สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 393
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่393 เป้าหมายของจิง
จางเป่าเฉิงเป็นถึงหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย ก็ต้องรู้เรื่องงานการพนันเพชรพลอยเป็นอย่างดี แม้จะถูกเฉินเป่ยใช้กฎนี้โต้ตอบและเยาะเย้ยอย่างหนัก แต่จางเป่าเฉิงตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว
จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ย แสยะยิ้มเย็นชาและพูดว่า “เป้าหมายเงินร้อยล้า ยังห่างอยู่มาก อย่าคิดว่าแบบนี้นายก็จะหาเงินร้อยล้านได้”
สีหน้าจางเป่าเฉิงดูเย็นชามาก เขาไม่เชื่อว่าเฉินเป่ยจะทำสำเร็จได้
ตอนนี้เฉินเป่ยจะกระตุ้นเขายังไง ถึงเวลาถ้าทำไม่สำเร็จ ตัวเองก็ใช้โอกาสนั้นเยาะเย้ยเขากลับได้
เฉินเป่ยมองตาขวางจางเป่าเฉิง และถามอย่างเรียบเฉยว่า “นายคิดว่ามีโอกาสที่หินขยะร้อยก้อนจะมีสี หรือโอกาสหาเงินร้อยล้านจะสูงกว่ากัน?”
“ไร้สาระ หินขยะร้อยก้อน…นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะ……” สีหน้าจางเป่าเฉิงเย็นชามาก เขาตอบออกไปโดยไม่ลังเลเลย
และจางเป่าเฉิงพูดออกไปไม่นาน ก็ต้องอึ้งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นเขาก้รู้สึกตัวและมองไปทางเฉินเป่ย
เฉินเป่ยหัวเราะ มองจางเป่าเฉิงด้วยสายตาที่เยาะเย้ย “ฉันยังตัดหินขยะที่มีหยกในนั้นได้ร้อยก้อนเลย นายมีสิทธิอะไรมาคิดว่าฉันจะไม่สามารถหาเงินร้อยล้านได้?”
คำพูดเดียวของเฉินเป่ย ก็ทำเอาจางเป่าเฉิงเงียบๆทันที เขามองเฉินเป่ยด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าบึ้งตึงมาก
จางเป่าเฉิงแทบจะบ้าตายกับเฉินเป่ยอยู่แล้ว เขาเป็นหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยมานานหลายปี เป็นครั้งแรกที่มีคนเถียงเขาเหมือนเฉินเป่ยแบบนี้!
“ดี งั้นฉันจะคอยดู นายจะหาเงินร้อยล้านยังไง!” จางเป่าเฉิงแสยะยิ้มเย็นชา และพูดท้าทายไปทันที
เฉินเป่ยถูกจางเป่าเฉิงบีบบังคับอยู่หลายครั้ง สีหน้ากลับยังนิ่งเฉยได้อยู่ เขาหัวเราะเบาๆ
ภายในเขตพักผ่อนนี้ ไม่ทันไร บรรยากาศก็ล้อมรอบไปด้วยกลิ่นระเบิดแล้ว
ประธานสาวข้างๆ ใบหน้าสวยของเธอมีอาการทำอะไรไม่ถูก
นั่งอยู่ภายในเขตพักผ่อน ผ่านไปนานมาก ก็มีพนักงานชายเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม สองมือจับบัตรธนาคารหนึ่งใบยื่นให้กับเฉินเป่ย และพูดอย่างเคารพว่า “คุณผู้ชาย นี่คือเงินที่ทางการเสนอราคาของหินหยาบร้อยก้อน ให้ราคามาเก้าล้าน เงินโอนเข้าบัตรนี้แล้วครับ”
“เก้าล้าน?!” จางเป่าเฉิงที่อยู่ข้างๆร้องออกมาอย่างตกใจ ตาเขากระตุกอย่างหนัก สีหน้าเปลี่ยนไปทันที!
จางเป่าเฉิงที่มั่นใจมาตลอด ครั้งนี้เกินคาดเขามาก เขาไม่คิดเลยว่า หินหยาบร้อยก้อน จะขายได้ในราคาเก้าล้าน!
จากที่เขาเข้าใจในการพนันเพชรพลอย หินหยาบพวกนี้ อย่างมากก็ขายได้แค่สี่ห้าล้าน ขายเก้าล้านได้ยังไงกันนะ?!
จางเป่าเฉิง “พรึ่บ” ยืนขึ้นมาอย่างเร็ว มองไปที่พนักงานชาย ถามเสียงเข้มว่า “พวกนายคิดผิดไปหรือเปล่า จะได้เก้าล้านได้ยังไงกัน?!”
พนักงานคนนั้นที่เห็นจางเป่าเฉิงแล้ว ก็ต้องใจสั่นอย่างแรง สีหน้าซีดขาว รีบอธิบายว่า “หัวหน้าสมาคมจาง ไม่ได้คิดผิดนะครับ ทางการของงานจัดการตรวจสอบหินหยาบ ก็เห็นว่าคุณเฉินไม่ได้ตัดหินด้านในออกทั้งหมด หินหยาบมากมายยังมีหยกในนั้นอยู่มาก แค่ถูกผิวหินปิดบังไว้เท่านั้น…คิดรวมๆกันแล้ว เป็นเก้าล้านจริงๆนะครับ”
จางเป่าเฉิงหน้านิ่งไปทันที เขาหันไปมองเฉินเป่ยอย่างแรง เฉินเป่ยนั่งอยู่ตรงนั้น สายตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย และพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันรู้แล้ว เรียกพนักงานในงานที่บริการดีที่สุดมา ทั้งวันนี้ ฉันยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ”
“ได้ครับ คุณผู้ชาย ขอให้คุณเล่นอย่างสนุกนครับ” พนักงานคนนั้นพยักหน้า และกลับหลังหันเดินออกไป
และสีหน้าจางเป่าเฉิงกลับบึ้งตึง นั่งลงช้าๆ ใบหน้าแสบร้อนชาอย่างมาก สายตาเย็นยะเยือก เขาไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้เฉินเป่ยจะหาเงินเก้าล้านได้อย่างรวดเร็วแบบนี้!
และในตอนนี้เอง เสียงหยิ่งผยองก็ดังขึ้น ดังเข้าหูจางเป่าเฉิงอย่างชัดเจน “หัวหน้าสมาคมจาง การบริการของนาย ไม่ค่อยเป็นมืออาชีพเท่าไหร่เลยนะ ขนาดราคาหินหยาบก็ยังประเมินไม่ตรงอีก”
จางเป่าเฉิงทำเสียงฮึอย่างเย็นชา มองเฉินเป่ยและพูดเสียงเรียบว่า “สิบล้านยังไม่ถึงเลย ห่างจากร้อยล้านอีกไกล ยังเหลืออีกตั้งสิบเก้าล้าน”
จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ยและพูดต่อว่า “นี่ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว เหลือเวลาให้นายไม่มากแล้วนะ”
เฉินเป่ยเบะปาก ทำท่าเฉยๆและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลหรอกนะ คนเก่งย่อมมีวิธีอยู่แล้ว”
จางเป่าเฉิงจ้องมองเฉินเป่ย แสยะยิ้มเย็นชา ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
และในตอนนี้เอง มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นจากที่ไม่ไกลนัก นำทางมาโดยพนักงานเดินมาหาเฉินเป่ย
หุ่นคนที่เดินมาดูเพรียวบางมาก บวกกับที่ได้รับการฝึกมารยาทที่เข้มงวดมา ร่างผอมบางเดินเข้ามาใกล้ ราวกับดอกไม้งาม มีเสน่ห์อย่างมาก
ร่างนั้นปรากฏขึ้นตรงหน้าเฉินเป่ย ตัวสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร หญิงสาวยืนอยู่อย่างนั้น มองเฉินเป่ยจากบนลงล่าง ขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “ทำไมเป็นนายอีกแล้วล่ะ?”
ร่างนั้นไม่ใช่ใครอื่นนั่นก็คือพนักงานสาวสวยก่อนหน้านั้นที่ชื่อเป้าอวี่
เฉินเป่ยพอเห็นเป้าอวี่ก็อึ้งเล็กน้อย สายตามองเป้าอวี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า พยักหน้าเหมือนกำลังมองดูงานศิลปะชิ้นหนึ่งอยู่
แต่ว่าสายตาที่ร้อนแรงมีความล่วงล้ำของเฉินเป่ยทำเอาเป้าอวี่ต้องคิ้วขมวดทันที เธอหันไปหาพนักงานคนนั้น และถามว่า “ไหนว่ามีเถ้าแก่เรียกฉันยังไงล่ะ? ทำไมเป็นเขาได้ล่ะ?”
“คุณคนนี้ก็คือเถ้าแก่คนนั้นไง” พนักงานคนนั้นเมื่อกี้เห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่างมากับตา ดังนั้นจึงทำดีต่อเฉินเป่ยอย่างมาก
และเป้าอวี่กลับขมวดคิ้ว มองดูเฉินเป่ย อดไม่ได้พูดว่า “เสี่ยวจาง นายแน่ใจนะว่าไม่ได้หลอกฉัน? เขาไม่เข้าใจกฎกติกาพื้นฐานของงานการพนันเพชรพลอยด้วยซ้ำนะ นายบอกว่าเขาตัดหินขยะออกมาเป็นหยกได้ร้อยก้อนงั้นเหรอ?”
ก่อนหน้านี้เป้าอวี่ไม่ค่อยประทับใจตัวเฉินเป่ยเท่าไหร่ จึงพูดตรงๆต่อหน้าเฉินเป่ย ขนาดประธานสาวข้างๆ พอได้ยินคำพูดของเธอก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ทำไม สาวน้อย อย่าดูถูกคนอื่นสิ หินขยะร้อยก้อนแล้วไง แค่โชว์ฝีมือหน่อย เธอก็ไม่เชื่อหรือไง?” เฉินเป่ยทนไม่ไหว เลิกคิ้วขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
เป้าอวี่มองดูเขา “ก็ไม่ได้ไม่เชื่อ ท่าทางนายแบบนี้ ยากที่จะทำให้ฉันเชื่อว่านายเป็นลูกค้าที่เพื่อนฉันพูดถึงจริงๆ”
สายตาของเป้าอวี่กวาดมองเฉินเป่ย ใช่สิ ที่เป้าอวี่พูดมาไม่มีผิด เฉินเป่ยทำท่าแบบนี้ อย่าว่าเป็นเถ้าแก่เลย ขนาดคนธรรมดายังไม่คล้ายเลย ทำตัวเหมือนกับขอทานไปได้
เข้ามาภายในเขตการพนันระดับสูงได้ ใครบ้างไม่ใช่ชุดเรียบร้อย ชุดสูทรองเท้าหนัง ไม่ขาดเลยสักอย่าง?
และเฉินเป่ยอยู่ในเขตการพนันระดับล่าง ดูสกปรกมาก เหมือนกับอันธพาลข้างถนนไม่มีผิด เป็นแบบนี้แล้วจะให้เป้าอวี่เชื่อได้ยังไงว่า เขาเป็นเถ้าแก่ที่เสี่ยวจางพูดถึงจริงๆ
“ระวังคำพูดของเธอด้วย ฉันมีนามสกุลและชื่อ ไม่ได้ชื่อว่าสาวน้อย” เป้าอวี่มองดูเฉินเป่ยอย่างดูถูกและพูดอย่างเย็นชา
เฉินเป่ยนั่งอยู่ทางนั้น ทำเสียงจึ๊ๆ มองจางเป่าเฉิงและพูดว่า “งานการพนันเพชรพลอยของนายไม่ได้เรื่องเลยนะ ทำกันยังไงเนี้ย……นี่ก็คือพนักงานที่บริการในงานเหรอ?”
เป้าอวี่ถึงได้มองไปตามสายตาของเฉินเป่ย ตอนที่เธอเห็นจางเป่าเฉิงที่มีสีหน้าเรียบเฉย ม่านตาก็หดลงทันที รีบก้มหน้าลง พูดอย่างเคารพว่า “หัวหน้าสมาคมจาง ขออภัยด้วยค่ะ”
จางเป่าเฉิงปัดมือ เป้าอวี่มองดูเฉินเป่ย และมองจางเป่าเฉิง สองตาสงสัยอย่างมาก……เธอไม่เข้าใจเลย ครั้งก่อนเห็นสองคนนี้ จางเป่าเฉิงยังประชดประชันเฉินเป่ยอยู่เลย ตอนนี้ทั้งสองกลับมานั่งด้วยกันได้!
“ไปเถอะ เดี๋ยวยังมีเรื่องที่ต้องให้เธอจัดการอีกมาก” เฉินเป่ยลุกขึ้นพูด
“ถ้าทำได้ดี มีทิปให้เธอแน่นอน” เฉินเป่ยพูดเสริมไปอีกคำ
เป้าอวี่อึ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เธอไม่เชื่อคำพูดของเฉินเป่ยอยู่แล้ว…เฉินเป่ยสกปรกขนาดนั้น บนตัวยังมีกลิ่นบุหรี่อีก เสื้อกั๊กสีขาวด้านนอกที่คลุมเสื้อเชิ้ตสีขาวไว้มีรูนับไม่ถ้วน เหมือนคนที่พึ่งปีนออกมาจากหลุมสงคราม คนแบบนี้ จะเป็นคนใจกว้างได้งั้นเหรอ?
“ชิงเยียน พวกเราไปกันเถอะ” เฉินเป่ยหันหน้าไปมองหลีชิงเยียน
สายตาของเป้าอวี่มองไปที่หลีชิงเยียน ก็มองด้วยสายตาที่อิจฉามาก หลีชิงเยียนลุกขึ้นช้าๆ หุ่นผอมเพรียวได้รูปของเธอ เพียงพอต่อความต้องการของนักแกะสลัก ก็หาข้อบกพร่องบนตัวของสาวงามคนนี้ได้ยาก
หลีชิงเยียนลุกขึ้น มีความหอมฟุ้งลอยที่ทำคนหลงใหล ลอยออกมา พุ่งเข้าจมูกของเป้าอวี่เต็มๆ กลิ่นนี้ทำให้เธอที่เป็นผู้หญิง ยังอดไม่ได้ต้องหลงเสน่ห์ของหลีชิงเยียน
ผมยาวสลวยของเธอหาดไหล่ของเธอไว้ เพียงแค่ใบหน้าที่สวยงามจนไม่มีใครเทียมได้ ก็สามารถทำให้คนแทบจะหยุดหายใจไปทันที และยังฆ่าเป้าอวี่ได้ในพริบตาเดียวอีก!
เป้าอวี่แม้จะสวย แต่เทียบกับหลีชิงเยียนแล้ว เธอยังขาดความมีเสน่ห์ไปอีกเล็กน้อย เทียบไม่ได้กับหลีชิงเยียนเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งไปต้องพูดถึงออร่าของประธานสาวที่มีความสง่าพุ่งพรวดออกมา เป้าอวี่ไม่สามารถเทียบได้เลย
พอหลีชิงเยียนลุกขึ้นแล้ว สองมือวางซ้อนกันถือกระเป๋าใบเล็กไว้และพาดไว้ตรงหน้า นิ้วมือเรียวยาวของเธอช่างสวยงามมาก ยาวได้รูป อ่อนนุ่มลื่นไหล ทุกอย่างของเธอดูงดงามไปหมด จนไม่สามารถหาข้อบกพร่องได้เลย
ประธานสาวเพียงแค่ลุกขึ้นเท่านั้น ก็ดึงดูดสายตาของผู้คนในงานนับไม่ถ้วนแล้ว และยังเป็นสายตาที่ตะลึงอีกด้วย
เทียบกันแล้ว เป้าอวี่ที่เป็นสาวสวย ก็ดูมืดลงไปทันที เทียบกันไม่ติดเลยจริงๆ
เป้าอวี่แม้จะเป็นสาวสวย แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ถูกหลีชิงเยียนชนะขาดลอย ทำให้เป้าอวี่อดไม่ได้อิจฉาขึ้นมา
“ไปเถอะ” ผ่านไปสักพัก หลีชิงเยียนพูดขึ้นด้วยเสียงหวาน
“ไปห้องพนันชั้นล่างก่อนนะ” เฉินเป่ยพูดขึ้น
เป้าอวี่ตะลึง มองเฉินเป่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก
ในสายตาเธอแล้ว ในที่สุดเฉินเป่ยก็เข้าใจในความเป็นจริงเสียที น่าจะเป็นครั้งก่อนที่เล่นในห้องพนันระดับสูง เห็นว่าด้านในไม่ใช่สถานที่ที่ตัวเองจะจ่ายไหวได้ ถึงได้มาในห้องระดับชั้นล่างแบบนี้
เป้าอวี่สงสัยขึ้นมา เมื่อกี้เพื่อนของเธอหลอกเธออยู่หรือเปล่านะ คนที่ไปห้องพนันระดับล่างจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่ได้ยังไง