สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 199
บทที่199 ฐานทัพราชาหลง
และทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ บุคคลสำคัญอย่างเฉินเป่ยกลับไม่รู้เรื่องสักนิด เขาในเวลานี้กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของรองประธาน ดื่มชาร้อน เล่นเกมคอมพิวเตอร์อย่างผ่อนคลายสบาย นั่นเรียกว่าสบายใจอย่างหนึ่ง
“ตึกๆๆ ……”
เสียงรองเท้าส้นสูงที่รีบเร่งดังขึ้นทันใด หลินเฉว่ใส่รองเท้าส้นสูงที่งดงามน่าหลงใหล รีบร้อนพุ่งเข้ามาในห้องทำงานท่านประธานแล้ว แม้แต่ประตูยังไม่ทันได้เคาะ พอที่จะทำให้เห็นความรีบร้อนในใจหลินเฉว่
เวลานี้หลีชิงเยียนกำลังทำงานอยู่ มองเห็นหลินเฉว่ที่ปรากฏตัวหน้าประตูห้องทำงาน ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนตะลึง ถามอย่างลองเชิง “เลขาฯ หลิน มีธุระมั้ย?”
“มีค่ะ” หลินเฉว่หายใจแรง ภูเขาสูงตระหง่านขึ้นลงรุนแรง กลายเป็นเส้นทิวทัศน์ที่งดงามสะดุดตาอย่างมาก
ถ้าเป็นเฉินเป่ยอยู่ที่นี่ เดาว่าคงตาทะลักแล้ว
เป็นความผาสุกที่ทำให้คนคลุ้มคลั่งเลือดกำเดาไหลสุดๆ เพียงน่าเสียดายที่เดิมทีไม่มีพนักงานชายได้ชื่นชมฉากนี้
“มีอะไร?” ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนเผยความสงสัยออกมา ในความทรงจำของเธอ หลินเฉว่มีช่วงที่รีบร้อนตื่นเต้นขนาดนี้น้อยมาก
“เฉินเป่ย เขากลับมาแล้วค่ะ” หลินเฉว่หายใจหอบพูดขึ้น
ชั่วพริบตาเดียว ใบหน้าแสนสวยของท่านประธานนางฟ้าก็เปลี่ยนสีทันที เธอลุกขึ้นยืนว่องไว สะบัดย้ายขายาวที่โดนถุงน่องตาข่ายสีดำคลุมแน่นสองข้างนั้น พุ่งออกจากห้องทำงานท่านประธานอย่างเร่งรีบ
“ปัง”
หลินเฉว่มาอยู่ด้านข้าง มองเห็นภาพคนรูปร่างงดงามรีบร้อน จิตใจร้อนรน ใบหน้าที่บริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับภูตประกายสีหน้าตกใจ……หล่อนคาดไม่ถึงว่าท่านประธานนางฟ้าที่บุคลิกเรียบเฉยเย็นชามาแต่ไหนแต่ไรจะมีช่วงที่ไม่สงบใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังอึกเหิมขนาดนี้……
ประธานนางฟ้าสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ รีบเร่งผลักประตูห้องทำงานของเฉินเป่ยออก พอมองก็เห็นเฉินเป่ยใส่หูฟังไว้ ดูดบุหรี่อยู่ จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ราวกับท่านชาย เล่นเกมอย่างบ้าคลั่ง
ในห้องทำงานเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่และควันโขมงจนคนแทบสำลัก
ใบหน้างามสง่าของหลีชิงเยียนเย็นชาทันที ปิดจมูกและปากไว้ ไฟโกรธไม่แน่ชัดลุกไหม้
ประธานนางฟ้าแทบไม่ต้องคิด พุ่งขึ้นมาแบบฉวยโอกาสดำเนินการฉับพลัน ถอดหูฟังของเฉินเป่ยลง ถามเสียงเย็นชา “เมื่อคืนนายไปที่ไหนมา?”
