สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 361
บทที่361 วิชาการฝังเข็มทองคำ
เย่ชวงกวาดตามองโทรศัพท์สีดำแวบหนึ่ง จึงจับขึ้นมาอย่างไม่ลังเลสักนิด
“ที่นี่สำนักงานใหญ่หู้ไห่ค่ะ” เย่ชวงเอ่ยปาก
“เย่ชวง” ในสายนั้น เสียงที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามเสียงหนึ่งลอยเข้าในหูของเย่ชวง
เย่ชวงหน้าตาตะลึง เอ่ยปากด้วยสีหน้าตกใจ “อธิบดี?”
เย่ชวงคุ้นเคยกับเสียงนี้เสียยิ่งกว่าอะไรดี คนนี้ก็คืออธิบดี
“ฉันเอง”
“อธิบดี มีธุระอะไรที่โทรเข้ามือถือฉันไม่ได้เหรอคะ ทำไมถึงโทรมาที่โทรศัพท์เครื่องนี้คะ นานมากแล้วที่โทรศัพท์เครื่องนี้ไม่ได้ดังขึ้น” ใบหน้าที่งดงามของเย่ชวงเผยความฉงนสนเท่ห์นิดๆ ออกมา
“เพราะมีคดีหนึ่ง ต้องการให้เธอไปทำ” น้ำเสียงของอธิบดีค้างทันใด เพิ่มความหนักหน่วงขึ้น
“คดีอะไรคะ?” เย่ชวงฟังอธิบดีพูดขนาดนี้ ในใจยิ่งสงสัยแล้ว เธอไม่เข้าใจ สรุปเป็นคดีอะไร ถึงต้องโทรเข้ามาโทรศัพท์ตั้งโต๊ะสีดำเครื่องนี้
“โทรศัพท์สีดำเครื่องนี้ ตอนที่เธอพึ่งรับตำแหน่งเข้ามา ไม่มีใครอธิบายกับเธอสินะ เส้นทางโทรศัพท์ของพวกเราผ่านการเข้ารหัสแล้ว…ส่วนโทรศัพท์สีดำ มีเพียงคดีที่ระดับสำคัญพอสมควร ถึงจะถูกใช้งาน” น้ำเสียงอธิบดีหนักหน่วงเคร่งขรึม ทำให้เย่ชวงค่อยๆ ได้กลิ่นที่ไม่ปกตินิดๆ
“ตัวฉันประชุมอยู่ที่กรมตำรวจเยี่ยนจิง ช่วงเวลาสั้นๆ นี้กลับไปไม่ทัน ดังนั้นเลยไม่มีทางเลือก ใช้งานโทรศัพท์สีดำเครื่องนี้แล้ว…” คำพูดอธิบดีหยุดชะงัก เสียงเพิ่มความเคร่งขรึมขึ้น “เย่ชวง ครั้งนี้ถ้าจัดการไม่ดี มีความเป็นไปได้มากว่าตำแหน่งนี้ของฉันจะรักษาไม่รอด”
เย่ชวงตกใจทันใด “อธิบดีคะ คำพูดนี้หมายความว่าอะไรคะ?”
“ครั้งนี้ ทั้งสถานีตำรวจ เกรงว่ามีเพียงเธอที่สามารถทำได้” อธิบดีถอนหายใจทีหนึ่ง “คดีนี้ ฉันจะโยกย้ายตำรวจส่วนหนึ่งให้ความรวบมือกับเธอ ผลกระทบของคดีนี้ยิ่งใหญ่มาก รั่วไหลออกไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น จะทำให้หู้ไห่เกิดผลร้ายแรงแบบไม่มีทางจินตนาการได้……”
เย่ชวงฟังคำพูดนี้ของอธิบดีแล้ว…ในใจยิ่งสงสัย ในใจเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น ถามว่า “อธิบดี สรุปเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”
“สองตระกูลทองของหู้ไห่ ตระกูลตู้และตระกูลจางสองแห่ง เจอการสังหารหมู่ที่ทารุณ…ตระกูลตู้โดนฆ่ายกครัว ตระกูลจางพลังชีวิตบาดเจ็บ นายใหญ่ตระกูลจางยิ่งได้รับบาดเจ็บหนักเลย…” อธิบดีค่อยๆ เอ่ยปาก น้ำเสียงมีการสั่นเครืออย่างแรง…ถึงแม้เขาที่มีประสบการณ์โชกโชน และเจอการเปลี่ยนแปลงของสังคมมากมาย…ตอนที่เผชิญข่าวที่น่าตกใจนี้ ยังไม่มีทางสงบได้เช่นกัน
“อะไรนะ?” ทันใดนั้นเย่ชวงใบหน้าเปลี่ยนสี เธอส่งเสียงร้องตกใจโดยจิตใต้สำนึก
สังหารยกครัว…เรื่องแบบนี้ ในอดีตเย่ชวงเคยเจอเพียงแค่ในโรงเรียนตำรวจและคดีก่อนหน้านี้…แต่ตอนนี้สังหารหมู่เรื่องแบบนี้ที่หู้ไห่…เกือบจะเป็นเรื่องที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้
เรื่องที่โหดร้ายนองเลือดเช่นนี้……เกิดขึ้นที่หู้ไห่ เย่ชวงคิดไม่กล้าคิดเลย
“ปึง!”
มือเรียวของเย่ชวงสั่นฉับพลัน ชั่วขณะนั้นโทรศัพท์ในมือหลุดมือ ตกลงบนโต๊ะ
หลังรอเย่ชวงตอบสนองเข้ามา รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้น สูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง พูดว่า “อธิบดีคะ นี่เป็นไปไม่ได้ ภายในขอบเขตบังคับบัญชาของฉัน จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน”
“เย่ชวง…เธอยังเด็ก เธอไม่เข้าใจ หัวเซี่ยไม่ได้สงบเกินไปขนาดนั้นแบบสมัยก่อนแล้ว……” หลังอธิบดีพูดจบ เสียงเผยความล้ำลึกที่น่าประหลาดใจ ทำให้ในใจเย่ชวงสั่นสะเทือน
“อีกสักพัก ฉันจะส่งรูปภาพและที่อยู่เข้าไปให้ เธอตั้งใจตรวจสอบสักหน่อย” หลังอธิบดีพูดจบ เย่ชวงวางโทรศัพท์ลง ในใจกลับยากจะสงบได้
เธอไม่เชื่อว่าที่หู้ไห่จะเกิดเรื่องโหดร้ายระดับนี้ได้ ยิ่งเกิดในขอบเขตที่ตนเองคุมอยู่ในปัจจุบันอีก เดิมทีทำให้เธอยากจะยอมรับได้
“ค่ะ อธิบดี ฉันจะพยายามดำเนินการสืบสวนและจำกุมผู้ต้องหาคดีนี้ให้เร็วแน่นอนค่ะ” ในมือเย่ชวงกุมโทรศัพท์ไว้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแน่วแน่
หลังวางสายโทรศัพท์ ไม่นานก็เสียงมือถือของเย่ชวงดังขึ้น เย่ชวงเปิดมือถือออก มองเห็นที่อยู่สองแห่ง กับรูปถ่ายมากมาย
ตอนที่เย่ชวงมองเห็นรูปภาพพวกนั้น ลูกตาหดลงทันใด ดวงตาเบิกโตแบบยากจะเชื่อถือ
เย่ชวงมองเห็นอย่างชัดเจน ภูเขาศพทะเลเลือดที่อยู่ในรูปภาพ……ทำให้เธอหลับตาลงในชั่วขณะหนึ่ง
หลังรอให้ในใจเย่ชวงค่อยๆ สงบลงบ้าง เธอถึงลืมตาขึ้นมา ตรวจดูรูปภาพพวกนั้นอย่างละเอียด
