สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 330
บทที่ 330 ลอบฆ่าเอ๋อตงเฉิน!
กลางอากาศสั่นสะเทือนเล็กน้อย และอากาศก็เคล้าด้วยความนิ่งสงบทันที
ทุกคนในงานต่างก็ถูกทำให้ตะลึงงัน ไม่มีใครคิดถึงว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น หากคนที่อยู่ในงานไม่ได้พาบอดี้การ์ดคนสนิทติดตามมาด้วย ถ้าเป็นคนธรรมดา เกรงว่าคงจะกรีดร้องเสียงแหลมแล้วก็หนีไปทั่วทุกสี่ทิศแล้ว
ทว่าต่อให้คนที่อยู่ในงาน ต่างก็เป็นบุคุลสำคัญของหัวเซี่ย ภายยในใจยังยากที่จะนิ่งสงบเลย เพราะว่าคนที่พูดตอนนี้ คือคุณชายหลี เป็นคุณชายหลีแห่งตระกูลหลีในเยี่ยนจิง! เป็นหลานของหลีหง!
หรือว่ามีคนใหญ่คนโตบางคนไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของหลีเช่าเทียน ทว่าหลีหง ไม่มีทางไม่รู้จัก! เห็นแก่หน้าของหลีหง คนใหญ่คนโตพวกนั้นต้องให้หน้าหลีเช่าเทียนบ้าง
แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกแปลกใจ สายตาแต่ละคนต่างก็จับจ้องไปยังเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนหนุ่มสาวคู่นี้ ทั้งสองคนกลับดูหมิ่นและท้าทายหลีเช่าเทียน หรือว่าพวกเขามีภูมิหลังที่สามารถทำตัวเย่อหยิ่งแบบนี้?
ซูเหลยยืนอยู่ตรงหน้าหลีเช่าเทียน และค่อยๆ กำหมัดของตัวเองให้แน่น และในตอนนี้ ก็ได้ยินเสียง “แคร่กๆ ” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภายในร่างกายของซูเหลย แล้วมีพลังอันน่าแปลกบางอย่างแผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างของซูเหลย!
พลังนี้เลือดเย็นมาก แล้วกำลังระเบิดออกจากเรือนร่างของซูเหลน ทำให้หน่วยงานลับที่มีทักษะไม่ธรรมดาเหล่านั้น ต่างก็ต้องขึงดวงตาสองคู่ แล้วทำสีหน้าที่จริงจัง
นี่เป็นผู้เก่งกาจคนหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่เหนือกว่าศัตรูของพวกเขา!
ซูเหลยกำหมัดแน่น แล้วก็เกิดความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก หลังจากที่กินยาขวดนั้นลงไป ความสามารถของเธอก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างพลิกฟ้าคว่ำดิน ทีแรกทักษะของเธอก็แกร่งมากพอแล้ว หลังจากที่ได้รับยาตัวนั้นเข้าไป ทักษะไม่ธรรมดาของบอดี้การ์ดเหล่านี้ แม้กระทั่งเธอยังมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถต่อสู้กับพวกเขาทั้งหมดได้!
สู้โดยหนึ่งต่อสิบ!
นี่เป็นความมั่นใจในตัวเองของเธอ! และสำหรับหน่วยงานลับเหล่านั้น แต่ละคนเหมือนกำลังเผชิญกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ จึงได้ระมัดระวังเป็นอย่างมาก!
ทีแรกพวกเขาก็คือผู้ยอดเยี่ยมที่ถูกคัดเลือกออกมาจากองค์กรหน่วยงานลับของหลีหง……พวกเขาทุกคนต่างก็สามารถสู้กับศัตรูเป็นร้อยคน และตอนนี้ ซูเหลยยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กลับทำให้ก้นบึ้งจิตวิญญาณของพวกเขาสั่นสะเทือน!
กลางอากาศสั่นสะเทือน จากนั้นก็แทบจะจับตัวเป็นก้อน!
และในตอนนี้ หลีเช่าเทียนก็เอ่ยพูดออกมาทันที มุมปากกระตุกความเย็นชาออกมา “ท่านประธานใหญ่ของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ยังมีลูกเขยของตระกูลหลี กลับหลบอยู่ข้างหลังของผู้หญิงคนหนึ่งงั้นหรอ? ”
หลีชิงเยียนเพิ่งจะโต้แย้ง สองมือของเฉินสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กลับก้าวออกไปหนึ่งก้าว “แค่กลัวว่าแกจะสู้ไม่ไหวแม้แต่ผู้หญิงคนหนึ่ง”
หลีเช่าเทียนทำนัยน์ตาที่เกร็ง แล้วก็มีผู้ยอดเยี่ยมของหน่วยงานลับคนหนึ่งแวบผ่าน จากนั้นก็พุ่งไปยังเฉินเป่ย “คุณชายหลีพูด กลับยังกล้าเถียง หาที่ตาย! ”
“ไสหัวไป! ” เฉินเป่ยเผชิญหน้ากับพุ่งมาผู้ยอดเยี่ยมที่เป็นหน่วยงานลับคนนี้ ด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพียงคำพูดเดียว สองมือก็จู่โจมออกมาทันที!
จึงมีเสียงเรียบนิ่งดังสนั่นขึ้น ฝ่ามือทั้งสองข้างของเฉินเป่ยจู่โจมลงบนหน้าอกของผู้ยอดเยี่ยมของหน่วยงานลับ ทันใดนั้นหน่วยงานลับคนนี้จึงถูกโจมตีจนถอยหลังไป แล้วพุ่งเลือดสดออกมากลางอากาศ!
“แต่กๆๆ ……”
เรือนร่างของหน่วยงานลับคนนั้นสั่นสะเทือน แล้วก็ถอยไปด้านหลังอย่างว่องไวและไม่สามารถควบคุมได้ แม้กระทั่งสุดท้ายยังชนไปยังเรือนร่างของหลีเช่าเทียน ยอดฝีมือสองคนที่อยู่ข้างๆ จึงพยุงเขาขึ้นมา ถึงจะทำให้เขาอยู่นิ่งๆ ได้
หลีชิงเยียนทำนัยน์ตาคู่สวยเปล่งประกาย และสีหน้าอันเลือดเย็นของเฉินเป่ย กำลังมองหลีเช่าเทียนอยู่ แล้วค่อยๆ พูดขึ้น “ลูกน้องของแก แม้แต่ฝ่ามือเดียวของฉันยังรับไว้ไม่ไหว อย่างไรผู้หญิงถึงจะเหมาะสมกว่า”
ทั้งงานจึงเงียบกริบไปทันที แล้วสายตาแต่ละคนก็จับจ้องไปยังเรือนร่างของเฉินเป่ย ภายในใจของคนนับไม่ถ้วนสั่นคลอนอย่างรุนแรง!
ทุกคนต่างก็ถูกเฉินทำให้หวาดผวา…….การแต่งตัวแบบนี้ของเฉิน กลับกล้าดูหมิ่นคุณชายหลี ความกล้าแบบนี้ ใครที่อยู่ในงานจะกล้า?!
หลีเช่าเทียนจับจ้องเฉินเป่ยไว้อย่างเย็นชา แล้วพูดคำๆ หนึ่งออกมา “เรื่องระหว่างเราสองคน ไว้คิดบัญชีย้อนหลัง ตอนนี้ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้”
“คุณชายหลี ได้โปรดพูดจาเกรงใจหน่อย ไม่งั้นหมัดของฉันคงไม่ฟังคำสั่ง” เฉินเป่ยพูดขึ้นอย่างช้าๆ น้ำเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึก แล้วยังเคล้าด้วยความเลือดเย็น
หากชิงเหนียนอยู่ที่นี่ ต้องดูออกแน่นอน เฉินเป่ย กำลังโมโหอย่างชัดเจน
ตอนนั้นหลีเช่าเทียนหนีความตายในหู้ไห่เหมือนหมาไร้บ้าน เฉินเป่ยไม่ได้จัดการกับเขา เฉินเป่ยในตอนนี้ รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ทีแรกเขานึกว่าหลีเช่าเทียนกลับตระกูลหลีคงจะกลายเป็นคนที่ทำตัวไม่โอหังโอ้อวดอะไรอีก และไม่มีทางออกมาอย่างทระนงตัวแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าหลีเช่าเทียนยังไม่รู้สึกเปลี่ยนตัวเอง
ทว่านี่เป็นเรื่องระหว่างเขากับหลีเช่าเทียน เขาไม่หวังว่าจะจัดการที่นี่ ต่อให้จะจัดการ ก็ต้องจัดการเป็นการส่วนตัว
ที่นี่มีคนเยอะเกินไป และที่นี่คือเยี่ยนจิง หากเขาลงมือ อาจจะทำให้เยี่ยนจิงเกิดสถานการณ์วุ่นวาย!
