สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 38
บทที่ 38 ใครแตะต้องเธอ ฉันก็จะจับมัน
เฉินเป่ยเปิดปากขึ้นมาฉับพลัน ทำให้ฝีเท้าของหัวหน้าหวางหยุดนิ่ง หวางป้ะเงยหน้าขึ้นมองเฉินเป่ย ยิ้มเย็นชา
หัวหน้าหวางหมุนตัว มองไปยังเฉินเป่ย พร้อมทั้งพูดเสียงดังว่า “ผมขอจับคุณจากการกระทำที่ขัดต่อข้อกฎหมาย สิ่งที่คุณพูดจะจะถูกใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล…”
หัวหน้าหวางพูดยังไม่จบ ก็ถูกเฉินเป่ยขัดจังหวะกลางคัน “ทำผิดกฎหมาย คุณยังไม่รู้ข้อเท็จจริงด้วยซ้ำ ก็ตัดสินโยนความผิดให้แล้วหรอ?”
หัวหน้าหวางจ้องมองเฉินเป่ยอยู่ชั่วขณะ กล่าวอย่างช้าๆว่า “สิ่งที่ผมเห็น คือข้อเท็จจริง คุณทำร้ายคนของหวางป้ะ คนพวกนั้นจนบาดเจ็บ ส่วนตัวเองปลอดภัยไม่มีรอยขีดข่วน นี่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วคืออะไรล่ะ?”
เฉินเป่ยหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ มองไปทางหัวหน้าหวาง พูดจาถากถางว่า “โห ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนว่ายังมีวิธีการทำผิดเป็นถูกอย่างนี้อยู่อีก ไอ้นี่มันมาทำกับเพื่อนฉันก่อน เป็นอันธพาลไม่พอใจยังคิดจะลงมือก่อน ตัวเองเอาชนะคนอื่นไม่ได้ ก็เริ่มแกล้งว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำงั้นสิ”
เฉินเป่ยชำเลืองมองหวางป้ะ เยาะยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม “มีคนเห็นตั้งมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่หลักฐานเหรอไง ? ยังมีกล้องวงจรปิดอีกเอาไว้เป็นของตกแต่งงั้นเหรอ?”
สีหน้าดุดันของหวางป้ะซีดเผือดลงในทันที เดิมเขานึกว่าเมื่อหัวหน้าหวางมาถึงแล้วเฉินเป่ยจะถูกยอมอ่อนข้อให้ แต่คิดไม่ถึงว่า ความเย่อหยิ่งจองหองของเฉินเป่ยคนนี้จะไม่อ่อนข้อลงสักนิดเลย!
“อวดดี! กล้าพูดกับหัวหน้าหวางอย่างนี้ แกช่างกล้าเสียจริง!” หวางป้ะตะคอกเสียงดัง
แต่เสียงของหวางป้ะเพิ่งจะจบลง เฉินเป่ยก็ก้าวออกมาก้าวหนึ่ง จากนั้นก็ชกหน้าหวางป้ะทันที เสียงดังฟังชัด ใบหน้าด้านหนึ่งของหวางป้ะ เกิดเป็นรอยหมัดสีแดงนูนขึ้นมา!
ข้างแก้มของหวางป้ะบวมนูนขึ้นมา แรงต่อยนี้ของเฉินเป่ยน่าหวาดกลัวอย่างมาก ต่อยตรงๆแค่ทีเดียว แต่ทำให้ใบหน้าหวางป้ะหันไปอีกทาง!
ร้านหม้อไฟเงียบสนิท ลูกค้ากลุ่มนั้นกับฝูงชนเห็นการลงมือที่รวดเร็วดุจสายฟ้าฟาดของเฉินเป่ยแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายยังมีปฏิกิริยาช้าไปกว่าเสียอีก!
หัวหน้าหวางมองเฉินเป่ย ร่างกายสั่นเทา ดวงตาฉายแววโกรธเกรี้ยว!