ผ่านไปไม่นาน เสียงรองเท้าหนังมากมายดังก้องอยู่ที่โถงทางเดินด้านนอกห้องของเย่ชวง เห็นเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละนายเดินเข้ามาห้องทำงานของเย่ชวง และยืนเรียงแถว เอ่ยปากบอก “หัวหน้าเย่ อธิบดีแจ้งให้พวกเราเข้ามาครับ”
เย่ชวงพยักหน้าแล้ว “อธิบดีไว้ใจทุกคน ถึงคัดเลือกทุกคนออกมากัน…สถานการณ์ครั้งนี้พิเศษ คดีในครั้งนี้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลทองที่ลึกลับ…ดังนั้นขอให้ทุกคนเก็บรักษาเป็นความลับ…….” คำพูดเย่ชวงหยุดชะงักเล็กน้อย ตามมาด้วยระเบิดออร่ายิ่งใหญ่ที่ยากจะนิยามออกมา “ออกเดินทาง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ”
หน้าประตูสถานีตำรวจหู้ไห่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนกำลังยืนเข้าเวร ทันใดนั้นรถตำรวจแต่ละคันส่งเสียงคำรามออกมาจากในโรงรถ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายสีหน้าแข็งค้าง รถตำรวจแต่ละคันใช้แรงม้าเต็มที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน เสียงไซเรนแสบแก้วหูดังก้องในอากาศ ชั่วพริบตาเดียวก็พุ่งออกไปจากหน้าประตูสถานีตำรวจ แล่นไปยังที่ไกลออกไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายนั้นสีหน้าเปลี่ยน พวกเขาอยู่ที่สถานีตำรวจมาหลายปี ย่อมรู้ดีว่าเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นคดีสำคัญ…แต่ขนาดของครั้งนี้ ก่อนหน้าไม่เคยมี พวกเขายังเห็นเป็นครั้งแรก รถตำรวจพวกนี้ เร่งด่วนมากเช่นนี้
…………
รถยนต์ดำขลับคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูคฤหาสน์แล้ว ผู้ทำงานลับเฉพาะฝีมือเยี่ยมสองคนเดินลงมาจากบนรถ มองเฉินเป่ยที่นั่งอยู่แถวด้านหลังทีหนึ่ง พูดอย่างเย็นชา “ไปเถอะ วีรบุรุษที่สังหารตระกูลตู้กับตระกูลจาง หรือว่ายังต้องการให้คนมาประคองด้วยเหรอ?”
เฉินเป่ยไม่ได้ถอดหน้ากากลง ภายใต้หน้ากาก ดวงตาล้ำลึกทอดยาว
และถ้าเฉินเป่ยถอดหน้ากากออก ผู้ทำงานลับเฉพาะสองคนนี้คงมองเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดนั้นของเฉินเป่ยได้แน่นอน…ร่างกายของเฉินเป่ยสั่นเล็กน้อย เขาอ่อนแอจนไม่เป็นท่าแล้ว
เฉินเป่ยกวาดตามองสองคนนั้นแวบหนึ่ง พอกัดฟัน ผลักประตูรถออก ก้าวเท้าออกมานอกรถ เหยียบลงบนพื้น
เฉินเป่ยเดินตามผู้ทำงานลับเฉพาะฝีมือดีสองคนนี้เข้าไปด้านใน เสียงของเฉินเป่ยไร้เรี่ยวแรงแหบแห้ง ถามว่า “ผู้เฒ่านั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“นั่นคือหัวหน้าหลี่ เคารพหัวหน้าสักหน่อยจะได้มั้ย?” ผู้ทำงานลับเฉพาะคนนั้นที่อยู่ด้านหน้าฝีเท้าหยุดชะงักนิดหน่อย หันหน้า กวาดสายตาที่โกรธเคืองผ่านเฉินเป่ยไป
ภายใต้หน้ากาก เฉินเป่ยเบ้ปากแล้ว “เรียกชินปากแล้ว เปลี่ยนไม่ได้”
ผู้ทำงานลับเฉพาะฝีมือดีคนนั้นที่อยู่ด้านหน้าชะงักฝีเท้า หันหน้ามองเฉินเป่ย หัวเราะเบาๆ พูดขึ้น “โอ๊ะ งั้นดูแล้วนายกับหัวหน้าหลี่ดูจะสนิทกันมากกว่าอธิบดีอีกล่ะสิ? แม้แต่อธิบดีของพวกเรายังเคารพนอบน้อมต่อหัวหน้าหลี่ หรือว่านายยังจะเก่งกาจกว่าอธิบดีของพวกฉัน?”