หลายปีก่อน เยี่ยนจิงเจอถูกสถานการณ์วุ่นวายอันน่ากลัว เขาไม่อยากจะโวยวายจนสะท้านฟ้าสะเทือนดินในเวลานี้ พายุฝนกระหน่ำไปทั่วเมือง
หลีเช่าเทียนทำสองตาที่ดูเกร็ง คำพูดนี้ของเฉินเป่ย ไม่ได้แค่มีการข่มเหงแอบแฝง นี่เป็นการข่มเหงชัดๆ!
คนทั้งงานต่างก็ถูกทำให้ทำให้ตื่นตระหนก ทุกคนต่างงียบเหมือนกับจั๊กจั่นในยามหน้าหนาว หลีเช่าเทียนยืนอยู่ที่เดิม เรือนร่างสั่นเทา สีหน้าเคล้าด้วยความเลือดเย็น อากาศก็เคล้าด้วยความเลือดเย็นที่ทำให้คนรู้สึกไม่สบายและอยู่ไม่เป็นสุข!
คนใหญ่คนโตเหล่านี้ที่อยู่ในงาน แต่ละคนต่างก็ฉลาดหลักแหลม ตอนนี้จึงเงียบไม่พูดไม่จา และไม่ยอมมีข้อข้องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เด็ดขาด!
“แกกำลังข่มขู่ฉัน” หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่นิ่งเฉย แล้วพูดคำๆ นี้ออกมา กลับทำให้คนทั้งงานถูกทำให้ตื่นตระหนก!
“แค่ยอมให้แกข่มขู่ภรรยาของฉัน ไม่ยอมให้แกถูกข่มขู่? คุณชายหลีสองมาตรฐานเก่งจริงๆ ” เฉินเป่ยยิ้มอย่างเฉยชา น้ำเสียงกลับดูหมิ่นมาก ทำให้หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่เลือดเย็น แล้ววิญญาณชั่วร้ายก็แผ่ซ่านออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
“แกกำลังรนหาที่ตายอยู่หรอ?! ” หลีเช่าเทียนก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าว แล้วพลังนุภาพก็พุ่งกระฉูดขึ้นมา!
หลีเช่าเทียนไม่สามารถอดทนได้ การข่มขู่และการท้าทายแบบนี้! คนทั้งหมดในงานต่างรู้สึกสั่นสะเทือนภายในใจ! สายตาของแต่ละคนจับจ้องไปยังเฉินเป่ย แล้วรู้สึกหวาดผวามากยิ่งนัก!
บ้าบิ่นเกินไปแล้ว! บ้าบิ่นจนไร้ขีดสิ้นสุด!
“ปัง! ” หลีเช่าเทียนก้าวเท้าออกมาเสร็จ บอดี้การ์ดไม่กี่คนที่อยู่ข้างหลังหลีเช่าเทียน แล้วต่างก็ก้าวเท้าออกมาพร้อมกัน จากนั้นก็เข้ามาใกล้พวกหลีชิงเยียน!
บรรยากาศจึงสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันที! กลางอากาศสั่นสะเทือน แล้วเคล้าด้วยกลิ่นของดินปืน!
และในตอนนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม ทำให้ทำลายบรรยากาศที่ดุเดือดนี้
หลีเช่าเทียนควักมือถือออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วกวาดสายตามองไปยังหน้าจอ แล้วทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นรับสาย
ทางฝั่งสาย เสียงแก่เฒ่าของหลีหงส่งมา “แกอยู่ในงานพนันพลอยไหม? ”
“อยู่ครับ” หลีเช่าเทียนเผชิญหน้ากับหลีหง ด้วยท่าทีที่เคารพนับถือ
“เยี่ยมมาก ฉันเพิ่งจะได้รับข่าวสาร หลีชิงเยียนก็ไปงานพนันพลอยเหมือนกัน ฉันรู้ว่าพวกแกสองคนเคยมีเรื่องเคียดแค้นกันบ้าง……แต่ว่าพวกแกต่างก็มีแซ่ว่าหลี เรื่องของความแค้นรุ่นผู้ใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนรุ่นหลังอย่างพวกแก แกอย่าไปลงไม้ลงมือกับหลีชิงเยียนเด็ดขาด” ทางฝั่งสาย น้ำเสียงของหลีหงนิ่งสงบ กลับเคล้าด้วยพลังของการวางอำนาจ อย่างไร้ข้อสงสัยใดๆ
หลีเช่าเทียนทำสีหน้าที่ดูเกร็ง เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ สายๆ กลับเป็นสายที่หลีหงต้องการปกป้องเธอ! แล้วปกป้องหนุ่มสาวต่ำต้อยคู่นี้!
สายๆ นี้ของหลีหง ทำให้หลีเช่าเทียนเกิดความสับสนวุ่นวาย
“ถ้าเธอลำบากใจ หวังว่าแกจะเห็นแกเธอที่เคยเป็นหนึ่งในตระกูลหลี ช่วยเธอมากๆ ” หลีหงพูดจบ ถึงจะวางสายไป
หลังจากวางสาย หลีเช่าเทียนยืนอยู่ที่เดิม เสียงของหลีเช่ายังคงวกไปวนมาในหัวสมองของเขา ผ่านไปนานมากก็ยังไม่หายไป
ทั้งตัวของเขานิ่งงันไป ผ่านไปสักพัก เขาถึงจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาจับจ้องเฉินเป่ยไป แล้วเดินไปทีละก้าว สายตานั้นยิ่งอยู่ยิ่งเลือดเย็น เหมือนเป็นคมดาบ ที่สามารถจะมองทะลุเฉินเป่ย!
ทว่าเขามองยังไงก็มองไอ้หมอนี่ไม่ออก ไอ้หมอนี่เหมือนปกคลุมด้วยผ้าตะข่ายที่ลึกลับ แล้วดูลุ่มลึกอย่างมาก
หลีเช่าเทียนกัดฟัน การเผชิญหน้ากับคำสั่งของหลีหง ต่อให้ไม่ยินยอม ก็ทำได้เพียงทำตาม!
ไม่ง่ายเลยที่เขาจะเปลืองแรงมหาศาลเพื่อที่จะได้รับการชื่นชมจากหลีหง เขาไม่อยากเพราะเรื่องวันนี้ ทำให้ขาดการให้ความสำคัญจากหลีหง……ทว่าคนมากมายขนาดนี้ต่างก็มองเขาอยู่! อีกอย่างคนพวกนี้ต่างก็เป็นคนใหญ่คนโต ต่างก็กำลังรอดูว่าเขาจะจัดการกับเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนยังไง!
ในมุมมองของคนพวกนี้ หลีเช่าเทียนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีฐานะและตำแหน่งที่เหนือกว่าใคร ส่วนเฉินเป่ยและหลีชิงเยียน ไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเป็นบุคคลต่ำต้อยที่มาจากหมู่บ้านยากไร้ที่ไหน ถ้าเทียบกับคุณชายหลี มันแตกต่างราวกับฟ้าและดิน!
เฉินเป่ยกล้าต่อต้านหลีเช่าเทียน! นี่กำลังรนหาที่ตายไม่ใช่หรือไง! หางานทรมานตัวเองชัดๆ!
สายตาที่แต่ละคนต่างก็จับจ้องไปยังเฉินเป่ยกลายเป็นไม่แยแสไปทันที ในมุมมองของพวกเขา จุดจบของเฉินเป่ยก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เขาต้องตาย!
นี่เป็นมดที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่นานก็ต้องถูกหลีเช่าเทียนลงโทษ แล้วต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด!
หลีเช่าเทียนเดินมาตรงหน้าของเฉินเป่ย บรรยากาศตึงเครียดมาก ยอดฝีมือหน่วยงานลับเหล่านั้นแผ่ซ่านความอาฆาตที่เลือดเย็นออกมาจากเรือนร่าง!
“ยินดีด้วย” หลีเช่าเทียนพูดสามพยางค์ออกมาทีละคำ นัยน์ตาฉายความไม่พอใจออกมาอย่างรุนแรง!
หลีเช่าเทียนกำหมัดแน่น เรือนร่างสั่นเทา แล้วนิ่งสงบไปสักพัก แล้วพูดขึ้น “ถอยไป ปล่อยเขาไป”
ฉึก!
คนทั้งงานต่างก็สงสัย! แล้วก็โห่ร้องไม่หยุด! สายตาแต่ละคนจับจ้องไปยังเรือนร่างของหลีชิงเยียน แล้วมองหลีชิงเยียนอย่างยากที่จะเชื่อ เหมือนได้ยินเรื่องตลกที่สุดใต้หล้านี้!
“ปล่อยเขาไป? ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม”
“คุณชายหลี จะปล่อยเขาไป? เป็นไปได้ยังไง เขาเพิ่งจะโต้เถียงกับคุณชายหลี คุณชายหลีจะปล่อยเขาไปได้ยังไง! ” จากนั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น ทุกคนต่างก็คิดว่าตัวเองฟังผิดไปแล้ว
“คุณชายหลี ท่านจะให้พวกเราทำอะไร? ” ยอดฝีมือหนึ่งคนเอ่ยถามอย่างลองเชิงด้วยความระมัดระวัง
“ฉันบอกว่าปล่อยพวกเขาไป อย่าขัดขวาง” ใบหน้าของหลีเช่าเทียนลุกเป็นไฟที่ร้อนแรง ใบหน้าไร้แสงสว่างใดๆ เขาพยายามอดกลั้นความไม่พอใจและความโมโหภายในใจ แล้วก้มหน้าทวนคำพูดขึ้น
หึ!
ทั้งงานต่างตกตะลึง! ไม่มีใครเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไม? ไอ้คนต่ำต้อยเหมือนมดตัวหนึ่งคนนี้ เพิ่งจะทำตัวครอบงำและเย่อหยิ่งขนาดนั้นในเมื่อกี้นี้ แล้วยังกล้าขัดแย้งกับคุณชายอย่างไม่หวาดกลัว คุณชายหลีกลับยังปล่อยเข้าไป?
ใครจะเชื่อ ใครจะเชื่อ!
“ฉันบอกปล่อยไง ไม่ได้ยินหรอ? ” หลีเช่าเทียนยืนเอามือพาดหลัง น้ำเสียงของเขาไม่ได้สื่อให้เชิงปฏิเสธ กลับเหมือนดั่งฟ้าผ่ายามอากาศแจ่มใส แล้วกำลังทวนในหูของทุกคนอยู่
ยอดฝีเท้าแต่ละคนต่างก็มองหน้ากัน สุดท้ายต่างก็หลีกทาง
หลีชิงเยียนมองข้างหลังมีทางเดินเส้นหนึ่งที่หลีกออกมาเพียงชั่วพริบตา นัยน์ตาคู่สวยจึงเคล้าด้วยความแปลกใจและคาดคิดไม่ถึง
เธอนึกไม่ถึง เมื่อกี้เฉินเป่ยยังท้าทายไอ้หมอนั่นแบบนี้ พวกเขากลับสามารถออกจากที่นั่นอย่างสันติสุข!
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม แล้วกวาดสายตามองไปหนึ่งรอบ แล้วกระตุกมุมปากที่ดูหมิ่นออกมา จู่ๆ ก็จูงมือสวยๆ ของหลีชิงเยียน แล้วมองหลีเช่าเทียน “คุณชายหลี ลาก่อน”
ภายในใจของคนทั้งหมดตกตะลึง และถึงแม้สีหน้าของหลีเช่าเทียนยังคงดูชิวและนิ่งเฉย ทว่ามุมปากกลับกระตุกขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
ก่อนจะไป ยังไม่ลืมกระตุ้นเขาหนึ่งที!
ในกลางอกของหลีเช่าเทียน กำลังมีไฟแห่งความโมโหลุกโชนอย่างไม่ดับลง! แม้กระทั่งยังถูกทำให้เครียดจนสองตามืดมัว และเหมือนอยากจะเป็นลมไป