เฉินเป่ยชกหน้าหลานชายของเขาต่อหน้า ก็เท่ากับได้ตบลงบนหน้าเขาด้วย!
ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจ ก็ต้องไว้หน้ากันบ้าง?
เฉินเป่ยเงยหน้า พูดช้าๆว่า “ใครจับเธอ ฉันก็จะจับมัน!”
พรึ่บ!
กลุ่มลูกค้าที่มามุงดู หน้าถอดสี ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
นี่คือการถากถางอย่างชัดเจน!
แต่หัวหน้าหวางคนนั้น กัดฟันแน่น น้ำเสียงแข็งกร้าวอย่างยิ่ง “หยุดมือ! แกลองขยับมืออีกครั้งสิ!”
เฉินเป่ยเงยหน้า มองไปยังหัวหน้าหวาง เยาะยิ้มอย่างเย็นชา ทันใดนั้นมือคู่นั้นก็ถูกใส่กุญแจมืออย่างแน่นหนาทันใด!
ดวงตาของหัวหน้าหวางสงสัยขึ้นมา เขาไม่เข้าใจว่าเฉินเป่ยต้องการจะทำอะไร แต่กลับรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น!
วินาทีต่อมา เส้นเลือดบนแขนของเฉินเป่ยก็นูนขึ้นมาทันที ภายใต้การจ้องมองอย่างตกตะลึงของหัวหน้าหวาง กุญแจมือบิดเบี้ยวผิดรูป!
สีหน้าของหัวหน้าหวางฉายแววความสงสัย ส่วน เฉินเป่ย ก็บิดกุญแจมือได้อย่างง่ายดาย ทำให้มือหลุดออกจาก…กุญแจมือ จนกุญแจบิดเบี้ยวไปจากเดิม!
กุญแจมือคู่นี้เคยอยู่บนข้อมือคนมานับไม่ถ้วน เมื่อมาอยู่ในมือของเฉินเป่ย กลับไม่ทนทานขนาดนั้นไปได้!
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายข้างๆที่อยู่ด้านข้างเฉินเป่ย ได้แต่ยืนมองกุญแจมือที่ถูกเฉินเป่ยโยนทิ้งไว้บนพื้นอย่างมึนงง สีหน้าตกตะลึงอย่างมาก
นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
“หัวหน้าหวาง ไม่ได้อยากจับฉันหรอ ฉันจะไปกับคุณ” มุมปากของเฉินเป่ยกระตุกขึ้นเล็กน้อย กล่าวว่า
“ดี” สีหน้าของหัวหน้าหวางกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว พยักหน้า ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ข้างกายเฉินเป่ยไม่ต้องใช้กุญแจมืออีก…เขาไม่คิดมาก่อนเลย ว่ากุญแจมือจะใช้ไม่ได้ผลกับเฉินเป่ย…
เฉินเป่ยก้าวออกมาก้าวหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ต้องการให้ฉันแจ้งเสี่ยวเยียนไหม”
เฉินเป่ยหันศีรษะ เห็นซูเสี่ยวหยุนยกมือกอดอกกำลังมองมาที่เขา ใบหน้าที่สวยและมีเสน่ห์นั้นเวลานี้ไม่มีรอยยิ้มของเมื่อครู่แล้ว ตอนนี้กลับมีความกังวล
เฉินเป่ยยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้อง อีกเดี๋ยวไปรอผมที่สถานีตำรวจก็พอ”
“โอเค” ซูเสี่ยวหยุนหน้านิ่วผงกศีรษะ แต่เธอก็ยังไม่สามารถวางใจเรื่องเฉินเป่ยอยู่ดี
