สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 331
บทที่ 331 เป้าหมายเล็กๆ หนึ่งพันล้าน
ในห้องโถงใหญ่ สายตาทุกคนขึงโต แล้วกำลังมองหลีเช่าเทียนและหลีชิงเยียนด้วยความไม่น่าเชื่อ! ทุกคนต่างก็สงสัยในหูของตัวเอง ต่างก็รู้สึกว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า!
ทุกคนต่างก็คิดว่าเฉินเป่ยต้องตายอย่างไร้ข้อสงสัย กลับไม่มีทางมีชีวิตรอดออกจากงานเขตพนันพรีเมียมแน่นอน! และตอนนี้ หลีเช่าเทียนกลับบอกว่าปล่อยเขาไป?!
ทุกคนต่างก็มองเฉินเป่ยด้วยความตกตะลึง นี่เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่มีชีวิตอย่างหนึ่ง! หากเรื่องนี้ถูกป่าวประกาศออกไป ต้องกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่ได้รับความนิยมทันที!
ไม่มีใครขบคิดอย่างกระจ่าง แม้กระทั่งยอดฝีเท้าหน่วยงานลับที่ได้ผ่านการฝึกฝนมาพิเศษก็เหมือนกัน
หลีเช่าเทียนยืนอยู่ที่เดิม แล้วจับจ้องเรือนร่างของเฉินเป่ยด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย ไม่มีใครเห็น มือที่อยู่ข้างหลังของเขาทั้งสองข้างกำแน่น แล้วกำลังมีเสียงแคร่กๆ ของข้อต่อกระดูกดังขึ้น”
“มานี่” หลีเช่าเทียนเอ่ยพูด
“คุณชายหลี” ยอดฝีมือหน่วยงานลับคนหนึ่งเดินหน้ามา ด้วยท่าทีที่เคารพนับถือ
หลีเช่าเทียนจับจ้องเรือนร่างของหลีชิงเยียนและเฉินเป่นไว้โดยตรง แล้วพูดขึ้นช้าๆ “จับตามองเขาไว้ ตอนนี้ฉันปล่อยมันให้รอดไปก่อน ต้องมีสักคน ฉันต้องทำให้พวกมันทรมานปางตาย! ”
“ครับ ตอนนี้ผมจะสั่งให้คนไปจับตามองพวกเขาไว้! แค่คุณชายหลีท่านสั่งการ ผู้ที่คอยจับตามองต้องฆ่าพวกมันทันที! ” ลูกน้องคนนั้นเผยนัยน์ตาที่เคล้าด้วยความเลือดเย็นและน้ำเสียงที่อาฆาต น้ำเสียงน่ากลัวอย่างมาก!
“ไม่ต้อง” หลีเช่าเทียนส่ายหัว “อย่าลงมือก่อน แค่ให้ฉันรู้การเคลื่อนไหวของเขาก็พอ”
“ยังไง ตอนนี้อย่าแตะมันไปก่อน” หลีเช่าเทียนมองเฉินเป่ยที่ไปไกลด้วยความลุ่มลึก แล้วหันหลังจากไป…….เหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น และเขาดูนิ่งเฉยเหมือนปกติ
ทว่าแค่มีเพียงยอดฝีมือหน่วยงานลับข้างกายเขาถึงจะสามารถสัมผัสได้ ฝีเท้าของหลีเช่าเทียนกลับกลายเป็นวุ่นๆ เฉินเป่ยและหลีเช่าเทียน ทำให้ฝีเท้าของเขาเกิดความวุ่นวาย!
ก่อนหน้านี้ที่เขามาถึงงานพนันพลอย ก็มั่นใจว่าจะชนะ แม้กระทั่งยังมั่นใจเต็มร้อยว่าจะสามารถจัดการกับเฉินเป่ยให้สิ้นซาก แต่ตอนนี้ หลังจากสายๆ นั้นของหลีหง ก็ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเฉินเป่ยได้
ยังไง ตอนนี้เขาไม่สามารถจัดการกับเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนให้สิ้นซาก เพราะว่านั่นก็คือการรังเกียจในเรือนร่างส่วนบน แค่ว่าหลังจากฆ่าให้ตาย แล้วสร้างหลักฐานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเอง ก็สามารถทำให้ตนเองหลุดพ้นจากความสงสัยแล้ว!
หลังจากหลีเช่าเทียนจากไป พวกยอดฝีมือหน่วยงานลับเหล่านั้นที่ตามประกบคุณชายแห่งตระกูลหลี ก็จากไปด้วย ส่วนในห้องโถงก็เงียบกริบจนไม่มีเสียงใดๆ แขกมากมายต่างก็ตะลึงงันไป! เรื่องนี้หากปล่อยออกมา ผู้ชายคนนั้นที่เรียกว่าเฉินเป่ย ชื่อเสียงของเขา ต้องโด่งดังไปทั่วเยี่ยนจิง!
แม้กระทั่งคุณชายหลียังทำอะไรเขาไม่ได้ เขามีภูมิหลังอะไรกันแน่ ถึงจะทำให้คุณชายหลีอยากจะโจมตีคนเลวก็กลัวไปกระทบคนดีที่อยู่ข้างๆ เขา?
นี่ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่นอน เป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน!
และในตอนนี้ ยอดฝีมือหน่วยงานลับคนนั้นที่เพิ่งจะได้คำสั่งก็ก้าวเท้าออกมา แล้วกวาดสายตามองแขกคนสำคัญที่มีฐานะและตำแหน่งพวกนั้น แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “ทุกท่าน คุณชายหลีสั่งการ เรื่องวันนี้ ห้ามเผยแพร่ออกไปข้างนอก! หากมีใครป่าวประกาศออกมา ก็ถือว่ากำลังเป็นศัตรูกับทั้งตระกูลหลี! ”
น้ำเสียงของยอดฝีมือหน่วยงานลับคนนั้นเหมือนดั่งฟ้าผ่าในพื้นที่ราบ แล้วกำลังสะท้อนเสียงไปยังอากาศในห้องโถงใหญ่! ทั้งห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยความเงียบกริบ!
ทุกคนต่างก็เงียบกริบ ไม่มีใครกล้าพูด!
เพราะว่านี่ไม่เพียงแต่เป็นความหมายของยอดฝีมือหน่วยงานลับ และยิ่งเป็นคุณชายหลี แม้กระทั่งยังเป็นความหมายของทั้งตระกูลหลี!
วันนี้ ตระกูลหลีอับอายขายหน้า! หากเรื่องนี้กลายเป็นหน้าหนึ่งของเยี่ยนจิง…….คุณชายหลีและตระกูลหลี ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว!
เฉินเป่ยจูงมือเรียวยาวเหมือนยกของหลีชิงเยียน แล้วเดินเข้าไปในห้องพักของเขตพนันชั้นหรู
ตลอดทาง หลีชิงเยียนทำสีหน้าที่ดูนิ่งงัน ผ่านไปสักพักก็ไม่ได้สติกลับมา สีหน้าเหม่อลอย……เธอนึกไม่ถึงเลยจริงๆ กลับใช้วิธีนี้ในการจบเรื่องนี้
หลีเช่าเทียน กลับไม่ได้โมโหเหนือที่คาดคิด
เฉินเป่ยจับมือเรียวยาวดั่งหยกของหลีชิงเยียนไว้ มือเรียวยาวและอ่อนเยาว์ของท่านประธานเทพธิดา ถูกเฉินเป่ยกุมไว้ในมือ รักและไม่คลายการจับของคน
ส่วนเฉินเป่ยที่มีมือใหญ่ๆ อันหยาบกร้านและอบอุ่นกำลังห่อหุ้มท่านประธานเทพธิดาไว้ ถึงแม้มือใหญ่อันหยาบกร้านของเฉินเป่ย หลีชิงเยียนจะไม่คุ้นเคย ทว่าภายในใจของเธอ รู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาอย่างชัดเจน เป็นความรู้สึกปลอดภัยที่น่าแปลก
หลังจากเดินเข้าไปในเขตห้องพัก เฉินเป่ยถึงพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ชิงเยียน นั่งสิ”
หลังจากหลีชิงเยียนนั่งลง เฉินเป่ยก็เทน้ำหนึ่งแก้วให้กับหลีชิงเยียน หลีชิงเยียนดื่มไปหลายคำติดต่อกัน แล้วถึงจะทำให้ตัวเองสงบสติลง
“วู่ว…….” หลีชิงเยียนถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ดวงตาคู่สวยมองเฉินเป่ย “นายรู้ตั้งนานแล้วใช่ไหมว่าต้องตอนจบแบบนี้? ”
เฉินเป่ยทำสีหน้าที่ดูเกร็ง เหมือนฟังไม่ออกว่าหลีชิงเยียนพูดอะไร แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ตอนจบอะไร? ”
“หากตอนนั้นเกิดตีกันขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง? ” หลีชิงเยียนกอดอก แล้วขมวดคิ้วเป็นปม แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงเข้มและเย็นชา
เฉินเป่ยคลี่ยิ้มอ่อนๆ “งั้นก็ตีไง ซูเหลยสามารถสู้หนึ่งต่อห้า หลีเช่าเทียนมันก็แค่สัตว์หน้ามนุษย์ หรือว่าคุณยังกลัวว่าผมจะสู้กับคนพิการคนหนึ่งไม่ไหว”
หลีชิงเยียนถูกคำพูดนี้ของเฉินเป่ยทำให้คิดไม่ออกว่าจะโต้เถียงกลับมายังไง แล้วใบหน้าสวยใสไร้ที่ติจึงเผยสีหน้าที่ไร้คำบรรยายออกมา ทำได้เพียงเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “แค่ลงไม้ลงมือ นายรู้ไหมคนที่เราไปผิดใจด้วยคือใคร นี่ไม่ใช่หู้ไห่ นี่อยู่ในเยี่ยนจิง ที่นี่เป็นถิ่นของหลีเช่าเทียน ต้องทำตัวให้เรียบง่ายหน่อย เข้าใจไหม? ”
เฉินเป่ยทำสีหน้าที่นิ่งงัน แล้วพยักหน้าทันที จากนั้นก็เผยยิ้มที่ประจบ แล้วยิ้มพูดขึ้น “เข้าใจแล้วๆ ”
หลีชิงเยียนจึงหยุดชะงักไปสักพัก แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “ดังนั้น นายไม่จำเป็นต้องทำเพื่อฉัน แล้วไปผิดใจกับหลีเช่าเทียน แบบนี้คงไม่ดีกับทุกคน”
และเฉินเป่ยก็พูดด้วยเสียงเรียบ แล้วจูงมือดั่งหยกของท่านประธานเทพธิดา พร้อมด้วยคำพูดอ่อนโยน “เพื่อคุณ ต่อให้เป็นยมบาล ถ้ากล้าแตะต้องคุณ ผมจะไม่ตอบตกลง! ยิ่งไปกว่านั้นคือหลีเช่าเทียน ถ้าเขากล้าทำอะไรกับคุณ ผมต้องล้างผลาญทั้งตระกูลหลี! ”
คำพูดนี้ของเฉินเป่ยพูดอย่างวางอำนาจมาก ส่วนหลีชิงเยียนก็มองเฉินเป่ยอย่างดูหมิ่นเพียงพริบตาเดียว แล้วเลิกคิ้วขึ้น “ล้างผลาญตระกูลหลี? นายรู้ไหมตระกูลหลีมีอำนาจที่ใหญ่แค่ไหนในเยี่ยนจิง? คุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย”
หลีชิงเยียนพึมพำด้วยเสียงเย็นชา เธอไม่มีทางใส่ใจในคำพูดของเฉินเป่ยอยู่แล้ว
และเฉินเป่ยก็หรี่ตาลงเล็กน้อย นัยน์ตาของเฉินเป่ย เปล่งประกายความเลือดเย็นชาออกมาทันที “พูดถึงตอนสุดท้าย มันก็แค่ตระกูลหนึ่งในเยี่ยนจิงเท่านั้น ถ้าผมจะให้มันตาย แล้วมันจะทำอะไรผมได้? ”
เฉินเป่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อยๆ เย็นชา แล้วพูดออกมาเป็นพยางค์ๆ
ตระกูลหลี เขาต้องไม่กลัวอยู่แล้ว ทว่าก็แค่ตระกูลเยี่ยนจิง แม้กระทั่งขนาดของมัน ยังไม่เท่าหลายตระกูลในต่างประเทศเลย!
