สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 392
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่392 เก้าล้าน!
หลีชิงเยียนมองดูจางเป่าเฉิงด้วยคิ้วที่ขมวด เห็นได้ชัดว่า หลีชิงเยียนไม่คิดเลยว่า จางเป่าเฉิงที่เป็นถึงหัวหน้าสมาคม อยู่ในแวดวงนี้มานานและไม่มีใครไม่รู้จัก ครั้งนี้กลับไม่รู้ว่าเฉินเป่ยทำแบบนี้ได้ยังไง!
และคิ้วของหลีชิงเยียนเพียงแค่ขมวดเล็กน้อยเท่านั้น ก็คลายออกในทันที ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่
สายตาที่ประธานสาวมองเฉินเป่ย ก็เปล่งประกายขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เธอไม่รู้ว่าเฉินเป่ยทำได้ยังไง ตัดขยะสามก้อน ทุกก้อนมีหยกหมด ตอนนี้เธอรู้สึกแปลกประหลาดและสงสัยในตัวเฉินเป่ยมากกว่าเดิม
อีกอย่างมีหลงหยาในมือของเฉินเป่ย แหลมคมมาก สามารถตัดผิวหินได้อย่างแม่นยำและง่ายๆ…บอกได้ว่าเหมือนกับตัดเหล็กดั่งดินเหนียว
หลีชิงเยียนรู้สึกสงสัยในตัวเฉินเป่ยมาก เธอรู้สึกว่า เหมือนเธอจะไม่เข้าใจเฉินเป่ยเลยด้วยซ้ำ บนตัวเฉินเป่ยมีความลับมากมาย การกระทำทุกอย่างของเฉินเป่ยในตอนนี้ ทำให้หลีชิงเยียนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
หมอนี่ ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
ทันใดนั้น ในสมองของหลีชิงเยียนก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว ทำให้เธอต้องใจเต้นสั่น อดไม่ได้พูดในใจว่า……หมอนี่คงไม่ได้จะตัดหินหยาบร้อยๆก้อนพวกนี้ทั้งหมดหรอกนะ!
“ปัง!”
ในตอนที่หลีชิงเยียนกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้น เฉินเป่ยลงมืออีกครั้ง มีดหลงหยาในมือยกขึ้น และตัดลงไปอย่างแรง!
และผู้คนที่มุงดูก็ฮือฮากันใหญ่ “อีกแล้ว!”
“พระเจ้า เขายังเป็นคนอยู่ไหม เป็นหยกอีกแล้วเหรอ!”
“ดวงตาคู่นั้นของเขาต้องมองทะลุได้แน่! เขาซื้อขยะที่มีหยกมากมายพวกนี้มาจากไหนกันนะ!”
ผู้คนที่มุงดูก็ตะลึงอย่างมาก ต่างก็ตกใจกันใหญ่ สายตาที่ซับซ้อนมองเฉินเป่ย เหมือนว่ากำลังดูสิ่งแปลกประหลาดอยู่!
จางเป่าเฉิงมองดูแผ่นหลังของเฉินเป่ย มุมปากกระตุกเล็กน้อย สีหน้าซีดเซียว ทั้งตัวอ่อนแรงไปหมด
เขามองเฉินเป่ย ร่างหายสั่นเทา เขาไม่รู้เลยว่าเฉินเป่ยทำแบบนี้ได้ยังไง ขนาดเขาที่เผชิญหน้ากับหินสีดำที่ไร้ค่าพวกนี้ ยังไม่กล้ารับประกันเลยว่า ด้านในมีหยกจริง
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าตัดสินตามประสบการณ์และสายตาของเขา หินหยาบที่เฉินเป่ยซื้อมา ส่วนใหญ่น่าจะไม่มีหยกทั้งหมด
แต่เฉินเป่ยตัดออกมาเป็นหยกครั้งแล้วครั้งเล่า คอยตอกย้ำและหวดหน้าเขาอย่างจังกับการตัดสินผิดๆ
จางเป่าเฉิงปากกระตุกอย่างหนัก เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าหินหยาบที่เฉินเป่ยซื้อมา จะเป็นหยกทั้งหมด!
แต่ทุกครั้งที่เฉินเป่ยตัดหยกออกมา หัวใจของจางเป่าเฉิงก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเขาชินกับเสียงร้องตกใจของผู้คนไปแล้ว
“สิบเอ็ด สิบสอง…สามสิบ…สี่สิบ…ห้าสิบ……” ผู้คนที่มุงดูต่างก็ช่วยเฉินเป่ยนับ หินหยาบที่กองเป็นภูเขาพวกนั้นค่อยๆลดลง เฉินเป่ยจับมีดหลงหยาไว้ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเร็วมากขึ้น มีดหลงหยาในมือเขาเริ่มกลายสภาพลงเรื่อยๆ ผู้คนที่มุงดูมากมาย น้อยคนมากที่จะดูการเคลื่อนไหวของเขาทัน
ทุกคนเห็นแค่ว่าเฉินเป่ยจับมีดหลงหยาไว้ หลังจากที่ตัดหินหยาบพวกนั้นไปแล้ว ผิวที่แข็งด้านของหินหยาบก็ตกลงทีละแผ่น และก็มีหยกสีสวยข้างในปรากฏออกมา
ผู้คนที่มามุงดูเห็นหินหยาบถูกตัดออกมากขึ้นเรื่อยๆ สายตาที่มองเฉินเป่ยก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ตะลึงและสับสน……หินหยาบที่ไร้ค่าสิบกว่าก้อน ต่างก็มีสีทั้งหมด ข่าวแบบนี้ จะต้องเป็นตำนานของวงการการพนันเพชรพลอยเป็นแน่!
หินหยาบที่ไม่มีใครเอา ในช่วงนี้เอง มีสีสันแสบตาเปล่งประกายออกมา!
สายตาผู้คนมองเฉินเป่ยอย่างตกใจ ใครจะคิดว่า วันนี้มีคนตัดหินหยาบไร้ค่าสิบกว่าก้อนในงานการพนันเพชรพลอยนี้ และยังมีหยกทั้งหมด! ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นแบบเกรดเอทั้งหมดอีก!
เดาได้ว่า ไม่นาน วงการการพนันเพชรพลอยจะบ้าคลั่งขึ้นมา! ขยะที่ถูกคนในวงการรังเกียจ วันนี้จะพลิกพลันตัวได้อีกครั้ง!
“เก้าสิบสาม…เก้าสิบสี่…เก้าสิบแปด…เก้าสิบเก้า…หนึ่งร้อย!”
ในพริบตาเดียว เฉินเป่ยที่จับมีดหลงหยาไว้ ตัดหินหยาบที่เหลือออกทั้งหมดแล้ว
และคนที่มามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ต่างก็เงียบสงบกันไปสักพัก ต่อมาก็มีเสียงปรบมือดังกึ่งก้องกังวานขึ้น!
ผู้คนต่างแตกตื่นกันไปหมด! พวกเขาทุกคน พึ่งเคยเจอแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาผู้ซึ่งเหลือขยะมาร้อยกว่าก้อน และตัดออกมาเป็นหยกชั้นดีทั้งหมด!
ความเป็นไปได้นี้ ไม่น่าจะมีอยู่ แต่เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นจริง!
“นี่เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
จางเป่าเฉิงจับต้องหินหยาบร้อยกว่ากอดโดยไม่ละสายตา สีหน้าซีดเซียวส่ายหน้าไม่หยุด และพูดพึมพำ
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเฉินเป่ยจะทำสำเร็จจริง!
จางเป่าเฉิงคาดเดามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่ายังไงเฉินเป่ยก็ไม่มีทางสำเร็จได้! ขยะร้อยก้อน เปิดออกมาเป็นหยกทั้งหมด ความเป็นไปได้นี้น้อยมากและแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย ดังนั้นไม่ว่ายังไงจางเป่าเฉิงก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!
แต่ว่า ที่ทำให้จางเป่าเฉิงรับไม่ได้เลยก็คือ ทุกอย่างได้เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว!
ขยะร้อยก้อนเต็มๆ ทุกก้อนมีสีทั้งหมดด้วย!
ถ้าเป็นเมื่อก่อน จางเป่าเฉิงไม่มีทางเชื่อแน่นอน เขาเป็นถึงหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย เขาจะต้องต่อว่าอย่างเข้มงวดแน่นอน!
แต่ตอนนี้ล่ะ? จางเป่าเฉิงเห็นเองกับตา! จะให้เขาเชื่อได้ยังไง!
พอเฉินเป่ยตัดหินหยาบร้อยก้อนเสร็จแล้ว ก็ถอนหายใจยาวออกมา หันกลับไปช้าๆ เดินไปตรงหน้าจางเป่าเฉิงที่มีสีหน้าซีดขาว
จางเป่าเฉิงจ้องหินหยาบร้อยกว่าก้อนพวกนั้นไม่ละสายตา มองดูหยกชั้นดีแต่ละก้อนด้วยสายตาที่ซับซ้อน
ผ่านไปนานมาก จางเป่าเฉิงมองดูหินหยาบพวกนั้นและพูดว่า “นายทำได้ยังไงกัน?”
เฉินเป่ยยิ้มอ่อนๆ มองจางเป่าเฉิง และพูดประชดประชันว่า “ยากเหรอ ในเขตการพนันชั้นล่าง ใช่ว่าจะไม่มีหินหยาบ ทำไมถึงบอกว่าพวกมันเป็นขยะ แล้วจะเปิดไม่มีหยกด้านใน? นายยังไม่ได้เปิดดูเลย ก็ด่วนสรุปไปแล้ว?”
น้ำเสียงของเฉินเป่ยเรียบสงบ แต่ฟังแล้วกลับกระทบหูมาก ทำเอาจางเป่าเฉิงหน้าตึงไปทันที
จางเป่าเฉิงยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าบูดบึ้ง คำพูดของเฉินเป่ยพูดกับคนอื่นอาจจะไม่เป็นไร แต่สำหรับจางเป่าเฉิงแล้ว กลับเป็นคำพูดที่โหดร้ายมาก!
ผู้คนที่มามุงดูก็ต่างแตกตื่นกันหมด คนที่มาร่วมงานการพนันเพชรพลอยในครั้งนี้ ส่วนใหญ่ต่างก็วิจับศึกษามาไม่น้อยเหมือนกัน พวกเขาก็ต้องรู้จักจางเป่าเฉิงดีอยู่แล้ว
และพอพวกเขาได้ยินเฉินเป่ยพูดแบบนี้กับจางเป่าเฉิง หน้าทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที!
ไม่มีใครคิดเลยว่า เฉินเป่ยจะกล้าพูดแบบนี้กับจางเป่าเฉิง! เฉินเป่ยกล้ามากจริงๆ บอกได้ว่าใจกล้ามาก!
จางเป่าเฉิงคือใคร? เขาเป็นถึงหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยทั่วประเทศจีนเชียวนะ และเฉินเป่ย แม้จะมีความสามารถมากแค่ไหน เทียบกับจางเป่าเฉิงแล้ว ยังคงเทียบกันไม่ติดอยู่ดี
และน้ำเสียงของเฉินเป่ย ไม่มีความกลัวจางเป่าเฉิงเลยแม้แต่น้อย!
“ไม่งั้น นายก็คุกเข่าคำนับขอโทษฉันสิ?” เฉินเป่ยแสยะยิ้มมุมปาก และพูดอย่างได้ใจ
“ซี๊ด!”
ผู้คนที่มุงดูนั้นต่างก็อึ้งกันหมด น้ำเสียงของเฉินเป่ยมีความหยิ่งผยอง และยโสโอหังอยู่ไม่น้อย ราวกับว่าไม่เอาจางเป่าเฉิงไว้ในสายตาด้วยซ้ำ!
ได้ยินเสียงสูดหายใจของทุกคนดังขึ้น ให้จางเป่าเฉิงคุกเข่าคำนับขอโทษงั้นเหรอ……ต้องมีความกล้าเท่าไหร่ถึงจะพูดแบบนี้ได้กัน!
และสีหน้าของเฉินเป่ยเรียบเฉยมาก ไม่มีความกลัวเลยแม้แต่นิด เหมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
และจางเป่าเฉิงที่ตอนนี้มีสีหน้าบึ้งตึง พอได้ยินเฉินเป่ยพูดแบบนี้ ก็อึ้งไปทันที เขาพูดตอบกลับว่า “แค่ร้อยล้านนายยังหามาไม่ได้ ยังคิดจะให้ฉันยอมแพ้งั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
เฉินเป่ยยิ้มเยาะๆ เหมือนจะรู้ว่าจางเป่าเฉิงต้องพูดแบบนี้แน่ เขาจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ฉันยังเปิดหยกจากขยะพวกนี้ได้ร้อยกว่าก้อน นายยังคิดว่าฉันจะหาเงินร้อยล้านไม่ได้อีกเหรอ?”
จางเป่าเฉิงอึ้งไปชั่วขณะ ในตอนนี้เอง เฉินเป่ยหันหลังไป ตะโกนเสียงดังว่า “พนักงาน!”
ไม่นาน ในหมู่ผู้คนมีร่างหนึ่งเดินออกมา ปรากฏอยู่ตรงหน้าเฉินเป่ย ก็คือพนักงานในงานการพนันเพชรพลอยนี้นี่เอง เขาโค้งคำนับอย่างมีมารยาท ใบหน้ามีรอยยิ้มที่อ่อนโยน และพูดว่า “คุณผู้ชาย มีอะไรให้รับใช้ไหมครับ?”
เฉินเป่ยมองดูพนักงานคนนั้น และชี้หินหยาบร้อยกว่าก้อนพูดว่า “ขายพวกนี้ให้กับทางการพวกนายหน่อย เงินถึงเวลาจะโดนไปบัญชีนายเอง”
พนักงานคนนั้นอึ้งเล็กน้อย กวาดสายตามองหินหยาบร้อยกว่าก้อน สีหน้าก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที…ถ้าเขาขายหยกพวกนี้ให้กับทางการได้ทั้งหมด ตัวเองก็จะได้ส่วนแบ่งมาไม่น้อยเลยนะ!
“คุณผู้ชาย เชิญตามผมไปพักผ่อนและรอในเขตพักผ่อนได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะรวบยอดหินหยาบทั้งหมดเลย” พนักงานคนนี้ดูเป็นมิตรกับเฉินเป่ยมาก ไม่นานก็พาเฉินเป่ยและคนอื่นๆมาในเขตพักผ่อนระดับสูงแล้ว
นั่งลงในเขตพักผ่อน พนักงานคนนั้นก็เทชาให้เฉินเป่ยอีก ต่อมาก็ไปช่วยเฉินเป่ยขายหินหยาบพวกนั้นทั้งหมด
เฉินเป่ยนั่งอยู่ในเขตพักผ่อน กำลังดื่มชาร้อนๆ ทันใดนั้นหลีชิงเยียนก็มองเฉินเป่ย และถามว่า “นายทำได้ยังไงกัน?”
เฉินเป่ยอึ้ง มองหลีชิงเยียนและถามว่า “ชิงเยียน เธออยากรู้อะไรก็ถามตรงๆเลยสิ”
“นายหาขยะมากมายพวกนี้มาจากไหนกัน และด้านในเปิดออกมายังเป็นหยกทั้งหมดอีก เมื่อกี้นายเดินเข้าแผงร้านพวกนั้น ไม่ได้มองอย่างละเอียดเลยนะ แค่พริบตาเดียวก็เลือกหินหยาบพวกนั้นมาแล้ว” หลีชิงเยียนนั่งตรงข้ามเฉินเป่ย ขาเรียวบางของเธอไขว้กัน วันนี้เธอแต่งตัวได้เซ็กซี่มากพอสมควร ทำเอาเฉินเป่ยที่มองแค่แวบเดียว ก็แทบจะหลงใหลหลีชิงเยียนหัวปักหัวปำ
เฉินเป่ยมองใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนค้าง มองจากบนลงล่างเรื่อยๆ จนกระทั่งมองลงไปถึงรองเท้าส้นสูงแดงสวยและใหม่เอี่ยมคู่นั้น เท้าบัวทองงามของเธอนั้น ทำเอาเฉินเป่ยแสยะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“นี่ ฉันพูดนายไม่ได้ยินหรือไงกัน!”
หลีชิงเยียนเห็นสายตาเฉินเป่ยลอยล่องไปมาไม่อยู่กับที่ สุดท้ายก็อดไม่ได้ดุเขาเสียงเบา
เฉินเป่ยตอนนี้ตั้งสติ นึกถึงคำถามของหลีชิงเยียนได้ ก็หัวเราะออกมา และพูดว่า “ชิงเยียน เธอคงไม่คิดว่าวันก่อนฉันเดินเที่ยวเล่นในงานการพนันเพชรพลอยนี่หรอกนะ?”
“ไม่งั้นล่ะ?” หลีชิงเยียนคิ้วขมวดเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าตัวเองเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นแล้ว
“ฉันก็แค่แวะซื้อเล็กๆน้อยๆ คอยสำรวจดูของดีที่แต่ละแผงไม่มีใครซื้อ และก็ถูกฉันซื้อกลับมาไม่น้อยเลยล่ะ……” เฉินเป่ยพูดแล้ว ก็มองจางเป่าเฉิงที่ตอนนี้สีหน้าดูบูดบึ้งมาก ก็พูดว่า “จะว่าไปแล้วงานการพนันเพชรพลอยนี้ก็โง่เง่าเหมือนกันนะ ไม่รู้ใครเป็นคนต้นคิด ไม่เอาหินหยาบไร้ค่าพวกนี้ไปประมูล ขายออกในราคาต่ำ ถ้าไม่ใช่เพราะราคาต่ำ ฉันก็คงไม่ซื้อมาทีเดียวเยอะขนาดนี้หรอกนะ……”
จางเป่าเฉิงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเฉินเป่ยด่าทอไม่หยุด ก็โกรธจนแทบจะกระอักเลือดอยู่แล้ว!
หินหยาบไร้ค่าพวกนั้นขายออกในราคาต่ำ ทุกครั้งที่ประมูลก็จะประมูลไม่ผ่านทุกครั้ง ดังนั้นต่อมาจางเป่าเฉิงจึงเปลี่ยนกฎเกณฑ์
สุดท้ายจางเป่าเฉิงก็คิดไม่ถึงเลยว่า มีวันหนึ่ง จะมีชายคนหนึ่ง ใช้กฎนี้ประชดเขาอย่างแรงไปครั้งหนึ่ง
ประธานสาวได้ยินเฉินเป่ยพูดแล้ว เธอคอยฟังเงียบๆ บางทีก็มองตาของเฉินเป่ย มีความรู้สึกแปลกๆเพิ่มเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว
ประธานสาวสบตากับเฉินเป่ย สายตาแม้จะยังคงเย็นชาอยู่ แต่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ดูอ่อนโยนลงมาก
และในตอนนี้เอง จางเป่าเฉิงก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “นายอย่าคิดว่าแบบนี้ นายก็จะหาเงินได้ร้อยล้านนะ เมื่อกี้นายหาได้เยอะก็จริง แต่ร้อยล้านน่ะเหรอ ยังห่างอยู่มาก” จางเป่าเฉิงหยุด และมองเฉินเป่ย สายตาดุร้าย “วิธีเดียวกันใช้ได้แค่ครั้งเดียว และเขตการพนันชั้นสูง ไม่มีหินหยาบไร้ค่าให้นายเล่นหรอกนะ”