ทั้งหมดมีความเป็นอยู่ที่ทำให้ประเทศที่มีอำนาจในต่างประเทศรู้สึกหวาดกลัว ทว่าตอนพวกเขาทั้งหมดได้ต่อสู้ไปด้วยกัน กลับถูกคนคนหนึ่งสั่งสอนอย่างสาสม…..แม้กระทั่งยังทำให้จิตใจของพวกเขาโดนจู่โจม!
พวกเขาไม่สมควรถูกเรียกและเป็นหน่วยลับเลย!
นี่พวกเขาคือคนที่ทำให้เสื่อมเกียรติความมืดมนที่สุดในประวัติอันมืดมน! หัวหน้ากลุ่มของพวกเขายิ่งถูกฝ่ายตรงข้ามชกแค่หมักเดียวก็ถึงจะพ่ายแพ้!
“เกิดอะไรขึ้น? ”
น้ำเสียงอันลุ่มลึกและเย็นชาส่งมาจากด้านนอก แล้วกลุ่มคนต่างก็หลีกทางให้ หลีเช่าหงรีบมาอย่างใจร้อน
หลีเช่าหงเดินมาถึงตรงข้างหน้าต่าง แล้วมองหัวเราะกลุ่มที่นอนอยู่บนเตียง นัยน์ตาคู่นั้นจึงหดเล็กลงอย่างรุนแรง!
“อาการของเขาไม่ดีแล้ว บนร่างกายเต็มไปด้วยจุดที่กระดูกหัก และอวัยวะภายในล้มเหลว ต้องรีบทำการผ่าตัด” หมอสองท่านพูดขึ้น
หลีเช่าหงพยักหน้า “ไปเชิญหมอที่ดีที่สุดให้เขา ไปเชิญหมอที่ดีและเก่งที่สุดในเมืองหู้ไห่มา อย่าให้เขาเป็นอะไรไปเด็ดขาด! ”
หลีเช่าหงพูดจบ ก็มองไปยังไอรีน แล้วถามขึ้น “นี่……มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
“ก็แค่ไปทดลองความสามารถแค่ครั้งเดียว ทำไมเขาถึงกลายเป็นแบบนี้? ” หลีเช่าหงค่อยๆ พูดขึ้น
ไอรีนทำสีหน้าที่ขาวซีด เธอใกล้จะมีปลงในใจแล้ว ถึงตอนนี้ภายในใจยังเต้นอย่างบ้าคลั่ง
ไอรีนส่ายหน้าแล้วพูดด้วยเสียงเบา “ฝ่ายตรงข้ามน่ากลัวเกินไป……พวกเราทั้งหมด……ไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว”
เรือนร่างของหลีเช่าหงเกร็งขึ้นมาทันที นัยน์ตาเย็นเฉียดคมนั้นเคล้าด้วยความน่ากลัว “เป็นไปได้ยังไง……เธอมั่นใจนะ? ”
“ทีแรกเราทำทุกอย่างอย่างราบรื่น……” ไอรีนพูดด้วยเสียงเบา เธอก็เล่าทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่มจนจบ “จู่ๆ ก็มีบุคคลลึกลับท่านหนึ่งปรากฏตัว เขารู้มาก……เกี่ยวกับเรื่องภายใน”
“ภายใน? ” นัยน์ตาอันลุ่มลึกของหลีเช่าหงเคล้าด้วยความเลือดเย็นขึ้นมาทันที
“หัวหน้าอยู่ตกในมือของเขา ก็แค่แรงหมัดเดียวเท่านั้น! ” ไอรีนพูดคำนี้ออกมา ทำให้หลีเช่าหงที่มีแผนลึกลับภายในใจยังรู้สึกตะลึงงันไป!
“เธอ……เธอพูดอะไรนะ? หมัดๆ เดียว เขาก็ต้านรับไม่ได้? ” หลีเช่าหงสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย หัวหน้ากลุ่มเป็นคนที่โดดเด่นในรุ่นนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เขาก็ไม่มีทางเชื่อ หมัดๆ เดียวก็ต้านนับไม่อยู่!
