สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 344
บทที่ 344 คุณเฉิน!
…….
เมืองหู้ไห่ ในวิลล่าหลังเล็กหนึ่ง
ยอดฝีมือแต่ละคนตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก แล้วกำลังมุมเตียงของหัวหน้าหลี่ แล้วกำลังนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
พวกเขาแต่ละคนได้รับบาดเจ็บกันไม่มากก็น้อย แล้วมองหัวหน้าหลี่ที่เหมือนกำลังจะสิ้นชีวิต สีหน้าเคล้าด้วยความโมโห
“หัวหน้า ผมจะไปฆ่าไอ้สารเลวพวกนั้นให้ได้! ” หนึ่งในยอดฝีมือกัดฟัน สองมือกำเป็นหมัด ทั้งร่างสั่นเทาไปหมด!
หัวหน้าหลี่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจแผ่วเบา เหมือนสามารถตายได้ตลอดเวลา เขามองยอดฝีมือไว้ แล้วส่ายหน้าด้วยความยากลำบาก เหมือนจะใช้กำลังทั้งงหมดในร่างกายที่มี แล้วพูดด้วยความลำบากหนึ่งประโยค “ไม่ได้ พวกเขาซุกซ่อนความสามารถไว้มากเกินไป……”
“หัวหน้า ผมจะไปหาหมอที่ดีที่สุดของเมืองหู้ไห่มานี่” สายลับอีกคนก็พูดขึ้น
หัวหน้าหลี่ส่ายหัว “ร่างกายของฉัน……ฉันรู้ดีเอง ตระกูลตู้และจาง ตั้งใจทำให้ฉันเป็นพิการ นี่เป็นการตักเตือนของพวกเขา
“หัวหน้า พวกเรากลับไปที่เยี่ยนจิงเถอะ ไปรายงานกับเบื้องบน ขอให้พวกเขาส่งกำลังเสริมมาช่วย” หนึ่งในหน่วยงานลับพูดขึ้น
“ไม่ได้ ตระกูลตู้และจางหลายปีมานี้ได้ค้ายาจนได้เก็บเงินอย่างมหาศาล และได้แอบพัฒนาความสามารถอย่างลับๆ ภายนอกซุกซ่อนความสามารถเอาไว้……ต่อให้เบื้องบนส่งคนมามากแค่ไหน แค่ยิ่งอยู่ยิ่งเสียเปรียบมากขึ้น” หัวหน้าหลี่กัดฟันกรอด แล้วใช้กำลังทั้งหมดที่มีบนเรือนร่าง พร้อมกับกัดฟันพูดขึ้น
“งั้นควรทำยังไง หรือว่าพวกเรารอตายที่นี่? ” หน่วยงานลับหนึ่งคนเอ่ยพูดด้วยสีหน้าที่แย่
จู่ๆ หัวหน้าหลี่ก็พยายามพยุงร่างกายที่พิการแล้วอยากจะลุกขึ้น ทว่ากลับยังคงไม่สามารถลุกขึ้นอย่างสำเร็จ
“ไม่ ยังมีอีกวิธี ต้องดูว่าเขาจะยอมหรือไม่ยอม” หัวหน้าหลี่ทำนัยน์ตาที่มัวพร่า จู่ๆ ก็เปล่งประกายแสงออกมา!
……..
ตอนกลางดึก เฉินเป่ยเพิ่งจะออกจากห้องน้ำ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ของเขา เรือนร่างที่แข็งแกร่งนั้น มีหยดน้ำเท้าเมล็ดถั่วกำลังไหลลง
จากบนเรือนร่างของเฉินเป่ย มีไอน้ำสีขาวลอยออกมา เฉินเป่ยใช้ผ้าเช็ด หยดน้ำบนเรือนร่างแห้ง แล้วเดินไปถึงข้างหน้าต่าง
และในเวลานี้ เสียงแจ้งเตือนมือถือของเฉินเป่ยดังขึ้น เฉินเป่ยควักมือถือออกมา แล้วใช้สายตากวาดมองหน้าจอ นัยน์ตาชะงักไป……นี่คือเบอร์มือถือที่เคยผ่านการใส่รหัส…..สามารถโทรหาโทรศัพท์เครื่องนี้ได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดา!
เฉินเป่ยรับสาย ปลสยสายก็มีเสียงดังขึ้น“ใช่คุณเฉินไหม”
“ใช่”
“เราคือคนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ พวกเราใช้มือถือของหัวหน้าหลี่โทรหาคุณ” ทางสาย มีคนๆ นั้นแนะนำตัวไปสักพัก เขาคือหน่วยงานลับของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ
“หัวหน้าหลี่? ” เฉินเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร แค่เอ่ยถามอย่างเร่งรีบ “หัวหน้าหลี่เป็นยังไงบ้างแล้ว? ”
“หัวหน้าหลี่……” หน่วยงานลับคนนั้นนิ่งงันไปชั่วขณะ แล้วพูดตามความจริง “ตอนนี้หัวหน้าหลี่มีแผลเต็มตัว……ถูกคนตีจนพิการ”
ฉึก!
เฉินเป่ยทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป ทันใดนั้น บนเรือนร่างของเขา แผ่ซ่านความอาฆาตอันเลือดเย็นออกมา!
เฉินเป่ยยังคงสีหน้าที่นิ่งเฉย แค่ใบหน้าของเขาเลือดเย็นมาก นัยน์ตาเคล้าด้วยความแปลกใจ!
“นี่เป็นไปได้ยังไง พวกคุณแน่ใจหรอ? ” เฉินเป่ยเอ่ยถามด้วยเสียงเข้ม
“เมื่อวาน หัวหน้าหลี่พาพวกเราปฏิบัติงาน อยากจะสืบหาหลักฐานที่ตระกูลตู้และจางซุกซ่อนยาเสพติดเอาไว้……สุดท้ายใครจะไปรู้ว่านี่เป็นกับดักของทั้งสองตระกูล ตระกูลตู้และจาง หลายปีมานี้ทำตามไม่โดดเด่นมาก พวกเขาซ่อนความสามารถมาโดยตลอด ตามความสามารถของพวกเขา ต่อให้เป็นหลายๆ ตระกูลในเยี่ยนจิงก็ยังเทียบไม้ได้! ” หน่วยงานลับคนนั้นจึงพูดที่มาที่ไปออกมา
“หัวหน้าหลี่พาพวกเขาไปล้อมพื้นที่ตามปกติ ทว่ายังคงไม่เป็นอะไรมาก ทีมล้อมพื้นที่ของพวกเราโดนไปบางส่วน ส่วนมากต่างก็ถูกจับไปพร้อมกับหัวหน้าหลี่ ตระกูลตู้และจางจับหัวหน้าหลี่ไปทรมาน หลังจากที่ตีตัวเป็นๆ ให้กลายเป็นพิการแล้ว……ค่อยปล่อยพวกเราจากมา! ”
“ปัง! ” หน่วยงานลับคนนั้นพูดจบ แล้วเฉินเป่ยที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง นัยน์ตาเลือดเย็นเหมือนน้ำแข็ง จู่ๆ ฝ่ามือหนึ่งก็ตบออกไปแรงๆ บนระเบียง ทำให้ระเบียงที่ใหญ่เท่างูเล็กๆ เกิดรอยแตกแคร่กๆ
เฉินเป่ยค่อยๆ ดึงฝ่ามือกลับมา สีหน้าเลือดเย็นไร้ขีดสิ้นสุด ทั้งเรือนร่างแผ่ซ่านความอาฆาตออกมา”
“พวกคุณอยู่ที่เดิม ไม่ต้องขยับไปไหน ส่งที่อยู่ให้ฉัน” เฉินเป่ยพูดขึ้นเป็นคำๆ น้ำเสียงเรียบเฉย นัยน์ตาเลือดเย็นและคมเฉียบมาก!
ตระกูลตู้และจาง กลับกล้าแตะต้องทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ มันบ้าไปแล้วจริงๆ!
ตระกูลตู้และจาง ต้องมีภูมิหลังที่ครอบงำอะไรบางอย่าง ไม่งั้น จะกล้าแตะต้องคนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศได้ยังไง?
ทว่าเฉินเป่ยไม่สนใจพวกนี้อยู่แล้ว เฉินเป่ยแค่รู้ หัวหน้าหลี่ ไอ้ผู้เฒ่าคนนั้น ถูกตีจนกลายเป็นพิการตัวเป็นๆ!
เฉินเป่ยมาถึงหัวเซี่ย เพื่อนเก่าๆ ในแต่ก่อนก็ได้ขาดการติดต่อไปแล้ว มีแค่หัวหน้าหลี่ เป็นเพียงเพื่อนหนึ่งเดียวในหัวเซี่ยในตอนนี้!
เขากับหัวหน้าหลี่ไม่ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ทว่าทั้งสองตระกูลตู้และจาง กำลังท้าทายขีดความอดทนของเขา!
ยาเสพติด กับการกระทำความผิดที่น่ากลัว!
เฉินเป่ยทำนัยน์ตาเลือดเย็น หลังจากที่เขาโทรหาเบอร์ๆ หนึ่ง ไม่รอให้ชิงเหนียนเอ่ยพูด ก็ค่อยๆ พูดขึ้น “เอาอุปกรณ์ของฉัน ส่งไปหู้ไห่…….”
“อุปกรณ์? ลูกพี่ ใครทำให้ลูกพี่ต้องก่อการฆาตกรรมครับ? ” ชิงเหนียนนิ่งงัน น้ำเสียงชะงักงันไป เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ ราชาหลงที่เลือกถอยออกมาแล้ว ถึงว่าต่างประเทศจะเกิดสถานการณ์ที่แปรผันยังไงเขาก็ไม่สนใจ กลับในเวลานี้ จู่ๆ ก็การก่อการฆาตกรรม!
เฉินเป่ยเพิ่งจะพูดคำๆ นั้นออกไป สามารถพูดถึงได้เยอะเกินไป……ตอนเฉินเป่ยสวมใส่อุปกรณ์ชุดนั้น เขากลายเป็นมังกร ทุกที่ที่เดินผ่าน…..ต้องถูกเกิดความลำบากที่น่าเวทนา!
และก็หมายความว่า เฉินเป่ยกำลังเสี่ยงอันตรายที่จะลงมืออย่างมาก……แค่เขาใส่ชุดอุปกรณ์นั้นและปรากฏอยู่ในหัวเซี่ย ความเป็นไปได้ที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา และจะเจอกับภัยที่อันตรายมาก!
หัวเซี่ย ได้ประกาศหมายจับเกี่ยวกับราชาหลงมาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ตอนที่ราชาหลงปรากฏตัว ก็ยากที่จะรับประกันว่า จะไม่ทำให้หัวเซี่ยเกิดแผ่นดินไหว!
และชิงเหนียนรู้สึกแปลกใจมาก เขานึกไม่ถึง ว่าจะมีอะไรที่สามารถทำให้ราชาหลงยอมเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ แล้วจะลอบสังหาร!
นี่มันทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาตัดสินใจที่จะฆ่าอย่างเด็ดขาด!
เฉินเป่ยมองทิวทัศน์ตอนกลางคืนที่อยู่นอกหน้าต่างกระจกไปสักพัก ขอบฟ้าที่แสนไกล ท้องฟ้ากลางคืนที่มืดมัวนั้นลุ่มลึก เฉินเป่ยพูดออกมาเป็นคำๆ แล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ “หู้ไห่ สี่ตระกูลทอง! ”
……
เช้าวันถัดไป หลีชิงเยียนตื่นขึ้นมาจากฝันดี แล้วหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ก็เปิดมือถือ แล้วดูข่าวที่ลือกันเมื่อวานในโซเชียล ภายในคืนเดียว ก็หายไปทั้งหมดด้วยความน่าแปลก สีหน้าแปลกพิลึกเล็กน้อย ทว่าก็สามารถผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว
ทุกครั้งที่เธอเห็นคลิปวิดีโอในข่าวของเฉินเป่ยและเย่เชี่ยนหราน ภายในใจมักจะมีไฟลุกโชนไร้นามใดๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ทั้งเรือนร่างไม่สบาย ต่อให้เป็นเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
และตอนที่เธอเพิ่งจะเดินออกจากห้องนอน ก็สังเกตเห็นซูเหลยยังคงนั่งยองๆ อยู่ตรงประตู
หลีชิงเยียนชะงักงันเล็กน้อย ใบหน้าสะสวยเผยความแปลกใจออกมา แล้วเอ่ยถามซูเหลย “เธอไม่ได้ไปนอนหรอ? ”
ซูเหลยหัวเราะอย่างขมขื่น “ท่านประธานหลี ไม่มีคำสั่งของท่าน ฉันไม่กล้า”
หลีชิงเยียนสีหน้านิ่งไป เพื่อเธอ ซูเหลยกลับนั่งอยู่ตรงประตูห้องแล้วเฝ้าไปทั้งคืน!
พอนึกถึงแบบนี้ หลีชิงเยียนรู้สึกอุ่นใจ แล้วพูดในเชิงรู้สึกผิด “โทษฉันเอง เหนื่อยแล้วใช่ไหม เธอกลับไปพักผ่อนในห้องเถอะ”
ซูเหลยส่ายหน้า หลีชิงเยียนมองไปยังทิศทางห้องของเฉินเป่ย แล้วเอ่ยถามซูเหลย “ไอ้หมอนั่นเคยกลับมาไหม? ”
หลีชิงเยียนชี้ไปห้องของเฉินเป่ย
ซูเหลยมองไปในพริบตา แล้วพยักหน้า “กลับมาค่ะ แต่ก็จากไปตอนกลางดึก……” ซูเหลยพูดไปๆ ก็เริ่มพูดอย่างอ้อแอ้ สีหน้าชะงักงัน คำพูดที่อยากพูดก็หยุดไป
ท่านประธานเทพธิดาที่มีความคิดละเอียดอ่อนเหมือนเส้นผม แน่นอนว่าต้องเห็นถึงการตอบสนองเล็กๆ ของซูเหลย จึงยิ้มพูด “ไม่เป็นไร เธอพูดออกมาเถอะ”
“เขาฝากข้อความไว้ว่า……เขามีเรื่องบางอย่างต้องทำ ยังบอกว่าเรื่องของข่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด ขอให้คุณอย่าคิดมาก” ซูเหลยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยพูดขึ้น
หลีชิงเยียนฟังซูเหลยพูดจบ ก็พึมพำไปสักพัก พร้อมกับทำเสียงเย็นชา แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “ไม่ต้องสนใจเขา ปล่อยเขาไปเถอะ”
ซูเหลยพยักหน้า และหลีชิงเยียนเพิ่งจะพูดจบ จู่ๆ คิ้วทรงสวยก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย “เขาพูดไหมว่าไปไหน? ”
ซูเหลยนิ่งงัน แล้วมองหลีชิงเยียน ผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้สติกลับมา ไม่ใช่บอกว่าไม่สนใจเขาแล้วหรอ?
…….
จนถึงตอนบ่าย สนามบินนานาชาติหงโข่วในหู้ไห่ เครื่องบินลำส่วนตัวลำหนึ่ง กำลังบินมาจากสุดขอบฟ้า จากนั้นก็ค่อยๆ ลงจอดลงบนรันเวย์
ประตูเครื่องบินเปิดออก มีคนๆ หนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าชำรุด แล้วเป็นผู้ชายที่สกปรกเลอะเทอะไปทั้งตัวปรากฏอยู่ตรงหน้าประตูห้องโดยสาร
ผู้ชายคนนั้นเอามือทั้งสองข้างสอดเข้ามาในกางเกง แล้วสวมแว่นดำ ดูจากสภาพแล้ว แตกต่างจากเศรษฐีที่เดินออกจากเครื่องบินลำส่วนตัว และเป็นบุคคลชั้นสูงอย่างสิ้นเชิง
เขาเหมือนแอบลักลอบเข้ามามากกว่า
ตรงที่ไม่ไกลจากเครื่องบินลำส่วนตัวนี้ มีเรือนร่างหนึ่งยืนอยู่ และมีเรือนร่างที่ใส่ชุดสูทสีดำ แว่นดำ และรองเท้าหนังสีดำ……เรือนร่างแต่ละคนยืนอยู่ตรงนั้น เรือนร่างยืดตรงอย่างสง่า นัยน์ตาเฉียบคมของทุกคนเหมือนสามารถทะลุออกมาผ่านแว่นดำได้!
พวกเขายิ่งเหมือนหุ่นยนต์……พวกเขาเป็นคนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ เป็นหน่วยงานลับที่หัวหน้าหลี่เป็นคนฝึกออกมา!
ไม่ว่าจะเป็นทักษะหรือว่าคุณสมบัติ ก็เหนือกว่าสายลับทั่วไป! พวกเขาเป็นบุคคลที่ถูกเลือกออกมา!
เฉินเป่ยเอามือสอดกางเกงทั้งสองข้าง ขณะที่กวาดสายตามองทิวทัศน์รอบๆ อย่างผิวเผิน ก็ได้ก้าวลงมาจากบันไดอย่างท่าทางที่เซไปเซมา
เฉินเป่ยเหมือนไม่เห็นสายลับพวกนี้ หรือเปลี่ยนวิธีการพูดก็คือ……สายลับเหล่านี้ ไม่ได้เข้ามาเฉินเป่ยเลยสักนิด!
สายลับเหล่านั้นแหงนหน้ายืดอก แล้วยืนอยู่ตรงนั้น เรือนร่างของทุกคนเผยความเย่อหยิ่งออกมา!
และผ่านไปสักพัก สายลับเหล่านี้ยังไม่เห็นเฉินเป่ยลงมา และกำลังทำตัวชักช้าอยู่ตรงบันได ใต้แว่นดำของคนพวกนี้ นัยน์ตาเผยความโมโหออกมา
เฉินเป่ยเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว พวกเขามาที่นี่เพื่อนหัวหน้าหลี่ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้ที่อยู่ในสาย กลับเป็นคนแบบนี้!
บ้าบิ่นเกินไปแล้ว ไม่มองใครในสายตา เขานึกว่าตัวเองเป็นใคร เทพเจ้าบนสวรรค์หรอ? เย่อหยิ่งไร้ขีดสิ้นสุด