ส่วนประธานนางฟ้าพึ่งเอ่ยปากไป พูดไม่กี่คำ กลิ่นบุหรี่ที่เข้มข้นก็ทะลวงเข้าในจมูกที่โด่งมากของหลีชิงเยียน……ทำให้เธอต้องรีบจับหน้าอกไอทันที สวรรค์ย่อมรู้ว่าเฉินเป่ยสูบบุหรี่มากเท่าไร
เฉินเป่ยตะลึง จากนั้นสายตาที่เร่าร้อนละโมบตกลงที่หน้าอกของหลีชิงเยียน ตอนที่ประธานนางฟ้าไอ ภูเขาสั่นไหวน่าดึงดูดที่สุด
“ใหญ่จริง……” เฉินเป่ยเอ่ยปากชื่นชม
ใครจะคิดได้ว่าคำพูดนี้ของเฉินเป่ยลอยเข้าในหูของท่านประธานนางฟ้าแล้ว
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนหนาวเย็นราวกับน้ำค้างแข็ง กำมือแน่น
“ป๊าบ”
ประธานนางฟ้าโบกฝ่ามือไปรวดเร็ว ตบเข้าไปที่เฉินเป่ยอย่างแรง
เสียงฝ่ามือกังวานสะท้อนอยู่ในห้องทำงาน ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างเศร้าใจ ชัดเจนอย่างยิ่ง
เฉินเป่ยจับแก้มที่แดงขึ้นไว้ คำรามย่ำแย่ทีหนึ่ง มองทางหลีชิงเยียน ใบหน้างดงามที่ขาวเนียนสง่าของหลีชิงเยียนอายจนแดง ทั้งเขินทั้งโกรธ
สายตาที่เธอมองทางเฉินเป่ยเต็มไปด้วยแรงอาฆาต ราวกับปลายมีดแหลมคม
“ประธานหลี……” เฉินเป่ยกดนิสัยแย่ที่เกือบระเบิดออกไว้ บีบรอยยิ้มออกมานิดๆ
“ไสหัวไป”
สิ่งที่ตอบเฉินเป่ยมาคืออีกฝ่ามือหนึ่ง
“ประธานหลี สรุปผมทำอะไร คุณถึงตบผมขนาดนี้? กฎของบริษัทไม่ได้บอกว่าเจ้านายสามารถด่าตีพนักงานได้ตามชอบใจนะ” เฉินเป่ยทำหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรมสุดๆ
หลีชิงเยียนใช้มือทั้งสองเท้าสะเอว ทันทีที่ใบหน้างดงามหนาวเหน็บราวน้ำค้างแข็งได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเป่ย เธอก็โมโหจนปอดแทบจะระเบิด
เธอคาดไม่ถึงว่าตอนนี้เฉินเป่ยยังกล้าใช้กฎเกณฑ์บริษัทมารับมือกับเธอ!
ระเบียบข้อบังคับของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเข้มงวดมาก ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครบถ้วน ส่วนคนที่กำหนดกฎเกณฑ์บริษัทพวกนี้ขึ้นก็คือหลีชิงเยียนท่านประธานนางฟ้า
เกรงว่าแม้แต่ฝันเธอคงยังนึกไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่ง ตนเองจะนำหน้าฝ่าฝืนข้อกำหนดบริษัท!
หลังจากมองหลีชิงเยียนที่งงงวยมาก มุมปากของเฉินเป่ยก็ค่อยๆ ฉีกความอันธพาลขึ้น นั่นคือรอยยิ้มที่กำเริบเสิบสานเหมือนได้ชัยชนะ
มองท่าทางนี้ของหลีชิงเยียนอยู่ ในใจเฉินเป่ยสุขสบาย……นั่นคือความสะใจ ตลอดเวลาเรื่อยมาล้วนเป็นหลีชิงเยียนที่กดเหนือหัว ผลปรากฏว่าตอนนี้โชคชะตาเปลี่ยนไป มาถึงเขาโต้กลับแล้ว
“ประธานหลี คุณคงไม่ได้อยากฝ่าฝืนข้อกำหนดหรอกมั้ง?” เฉินเป่ยเอ่ยปากถามอย่างนิ่งเฉย ชั่วแวบเดียวถามจนหลีชิงเยียนจุก
หลีชิงเยียนจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ไม่ส่งเสียงสักคำ
ทันใดนั้นหลีชิงเยียนที่หนาวเย็นฉลาดล้ำก็ตบไปอีกที โบกที่หน้าของเฉินเป่ยอย่างแรง ทิ้งรอยฝ่ามือแดงสดไว้
ครั้งนี้หลีชิงเยียนใช้แรงมากกว่าหลายครั้งก่อน ตบจนเฉินเป่ยมึนงง มองหลีชิงเยียนตาค้าง ตั้งนานก็ยังไม่ตอบสนองกลับมา
เฉินเป่ยไม่เข้าใจว่าทำไมเขายกข้อบังคับบริษัทออกมาแล้ว หลีชิงเยียนถึงยังลงมืออีก!
“ตอนนี้ฉันไม่ได้ใช้สถานะของประธานบริษัทมาอบรมนาย ฉันใช้สถานะภรรยา ไม่ได้รึไง?” หลีชิงเยียนกอดหน้าอกไว้ ถามกลับเสียงเย็น
“คุณ……” เฉินเป่ยสีหน้าฝืด ชั่วขณะนั้นเขาโดนคำพูดนี้ของหลีชิงเยียนทำจุกแล้ว คาดไม่ถึงยังเป็นใบ้พูดไม่ออก ที่หลีชิงเยียนพูดไม่ผิดทั้งสิ้น ขอเพียงเธอเปลี่ยนสถานะ……และนอกจากเฉินเป่ยจะไม่ยอมรับตนเองเป็นสามีตามกฎหมายของหลีชิงเยียน
แต่เฉินเป่ยไม่ยอมรับได้อย่างไรกัน
“เมื่อคืนนายไปที่ไหนมา?” หลีชิงเยียนถามเสียงหนาวเหน็บ
“โดนเชิญไปสถานีตำรวจ ดื่มชาพูดคุยกับผู้กำกับ” เฉินเป่ยหัวเราะหึๆ พูดอธิบาย
แต่เฉินเป่ยอธิบายแบบนี้ หลีชิงเยียนจะเชื่อถือได้อย่างไร เพียงแค่หลังจากหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “นายกับผู้กำกับสถานีตำรวจรู้จักกัน?”
“ไม่ถือว่าสนิทเท่าไร ความสัมพันธ์ไม่เลว” เฉินเป่ยสีหน้านิ่งเฉย เมื่อคืนหลังจากชิงเหนียนเอาเหรียญนั้นออกมา ความสัมพันธ์ของเขากับผู้กำกับน่าจะคงไม่แย่เท่าไร
ผู้กำกับคงไม่ค่อยกล้าผิดใจเขา
“โรคจิต ไร้เหตุผล!”
ในที่สุดหลีชิงเยียนก็ไม่มีทางรับได้ ดวงตางดงามกวาดผ่านขี้บุหรี่ที่กองสะสมในที่เขี่ยบุหรี่ ถลึงตาใส่เฉินเป่ยอย่างโหดเหี้ยม สุดแสนจะทนได้ หันหน้าเดินไปด้านนอกห้องทำงาน
เฉินเป่ยมองหลีชิงเยียนที่บิดสะโพกเซ็กซี่อวบอิ่มออกไป มุมปากค่อยๆ ยกเส้นรัศมีวงกลมขึ้นนิดๆ
…………
ตอนบ่าย หลังจากเฉินเป่ยกินของเล่นไปนิดหน่อย ทั้งวันล้วนแช่อยู่ในห้องทำงาน จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้
ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ เฉินเป่ยกำลังใช้ซอฟต์แวร์ต่างประเทศตัวหนึ่ง เฉินเป่ยกำลังจ้องแบบจำลองลักษณะพื้นภูมิอิเล็กทรอนิกส์ในซอฟต์แวร์ ก่อนจะจมสู่ความคิด
ในแบบจำลองลักษณะพื้นที่อิเลคทรอนิกส์ ส่วนจุดสำคัญที่สุดคือเขตหวงห้ามในชีวิตผืนหนึ่ง และนอกเขตหวงห้าม ฐานปฏิบัติการแดงน้ำเงินนับไม่ถ้วนทั้งมากและแน่น ก่อรูปเป็นอำนาจอิทธิพลยิ่งใหญ่ที่ยากจะจินตนาการ
เฉินเป่ยสีหน้าเรียบนิ่ง เขตหวงห้ามผืนนั้นเป็นที่ตั้งฐานทัพและนอกฐานทัพ อิทธิพลเหนือชั้นนับไม่ถ้วน……ขุนศึกนานาประเทศ โลกชั่วร้าย ประเทศมหาอำนาจ……ขอเพียงมีความสัมพันธ์กันกับเฉินเป่ย ต่างค่อยๆ จ้องตาเป็นมัน จ้องฐานทัพในมือของเฉินเป่ยอยู่!
และโชคดีที่โม่ถีซือรักษาความลับไว้ ไม่ได้เปิดเผยฐานทัพเฉินเป่ยออกมา……มิฉะนั้นเฉินเป่ยคงได้รับต้อนรับจากมหาอำนาจที่มานับไม่ถ้วน ทำลายฐานทัพของเฉินเป่ยราบเรียบแบบไม่เสียดายการชดใช้ทุกอย่าง!
ฐานทัพของเฉินเป่ยยังยากที่จะยอมรับไฟโกรธของมหาอำนาจเยอะขนาดนั้นที่สะสมมานานปี
ต่างประเทศกระเพื่อมขึ้น หลังจากราชาหลงปลดเกษียณ นับวันยิ่งมีมหาอำนาจเพิ่มขึ้น เริ่มค้นหาฐานที่ตั้งของราชาหลงในตำนานขึ้นอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด
เฉินเป่ยดวงตาหรี่เล็กน้อย ในตอนนี้มือถือก็ดังขึ้น
เฉินเป่ยหยิบมือถือขึ้น บนหน้าจอมือถือปรากฏข้อความที่หลีชิงเยียนส่งมา
เฉินเป่ยมองแวบหนึ่ง ตะลึงเล็กน้อย คาดไม่ถึงหลีชิงเยียนให้เขาลงตึกไป ต้อนรับการมาถึงของไอรีน
ไอรีนมาที่บริษัทตระกูลหลี นี่ทำให้เฉินเป่ยแปลกใจอยู่บ้าง แต่ไม่นานก็สงบลงมาแล้ว แววตาแวววาว มุมปากโค้งความกำกวมหลายระดับขึ้น
ด้านล่างอาคารตระกูลหลี เฉินเป่ยยืนอยู่หน้าประตู แท็กซี่คันหนึ่งค่อยๆ จอดลงที่หน้าประตู เฉินเป่ยเข้าไปก่อน เปิดประตูรถออกอย่างเอาใจใส่ บังขอบรถไว้เพื่อไอรีน ป้องกันศีรษะของไอรีนชนกับขอบรถเข้า
การกระทำเล็กน้อยที่ดูไม่น่าใส่ใจนี้ทำให้ไอรีนชายตานิดหน่อย การกระทำของเฉินเป่ยเวลานี้มีท่วงท่าสุภาพบุรุษ
แต่ทว่าไอรีนไม่ได้ลืมเป้าหมายของการมาเยือนที่นี่
“ครั้งก่อนคุณไปไม่ลา ทำเอาฉันหาคุณตั้งนาน” ไอรีนพูดเสียงน่าดึงดูด
เฉินเป่ยเผยสีหน้ากระอักกระอ่วน “ครั้งก่อนเป็นเหตุไม่คาดคิด”
“ไม่คาดคิดแล้วทำไมถึงคุณไม่ตอบข้อความที่ฉันส่งไป?” ดวงตาของไอรีนเผยความหมายต่อว่าเพิ่มขึ้น ยื่นริมฝีปากแดง ดึงดูดความสนใจของพนักงานผู้ชายไม่น้อยเลย
ไอรีนงดงามที่สุด ครอบครองใบหน้าแสนสวยที่แพ้ให้หลีชิงเยียนใบหนึ่งอยู่ ที่หน้าประตูอาคารตระกูลหลีสถานซึ่งเป็นที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน ไม่นานก็ดึงดูดความสนใจคนมาไม่น้อย
บวกกับไอรีนมุ่ยริมฝีปากแดงราวกับเด็กน้อยด้วย คาดไม่ถึงมองขึ้นมาช่างน่ารัก ทำให้คนทนไม่ไหวนำมาโอบไว้ในอ้อมอกเป็นคนแรก รักใคร่เอ็นดูดีๆ
มีพนักงานชายบางส่วนจำเฉินเป่ยได้ ตอนที่เดินผ่านได้ยินคำพูดของไอรีนล้วนตกใจ……นี่เป็นเหตุการณ์อะไรกันแน่ ประเพณีนิยมของสังคมในสมัยนี้จะไม่ให้คนอยู่รอดเลยเหรอ!
เฉินเป่ยนั้นเงินก็ไม่มี หน้าตาก็ไม่ดี คาดไม่ถึงสามารถได้รับหัวใจสาวงามสองคนอย่างหลีชิงเยียนกับไอรีน……นี่เดิมทีทำให้คนไม่เข้าใจกัน! สรุปโลกใบนี้มันเป็นอะไรกัน!
พนักงานคนนั้นมองทางเฉินเป่ย สายตามีความเคียดแค้นที่รุนแรง เขาถลึงตาใสเฉินเป่ย……ตอนแรกบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก็มีหมาป่าเยอะเนื้อน้อย นี่เฉินเป่ยต้องการยึดครองอย่างเด็ดขาด ต้องการทั้งหมดเลยเหรอ!
มีสิทธิ์อะไร! สรุปเขาดีตรงไหน คาดไม่ถึงจะดึงดูดสาวงามขนาดนี้!
“ไม่ตอบแล้วยังไง?” เฉินเป่ยสังเกตถึงสายตาที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตของคนโดยรอบ อมยิ้มถาม
“งั้นคุณรู้ไว้ว่าฉันเฝ้าคุณตอบข้อความอยู่ ผลสุดท้ายคุณไม่ตอบกลับเลย ฉันเสียใจมากแค่ไหนรู้มั้ย?” ไอรีนเสียงเบา ดวงตากะพริบนิดๆ ทำให้คนที่เดินผ่านบางส่วนได้ยิน ฝีเท้าซวนเซ ล้วนใกล้จะหกล้มกันแล้ว!
สาวงามอย่างไอรีนแบบนี้จะไม่มีคนตามจีบได้อย่างไร คาดไม่ถึงยังจะเสียใจเพราะเฉินเป่ยไม่ตอบข้อความกลับ!