“เขายังเป็นมวยจูนถี่ที่ได้มาตรฐานมาก! ” มีหน่วยลับหนึ่งคนที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนพูดขึ้น
“องศาที่เขาโจมตี กลับกลอกปลิ้นปล้อนสับปลับและแปลกพิลึก ความเร็วของเขานั้นว่องไวอย่างมาก…….” ในกลุ่มคน จึงมีเสียงเอ่ยพูดออกมาต่อไม่หยุด และหลีเช่าหงก็ทำสีหน้าที่มืดมน
“ทักษะของเขาน่าแปลกและเปลี่ยนแปลงบ่อย และเหมือนเขาจะเป็นทุกทักษะ จึงไม่สามารถคาดเดาว่าเขามีที่มาที่ไปยังไง” ภายในใจของไอรีนรู้สึกขมขื่น เธอมองหน้าที่เหมือนกระดาษทองของหัวหน้า กลับสัมผัสได้ถึงความต้อยต่ำของตนเอง
ตามบุคคลและเกียรตินับไม่ถ้วนที่เธอดูแล กลับยังทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความไร้พลังอย่างแท้จริง!
“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ฉันจะไปสืบหาเอง เรื่องคืนนี้ ห้ามหลุดออกไปโดยเด็ดขาด ไม่งั้น” หลีเช่าหงทำนัยน์ตาที่เปล่งประกายเลือดคาวสดและความอาฆาต “ตาย! ”
…….
หลังจากหลีเช่าหงกลับไปในห้องเพรสซิเดนท์สูท ต่อให้เลขาสาวสวยที่มีหุ้นและหน้าตาที่งดงามจะยั่วยวนเขามากแค่ไหน และได้บอกความหมายโดยนัยกับเขาโดยกี่วิธีก็ตาม ใจของเขาก็แข็งเหมือนก้อนหิน ที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวแม้แต่นิดเดียว
เขายืนอยู่ข้างเตียง นัยน์ตาลุ่มลึกของหลีเช่าหงมองไปนอกหน้าต่างแล้วถอดสายตายาวติดต่อกันจนไม่มีที่สิ้นสุด ผ่านไปสักพัก เขาก็ควักมือถือออก แล้วโทรหาเบอร์ๆ หนึ่ง
เบอร์ๆ นี้ มีที่ได้ครอบครัวในหัวเซี่ยนั้นน้อยมาก ถ้าไม่ใช่เพราะหลีเช่าหงโชคดี ก็คงไม่ได้เบอร์ๆ นี้มา
“ดึกขนาดนี้แล้ว โทรหาฉันมีเรื่องอะไร? ” ทางนี้มีเสียงแก่ชราและน้ำเสียงเคล้าด้วยความเคร่งขรึมดังขึ้น
เสียงๆ แบบนี้เหมือนมีพลังของมารซาตานที่แปลกพิลึกแอบแฝงอยู่ ทำให้คนอยากจะยอมแพ้อย่างไม่รู้ตัว
“ท่านเก่อ” ต่อให้หลีเช่าหงจะมีฐานะตำแหน่งสูงส่งและมากด้วยอำนาจและอิทธิ ทว่าคนตรงหน้าคนนี้ยังต้องเคารพนับถืออย่างยิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะเฉื่อยชาสักนิด “ผมโทรหาท่านก็เพราะมีเรื่องอยากจะให้ท่านช่วยครับ”
“ผมอยากจะรบกวนท่าน ช่วยผมสืบคนคนหนึ่ง” หลีเช่าหงพูดขึ้น
“สืบหาคน? ใคร? ” ทางฝั่งท่านเก่อรู้สึกตกตะลึงก่อน เขารู้สึกสงสัยมาก หลีเช่าหงโทรหาเขา กลับแค่เพื่อที่จะสืบค้นคนคนหนึ่ง?!
ตอนนี้ฐานะและตำแหน่งของหลีเช่าหง มีคนประเภทไหนบ้างที่ยังสืบหาไม่เจอ ทำไมถึงต้องให้เขามาสืบ?
