สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 348
บทที่ 348 ความโมโหของราชาหลง!
หลุมเลือดนั้น แน่นอนว่าเป็นแสงสีดำที่หลังจากผ่าผ่านกระสุน จากนั้นฝ่าทะลุสมองของคนตระกูลตู้!
คนตระกูลตู้คนนั้นยืนอยู่ที่เดิม ก่อนหน้ายังถลึงตาโต นัยน์ตานั้นเคล้าด้วยความไม่น่าเชื่อ เหมือนเขาไม่เชื่อจริงๆ ว่า กระสุนนั้นกลับสามารถผ่าให้แตกเป็นเสี่ยงด้วยแสงสีดำนั่น!
ตรงหน้าประตูบ้านของตระกูลตู้ เต็มไปด้วยความเงียบสงบ สงบจนทำให้คนรู้สึกขนลุก!
เรือนร่างชุดแดงยืนอยู่ที่เดิม และหน้ากากนั้นเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมที่เลือดเย็น! สีหน้าที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม……ในปากมีเขี้ยวที่เหมือนดั่งสัตว์ป่า…….หว่างคิ้วยิ่งมีโทเทมโบราณอยู่หนึ่งอัน เหมือนเป็นสัตว์ในตำนานบางอย่างที่คอยปกปักรักษาของหัวเซี่ย!
คนในตระกูลตู้ทั้งสองคนนี้แน่นอนว่าต้องมีความรู้งูๆ ปลาๆ ดูไม่ออกว่าหน้กากนี้……ทว่าคนต่างประเทศไม่เหมือน หากหน้ากากนี้ปรากฏอยู่ต่างประเทศ ต้องทำให้เกิดสถานการณ์ที่อาบเลือดอย่างยากที่จะจินตนาการแน่นอน!
เพราะว่า ทั้งโลก มีเพียงหนึ่งคนที่มีสิทธิ์สวมใส่หน้ากากนี้ เขา ยืนอยู่ตรงยอดสูงสุดของโลก!
คนๆ นี้ก็คือราชาหลง!
เฉินเป่ยเดินไปคนในตระกูลตู้คนนั้น แล้วผลักเบาๆ คนในตระกูลตู้ก็ล้มลงบนพื้น เฉินเป่ยถึงจะเดินไปข้างๆ แล้วเก็บมีดหลงหยาขึ้น
หลังจากเก็บมีดหลงหยา เฉินเป่ยเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปยังบ้านสุดหรูที่อยู่ไกลๆ ใต้หน้ากาก สีหน้าของเฉินเป่ยเลือดเย็นดั่งน้ำแข็ง……เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยเสียงเข้มทันที “ตระกูลตู้ ออกมาเดี๋ยวนี้! ”
โคร่งๆ!
เสียงที่เคร่งขรึมอขงเฉินเป่ยลากยาว และความอาฆาตระเบิดออกมาจากเรือนร่างของเขา แล้วพุ่งขึ้นไปบนฟ้า!
น้ำเสียงของเฉินเป่ยตามมาด้วยความอาฆาตที่พุ่งขึ้นบนฟ้า เหมือนได้ไปกระตุ้นเวหา! เวหาที่อึมครึมและเคล้าด้วยความมัวหมอง เมฆสีดำปกคลุมมากมาย มีแสงฟ้าผ่าทำให้ทำลายท้องฟ้าอันอึมครึม และมีเทพฟ้าผ่ากำลังร้องคำราม จากนั้นก็มีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย
และเสียงของเฉินเป่ยก็ดังขึ้นเหมือนฟ้าผ่า จนกว่าส่งไปถึงในบ้านสุดหรูของตระกูลตู้ เสียงๆ นั้นส่งเข้าหูของทุกคนอย่างชัดเจน!
“ตระกูลตู้ ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้! ”
“ไสหัวออกมา! ”
“ไสหัวออกมา! ”
เสียงของเฉินเป่ยสะท้อนไม่หยุด แล้วได้ปะปนกับเสียงฟ้าผ่า เหมือนดั่งฟ้าก็กำลังร้องอย่างโมโหไปพร้อมๆ กับเฉินเป่ย!
