สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 33
บทที่ 33 ละเลยกฏหมาย
เพียะ!
เย่ชวงตบอย่างแรงมาก ใบหน้าของไต้ห้าวหนาน เป็นรอยแดงขึ้นมาห้านิ้วในชั่วพริบตา!
เจ้าหน้าตำรวจที่อยู่ข้างเย่ชวงสีหน้าตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นเย่ชวง กลายเป็นคนโหดเหี้ยมรุนแรงแบบนี้มาก่อน!
วินาทีนั้น ภายในห้องเงียบกริบ ไต้ห้าวหนานอึ้งอยู่ที่เดิม สีหน้าตกตะลึง!
“นี่คุณกล้า……ตบหน้าผมเหรอ!”ไต้ห้าวหนานค่อยๆยกมือทั้งสองข้างที่สั่นอยู่นั้นขึ้นมา คลำที่ใบหน้า สีหน้าแสดงความไม่ยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น!
ตบฉาดนี้ของเย่ชวง ทำให้ไต้ห้าวหนานมึนงง
รอยนิ้วมือสีแดงทั้งห้านิ้ว ทำให้ไต้ห้าวหนานรู้สึกว่า แสบรอนที่แก้มนุ่มๆนั้น นี่มันเป็นความอัปยศที่เขาเกินจะทนไหว!
“แกนังตัวดี!แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร ตั้งแต่เด็กจนโต……ไม่เคยมีใครกล้าตบตีฉัน!”ไต้ห้าวหนานเสียงสั่นเย็นยะเยือก แววตาโกรธแค้นอาฆาต!
ไต้ห้าวหนานกำหมัดแน่น ราวกับราชสีห์ที่กำลังโกรธ!
ไต้ห้าวหนานใบหน้าเย็นยะเยือก ถูกแทนที่ด้วยความบ้าคลั่ง!
“ใส่กุญแจมือ เอาตัวไป!”เย่ชวงตะโกนสั่งเสียงเย็น
“แคร็ก”เสียงล็อคกุณแจมือ สองมือของไต้ห้าวหนานถูกล็อคด้วยกุญแจมือแน่น!
“นังตัวดี!แกกล้าเหรอ!”ไต้ห้าวหนานขู่ตะคอก ดิ้นรนขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง ถูกเจ้าหน้าตำรวจสองสามนายควบคุมตัวไว้!
เย่ชวงมองไต้ห้าวหนานอย่างสงสัย ไม่แสดงออกทางสีหน้า เธอค้นเจอเฮโรอีนในห้องของเขา หลักฐานมัดตัวแน่นแบบนี้ เธอจะเห็นใจไต้ห้าวหนานได้อย่างไร!
ปฏิกิริยาเหล่านี้ของไต้ห้าวหนาน ในสายตาของเธอ เป็นการทำให้เรื่องราวมันยิ่งเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
“นังตัวดี!แกกับไอ้เฉิน หลีชิงเยียนเหมือนกันหมด !สมควรตายหมด!”ไต้ห้าวหนานแววตาน่ากลัว เต็มไปด้วยความกระหายเลือด!
“หากฉันก้าวเข้าไปในสถานีตำรวจเมืองหู้ไห่ก้าวเดียว รอฉันออกมา พวกแกต้องตายกันหมดทุกคน!“
ไต้ห้าวหนานตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว เจ้าหน้าที่นายหนึ่งู้สึกรำคาญจึงหยิบผ้ามาผืนหนึ่ง ยัดเข้าไปในปากของไต้ห้าวหนาน
ไต้ห้าวหนานตัวสั่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความอัปยศแบบนี้!
เขาอยู่ที่ต่างประเทศอย่างสุขสบาย แม้แต่ราชสำนักของซาอุดิอาระเบียยังต้องเกรงใจเขา แต่เมื่อมาอยู่ที่เมืองหู้ไห่ กลับถูกหยามเกียรติศักดิ์ศรีครั้งแล้วครั้งเล่า
เขากลับถูก ตำรวจกระจอกๆพวกนี้ จับกุมอีก!
เย่ชวงกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดพากันออกจากโรงแรมอย่างอึกทึกครึกโครม เสียงรถตำรวจดังกระหึ่มจากไป……
…………
ในบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป หลีชิงเยียนเหล่มองเฉินเป่ยที่มีสีหน้าท่าทางตามปกติอย่างเยือกเย็น เอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนฟังว่า“เรื่องนี้ คุณรู้แต่แรกแล้วใช่มั้ย”
“ผมรู้อะไร ผมก็แค่คาดเดาเท่านั้น ประธานหลีเป็นคนใสซื่อมือสะอาดแบบนั้น จะเกี่ยวข้องกับของสกปรกพวกนั้นได้ยังไงกันครับ ต้องมีคนใส่ร้ายคุณแน่”เฉินเป่ยเอ่ยยิ้มๆ
หลีชิงเยียนฮึ่มในลำคอ เมื่อครู่เฉินเป่ยทำได้ดีมาก หากไม่มีหมอนี่ หลีชิงเยียนอาจจะต้องไปอธิบายต่อที่ห้องสอบปากคำ
หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยด้วยแววตาที่อบอุ่นขึ้น พร้อมพูดว่า“ปิดประตู”
เฉินเป่ยปิดประตูห้องทำงาน หลีหยางขมวดคิ้ว นั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจยาวๆ
“เมื่อครู่หากในถุงนี้ไม่ใช่แป้ง พวกเราอาจจะต้องจบเห่กันหมด”
“ว่าแต่ว่า แป้งถุงนี้ใครเป็นคนวางเอาไว้”หลีหยางคิดใคร่ครวญ พลางเอ่ยถาม
หลีชิงเยียนขมวดคิ้วแน่น เห็นชัดว่า มีคนแอบช่วยเธอ ด้วยสติปัญญาของหลีชิงเยียนไม่ใช่เรื่องยากที่จะเดาได้ว่ามีคนลึกลับแอบเอาถุงแป้งมาวางเอาไว้ หลบเลี่ยงสายตา เพื่อลบล้างความน่าสงสัยของเธอ
หรือว่าจะเป็นคนผู้นั้นที่เมื่อก่อนเคยช่วยเธอหลายครั้ง
หลีชิงเยียนไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนๆนั้นถึงต้องช่วยเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไมเขาถึงไม่ยอมเปิดเผยตัวตน
แม้ว่าหลีชิงเยียนตนเองจะไม่เข้าใจ ตนเองจะไม่รู้ตัว ว่าเกิดความรู้สึกบางอย่างกับคนลึกลับผู้นั้น แม้แต่ตนเองก็ยังไม่แน่ใจ
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก หลินเฉว่เลขาพุ่งพรวดเข้ามา ชำเลืองมองหลีหยางเฉินเป่ยและหลีชิงเยียน พูดว่า“หลังจากรถตำรวจออกจากอาคารตระกูลหลี ก็ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ไต้ห้าวหนานถูกจับไปแล้วค่ะ”
“ห้าวหนานเหรอ”หลีหยางดวงตาหยี หลีชิงเยียนถอนหายใจเบาๆ
“หากมีหลักฐานมัดแน่น อย่างนั้นคนที่ทำก็อาจจะเป็นห้าวหนาน”หลีหยางเอ่ยเบาๆ
“ทำไมเขาต้องทำแบบนี้”สีหน้าหลีชิงเยียนแสดงถึงความสงสัยไม่เข้าใจ เธอกับเขาร่วมมือกันทำงานอย่างดี ไม่รู้ทำไม ไต้ห้าวหนานกลับมาใส่ร้ายป้ายสีเธอแบบนี้……
“อย่าไปคิดถึงเรื่องพวกนี้เลยครับ”จู่ๆเฉินเป่ยก็เอ่ยขึ้นมา ทำลายความคิดของหลีชิงเยียนและหลีหยาง“ เรียกคนมาเก็บของที่นี่ให้เรียบร้อยเถอะครับ”
“คุณนั่นแหละมาเก็บ”หลีชิงเยียนเอ่ย ทำเอาเฉินเป่ยมีสีหน้าตกตะลึง
“ทำไม ไม่เต็มใจทำเหรอ”หลีชิงเยียนกอดอก ขมวดคิ้ว
“ เต็มใจครับ เต็มใจแน่นอน ประธานหลีสั่งอะไรผมก็เต็มใจทำทั้งนั้นครับ”เฉินเป่ยยิ้มประจบเอาใจ รินชาให้หลีชิงเยียนและหลีหยาง
“พ่อคะ พวกเราออกไปทานข้าวกันเถอะค่ะ”หลีชิงเยียนควงแขนหลีหยางอย่างสนิทสนม
“ได้”หลีหยางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่รักและเอ็นดุ มองไปที่เฉินเป่ย ยิ้มพลางเอ่ยว่า“รบกวนคุณด้วยนะ”
“ช่วยเมียเก็บของ เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้วครับ”เฉินเป่ยตอบแบบยิ้มๆ
รอจนพ่อลูกตระกูลหลีออกจากห้องไปแล้ว นัยน์ตาของเฉินเป่ยจึงกลับมามุ่งมั่น
เฉินเป่ยเดินมาที่ข้างหน้าต่าง ควักโทรศัพท์มือถือออกมา กดโทรหาใครคนหนึ่ง“ไต้ห้าวหนานคิดจะใส่ร้ายฉันกับเมียฉัน ตอนนี้ถูกจับกุมตัวไปที่สถานีตำรวจเมืองหู้ไห่แล้ว”
“เห้ย ลูกพี่ มันช่างกล้านะ ยังกล้าคิดจะใส่ร้ายพวกคุณอีก ให้ผมไปจัดการพวกมันเลยดีมั้ย”เสียงเด็กหนุ่มปลายสายยินดี ก่อนที่จะโกรธจัด
“ไม่ต้อง รอพวกมันออกมาก่อน ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนมันเอง……”เฉินเป่ยมองไกลออกไป ลึกลับซับซ้อนยากจะเข้าใจ
“ลูกพี่ ช่วงนี้ธุรกิจของเราไม่ค่อยดี ยอดสองแสนล้านสองยอด ถูกแย่งไปแล้ว”เด็กหนุ่มปลายสายโอดครวญ
“ถูกแย่งไป แย่งกลับมาไม่ได้หรือไง ไอ้โง่! กฎเกณฑ์ในต่างประเทศก็เป็นพวกเราที่กำหนดเอง ยังจะกลัวไม่สำเร็จอีก ฉันไม่มีเวลาสนใจเรื่องของฐานปฏิบัติการ รอให้ฉันจัดการเรื่องเมียของฉันก่อน”เฉินเป่ยตกใจ จึงสบถด่าออกมา สองแสนล้าน สำหรับเฉินเป่ยไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งร่วง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก
“ลูกพี่ พี่ก็แสดงตัวตนที่แท้จริงของพี่ให้พี่สะใภ้เห็นก็จบ สภาพพี่อย่างนี้ พี่สะใภ้จะชายตามองพี่ได้ยังไง”เด็กหนุ่มแนะนำ
“นักฆ่าคราวก่อนยังสืบหาคนบงการไม่ได้ ฉันก็ยังไม่เปิดเผยตัว มิเช่นนั้นชิงเยียนจะเป็นอันตราย……”เฉินเป่ยน้ำเสียงครุ่นคิด
…………
สถานีตำรวจเมืองหู้ไห่
ที่ระเบียงทางเดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจร่างกำยำคุมตัวไต้ห้าวหนาน เดินเข้าไปในห้องสอบปากคำ
หลังจากไต้ห้าวหนานนั่งลงแล้ว สองมือถูกใส่กุญแจมือนั่งบนเก้าอี้ที่ใช้สอบปากคำ
คนที่นั่งตรงข้ามกับไต้ห้าวหนาน ก็คือเย่ชวงที่สีหน้าดุดันคร่ำเคร่ง
“ไต้ห้าวหนาน เฮโรอีนที่คุณเอาไปใส่ในตู้เซฟถุงนั้น คุณจะแก้ตัวว่าอย่างไร”เย่ชวงถามอย่างเยือกเย็น
“ไม่มีอะไรจะพูด ฉันจะพูดแค่ประโยคเดียวก็คือ ไอ้สวะเฉินเป่ยมันเป็นคนใส่ร้ายฉัน”ไต้ห้าวหนานสบตากับเย่ชวง ยิ้มอย่างน่ากลัว มองเย่ชวงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คุณมีหลักฐานมั้ย เฉินเป่ยอยู่ที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกับในคฤหาสน์ตลอด ไม่ได้ไปไหนเลย”เย่ชวงถามซักไซ้ต่อ
”ไม่มี“
“แล้วคุณจะพูดทำไม”เย่ชวงสองมือกอดอก รอยยิ้มเยาะเย้ย
ไต้ห้าวหนานนั่งให้ปากคำอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าเรียบเฉย เรียบเฉยมากจนเกินไป……
เย่ชวงสีหน้าเยือกเย็นขึ้น……ไต้ห้าวหนานคนนี้ มีหลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้ ยังไม่ยอมรับสารภาพ รวมทั้งยอมรับโทษ…ยังคงทำเป็นนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น หรือว่าเขาคิดว่าจะมีคนมาช่วยเขาอีก!
”ไต้ห้าวหนาน ฉันแนะนำให้คุณยอมสารภาพมาดีกว่า เพราะคุณไม่รับสารภาพก็ไม่เป็นไร ตำรวจอย่างพวกเรา จะต้องสืบสวนจนรู้ความจริงจนได้ ให้คุณยอมจำนนต่อกฎหมาย……“
“กฎหมายเหรอ”ไต้ห้าวหนานมองเย่ชวงด้วยความสงสัย แววตาฉายความว่างเปล่า ทันใดนั้นเอง มุมปากของเขาก็ยกขึ้น ท่าทางหยอกเย้า เยาะเย้ยอย่างที่สุด!
“กฎหมายก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ตำรวจอย่างพวกคุณ……หลังจากที่รู้สถานะของผมแล้ว ก็คงไม่กล้าจับผม……”ไต้ห้าวหนานจู่ๆก็หัวเราะ ความหมายในคำพูดเขา ก็คือหยิ่งยโสดูถูกคนอื่น!
“คุณหมายความว่ายัง หรือว่า คุณจะยังละเลยกฎหมายได้”เย่ชวงนัยน์ตาเย็นเยือก
“คุณจะคิดยังไงก็ช่าง เพราะคนบางคน เกิดมาเพื่ออยู่เหนือกฎหมาย……และเมื่อครู่นั้น มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ตบคนที่ชีวิตนี้เธอคงทำได้แค่เงยหน้ามองเขา……” ไต้ห้าวหนานยิ้มอย่างดูแคลนทั่วทั้งร่างมีอำนาจที่ทรงพลังบางอย่าง แผ่กระจายออกมา……ที่หัวเซี่ย มีคนกล้าพูดอย่างอิจฉาริษยาขนาดนี้ คนๆนี้ คงมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาขนาดไหน
การลบล้างกฎหมาย……ยังคงมีอยู่……ไม่อาจจินตนาการได้เลย!
“โอหัง!”
มือเรียวสวยของเย่ชวงตบลงบนโต๊ะที่สอบปากคำอย่างแรง แววตาเย็นเยือก ฉายความโกรธเกรี้ยวที่ไม่สิ้นสุดออกมา!
เธอไม่เคยคิดเลยว่า จะมีคนกล้าพูดจายโสโอหังแบบนี้ ต่อหน้าเธอ!
…………
ในห้องทำงานของผู้บัญชาการตำรวจสถานีตำรวจเมืองเมืองหู้ไห่
หัวหน้านั่งอยู่ในห้องทำงาน ลิ้มลองรสชาติของชาเที่ยกวานอินที่ลูกน้องส่งมาให้ล่าสุดด้วยความเคารพm
เมื่อครู่เขาจิบชาไปอึกหนึ่ง ทันใดนั้น โทรศัพท์สีดำที่อยู่ข้าง ก็มีเสียงดังขึ้นมา!
หัวหน้าตกใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสงสัย ปลายสายนั้น มีเสียงหนึ่งดังมา ตะคอกเสียงแข็ง ทำเอาหัวหน้าตกตะลึง!
ผู้ว่าเมืองหู้ไห่ โทรมา!
หัวหน้าใจสั่น เป็นเลขาคนหนึ่งของท่านผู้ว่าโทรมา น้ำเสียงเกรี้ยวกราดน่ากลัว!
“โอหัง! ถึงขนาดกล้าจับคุณไต้!”
คุณไต้……เป็นใคร หัวหน้ามีสีหน้าตกใจ ผ่านไปนานก็ยังไม่ได้สติกลับมา ทำไมเขาถึงจำไม่ได้ ว่าสถานีตำรวจช่วงนี้จับกุมคนที่ชื่อว่าคุณไต้……
“เป็นฝีมือของคนในสถานีตำรวจของคุณที่ชื่อว่าเย่ชวง!ไม่รู้หรืออย่างไร คนในสถานีตำรวจที่ชื่อว่าเย่ชวง ถึงขั้นกล้าจับคุณไต้!ช่างยโสโอหังจริงๆ!”ปลายสายเสียงน่ากลัว ทำให้หัวหน้าตัวสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ!
“คุณไต้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเมืองเรามาก หากไม่มีบริษัทการลงทุนหยุนเจี๋ย ธุรกิจการค้าของเมืองเมืองหู้ไห่คงต้องแย่แน่!คุณรู้ตัวมั้ยว่าสร้างความหายนะยิ่งใหญ่ขนาดไหน!”
หัวหน้า ได้ยินคำกล่าวตำหนิจากปลายสาย สับสนมึนงง ไปหมด เพิ่งจะเข้าใจ นี่ตัวเองพลาดเรื่องใหญ่อะไรไป!
เวลานี้ ในห้องสอบปากคำไต้ห้าวหนานมองเย่ชวงอย่างเงียบๆ เขาแทบจะไม่ได้ห่วงว่าเรื่องจะทำให้เย่ชวงต้องพบกับจุดจบ ตามที่เขาคาดไว้ทั้งศาลากลางของเมืองเมืองหู้ไห่ต่างพากันสับสนวุ่นวาย……
เขาจดจำฝ่ามือที่ตบเขาได้ดี เย่ชวงตรงหน้า คือผู้หญิงคนแรกที่กล้าตบเขา เขาจำได้แม่น……
“นานมากแล้ว……ที่ไม่มีคนกล้าพูดคำว่าโอหังสองคำนี้ต่อหน้าผม……”ทุกคำของไต้ห้าวหนาน เห็นชัดว่าเย็นชา มีความน่ากลัวเพิ่มเข้ามาอย่างประหลาด!
“ไต้ห้าวหนาน คุณคิดว่าจะเดินออกไปจากที่นี่เหรอ”เย่ชวงเอ่ยถาม
“น่าสนใจ น่าสนใจมากจริงๆ……”ไต้ห้าวหนานจ้องเย่ชวง เหมือนแกล้ง แววตา!
“ปึง—”
ตอนนั้นเอง ประตูห้องสอบปากคำก็ถูกระแทกปิดออกอย่างแรง !
หัวหน้าที่มีสีหน้าตื่นยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องสอบปากคำ มองเห็นไต้ห้าวหนานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ใช้สอบปากคำ ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“หัวหน้า ท่านมาได้ยังไงคะ ”เย่ชวงสีหน้าตื่นตกใจ มองไปที่หัวหน้าผู้ซึ่งถลึงตาโตอยู่ในห้องสอบปากคำ