หลังเฉินเป่ยเข้าไปนั่งในรถตำรวจแล้ว รถตำรวจก็ส่งเสียงร้องดังออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งทะยานไปยังสถานีตำรวจที่อยู่ไม่ไกลออกไป
“คุณอา รอเขาเข้าไปแล้ว จะจัดการกับเขายังไงดี?” ภายในรถตำรวจอีกคัน หวางป้ะมองไปยังหัวหน้าหวาง
หัวหน้าหวางเสียงเย็น จากนั้นก็พูดออกมา “เด็กอย่างแกสร้างปัญหาให้ฉัน ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนไม่ใช่คนทั่วๆไปที่ไหนล่ะ แถมยังมาก่อกวนฉันอีก”
หวางป้ะยิ้มให้ “คุณอา เพราะผมเห็นว่าข้างๆเขามีสาวสวยอยู่คนหนึ่งหรอก เลยอยากจะพาไปให้อาได้สักหน่อย”
หัวหน้าหวางมองเฉินเป่ย นั่งอยู่ในรถตำรวจคันนั้นผ่านกระจกมองหลัง แล้วเอ่ยเบาๆ “ขอแค่เข้าไปในสถานีตำรวจ ต่อให้เขาเป็นซุนหงอคง ก็ไม่สามารถใช้ความคิดใดๆได้ ถึงตอนนั้น อยู่ในนั้นแกอยากจะทำยังไงก็ทำไป”
“คุณอาพูดถูกต้องแล้ว” ในดวงตาของหวางป้ะฉายความดุเดือดโหดเหี้ยม รอเข้าไปในสถานีตำรวจแล้ว ก็จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นฝันร้ายของเฉินเป่ย!
สำหรับผู้หญิงคนนั้น รออีกเดี๋ยวให้พวกพี่น้องสักสองสามคนไปจับมาก็ได้แล้ว
ไม่นานนักเฉินเป่ยเข้ามานั่งในห้องสอบสวน หัวหน้าหวางกับหวางป้ะนั่งอยู่ตรงหน้าของเขา หวางป้ะยิ้มเย็น “ถึงที่นี่แล้ว ดูซิว่าแกยังจะหยิ่งจองหองได้อีกไหม!”
เฉินเป่ยมองไปทางหัวหน้ตำรวจหวังและหวางป้ะสีหน้าสงบนิ่ง พร้อมทั้งเอ่ยเปิดปากพูดเบาๆว่า “หัวหน้าหวางผมแนะนำคุณนะ ถ้าไม่อยากจะเสียตำแหน่งนี้ไป ก็อบรมหลานชายของคุณให้ดี ไม่งั้น ผมคงต้องสั่งสอนแทนแล้วล่ะ”
“สั่งสอน…แกเข้ามาในนี้แล้ว แกยังคิดว่ามีโอกาสอีกมากขนาดไหน…ที่คิดว่าจะได้เดินออกจากนี่ไปอย่างปลอดภัยเหรอ?” ผู้กำกับถามอย่างประชดประชัน น้ำเสียงเยาะเย้ยอย่างโจ่งแจ้ง!
“ผมให้โอกาสคุณอีกเป็นครั้งสุดท้าย” สายตาของเฉินเป่ยสงบเป็นอย่างยิ่ง ไม่สั่นไหวแม้แต่นิดเดียว
“คุณอา อย่าเปลืองน้ำลายกับมันอีกเลย หาคนมาสักสองสามคน ให้บทเรียนกับมันสักหน่อย” หวางป้ะพูดอย่างอดทนรอไม่ไหว
“ดูเหมือนว่าแกจะเป็นพวกพูดดีๆด้วยไม่ได้แต่ชอบให้ใช้กำลัง!” ผู้กำกับหวางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผมแนะนำให้คุณ…ไปรายงานสถานีตำรวจส่วนกลางของเมืองเมืองหู้ไห่ก่อนเถอะ ไม่งั้น…ผลลัพธ์ที่จะตามมายากที่จะจินตนาการ” เฉินเป่ยพูดเป็นนัยเอาไว้
“ผลลัพธ์ที่จะตามมา? แกคิดว่าสถานีตำรวจส่วนกลางจะมายุ่งเรื่องไร้สาระของแกเหรอ?” หวางป้ะยิ้มอย่างดูถูก
ทันใดนั้น! ที่ประตูห้องสอบสวนก็ถูกผลักออกกะทันหัน!
เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเข้ามา กล่าวว่า “ผู้กำกับฯครับ สถานีตำรวจส่วนกลางโทรเข้ามา บอกให้คุณไปรับสายให้ได้”
“สถานีตำรวจส่วนกลาง” หัวหน้าหวางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจ
“เป็นหัวหน้ากองเย่ครับ” นายตำรวจกล่าว
“เย่ชวงเหรอ!” หัวใจของหัวหน้าหวางตกใจขึ้นมาเล็กน้อย การที่เขาเข้ามารับตำแหน่งนี้อยู่นาน เป็นธรรมดาที่จะเคยได้ยินชื่อของตำรวจหญิงฝีมือดีของสถานีตำรวจเมืองหู้ไห่ ที่ชื่อว่า-เย่ชวง
ตอนแรกเคยคิดว่า เขายังเคยกับเย่ชวงอีกแบบหนึ่งแถมยังให้คนไปสอบถามเกี่ยวกับเย่ชวงมาเป็นพิเศษเลย……ภายหลัง พอรู้ว่าพื้นหลังครอบครัวของเย่ชวง ก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นทันที
ทำไมเย่ชวงถึงโทรมาได้ล่ะ
สีหน้าหัวหน้าหวางเคร่งเครียดขึ้นมาทันที พลันรีบออกไปจากห้องสืบสวนทันที แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมา
“หัวหน้ากองเย่” หัวหน้าหวางเอ่ยปากพูดด้วยความเคารพยำเกรง
“เมื่อสักครู่คุณเพิ่งจับคนมาคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเฉินเป่ยมาหรือเปล่า” อีกฝั่งของโทรศัพท์ น้ำเสียงของเย่ชวงทั้งเยียบเย็นและชัดเจน จนหัวหน้าหวางตะลึงไปชั่วครู่
ตนเองยังไม่ได้รายงานไปด้วย แล้ว เย่ชวงจะรู้ได้อย่างไร
“เมื่อครู่มีสายลึกลับโทรมา บอกฉันว่าตอนนี้เขาถูกคุณกักขังอยู่ที่สถานีตำรวจ” เย่ชวงพูดออกมาเอง
“ใช่ครับ เขาทำลายความสงบเรียบร้อย ทะเลาะวิวาท ตอนนี้ผมกำลังตรวจสอบอยู่พอดี” หัวใจของหัวหน้าหวางเต้นรัว พร้อมทั้งกล่าวอย่างระมัดระวัง
“ปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้!” เย่ชวงออกคำสั่ง
“ทำไมครับ” หัวหน้าหวางตกตะลึง
“ตัวตนของเขา ฉันเองก็ไม่รู้ ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัด จับกุมไม่ได้! หรือคุณอยากให้ฉันเปลี่ยนผู้หัวหน้าคนใหม่ ให้คุณปล่อยคนไง” เย่ชวงชะงัก แล้วพูดอีกว่า “ตอนที่ฉันจับเขาครั้งแรกเยี่ยนจิงก็ออกมาปกป้องเขาคนแรก…”
หัวหน้าหวางได้ฟังเย่ชวงพูดมาถึงครึ่งประโยค วินาทีนั้นก็ยังยืนนิ่งมึนงงอยู่ที่เดิม
เยี่ยนจิง…
หลังจากนั้น ร่างกายของหัวหน้าหวางตกใจทันที ดวงตามีความหวาดหวั่นอย่างชัดเจน….
นี่เขา…จับคนของเยี่ยนจิงมาหรือ ออกหน้าปกป้องมาเองเลยเหรอ หลานชายของตนเอง…จงใจรนหาที่ตายขนาดนี้เลยเหรอ
“ฉันไม่คิดว่าเมื่อฉันไปถึงที่นั่นแล้ว จะยังเห็นเขาอยู่นะ” เย่ชวงกล่าว
“ครับ” หัวหน้าหวาง วางสายโทรศัพท์ เหงื่อแตกพลั่ก ขนาดขาทั้งสองข้างยังหยุดสั่นไม่ได้
เขาหวนคิดไปถึงสายตาที่บอกความหมายเป็นนัยยะของเฉินเป่ยที่มองเขาอยู่เมื่อครู่ใจสั่นขึ้นมาทันที
ภายในห้องสอบสวนหวางป้ะจ้องเฉินเป่ยอย่างเยือกเย็น มุมปากแสยะยิ้มอย่างดูถูกดูแคลน
เขาส่งคนไปตามจับตัวสาวสวยคนนั้นแล้ว อีกไม่นานเท่าไหร่ เขาจะให้เฉินเป่ยได้เห็นผู้หญิงของตัวเองคนนั้นกลายเป็นของเล่นใต้ร่างกายของตนเองกับอาของเขาเต็มสองตา!
เขาอยากให้เฉินเป่ยได้เข้าใจ ว่าตัวเอง ไม่ใช่คนที่คนที่เขาจะมาหาเรื่องได้
“ผู้หญิงคนนั้น อีกเดี๋ยวแกก็จะได้เจอเธอแล้ว ฉันจะรักเธอสาสมเลยแหละ” คำพูดของหวางป้ะเต็มไปการเยาะเย้ย
“รักเธอหรือ อาแก จะเอาไม้ซีกมางัดไม้ซุงเหรอ” เฉินเป่ยหัวเราะหึๆ สีหน้าหวางป้ะนิ่งทันที
“มาถึงนี่แล้วแกยังจะปากดีไม่เลิก แกไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง” หวางป้ะกัดฟันพูดเสียงแข็ง
“ชีวิตของฉัน แกมีปัญญาเอาไปด้วยหรอ” เฉินเป่ยตอบกลับอย่างปกติ จนหวางป้ะผุดลุกขึ้นมา กำหมัดทั้งสองข้าง เตรียมจะให้บทเรียนกับเฉินเป่ยสักหน่อย
“หยุด!”
เสียงหนึ่งดังมาจากนอกห้องสอบสวน หัวหน้าหวางรีบร้อนเดินเข้ามา พร้อมทั้งเรียกให้หวางป้ะหยุด
หัวหน้าหวางรีบร้อนเดินมาตรงหน้าของเฉินเป่ย พร้อมทั้งเปิดปากพูดอย่างระมัดระวัง “คุณเฉิน ก่อนหน้าเป็นความสะเพร่าของผมเอง คุณสามารถไปได้แล้วครับ”
เฉินเป่ยเงยหน้า กวาดตามองหัวหน้าหวางและหวางป้ะรอบหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าหัวหน้าหวางตัดสินจะเอาผิดผมหรอ ทำไมจู่ๆผมก็พ้นผิดขึ้นมาได้ล่ะ”
หัวหน้าหวางขบฟัน ตอนนี้เขาจะกล้าหาเรื่องเฉินเป่ยได้ที่ไหนกัน ตัวตนของเฉินเป่ย ขนาดพื้นหลังตื้นลึกหนาบางเย่ชวงก็ยังคลำไม่ถูกทางเลย คนตำแหน่งเล็กๆอย่างเขานี้จะไปกล้ามีเรื่องอะไรกับเขาได้ล่ะ!
แต่หวางป้ะกลับมีสีหน้ามึนงง เมื่อเห็นว่าหัวหน้าหวางเปลี่ยนความคิดพลิกหน้ามือเป็นหลังมือจนตอนนี้ยังตั้งสติไม่ทัน “คุณอา เกิดอะไรขึ้น ทำไมจะปล่อยเขาไปแล้วล่ะ”
“หุบปากไปเลย คุณเฉินแกยังกล้าต่อย แกนี่มันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือยังไง ระวังฉันจะเป็นคนแรกที่จัดการแก! ไร้สาระจริงๆ!” หัวหน้าหวางหันศีรษะไปจ้องหวางป้ะ พร้อมทั้งส่งเสียงดุดันแข็งกร้าวให้ จนทำให้หวางป้ะตัวสั่น
ที่หัวหน้าหวางพูดออกไปถือว่าเกลียดเลยก็ว่าได้ เพราะ หวางป้ะไม่ทำผมกับคนที่ขนาดเขาเองยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย คำพูดของตนเองที่เพิ่งพูดออกมาเมื่อครู่ เกือบจะทำให้หน้าที่การงานของเขาจบสิ้นแล้ว!
เฉินเป่ยเงยหน้า จ้องหวางป้ะอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง “หัวหน้าหวาง ถ้าต่อไปผมพบเห็นหลานชายของคุณอยู่ข้างนอกแล้วยังใช้กำลังกับผู้ชายเพื่อแย่งผู้หญิงมาอีกครั้งหนึ่งล่ะก็ เรื่องนี้ ก็คงจบไม่ง่ายแบบนี้อีก…”
หัวหน้าหวางใจเต้นทันที เฉินเป่ยมองไปทางหัวหน้าหวาง “ถึงเวลานั้น สถานีตำรวจเมืองหู้ไห่ก็ไม่สามารถปกป้องพวกคุณสองคนไว้ได้!”
เฉินเป่ยยื่นมือออกมา พลันตบหน้าหัวหน้าหวางเบาๆ การกระทำที่น่าอับอายอย่างยิ่งนี้ ทำให้สีหน้าของหัวหน้าหวางขาวซีด
เขาพลันนึกไปถึงสิ่งที่เย่ชวงพูดกับเขา บวกกับคำข่มขู่อันน่าหวาดกลัวของเฉินเป่ยเหล่านั้น จนทำให้หัวหน้าหวางนิ่งไปในทันที
“ส่วนสิ่งของไม่สมบูรณ์ชิ้นนี้ ผมจะสั่งสอนให้เป็นอย่างดี ขอให้คุณเฉินโปรดวางใจ ภายหลังจะไม่ให้เขากลายเป็นตัวอันตรายต่อสังคมอีก” หัวหน้าหวางเสียงสั่น ฝ่ายเฉินเป่ยก็เอามือไพล่หลัง เดินออกจากสถานีตำรวจอย่างไม่แยแส
“คุณอา มันก็แค่เศษสวะ ทำไมต้องไว้หน้ามันด้วย” หวางป้ะพูดอย่างไม่พอใจ
“หุบปาก!” หัวหน้าหวางตวาดอย่างดุดัน คำพูดของเฉินเป่ย ทำให้เขาหวาดกลัวมากจริงๆ
“ต่อไปถ้าเห็นเขา ให้เดินอ้อม ถ้าก่อปัญหาให้ฉันอีกล่ะก็ ฉันจะหักขาแกซะ!” เสียงของหัวหน้าหวางสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด
…………
สถานีตำรวจเมืองเมืองหู้ไห่
ภายในห้องทำงานของเย่ชวง เย่ชวงที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ดวงตาคู่งามจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทางสถานีตำรวจเพิ่งส่งภาพในกล้องวงจรปิดภายในร้านหม้อไฟส่งมาให้
การต่อสู้ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาดของเฉินเป่ยนั้น เข้าถึงยากมาก ทำให้ดวงตางามของเย่ชวงปรากฏการครุ่นคิดอันลึกซึ้ง
เย่ชวงกอดอก เฉินเป่ยคนคนนี้ ไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ! อีกทั้งตัวตนของเขา ก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย!