สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 201
บทที่ 201 เก้อเขิน!
โดยเฉพาะหลีชิงเยียน สายตาที่มองไปยังเฉินเป่ย ดวงตาที่งดงามคู่นั้นเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ! ริมฝีปากแดงที่น่าดึงดูดนั้นเปิดกว้าง เรียกได้ว่าตกตะลึงจนตาค้าง
คลื่นลูกใหญ่ผุดขึ้นในใจของหลีชิงเยียน มองไปยังเฉินเป่ยด้วยความตกใจอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้ ภายในใจไม่อาจจะสงบลงได้เลย
เมื่อหลีหยางเห็นเฉินเป่ยพูดแบบนี้ ก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น…สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจเลย ว่าจริงๆ แล้วเฉินเป่ยต้องการทำอะไรกันแน่
หนึ่งเดือน นี่เป็นภารกิจที่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ คิดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยยังต้องการย่นเวลาเข้ามาอีก
เขาคิดอย่างไรกันแน่
แม้ว่าหลีหยางจะเชื่อมั่นในตัวเฉินเป่ยมาก แต่ไหนแต่ไรมาเขาจะไม่ทำสิ่งที่ยังไม่แน่ใจ แต่หลีหยางในตอนนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเฉินเป่ยกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
กรรมการเหล่านั้น หลังจากเห็นว่าเฉินเป่ยพูดแบบนี้ ก็ตกตะลึงขึ้นในตอนแรก มองหน้ากันและกัน จากนั้นก็มีรอยยิ้มอันเยือกเย็นดูเหน็บแนมปรากฏขึ้นบนใบหน้า แล้วพูดออกไป “ถ้าอย่างนั้น คุณต้องใช้เวลาเท่าไร”
“หนึ่งสัปดาห์ก็พอแล้ว” เฉินเป่ยพูดเบาๆ!
เพียงชั่วพริบตา ทันใดนั้นกรรมการที่อยู่ในห้องประชุม ต่างมีสีหน้าตระหนกตกใจ มองไปยังเฉินเป่ยด้วยท่าทางแปลกๆ
“ได้ งั้นก็เอาตามคุณ หนึ่งสัปดาห์ จะคอยดูความสามารถการทำงานของคุณ” กรรมการคนหนึ่ง ตอบตกลงในทันที จ้องมองไปยังเฉินเป่ยด้วยสายตาที่เยาะเย้ยเล็กน้อย พูดอย่างกลับตาลปัตร
หลีชิงเยียนหน้าซีดเผือด หนึ่งสัปดาห์…เรื่องนี้แทบไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ไม่มีทางทำสำเร็จ มีเพียงคนไอคิว 250 จึงจะยอมซื้อสินค้าชุดนั้น!
หลังจากสินค้าชิ้นนั้นถูกคนสับเปลี่ยนไป บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก็ได้ใช้ช่องทางต่าง ๆ ในการตรวจสอบ และในที่สุดก็สงสัยได้แต่สงสัยว่าคู่แข่งเป็นคนทำแบบนี้กับพวกเขา
พวกของปลอมที่ทำอย่างลวกๆ แม้ว่าจะเลียนแบบอย่างเนียนก็นับไม่ถึงนั้น ยังคิดจะขายออกในราคาจริง คงมีใครอยากจะเสียเปรียบ!
“ประธานหลี ท่านได้ยินมันด้วยหูของตัวเอง นี่เป็นคำสั่งของประธานเฉิน พวกเราไม่ได้พูดกันเองนะ” กรรมการคนหนึ่งมองไปยังหลีชิงเยียน และหัวเราะเยาะอย่างเยือกเย็น
“เอาล่ะ เลิกประชุมเถอะ” ในที่สุดหลีหยางก็สั่งยุติการประชุม หลีชิงเยียนจึงลุกขึ้นทันที รีบเดินไปหาเฉินเป่ย และกล่าวออกไปอย่างกังวล “คุณคิดทำอะไรกันแน่! คุณรู้ไหมว่าราคาสินค้านั้นสูงแค่ไหน แม้ฉันเองก็ยังไม่มีเงินสดมากพอไปที่จะซื้อมันเลย”
เฉินเป่ยดูสงบนิ่ง “ก็แค่ของบางส่วนเองไม่ใช่หรือ วางใจเถอะ ปล่อยให้ฉันจัดการก็พอ”
หลีชิงเยียนยกมือขึ้นกอดอก มองไปยังเฉินเป่ย พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่านั้นหรือ คุณรู้ไหมว่าสินค้านี้ขายยากมากขนาดไหน ทีมขายของที่แกร่งที่สุดในบริษัทเรา ก็ยังขายไม่ออกด้วยราคาที่ต่ำมาก!”
“คนอื่นก็คือคนอื่นสิ ผมก็คือผม จะเหมือนกันได้อย่างไร” เฉินเป่ยพูดอย่างนิ่งมาก พูดออกมาด้วยความมั่นใจ ทำให้หลีชิงเยียนแทบจะทนไม่ไหว คนแบบนี้ ไร้เหตุผลเหลือเกิน!
หลีชิงเยียนขบฟันสีเงิน มองไปยังใบหน้าที่ไร้ยางอายของเฉินเป่ย ทำให้นางรู้สึกควบคุมอารมณ์โกรธภายในใจไม่ได้!
“ได้ อย่างนั้นฉันจะคอยดู ว่าคุณจะขายมันออกไปอย่างไร เมื่อถึงตอนนั้นอย่ามาขอร้องฉันก็แล้วกัน!” หลีชิงเยียนพูดอย่างเย็นชา กระแทกส้นสูง แล้วผลักเฉินเป่ยออกไป รีบเดินออกจากห้องประชุมทันที
เฉินเป่ยจ้องมองไปยังเบื้องหลังของผู้ดูสูงส่งดุจราชินี ผ่อนปรนความโกรธที่ไร้ที่ระบาย ดวงตาเปล่งประกายด้วยความอ่อนโยน แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“เสี่ยวเฉิน มั่นใจหรือเปล่า” หลีหยางเดินเข้ามาด้านหน้าของเฉินเป่ย
“วางใจเถอะ ถ้ายังไม่แน่ใจ ก็คงจะไม่ทำหรอก” เฉินเป่ยพูดเบาๆ
หลีหยางจ้องมองไปยังเฉินเป่ยครู่หนึ่ง เขาไม่รู้สึกถึงความตื่นตระหนกใดจากตัวของเฉินเป่ย ท้ายที่สุด จึงได้แต่พยักหน้า “หวังว่าคุณจะนำความรุ่งโรจน์มาให้บ้านหลี คณะกรรมการของกรุ๊ปได้รับความปั่นป่วนมาในช่วงนี้ กรรมการที่ก่อเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องแบ่งแยกออกไป”
เฉินเป่ยมองไปยังหลีหยาง หลังจากที่หลีหยางพูดจบ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที หลีหยางต้องการยืมมือเขา เพื่อเอาชนะกรรมการสองสามคน โดยเฉพาะเพื่อปรามพวกคลื่นใต้น้ำที่คอยสร้างความแตกแยกพวกนั้น
“ผมเชื่อว่าคุณทำได้” หลีหยางตบไหล่ของเฉินเป่ย ยิ้มให้เขาแล้วเดินออกไป แต่ในความเป็นจริง ในใจของหลีหยางก็ไม่ได้แน่ใจในตัวเฉินเป่ย
เขาไม่ได้เข้าใจเฉินเป่ยขนาดนั้น…เพียงแค่มองเฉินเป่ยเป็นโอกาสที่เหมาะเท่านั้น
หลังจากห้องประชุมว่างเปล่า ไอรีนจึงเดินออกมา กะพริบดวงตาอันงดงาม มองไปยังเฉินเป่ย “คุณแน่ใจกี่เปอร์เซ็นต์”
“ไม่สูงมากๆ เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์” เฉินเป่ยกล่าว
“คุณวางแผนไว้อย่างไร” ไอรีนถาม
“ถ้าอยากจะรู้ เชิญไปทานข้าวด้วยกัน แล้วผมจะลองดูว่าจะบอกคุณได้หรือไม่” เฉินเป่ยหันหลัง แล้วเดินไปทางประตูห้องประชุม
ไอรีนจ้องไปยังด้านหลังของเฉินเป่ย ดวงตาที่สวยงามของเธอเป็นประกายอย่างเย็นชาและลึกล้ำซึ่งคนอื่นตรวจจับได้ยาก แต่ก็รีบปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว เร่งฝีเท้า รีบตามออกไป
ในห้องสำนักงานประธานบริหาร หลีชิงเยียนกำลังกอดอก เท้าเปลือยเปล่า ยืนอยู่ด้านหน้ากระจกที่จรดพื้น
เธอมองลงไปชั้นล่าง เห็นเฉินเป่ยและไอรีนกำลังเดินออกจากอาคาร สีหน้าซับซ้อนยากจะเปรียบ
ขณะนี้ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ประตูห้องประธานบริหาร หลินเฉว่ยืนอยู่หน้าประตูสำนักงาน
“ประธานหลี ท่านลองดูรายงานนี้หน่อยค่ะ” หลินเฉว่กล่าว
“ว่ามา เฉินเป่ยจะขายสินค้าพวกนี้อย่างไร” หลีชิงเยียนถามด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
ในฐานะเลขานุการของหลีชิงเยียน หลินเฉว่เข้าใจเป็นอย่างดี เกี่ยวกับสาเหตุความวุ่นวายของเหล่ากรรมการ
หลินเฉว่ครุ่นคิดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ยิ้มอย่างขมขื่น “ประธานหลี ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ บางทีประธานเฉินอาจจะมีวิธีการของเขาก็ได้” “แม้แต่คุณกับฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าเขาจะขายออกไปได้อย่างไร คนอื่นก็ไม่มีทางคิดออกเลย” หลีชิงเยียนบ่นพึมพำ “ฉันคิดวิธีต่างๆ มามากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีวิธีใดใช้ได้ผลเลย นี่เป็นหลุมพรางที่พวกกรรมการขุดดักไว้ สุดท้ายไม่เพียงแต่จะไม่หลีกเลี่ยง แต่ยังพุ่งเข้าไปด้วยตนเองด้วย”
หลีชิงเยียนกัดฟันสีเงิน นางกำลังคิดถึงการพิจารณาของเฉินเป่ย ท้ายที่สุดผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่รับเรื่องของนาง และยังหาเรื่องวุ่นวายมาให้นางอีก
“ประธานหลี ถ้าประธานเฉินทำได้ขึ้นมาจริง ๆ ละคะ…” หลินเฉว่ พูดขึ้นมาทันทีทันใด “ตามที่ฉันเข้าใจเขา เขาจะไม่ยอมทำสิ่งที่เขาไม่แน่ใจ”
“หื้ม” ใบหน้าอันสวยงามของหลีชิงเยียนหยุดนิ่งไป ตกอยู่ในห้วงความคิด
หลังจากนั้นไม่นาน หลีชิงเยียนก็ถอนหายใจ โดยไม่รู้สึกตัว เธอนึกไม่ถึงว่าจะมองเฉินเป่ยไม่ออก!
“เขากับไอรีนไปไหนกัน” หลีชิงเยียนถามขึ้นอย่างกะทันหันหลังจากเห็นพวกเขาทั้งสองคนเข้าไปในรถด้วยกัน
“ประธานเฉินบอกกับฉันไว้ว่า…เขาจะดูแลไอรีนแทนคุณ” หลินเฉว่กล่าว
“เขาใจดีขนาดนั้นเชียวหรือ” หลีชิงเยียนแบะปาก แต่กลับรู้สึกเหมือนมีน้ำอุ่นไหลผ่านหัวใจโดยไม่รู้ตัว
นอกอาคารตระกูลหลี เฉินเป่ยและไอรีนได้ขับรถเก๋งคันหนึ่งออกไป รถเก๋งของไอรีนเป็นรถเก๋งที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก หลังจากที่เข้าไปนั่งด้านใน ไอรีนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“เข็มขัดนิรภัยของฉันมันติดอยู่…” ไอรีนขมวดคิ้ว เข็มขัดนิรภัยติดอยู่ตรงช่องว่างระหว่างที่นั่ง ไอรีนออกแรงทั้งหมดที่มี แต่ก็ไม่สามารถนำมันออกมาได้
“ผมจัดการเอง”
เฉินเป่ยเอนตัวเข้าไป และดึงเข็มขัดนิรภัยที่ติดอยู่ออกมา
ทันใดนั้น ขาที่สวยงามภายใต้ถุงน่องของไอรีนก็สั่นเล็กน้อย ราวกับถูกบางอย่างกระตุ้น