ผู้ทำงานลับเฉพาะฝีมือดีสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ สำหรับพวกเขา หลังเฉินเป่ยหนีกลับมาจากตระกูลจาง ยิ่งโอ้อวดกำเริบขึ้น
หากไม่เจอกับหัวหน้าหลี่ เดิมทียากจะลดความก้าวร้าวโอหังของเขา
หลังเดินเข้ามาในเซฟเฮาส์ เซฟเฮาส์ที่ก่อนหน้านี้โดนทำลายพังยับ ถูกผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านี้ซ่อมแซมมากมาย ส่วนผู้ทำงานลับเฉพาะสองคนพาเฉินเป่ยไปถึงที่ตรงหน้าของหัวหน้าหลี่แล้ว
ผู้ทำงานลับเฉพาะสองคนนี้เดินมาถึงที่หน้าเตียง ถึงบันยะบันยังมากขึ้น พูดด้วยความเคารพว่า “หัวหน้าหลี่ครับ พวกผมพาคนมาแล้ว”
เฉินเป่ยมองทางผู้อาวุโสที่เป็นเข้าใกล้ความตายบนเตียงคนนั้น ผ่านการทรมานเมื่อสักครู่นี้มา เขายังถูกพาไปที่ตระกูลตู้อีก ถึงแม้ว่าเฉินเป่ยจะช่วยชีวิตเขาออกมาได้ ให้ผู้ทำงานลับเฉพาะพาเขากลับมาที่เซฟเฮาส์…เห็นได้ชัดว่ากระดูกร่างกายของหัวหน้าหลี่รับระดับแบบนี้ไม่ไหว หัวหน้าหลี่ในเวลานี้หลับตาสนิท ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของผู้ทำงานลับเฉพาะคนนั้น ลมหายใจแผ่วเบา ถ้าไม่ใช่ความรู้สึกของผู้ทำงานลับเฉพาะในเหตุการณ์และเฉินเป่ยว่องไว เดิมทีคงยากที่จะรู้สึกถึงว่าหัวหน้าหลี่ยังมีลมหายใจแผ่วเบานั้นอยู่
“หลังจากเขากลับมาก็เป็นแบบนี้เหรอ?” เฉินเป่ยขมวดคิ้วขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบยากจะผ่อนออก
ในห้องยังมีผู้ทำงานพิเศษอยู่หลายคน มองหัวหน้าหลี่อยู่ พยักหน้าแบบจิตใจกระสับกระส่าย
“พวกเราไปเชิญหมอที่เชี่ยวชาญที่ดีสุดในหู้ไห่มาแล้ว รายงานกับเบื้องบนถึงสถานการณ์นี้แล้วด้วย” ผู้ทำงานลับเฉพาะคนหนึ่งบอก
“ไม่มีประโยชน์หรอก” ทันใดนั้นเฉินเป่ยพูดขึ้น
พรึบ!
เฉินเป่ยพูดขึ้นกะทันหัน สายตาของผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านั้นตกอยู่บนตัวเฉินเป่ยทั้งหมด
“อาการของเขาในตอนนี้ ถึงแม้เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดสุดของหัวเซี่ยมารักษา ก็รักษาไม่ได้” น้ำเสียงเฉินเป่ยสงบ ถึงแม้สายตาของผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านั้นตกอยู่บนตัวเขา ก็ทำให้เขาไม่ประหม่าเลยสักนิด
“นายหมายความว่าอะไร หรือว่าหัวหน้าหลี่จะไม่รอดแล้วเหรอ?”