ในบ้านสุดหรูของตระกูลตู้ ในห้องรับแขก ชายวัยกลางคนกับผู้เฒ่าชุดดำกำลังชิบชากันอย่างสบายใจ หลังจากได้ยินเสียงตะโกนอันโมโหนี้ มือของชายวัยกลางคนสั่นสะเทือนทันที แล้วแก้วชาเครื่องเคลือบชั้นดีก็หลุดลงมาจากมือ แล้วกระแทกลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ!
สาวสวยที่อยู่ข้างๆ เห็นจึงทำสีหน้าที่กระวนกระวายเล็กน้อย แล้วรีบไปเก็บเศษ และทำความสะอาดให้เรียบร้อย
และชายวัยกลางคนกลับไม่สนใจแก้วชาเครื่องเคลือบนี้ แล้วยืนขึ้นด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน พอมองไปข้างนอกตระกูลตู้ นัยน์ตาจึงลุ่มลึก
“เขากลับกล้ามาเยือนถึงที่” ชายวัยกลางคนพูดเองเออเอง
“อำนาจถูกพวกเขาครองไว้ในใจ เขาไม่สามารถไม่มาตายอย่างไม่เชื่อฟังได้” ผู้เฒ่าชุดดำหัวเราะเสียงดัง “แค่ว่าเขาครอบงำเกินไป กลับกล้าทำให้พวกเราออกมา เขาเองก็ไม่รู้ นี่เขากำลังมาตาย! ”
ผู้เฒ่าชุดดำโบกมือ แล้วพูดกับชายวัยกลางคน “ไป พวกเราไปเจอเขา จัดการกับเขา ตระกูลตู้และจาง ต้องปลอดภัย”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า ใบหน้าที่นิ่งเฉยนั้นหายไปทันที แล้วทำให้ผุดออกมาซึ่งความเย็นชา และเคล้าด้วยความเย็นชาที่อาบเลือด!
“เรียกคน! ”
ชายวัยกลางคนตะโกนด้วยเสียงดัง และสาวเท้าออกไปข้างนอกบ้านกับผู้เฒ่าชุดดำ
ฉึก!
ตอนที่พวกเขาเพิ่งจะเดินออกจากบ้าน ตรงสวนของบ้าน มีคนของตระกูลตู้มากมายออกมาจากข้างใน คนของตระกูลตู้ที่แออัดกันนี้ ออกจากบ้านสุดหรู และค่อยๆ มาถึงนอกบ้านสุดหรู แล้วกวาดสายตามองไป คนมากมายกำลังพุ่งออกจากกลางสวนด้วยความบ้าคลั่ง!
คนของตระกูลตู้นับไม่ถ้วน ภายใต้การนำพาของนายท่านตระกูลตู้และผู้เฒ่าชุดดำ ไม่นานก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าประตู
ตอนที่ผู้เฒ่าชุดดำมองเฉินเป่ย ก็นึกว่าตัวเองมองผิดไป จึงได้ถอดแว่นดำลง แล้วมองอย่างละเอียด
นายท่านตระกูลตู้ สีหน้าเคล้าด้วยความนิ่งสงบ แม้กระทั่งยังดูมั่นหน้า เขาสังเกตมองเฉินเป่ยจากที่สูง แล้วค่อยๆ ถามขึ้น “ทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ ไปรับถึงสนามบินโดยเฉพาะ ก็คือไปรับแกหรอ? ”
เฉินเป่ยยืนอยู่ตรงนั้น ได้ยินนายท่านตระกูลตู้พูด ภายใต้หน้ากากจึงกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ตอบกลับ “ฉันเอง มีปัญหาอะไรหรอ? ”
“แน่นอนว่าไม่มี” นายท่านตระกูลตู้ส่ายหัวช้าๆ แล้วพูดขึ้น “แค่ฉันรู้สึกคาดคิดไม่ถึง ทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ กลับต้องการคนชั้นต่ำเช่นนี้อย่างแก”
เฉินเป่ยกวาดสายตามองไปคนที่อยู่ด้านหลังของนายท่านตระกูลตู้ แล้วถาม “คนครบหรือยัง? ”
“แกอยากทำอะไร? ” นายท่านตระกูลตู้ถามขึ้น
“ส่งหัวหน้าหลี่ออกมา ไม่งั้น ไม่ไว้ชีวิตสักคน! ” เฉินเป่ยไม่ได้พูดด้วยเสียงดัง กลับเป็นเสียงที่เข้าหูทุกคนอย่างชัดเจน
นายท่านตระกูลตู้ทำหน้าสงสัย ได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเป่ย เขาหันไปแล้วกวาดสายตาข้างหลังที่มีคนแออัดกันไว้มากมาย และก็สบตากับผู้เฒ่าชุดดำ จู่ๆ ทั้งสองก็หัวเราะเสียงดัง
นายท่านตระกูลตู้หยุดหัวเราะ แล้วอดกลั้นความอยากหัวเราะไว้ แล้วมองเฉินเป่ย แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “ไม่ไว้ชีวิตสักคน? แกแน่ใจหรอ? แกคนเดียวจะสู้เดี่ยวๆ กับพวกเรา? ยังไม่ไว้ชีวิตสักคน? ”
“ไม่ใช่คนบ้าที่หนีออกจากโรงพยาบาลบ้านะ กลับกล้าพูดคำพูดที่ไม่มีไอคิวแบบนี้ เขาเห็นว่าตัวเองเป็นใคร? ” ผู้เฒ่าชุดดำอีกหนึ่งคนยิ้มพูดขึ้น
นายท่านตระกูลตู้ จึงได้พูดกับลูกน้องคนหนึ่ง แล้วชี้ไปยังเฉินเป่ยพลางพูด “ไปสืบเขามาหน่อย ดูว่าเขาหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าไหม? ”
เฉินเป่ยไม่ได้สนใจการเหยียดหยามของนายท่านตระกูลตู้และผู้เฒ่าชุดดำ แค่พูดด้วยเสียงเรียบเฉย “ไม่ส่งออกมา ผลที่ตามมาก็รับผิดชอบเอง”
“ส่งๆๆ แน่นอนว่าส่งสิ” นายท่านตระกูลตู้ยิ้มอย่างฝืนทน แล้วตั้งใจพูดอย่างเรียบเฉย “แค่ว่าที่นี่ฝนตกหนักเกินไป ฉันไม่สามารถอยู่ต่อที่นี่นานๆ ต้องการให้แกให้ความร่วมมือพวกเราหน่อย เข้าไป ฉันจะปล่อยคนเอง”
นายท่านตระกูลตู้พูดไปแล้ว แล้วหันไปชี้ไปยังบ้านตระกูลตู้
ผู้คนที่แออัดมากมาย จึงได้แยกย้ายแล้วหลีกทางออกมาหนึ่งเส้น
สายตาแต่ละคนจับจ้องเฉินเป่ยไว้ แล้วเผยความเหยียดหยามและเย้ยหยันออกมา ทุกคนของตระกูลตู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็เดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาต่อไป เฉินเป่ยหันหลังแล้วกำลังจะหนี สุดท้ายก็ถูกพวกเขาจู่โจมจนตาย!
“ไม่กล้าหรอ? งั้นก็พูดออกมา” นายท่านตระกูลตู้มองเฉินเป่ยอย่างท้าทายมาก แล้วกำลังพูดด้วยความเรียบง่าย
จู่ๆ เฉินเป่ยยกเท้า แล้วเดินไปที่บ้านของตระกูลตู้ แต่ละก้าว ก็ได้เดินไปอย่างมั่นคง!
คนไม่น้อยรู้สึกแปลกใจ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกคาดคิดไม่ถึง และนายท่านตระกูลตู้จับจ้องเรือนร่างของเฉินเป่ย นัยน์ตาเคล้าด้วยความเจ้าเล่ห์
เขายิ้มอย่างเย็นชา เขาไม่มีทางบอกเฉินเป่ย เข้าไปในบ้านตระกูลตู้ ก็เท่ากับว่าก้าวเข้าไปในนรก!
ฟ้ามีทางเดินแกไม่เดิน นรกไม่มีประตูแกกลับฝ่าเข้ามา!
โคร่งๆ!
บนฟากฟ้ามีเสียงสะท้อนของฟ้าผ่าดังขึ้น ฝน ตกยิ่งหนัก แทบเหมือนฝนเทลงมา แล้วกำลังล้างบ้านตระกูลตู้ให้สะอาด เหมือนจะทำให้เลือดคาวและความบาปผิดของบ้านตระกูลตู้ ถูกล้างให้สะอาดจนหมด!