สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 354
บทที่354 ปะทะกัน!
ซู่!
วินาทีนั้น เวลาราวกับแข็งตัวแล้ว บรรยากาศเงียบผิดปกติ แม้แต่เข็มตกยังได้ยิน
ชั่วขณะนั้นนายใหญ่ตระกูลจางสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา มองทางผู้ชายท่านนั้น เอ่ยปากอย่างรู้สึกผิดเต็มที่ “ขออภัยด้วยครับ ที่ตระกูลมีธุระบางอย่างต้องจัดการ…เพื่อความปลอดภัยของท่าน เชิญท่านกลับก่อนเถอะครับ”
ผู้ชายท่านนั้นพยักหน้าแล้ว นายใหญ่ตระกูลจางพูดกับคนรับใช้ด้านข้าง “พาคุณผู้ชายท่านนี้ออกไปทางลับของตระกูล”
ในใจจางหงเหลียงสั่นเล็กน้อย…เส้นทางลับ นี่คือความลับใหญ่ที่สุดของตระกูลจาง ตอนที่ตระกูลจางเผชิญหน้ากับวิกฤตอันตรายที่ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ถึงจะให้สมาชิกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดภายในตระกูลออกไป เป็นการรักษาเชื้อไฟไว้
แต่เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ชายท่านนี้ คาดไม่ถึงนายใหญ่ให้เขาออกไปจากเส้นทางลับของตระกูลจาง…สถานะของผู้ชายคนนี้มีความลึกลับมากเพียงใด ถึงต้องให้นายใหญ่ตระกูลจางไม่สนใจความลับใหญ่สุดของตระกูลจางได้ และต้องรับประกันความปลอดภัยของเขา
ในใจจางหงเหลียงสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง…ส่วนผู้ชายท่านนี้พยักหน้าแล้ว ลุกขึ้นมองนายใหญ่ตระกูลจางทีหนึ่ง สายตาลุ่มลึก พูดแบบมีความสนใจ “ผมจะพิจารณาคุณดู”
พูดจบ ผู้ชายท่านนั้นก็ค่อยๆ หมุนตัวจากไป ภายใต้การนำทางของคนรับใช้ หายไปในโถงทางเดิน
“เฮ้อ……” นายใหญ่ตระกูลจางมองภาพด้านหลังของผู้ชายท่านนั้นอยู่ หายใจออกทีหนึ่ง ราวกับยกภูเขาออกจากอก
“นายใหญ่…สรุปเขาเป็นใครกันครับ ถึงขั้นต้องนำความลับของตระกูลพวกเรามาปกป้อง” จางหงเหลียงมองทางที่ผู้ชายท่านนั้นหายลับไปถามขึ้น
นายใหญ่ตระกูลจางชายตามองจางหงเหลียงแวบหนึ่ง ยกมุมปาก พูดด้วยความสงบลุ่มลึก “เขาเป็นใคร คุณไม่รู้จริงเหรอ?”
ในใจจางหงเหลียงสั่น นายใหญ่ตระกูลจางหมุนตัวกลับ ค่อยๆ เอ่ยปาก “ผู้นำของเมืองนี้…พอที่จะมองทุกชีวิตในหัวเซี่ยได้อย่างหยิ่งยโส บุคคลที่ยืนอยู่บนยอด……”
นายใหญ่ตระกูลจางน้ำเสียงล้ำลึกอย่างไร้ขอบเขต ทำให้ตอนที่จางหงเหลียงได้ยินคำพูดของนายใหญ่ซึ่งอายุน้อยกว่าตนเองหลายสิบปีผู้นี้เข้า ในใจสั่นสะเทือนอย่างแรง แววตาเผยความตกใจอย่างดุเดือดและยากจะเชื่อ
เมื่อสักครู่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตนเอง ที่พูดคุยหัวเราะกับนายใหญ่ตระกูลจาง คาดไม่ถึงจะเป็นผู้นำของเมืองแห่งหนึ่ง การมีตัวตนในตำนาน
“คาดไม่ถึง…มีตัวตนอยู่จริง!” จางหงเหลียงสีหน้าซีดเผือดโดยฉับพลัน ถึงแม้เขาจะเครือข่ายกว้างขวาง ความรู้ประสบการณ์มากมาย เป็นตระกูลร่ำรวยมีอำนาจของหู้ไห่ แต่สำหรับผู้ชายในตำนานที่ยืนอยู่บนยอดของหัวเซี่ยท่านนี้ เขายังไม่มีข้อมูลมากนัก……..ในฐานะผู้นำของหู้ไห่ เขาช่างธรรมดาเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เมื่อสักครู่เขาพุ่งเข้าคฤหาสน์มา ทั้งชีวิตนี้อาจจะไม่รู้ถึงการมีตัวตนของบุคคลอันดับหนึ่งเช่นนี้
ในใจจางหงเหลียงสั่นเทา เขายิ่งนึกไม่ถึงว่าบุคคลที่มีเพียงตัวตนในตำนานท่านนี้จะมาเยือนตระกูลจาง นายใหญ่ตระกูลจางจะไม่มีคุณธรรมความสามารถเลยเหรอ ถึงสามารถให้ท่านผู้นี้เดินทางมาเยือนด้วยตนเอง
“เกี่ยวกับการมีตัวตนของเขา คุณรู้ว่าควรทำยังไง” นายใหญ่ตระกูลจางจ้องมองทางที่ผู้ชายท่านนั้นหายลับไป สีหน้าค่อยๆ ล้ำลึก น้ำเสียงเผยความซับซ้อนที่คนอื่นยากจะเข้าใจ
จางหงเหลียงกลืนน้ำลายแล้ว พยักหน้าด้วยความยากลำบาก ตอบว่า “รู้ครับ วันนี้ตอนบ่าย มีเพียงคุณนั่งอยู่ในคฤหาสน์คนเดียวมาโดยตลอด ไม่มีใครเข้ามาครับ”
นายใหญ่ตระกูลจางพยักๆ หน้า ราวกับยอมรับความคิดของจางหงเหลียงแล้ว
จางหงเหลียงหายใจลึกๆ ไม่ขาดสาย นายใหญ่ตระกูลจางให้เขาปิดปากเงียบ คิดเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาจะทำได้จริงได้อย่างไรกัน
นั่นเป็นบุคคลที่มีตัวตนเพียงในตำนานเลยนะ ถ้าไม่ใช่วันนี้ ทั้งชีวิตนี้ของเขาอาจจะไม่ได้เจอเลย
นายใหญ่ตระกูลจางหมุนตัว มองทางด้านนอกคฤหาสน์ สายตาที่ล้ำลึกมองทอดยาวไปไม่ขาดสาย “ไปเถอะ ไปเจอเขาหน่อย”
ขณะที่นายใหญ่ตระกูลจางพูดอยู่ สีหน้าเย็นชาทันใด จางหงเหลียงที่อยู่ด้านข้างสั่นสะท้านทั่วตัวอย่างอดไม่ไหว รู้สึกถึงแรงอาฆาตที่หนาวเหน็บแผ่ปกคลุมไปทั่ว
ทั้งตัวของนายใหญ่ตระกูลจางแพร่กระจายกลิ่นอายอาฆาตแค้นออกมา ทำให้จางหงเหลียงเกิดความตื่นตระหนกหวาดกลัวนิดๆ
“หลังจับคนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศมา เขาก็เข้ามาฆ่าแล้วครับ นายใหญ่ตระกูลตู้วางแผนซุ่มโจมตี พอจะพูดได้ว่าวางแผนไว้รัดกุมอย่างดี อยากจะฆ่าเขา แต่กลับไม่มีทางขัดขวางการสังหารของเขาได้สักนิดเลยครับ!”
ระหว่างทางไปที่หน้าคฤหาสน์ จางหงเหลียงแนะนำสารพัดเรื่องเกี่ยวกับเฉินเป่ยให้นายใหญ่ตระกูลจางฟัง……ส่วนนายใหญ่ตระกูลจางยิ่งฟัง ทันใดนั้นสีหน้าค่อยๆ หมองลง ค่อยๆ โดนความหนักหน่วงเข้าแทนที่
มองทางหน้าประตูคฤหาสน์หรู สายตาของนายใหญ่ตระกูลจางยิ่งลุ่มลึกหนาวเหน็บขึ้น “ต่อให้เขาแกร่งแค่ไหน ตระกูลจางกับตระกูลตู้ก็ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง…อยากมาฆ่าตระกูลจาง เข้ามาถามฉันก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” นายใหญ่ตระกูลจางเอ่ยปากบอกช้าๆ “ต่อให้เขาเป็นใคร อยากสังหารหมู่ตระกูลจางของฉัน ก็ไม่อาจเป็นไปได้!”
จางหงเหลียงเห็นนายใหญ่ตระกูลจางสีหน้าแน่วแน่ น้ำเสียงเฉียบขาด จึงค่อยวางใจลงมาบ้าง
“เรียกพวกสายตรงทั้งหมดมา ตามฉันไปข้างหน้า!” นายใหญ่ตระกูลจางออกคำสั่ง ผ่านไปไม่นานฝูงชนมากมายที่ดูคลุ้มคลั่ง จากในอาคารแต่ละที่ของเขตสนาม กรูไปทางนายใหญ่ตระกูลจาง
ชั่วพริบตาเดียว นายใหญ่ตระกูลจางรวบรวมคนในตระกูลจางสายตรงหลายพันคนได้แล้ว…….กลายเป็นคลื่นมหาชนที่มากมายแน่นขนัดผืนหนึ่ง มองจากไกลๆ เพียงแค่มองแวบเดียวก็ทำให้จิตใจคนสั่นเทาแบบควบคุมไปไหว
คลื่นมหาชนนั้นราวกับแปลงร่างเป็นสัตว์ดุร้ายที่โหดเหี้ยมที่สุด เฮโลกันเข้าไปทางเฉินเป่ย
หน้าประตูเขตสวน เฉินเป่ยใส่เสื้อคลุมสีแดง ยืนอยู่ตรงกลาง ส่วนโดยรอบของเขา มีคนในตระกูลจางกลุ่มหนึ่งล้อมไว้ มือถือปืนสีดำขลับเย็นเฉียบ ล้อมรอบเฉินเป่ยเป็นวงกลม
ปากกระบอกปืนของพวกเขาแต่ละคนล็อกที่เฉินเป่ยไว้ทั้งหมด ทุกคนบรรจุลูกกระสุนปืนพร้อมแล้ว ขอเพียงเฉินเป่ยมีการกระทำผิดปกติใดๆ พวกเขาจะลั่นไกปืนอย่างไม่ลังเลสักนิดเดียว ยิงเฉินเป่ยให้พรุนจนกลายเป็นตะแกรง
ทันใดนั้นบรรยากาศแข็งตัว สถานการณ์ตึงเครียด ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเปลวไฟที่รุนแรง
คนในตระกูลจางเหล่านี้จ้องเฉินเป่ยแน่น เพราะบนเสื้อคลุมสีแดงของเฉินเป่ยเปื้อนเลือดสดอย่างไร้ขีดจำกัด เกือบจะทำให้เสื้อคลุมสีแดงตัวนี้ย้อมเป็นเสื้อคลุมเลือดเหม็นคาว
ส่วนมีดหลงหยาที่อยู่ในมือของเขา บนคมมีดมีเลือดสดที่ยังไม่แห้งกำลังไหลตามคมมีด เลือดจากปลายมีดค่อยๆ หยด…อย่างแจ่มชัด มีดหลงหยาพึ่งสูบเลือดมาไม่นานนี้
เวลานี้เฉินเป่ยไม่เหมือนกับคนทั่วไป ในสายตาของทุกคน เขาเหมือนปีศาจร้ายมากกว่า ปีศาจร้ายที่น่ากลัวตนหนึ่ง
เขาเหมือนมาจากนรก แปลงร่างเป็นยมทูตที่ดุร้ายทารุณ กำลังจะมาเอาชีวิต
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิมอย่างสงบ ก้มหน้าอยู่ ลมหายใจอ่อนแรง ราวกับพึ่งผ่านความตายมา ลมแรงพัดมา เสื้อคลุมสีแดงปลิวสะบัด ในอากาศเต็มไปด้วยเสียงร้องคำรามของลมแรง เห็นได้ชัดว่าน่ากลัวผิดปกติ
“ซู่……..”
ในเวลานี้ ร่างกายของเฉินเป่ยสั่นเล็กน้อยแบบมองไม่ออก เห็นเพียงเส้นขอบฟ้าที่อยู่ระยะไกล ปรากฏภาพเงาหลายคนขึ้น กำลังไล่มาทางนี้ด้วยความรวดเร็ว
ไม่นาน นับวันภาพเงาแต่ละคนยิ่งมากขึ้น ถึงสุดท้ายกลายเป็นฝูงชนกลุ่มใหญ่ ดุจกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากเข้ามา
คนที่นำทัพคือนายใหญ่ตระกูลจาง ยังมีจางหงเหลียงด้วย
หลังจางหงเหลียงและนายใหญ่ตระกูลจางเข้ามาใกล้ ถึงมองเห็นว่าเฉินเป่ยถูกคนในตระกูลจางพวกนั้นที่ในมือถืออาวุธร้อนพิชิตไว้แล้ว
นายใหญ่ตระกูลจางสีหน้าแข็งค้าง ถือโอกาสกวาดตามองจางหงเหลียงที่ด้านข้างแวบหนึ่ง บอกว่า “ระดมกำลังใหญ่ตี นี่คือปีศาจร้ายที่คุณว่า?”
จางหงเหลียงสีหน้าดูแย่ เขาฟังความหมายเยาะเย้ยในคำพูดของนายใหญ่ตระกูลจางออก…เขาบอกนายใหญ่ว่า เขาเห็นกับตาตัวเองว่าคนในตระกูลตู้หลายร้อยซึ่งมือถือปืนไว้ ทว่ากลับโดนสังหารอย่างก้าวร้าว…แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าคนในตระกูลมีปืนไม่กี่คน จัดการยมทูตที่เมื่อสักครู่สังหารหมู่อย่างกำเริบไว้แล้ว
นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลตู้ คนในตระกูลตู้เหล่านั้นที่อยู่ตรงหน้าเขา คล้ายกับตัดผัก แต่ตอนนี้ กลับถูกคนไม่กี่คนถือปืนจับกุมไว้อย่างคาดไม่ถึง
การเปลี่ยนแปลงหน้าและหลังนี้ ทำให้เดิมทีจางหงเหลียงไม่เข้าใจ
นายใหญ่ตระกูลจางกวาดสายตามองเฉินเป่ย หัวเราะเยาะ เอามือไพล่หลัง ก้าวเท้าออกมา เสียงฝีเท้าแต่ละก้าวของเขากังวานลุ่มลึก ดังก้องในอากาศที่ว่าง ทำให้คนเดาขีดจำกัดของเขาไม่ออก
หลังพายุฝน ฝนหายไป ท้องฟ้าสดใส แสงสีทองแหวกเมฆดำที่อึมครึมหม่นหมองออกแล้วสาดส่องลงมา
สายตาของทุกคนตกอยู่บนตัวของนายใหญ่ตระกูลจางกันหมด เห็นเขาเดินไปทางเฉินเป่ยทีละก้าว
เฉินเป่ยค่อยๆ เงยหน้า แวบเดียวเขาก็มองเห็นนายใหญ่ตระกูลจางที่สีหน้าเรียบเฉย แต่บนตัวของเขากลับมีออร่าที่เกรียงไกร ส่งผลกระทบกับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์
ความกดดันที่รุนแรงปกคลุมพื้นที่นี้ไว้ ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยแข็งนิดหน่อย สายตาของเขาตกอยู่ที่ฝีเท้าของนายใหญ่ตระกูลจางที่เรียกได้ว่าแม่นยำ…ระยะห่างแต่ละฝีก้าวเกือบเท่ากัน ทุกก้าวเหยียบบนเงามืดของตนเอง…หมายความว่าควบคุมได้อย่างเด็ดขาด
ฉากนี้ไม่เหมือนในอดีตเหรอ เหมือนหลีเช่าเทียนของเมืองหู้ไห่ในตอนแรก…แต่ที่ไม่เหมือนคือนายใหญ่ตระกูลจางอยู่ที่หู้ไห่อิทธิพลอำนาจมหาศาล ฉลาดหลักแหลมเจ้าแผนการ ห่างไกลกับหลีเช่าเทียนที่ตอนนั้นค่อนข้างอ่อนหัดเกินกว่าจะเอามาเปรียบเทียบกันได้
นายใหญ่ตระกูลจางค่อยๆ เดินมาถึงตรงหน้าเฉินเป่ย สายตาที่ล้ำลึกตกอยู่ที่ตัวเฉินเป่ยเพียงแวบเดียว ไม่นานก็ย้ายสายตาออกไป เพิกเฉยเฉินเป่ยโดยตรง สายตาของเขาคล้ายกับข้ามผ่านสิ่งกีดขวางที่ใหญ่มากไป
“มันเรื่องอะไรกัน?” นายใหญ่ตระกูลจางมองทางคนในตระกูลไม่กี่คนนั้นที่ล้อมรอบเฉินเป่ยไว้ สีหน้าสงบผิดปกติ
“คนคนนี้อยากจะบุกเข้าไปครับ ถูกผมห้ามเอาไว้ รอนายใหญ่มาจัดการครับ”
สมาชิกตระกูลจางคนหนึ่งเก็บปืนลง พูดอธิบายด้วยความเคารพ
นายใหญ่ตระกูลจางพยักๆ หน้า มองทางจางหงเหลียงที่อยู่ด้านข้าง บอกว่า “นี่คือเจ้าหนุ่มที่คุณบอกว่าหนึ่งต่อร้อย?”
มุมปากของนายใหญ่ตระกูลจางยกเส้นรัศมีวงกลมขึ้น รอยยิ้มมีการเย้ยหยัน
จางหงเหลียงสีหน้าฝืด ท่าทางกระอักกระอ่วน และด้านหลังเขา สมาชิกในตระกูลจางสายตรงนับไม่ถ้วนเกือบพันคนรวมตัวเป็นคลื่นมหาชน ระเบิดเสียงหัวเราะที่เย้ยหยันราวกับฟ้าผ่าลงออกมา
“พวกต่ำต้อยคนเดียวแค่นั้น ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรหรอก คุณยังให้ผมระดมกำลังมากมาย ออกมาด้วยตัวเอง” นายใหญ่ตระกูลจางเอ่ยปากนิ่งเรียบ ทำให้จางหงเหลียงเหงื่อผุดออกจากหน้าผากเม็ดใหญ่เท่าถั่ว
เขานึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิง เฉินเป่ยตอนอยู่ที่ตระกูลตู้ราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามที่ไม่มีวันตาย ทว่ามาถึงหน้าประตูตระกูลจาง คาดไม่ถึงจะตีทีเดียวก็พังขนาดนี้ โดนคนในตระกูลจางไม่กี่คนนี้จับเป็นได้อย่างง่ายดาย