“คนคนนี้ผมสงสัยว่าอำนาจของผมไม่เพียงพอ จึงต้องการอำนาจสูงสุดของท่านครับ” หลีเช่าหงเอ่ยพูด
“คู่แข่งของคุณหรอ? ”
“ไม่ แค่เป็นตัวตลกที่กระโดดโลดเต้นของตระกูลหลีที่จัดการยากหน่อย” หลีเช่าหงนิ่งงันไป “ท่านเก่อ ครั้งที่แล้วชาต้าหงเผาที่ส่งให้ท่านคงจะดื่มหมดแล้ว อีกไม่กี่วัน ผมจะให้ลูกน้องส่งไปให้ท่านอีกนะครับ”
“เจ้าเด็กนี้ ประจบเก่งจริงๆ ” คนที่อยู่ในสาย นิ่งงันเล็กน้อยก่อน จากนั้นก็หัวเราะด้วยความประหม่า
“สามารถกตัญญูต่อท่านเก่อ มีคนมากมายถวิลหาแม้ในยามฝันก็ยังไม่มีโอกาสเลย”
“พอเถอะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะช่วยนายสืบเอง” หลังจากท่านเก่อตกลง หลีเช่าหงจึงวางสายลง นัยน์ตาเย็นชาและลุ่มลึก
“ครั้งนี้ ฉันจะดูว่าแกจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องได้อีกไหม! ”
……
ตอนเช้าตรู่ เฉินเป่ยวิ่งรอบคฤหาสน์ไปห้าสิบรอบเพื่ออุ่นร่างกายเสร็จ ร่างกายของเขาแผ่วร้อนขึ้นเล็กน้อย และบอร์ดี้การ์ดต่างการเรียกเขาว่า “พี่เฉิน”ในนัยน์ตาที่เคารพนับถือ เฉินเป่ยกลับมาที่คฤหาสน์
สาวสวยที่สง่างามทั้งสามคนกำลังกินอาหารเช้า แล้วกำลังพูดคุยถึงสถานการณ์ที่ฉุกเฉินในเมื่อคืนนี้
“ก่อนจะกินข้าวฉันได้วัดการกระจายตัวของสถิติแล้ว บอร์ดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่รอบนอก ทุกคนถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัว ไอ้หมอนี่ อาจจะเป็นหน่วยลับ”ซูเหลยพูดขึ้น
หลีชิงเยียนทำสีหน้าที่ย่ำแย่ ขนาดคนพวกนี้ยังคิดจะมาร่วมสนุกอีกหรอ?
บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปถูกผู้ที่มีอำนาจนับไม่ถ้วนถมึงทึง ตอนนี้ กลุ่มคนแบบนี้เพิ่มขึ้นอีก ทำให้หลีชิงเยียนรู้สึกปวดหัว”
“ยุ่งอะไรมากมายขนาดนั้น รถขับถึงหน้าภูเขาก็ย่อมมีถนนหนทางเอง พวกเขาไม่ได้ส่งนักฆ่ามา ผมได้ยินบอร์ดี้การ์ดพวกนั้นแค่โดนยาชาเท่านั้น” เฉินเป่ยเดินมาตรงหน้าโต๊ะ จากนั้นก็นั่งลงข้างหลีชิงเยียน แล้วพูดขึ้นอย่างไม่สนใจเลยสักนิด
หลีชิงเยียนขมวดคิ้วทรงสวยขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ขยับนั่งข้างๆ หน่อย อยากจะอยู่ห่างจากเฉินเป่ยหน่อย สุดท้ายใครจะไปรู้ว่าเฉินเป่ยหน้าไม่อายแล้วขยับเข้ามาใกล้ ทำให้หลีชิงเยียนทำท่าทางดูถูก แล้วแอบบดฟัน
“พูดได้ง่ายสิ เมื่อคืนคนมีอำนาจเหล่านี้สามารถบุกรุกเข้ามาในคฤหาสน์ คืนนี้ไม่แน่อาจจะบุกรุกเข้ามาในห้องนอนก็ได้” ซูเหลยกอดอกแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา เธอมองไปยังสายตาของเฉินเป่ยที่ยังคงเคล้าด้วยการป้องกันตัว ไม่ได้ละทิ้งความระมัดระวังตัวเลย
และซูเสี่ยวหยุนที่อยู่ข้างๆ สามารถบอกได้ว่าเธอทำสีหน้าที่นิ่งงัน เมื่อคืนเธอหลับสนิทจริงๆ แม้กระทั่งยังฝันดีอีก เธอไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องที่น่าสยองขวัญแบบนี้ขึ้น
“พวกเขาไม่ใช่ว่าออกไปแล้วหรือไง ช่วงนี้น่าจะไม่มาอีกแล้วมั้ง” เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงเรียบ เขาได้ตักเตือนคนพวกนั้นแล้ว พวกเขายังไม่กล้าเข้าใกล้คฤหาสน์ตระกูลหลีแม้แต่ครึ่งก้าว
หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จ เฉินเป่ยก็ขับรถ หลังจากที่ส่งหลีชิงเยียนและซูเหลยไปบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเสร็จ ก็ส่งซูเสี่ยวหยุนไปบริษัทของเธอ
“กะจะไปเยี่ยมชมบริษัทฉันหรอ? ” ซูเสี่ยวหยุนถามขึ้น รู้จักกันมานานขนาดนี้ เฉินเป่ยไม่เคยไปบริษัทเธอแม้แต่ครั้งเดียว
“ผมจะไปทำงาน วันข้างหน้าต้องมีโอกาสอยู่แล้ว” เฉินเป่ยยิ้มแล้วพูดขึ้น
รถไมบัคจึงขับเคลื่อนไปจนฝุ่นลอยขึ้นมา ซูเสี่ยวหยุนยืนอยู่ตรงประตูบริษัท แล้วมองรถที่ขับไปอย่างสงสัย จากนั้นก็กระตุกมุมปากเล็กน้อยและทำปากทรงขึ้น
ซูเสี่ยวหยุนนึกไม่ถึงว่า หลังจากที่เฉินเป่ยเข้าบริษัทของเธอ กลับไม่ได้ใช้นามส่วน แต่กลับใช้นามของบริษัท…..ทำให้เธอตกใจไม่เบา
……
ในออฟฟิศของท่านประธาน ซูเหลยยืนอยู่ตรงหน้าหลีชิงเยียน แล้วพูดขึ้น “ท่านประธานหลีคะ เมื่อคืนคุณไม่รู้สึกว่าเฉินเป่ยแปลกหน่อยหรือคะ? ”
“แปลก? ” หลีชิงเยียนทำนัยน์ตาที่ตกตะลึง
ซูเหลยพยักหน้า แล้วพูดขึ้น “เขาไม่ให้ฉันเข้าห้องนอนของเขา เหมือนกำลังซ่อนอะไร”
“นี่ก็ปกติมาก กลางค่ำกลางคืน เธอก็คงไม่ให้เขาเข้าห้องนอนเธอตามอำเภอใจหรือเปล่า อีกอย่างเขานอนหลับจนถูกเราปลุกให้ตื่น แน่นอนว่าต้องโกรธจึงไม่ให้เธอเข้าสิ” หลีชิงเยียนพูดขึ้น
ซูเหลยอ้าปากแล้วกำลังจะพูด ทว่าสุดท้ายก็เห็นหลีชิงเยียนก้มหน้าแล้วเริ่มตั้งใจทำงาน เธอจังกลับไปออฟฟิศของตัวเองอย่างประหม่า
ซูเหลยกลับออฟฟิศของตนเอง ก็ได้โทรหาไอรีน จากนั้นก็ถามขึ้น “เป็นอะไรไป? ”
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก” ไอรีนพูดขึ้นทันที
“ทำไม? ” ซูเหลยนิ่งงัน
“คุณชายหลีออกคำสั่ง ใครหน้าไหนที่เปิดโปง จะถูกตัดหัว” ไอรีนพูดขึ้น
ซูเหลยทำสีหน้าที่ดูซึมเซา ภายในใจตกตะลึง เรื่องเมื่อคืน มันมีผลกระทบใหญ่แค่ไหน……ถึงได้ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นการต้องห้าม