และแม้แต่ตระกูลชั้นสูงในต่างประเทศ ตรงหน้าเฉินเป่ย ก็นยังต้องยอมอยู่ใต้อำนาจ……แค่ตระกูลหลี เขาต้องมองในสายตาด้วยหรอ?
หลีชิงเยียนจึงข้อจับกุมตัวเอง เป็นข้อต้องห้ามของตัวเอง ถ้าตระกูลหลีกล้าลองดีกับขีดกำจัดของเฉินเป่ย แน่นอนว่าต้องอยู่ด้วยความสงบและไม่มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน……..ทว่าเฉินเป่ยก็มีความคิดนี้…….เฉินเป่ยต้องไม่สนใจอะไรสักอย่าง แล้วยังทำให้ตระกูลหลีถูกกำจัด……..ไปจากดินแดนหัวเซี่ย! “”
ถ้าเขาออกหน้า ต้องเป็นความฝันร้ายอันน่ากลัวแน่นอน!
เขาไม่กลัวการแก้แค้นของเยี่ยนจิง……เขาได้รับการสั่งสอนมาแล้ว……แผ่นดินนี้ที่อยู่ใต้เท้าของเขา ไม่มีใครรู้ เฉินเป่นเคยตายไปหนึ่งครั้งตั้งนานแล้ว ดังนั้น เขาจะกลัวตายอีกได้ยังไง?!
หลีชิงเยียนจับจ้องเฉินเป่ยไว้ เวลานี้ ความรู้สึกของผู้หญิงย่อมไวต่อความรู้สึกกว่าผู้ชาย เวลานี้ จู่ๆ หลีชิงเยียนก็สัมผัสได้ทันที เฉินเป่ยในเมื่อกี้นี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าคว่ำดิน ไม่ว่านัยน์ตาแบบนั้น น้ำเสียง และพลังบนเรือนร่างของเขา ก็ไม่เหมือนอันธพาลที่ถูกคนเหยียดหยามคนนั้น!
……..
เขตพนันขั้นพรีเมียม ในห้องเหมาส่วนตัวหนึ่งที่
อวี้ย้งเซวียนยืนอยู่ข้างหน้าต่าง แล้วกำลังฟังการรายงานของลูกน้อง มุมปากค่อยๆ กระตุกโค้งขึ้น เขาพูดด้วยเสียงเรียบ “รู้แล้ว แกออกไปเถอะ”
“ครับ” ลูกน้องคนนั้นรายงานจบก็หันหลังเดินจากไป
“เอ๋อตงเฉิน แกยังรนหาที่ตายเลยจริงๆ ” อวี้ย้งเซวียนพึมพำด้วยเสียงต่ำ ในนัยน์ตา เปล่งประกายความเลือดเย็นออกมา
“แม้กระทั่งหลีเช่าเทียนยังกล้าผิดใจ นี่แกกำลังสร้างโอกาสให้ฉันจริงๆ ” อวี้ย้งเซวียนแสยะยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพึมพำขึ้น
หลีชิงเยียน เป็นคุณชายรองของตระกูลหลีที่สุดเลื่องชื่อ เป็นตระกูลพนันพลอย อวี้ย้งเซวียนต้องรู้ในความสามารถอันอัศจรรย์ของโลกธุรกิจในเยี่ยนจิงอยู่แล้ว!
และหลังจากที่หลีเช่าหงตายไป หลีเช่าเทียนก็ยิ่งสูญเสียคู่แข่งหนึ่งเดียวไป จึงได้ตำแหน่งในตระกูลหลีเหมือนน้ำขึ้นเรือย่อมสูง
หากไม่มีเหตุการณ์ที่คาดคิดไม่ถึง หลีเช่าเทียนต้องได้เป็นทายาทสืบทอดของหลีหง!
สุดท้ายตอนอยู่ในงานพนันพลอย เฉินเป่ยกลับท้าทายและข่มเหงหลีเช่าเทียน! นี่หลังจากที่ถูกลูกน้องของอวี้ย้งเซวียนเห็นเข้า จึงรีบมารายงานอวี้ย้งเซวียน
การท้าทายคุณชายหลี เฉินเป่ยต้องไม่มีทางมีชีวิตออกจากงานการพนันพลอยแน่นอน ต้องตายอย่างไร้ข้อสงสัย! นี่มันเท่ากับว่าเป็นเรื่องที่มดแดงคิดจะเขย่าต้นไม้ใหญ่เลย!
นี่คงไม่อยากมีชีวิตต่อไปจริงๆ!
ส่วนอวี้ย้งเซวียนก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก เพราะว่าเฉินเป่ยได้ให้เขาสร้างเพื่อน
พอนึกถึงแบบนี้ อวี้ย้งเซวียนจึงพูดด้วยเสียงดังทันที “มานี่”
ประตูห้องเปิดออก แล้วก็มีเรือนร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา “คุณชายอวี้”
“ผู้อาวุโสไม่กี่ท่านเมื่อไหร่จะถึงหู้ไห่? ” อวี้ย้งเซวียนถามด้วยเสียงเรียบ
“คืนนี้แหละครับ” อวี้ย้งเซวียนพยักหน้า แล้วพูดขึ้น “ติดต่อหลีเช่าเทียนให้ฉัน บอกว่ามีโปรเจคลงทุนอย่างหนึ่ง เขาน่าจะสนใจมาก”
“ลงทุน? ” ลูกน้องคนนั้นยืนขึ้น แล้วมองอวี้ย้งเซวียนด้วยสีหน้าที่สงสัย
ในความทรงจำของลูกน้องคนนี้ คุณชายอวี้ ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจ ลงทุนเป็นเหมือนคำพูดเวทมนต์ เรื่องเกี่ยวกับการเงิน เขาไม่มีทางไปทำความเข้าใจแม้แต่นิดเดียวอยู่แล้ว
คุณชายอวี้กลับพูดถึงลงทุนอย่างฉับพลัน ทำไมจู่ๆ เขาถึงสนใจเรื่องยี้ขึ้นมา?
อวี้ย้งเซวียนจึงค่อยๆ เดินไปตรงโซฟา แล้วนั่งลง จากนั้นก็เล่นถ้วยชากระเบื้องที่อยู่ในมือ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบเฉย “นี่เกี่ยวกับโปรเจคการลงทุนของเอ๋อตงเฉิน ฉันคิดว่าคงไม่ทำให้เขาผิดหวัง”
“ครับ! ”
…….
ตอนหัวค่ำ เมื่อแสงอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าจึงทำให้ท้องฟ้าเคล้าด้วยแสงสีแดง เมฆเป็นก้อนใหญ่ๆ ก็แดงก่ำ เพราะถูกแสงสีแดงทองย้อม เป็นภาพที่เจิดจรัส ทำให้ดึงดูดสายตาคน
สนามบินเยี่ยนจิง ในลานจอดเครื่องบิน อวี้ย้งเซวียนยืนอยู่ตรงนั้น ส่วนข้างเขา ก็มียอดฝีเท้าหน่วยงานลับที่มีทักษะไม่ธรรมดายืนอยู่เป็นคนๆ ไป ต่างก็สวมใส่ชุดสูทที่เรียบง่าย และแว่นดำดำ สีหน้านิ่งเฉย เหมือนเป็นหุ่นยนต์
เครื่องบินลำหนึ่งขับมาจากสุดขอบเขตที่ห่างไกล แล้วตามด้วยเสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ดังสนั่น ค่อยๆ จอดลงในเขตสนามบิน
เครื่องบินลำส่วนตัวที่หรูหรามากนี้จอดลงเสร็จ ประตูเครื่องบินก็เปิดออก แล้วก็มีผู้เฒ่าคนหนึ่งสวมใส่ชุดคลุมยาวสีเขียวหนึ่งคน ปรากฏอยู่ตรงประตูเครื่องบิน
ผู้เฒ่าค่อยๆ เดินลงมาจากบันได ข้างหลังผู้เฒ่า มีผู้เฒ่าที่สวมใส่ชุดคลุมยาวหลายสีหลายท่านตามมา การปรากฏของพวกเขาแต่ละคน เหมือนสามารถทำให้อากาศสั่นไหว!
การปรากฏของผู้เฒ่าพวกนี้ เหมือนสามารถทำให้อากาศแข็งตัวไปทันที…….พวกเขาทุกคน ต่างก็แผ่ซ่านความเลือดเย็นและความอาฆาตออกมา