บรรยากาศเงียบงัน มีผู้ทำงานลับเฉพาะคนหนึ่งทำลายความเงียบลงก่อน ถามขึ้น
“อย่าเชื่อเขา ก่อนหน้านี้เขายังบอกว่าจะแก้แค้นฆ่ายกครัวตระกูลตู้กับตระกูลจางให้หัวหน้าหลี่ เมื่อกี้ฉันเห็นกับตาว่าเขาหนีออกมาจากตระกูลจาง เจ้าหมอนี่เป็นพวกหลอกลวง” ผู้ทำงานลับเฉพาะคนก่อนหน้านี้ที่พาเฉินเป่ยมาถึงเซฟเฮาส์มองเฉินเป่ยอย่างเย็นชาพูดขึ้น
“นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้?” ผู้ทำงานลับเฉพาะหนึ่งในนั้นก้าวเท้าออกมา เดินมาตรงหน้าของเฉินเป่ย จ้องมองเฉินเป่ยอยู่แล้วถามไป
เฉินเป่ยกำลังอยากจะตอบ ทันใดนั้นผู้ทำงานลับเฉพาะคนหนึ่งที่ยืนริมหน้าต่างก็มองทางด้านนอก ร้องตะโกนอย่างดีใจ “มาแล้วๆ หมอมาแล้ว!”
หลังจากผู้ทำงานลับเฉพาะคนนั้นตะโกนขึ้น ไม่นานผู้ทำงานลับเฉพาะหลายคนก็พุ่งไปทางนอกห้อง ไปต้อนรับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่สุดของเมืองหู้ไห่ท่านนั้น
หมอที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาวท่านนั้นไม่รู้ว่าผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านี้ใช้วิธีอะไรเชิญเข้ามาแล้ว ถือกล่องยาเดินมาถึงข้างเตียงของหัวหน้าหลี่ ไล่ทุกคนออกไปจากในห้อง
หน้าประตูห้อง ผู้ทำงานลับเฉพาะหลายคนรอคอยอย่างร้อนใจ ส่วนเฉินเป่ยก็ถอดหน้ากากออกแล้ว จุดบุหรี่มวนหนึ่ง พ่นควันบุหรี่ขึ้นมาอย่างสบายอกสบายใจ
“ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ของนายกับหัวหน้าหลี่ดีมากเหรอ ไม่รู้ว่าเขาอยู่ด้านในอาการเป็นยังไงบ้าง นายดูท่าทางอารมณ์ดีมากเลย” ในเวลานี้ ผู้ทำงานลับเฉพาะคนนั้นที่พาเฉินเป่ยกลับมาที่เซฟเฮาส์หัวเราะพลางพูดขึ้น
ผู้ทำงานลับเฉพาะคนนั้นพูดขนาดนี้ สายตาของผู้ทำงานลับเฉพาะคนอื่นๆ จึงค่อยๆ ตกอยู่บนตัวของเฉินเป่ย มีความหมายไม่เป็นมิตร
“ร้อนใจไปจะมีประโยชน์อะไร?” เฉินเป่ยตอบกลับแบบนิ่งๆ ขี้เกียจโต้เถียงกับผู้ทำงานลับเฉพาะคนนี้
“แมงป่อง นายพูดให้น้อยหน่อยเถอะ” ผู้ทำงานลับเฉพาะคนหนึ่งเอ่ยปาก เรียกชื่อลับออกมา
ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องเปิดออก ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดคนนั้นปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้อง สีหน้าหน่วง
“คุณหมอ เป็นยังไงบ้าง?” ผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านั้นรีบล้อมกันเข้ามา
ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นสีหน้าอึมครึม สีหน้าดูไม่ดีเอามาก เขาค่อยๆ ส่ายหน้า “เขา เกรงว่าจะไม่ไหวแล้ว”
ชั่วขณะนั้นผู้ทำงานลับเฉพาะหลายคนนั้นสีหน้าเปลี่ยน แตกตื่นอย่างยิ่ง
อย่างไรเสียผู้ทำงานลับเฉพาะเหล่านี้ก็นึกไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญของหู้ไห่ที่พวกเขาเชิญมาจะจัดการแบบนี้
“ใครบอกว่าไม่มีวิธี วิธีน่ะมันมี” ในเวลานี้ เสียงที่ไม่เข้าพวกเสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลังฝูงชน