สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 436
บทที่436 เกิดมาเพื่อเป็นราชา!
สาวใช้สองคนนั้นที่อยู่ด้านข้างเงยหน้า มองทางเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาที่กำลังมีไฟโกรธล้นหลามแบบไม่มีที่ระบายออก
นี่คือครั้งแรกที่พวกหล่อนเห็นเทพธิดาแห่งภูมิปัญญามีความโกรธเคืองมหาศาลอย่างคาดไม่ถึง ทำให้พวกหล่อนจิตใจสั่นเทา
ทันใดนั้น ดวงตาคนใช้หนึ่งในนั้นเผยความสงสัย เพราะโม่ถีซือที่หน้าดุจน้ำค้างแข็ง เวลานี้ใบหน้ามีสีแดงเถือกแถบหนึ่ง แก้มสองข้าง ราวกับมีเปลวไฟสองดวง ทั้งใบหน้าอย่างกับลูกแอปเปิลสุกงอม
สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว เทพธิดาแห่งภูมิปัญญาของพวกหล่อนจะทั้งอายทั้งโกรธได้?
ในใจสาวใช้เหล่านี้อยากรู้อยากเห็น ส่วนโม่ถีซือเวลานี้กัดฟันแน่น เอ่ยปากพูดกับเฉินเป่ยในสายนั้น ชัดถ้อยชัดคำ “นายคิดว่าฉันไม่กล้าเข้าไปเหรอ?”
เฉินเป่ยในสายนั้นทำเสียงฮึดฮัดทีหนึ่ง “ทุกครั้งที่เธอเอาแต่พูดว่าอยากฆ่าฉัน แต่ฉันก็ยังอยู่รอดปลอดภัยดี เธอไม่ใช่อยากจะชีวิตฉันเหรอ? ฉันอยู่ที่เยี่ยนจิง เธออยากเอา ก็มาเอาได้ทุกเมื่อ”
“นาย!”
โม่ถีซือถือโทรศัพท์ไว้ เธอโดนเฉินเป่ยทำให้โมโหไม่เบา ความจริงเฉินเป่ยช่างกำเริบเหลือเกิน คาดไม่ถึงมายั่วยุเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาอย่างเปิดเผย นี่เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นเทพธิดาอยู่ในสายตา
นี่ถึงเป็นสไตล์ของราชาหลง ไร้ยางอายและอันธพาล เฉินเป่ยยั่วยุอย่างโจ่งแจ้งที่สุด ทำให้โม่ถีซือกลับไม่เอ่ยถึงด้วยซ้ำไป
ครั้งก่อนที่โม่ถีซือมา ไม่เพียงไม่ได้ถึงขั้นยอมเฉินเป่ย แต่ทว่ายังถูกเฉินเป่ยใช้ไม้แข็งลงโทษอย่างเฉียบขาดยกหนึ่ง จนกระทั่งถึงตอนนี้ โม่ถีซือยังไม่ลืม คืนนั้นเฉินเป่ยลงโทษกับเธออย่างบ้าคลั่งดุจสัตว์ป่าดุร้าย ทำให้เธอหมดแรงลงไปหลายรอบ วันต่อมา เสียงยังแหบไปหมดเลย
โม่ถีซือจะส่งตัวเองไปให้ถึงที่อีกได้อย่างไรกัน เป็นตุ๊กตายางรุ่นคนจริง……
ส่วนเฉินเป่ยพูดถึงสองครั้งนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้โม่ถีซืออารมณ์เสียอย่างควบคุมไม่อยู่…นี่เป็นสองครั้งที่อับอายที่สุดในชีวิตของตนเอง ผลสุดท้ายถูกเฉินเป่ยคนสารเลวที่สมควรตายคนนี้ยึดครองทั้งหมดแล้ว
คนสารเลวนี้ เขาไร้ยางอายถึงขีดสุดอย่างยิ่ง
ชั่วขณะนั้นโม่ถีซือเสียใจอยู่บ้างแล้ว บางทีรู้สึกว่าตนเองไม่ควรช่วยคนสารเลวนี้
“ราชาหลง!” โม่ถีซือโกรธจนผมยาวยุ่งเหยิงหมดไม่ได้ไปจัดทรง แต่ละคำแต่ละประโยค กัดฟันเอ่ยปากต่อว่าเสียงดุ
“โม่ถีซือ…อย่ามายั่วโมโหฉันเป็นอันขาด มาหาเรื่องฉันเข้าแล้ว ต่อให้เธอเป็นเทพธิดาแห่งภูมิปัญญา ฉันก็ยังคงสามารถเอาเธอมาเป็นแม่สาวรับใช้คนหนึ่งของฉันได้” ในสายนั้น เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ น้ำเสียงเผยความล้ำลึกที่ไร้ขอบเขต
โม่ถีซือทำเสียงเย็นชา “ยั่วโมโหนาย? พวกที่เอาเจตนาดีมามองเป็นเจตนาร้ายอย่างนาย ฉันยังเคยเห็นเป็นคนแรก”
“เธอหมายความว่าอะไร?” เฉินเป่ยตะลึงนิดหน่อย ยักคิ้วขึ้น
“ยาถอนพิษที่นายต้องการ ฉันผสมให้นายเรียบร้อยแล้ว ไม่นานจะส่งไปในมือลูกน้องของนาย” โม่ถีซือในโทรศัพท์สายนั้น คำพูดที่ออกมากลับทำให้เฉินเป่ยไม่กล้าจินตนาการอยู่บ้าง
“เธอว่าอะไรนะ? ยาถอนพิษ?” เฉินเป่ยสั่นไปทั้งตัว ตกใจอย่างฉับพลัน เขานึกไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง โม่ถีซือจะนำข่าวดีใหญ่ขนาดนี้มาให้เขา แม้กระทั่งเฉินเป่ยไม่อยากเชื่ออยู่บ้างว่านี่เป็นความจริง
“พิษที่กระจอกแต่ละอันของเผ่าเลือด หรือเป็นยาพิษที่มีขอบเขตกว้างใหญ่ นายคิดว่ายากเกินกำลังฉันเหรอ?” โม่ถีซือหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม “นานมาแล้ว ตอนที่ฉันควบคุมข้อมูลของเผ่าเลือด เลยรู้พิษเลือดที่พวกเขาครอบครองทั้งหมด ดังนั้นจึงมีส่วนผสมอยู่ในทฤษฎีแล้ว”
เฉินเป่ยดวงตาเปล่งประกาย เขาคาดไม่ถึงจริงๆ โม่ถีซือควบคุมส่วนผสมของยาถอนพิษเลือดไว้นานขนาดนั้น
“สรุปเธออยากได้อะไร?” หลังเฉินเป่ยครุ่นคิดสักครู่ถามขึ้น เขาเข้าใจโม่ถีซือดี ถ้าไม่มีผลประโยชน์อันใด โม่ถีซือคงไม่ลงมือง่ายดายอย่างเด็ดขาด
ส่วนครั้งนี้สามารถพูดได้ว่าโม่ถีซือได้ช่วยเฉินเป่ยครั้งใหญ่ ยาถอนพิษของโม่ถีซือเกือบจะช่วยทั้งกองทหารหลง บุญคุณใหญ่ครั้งนี้ เฉินเป่ยชัดเจนมาก โม่ถีซือจะต้องเสนอข้อเรียกร้องมาสูงมากในช่วงเวลานี้ มากสุดจะเอ่ยเงื่อนไขอะไรออกมา
“ต้องการอะไร? ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นล่ะ?” โม่ถีซือในสายนั้นใจเย็นลงอยู่มาก พูดจานิ่งๆ
“อะไรก็ไม่อยากได้งั้นเหรอ?” เฉินเป่ยขมวดคิ้วแน่น “ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น หมายความว่าต้องการอะไรทั้งหมด โม่ถีซือ ข้อเรียกร้องเธอเกินไปแล้ว ฉันจะไม่รับปากเธอหรอก”
“ในเมื่อนายพูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นดูแล้วฉันทำได้เพียงเสนอข้อเดียวแล้ว” โม่ถีซือพยักหน้าแล้ว พูดว่า “หัวรบนิวเคลียร์นั้นเป็นของฉันแล้ว ไม่คืนให้นายแล้วนะ”
โม่ถีซือพูดจบ ไม่รอให้เฉินเป่ยพูดอะไรอีก ตัดสายโทรศัพท์ลงเรียบร้อย
ส่วนเฉินเป่ยมึนงงสักพักหนึ่ง ถึงตอบสนองเข้ามาแล้วรีบตะโกนว่า “โม่ถีซือ เธอหลอกฉัน!”
เฉินเป่ยถึงตอบสนองกลับมา เดิมทีโม่ถีซือขุดหลุมให้ตนเองตกลงไป ช่วยชีวิตกองทหารหลงคือเรื่องหลอก โม่ถีซือคิดถึงขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์อันนั้นอยู่ตลอดต่างหากที่เป็นเรื่องจริง
พอเฉินเป่ยไม่ระวัง จึงโดนกับดักของโม่ถีซือเข้าให้ เฉินเป่ยสีหน้าหนาวเย็น โกรธจนเดือดดาล
ยาถอนพิษของพิษเลือดสำคัญแน่นอน แต่เทียบยาถอนพิษกับหัวรบนิวเคลียร์ลูกนั้น เกือบจะเป็นหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตของกองทหารหลง
ขอเพียงมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ ถึงสามารถทำให้อภิมหาอำนาจมากมายที่อาฆาตแค้นกับเฉินเป่ยหวาดกลัวต่อกองทหารหลง ไม่กล้าลงมือมั่วซั่ว
ตอนนั้นเฉินเป่ยพยายามคิดหาทุกวิถีทาง ไม่สนใจว่าจะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต บุกเข้าไปขโมยหัวรบนิวเคลียร์ลูกหนึ่งจากประเทศอังกฤษ จนเกือบจะสูญเสียชีวิตเพราะเหตุนี้ ซึ่งพอจะดูออกถึงระดับความสำคัญที่เฉินเป่ยมีต่อหัวรบนิวเคลียร์ลูกนี้
แต่ตอนนี้ คำพูดเบาสบายประโยคหนึ่งของโม่ถีซือ ถือโอกาสเอาหัวรบนิวเคลียร์ไป เฉินเป่ยจะยอมรับปากได้อย่างไรกัน
ที่จริงโม่ถีซือไม่ได้ช่วยเหลือเปล่าๆ แต่การชดใช้นี้ของเธอช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน เดิมทีเฉินเป่ยยอมรับไม่ไหว
“โม่ถีซือ!” เฉินเป่ยได้ยินในสายโทรศัพท์นั้นไม่ว่างแล้ว สีหน้าอึมครึมดูแย่อย่างกะทันหัน
เฉินเป่ยวางโทรศัพท์ลง ถ้าฐานทัพของกองทหารหลงไม่มีหัวรบนิวเคลียร์ลูกนั้นคงจมสู่อันตราย ถ้าโม่ถีซือเผยพิกัดของเขตต้องห้ามที่กองทหารหลงอยู่ให้อิทธิพลอื่นรู้ ฐานทัพคงต้านทานการแก้แค้นของอิทธิพลเหนือชั้นพวกนั้นได้ยากมากแน่
หัวรบนิวเคลียร์เป็นของที่ฐานทัพเอามาข่มขู่อิทธิพลที่มีเจตนาชั่วร้ายพวกนั้น และกำลังเคลื่อนไหวจะก่อการร้าย แต่ถ้ากองทหารหลงไม่มีหัวรบนิวเคลียร์ลูกนี้ ความสามารถมากมาย ไม่ต้องสนใจอะไรอีก
ดวงตาของเฉินเป่ยเผยแสงหนาวเหน็บ ทั้งตัวมีกลิ่นอายที่น่ากลัวอย่างยิ่งตลบอบอวล
นี่คือออร่าที่มีเพียงแค่ราชาหลง ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปอยู่ข้างกายเฉินเป่ย ต้านทานออร่าสยองขวัญที่เฉินเป่ยปล่อยออกมาแบบไม่รู้ตัวตอนที่เดือดดาลไม่ไหวโดยเด็ดขาด
“แค่กๆๆ……” มือเฉินเป่ยกุมหมัด กล้ามเนื้อทั้งตัวปูดขึ้น แม้แต่เสียงที่กังวานราวกับถั่วทอดลอยมาจากภายในตัวของเฉินเป่ย เฉินเป่ยสีหน้าหนาวเหน็บดุร้าย นั่นคือความโกรธของราชาหลง ไฟโกรธมหึมา
ไพ่ตายที่เป็นที่พึ่งท้ายสุดของกองทหารหลงโดนคนแย่งไปแล้ว ราชาหลงจะไม่โกรธได้อย่างไร?
ส่วนโม่ถีซือ เดิมทีไม่ใช่คนธรรมดา เธอสามารถขโมยหัวรบนิวเคลียร์จากในฐานทัพหลงหุนของกองทหารหลงไปได้ ย่อมมีความสามารถในการซ่อนหัวรบนิวเคลียร์ไว้เช่นกัน ขอเพียงเธอมาพูดออกมาเอง เกรงว่าเฉินเป่ยหาทั้งชาติ คงยังหาที่อยู่ของหัวรบนิวเคลียร์ลูกนั้นไม่เจอ
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เฉินเป่ยนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าสงบลงบ้าง จนกระทั่งเสียงกริ่งมือถือดังขึ้นอีกครั้ง หลังเฉินเป่ยรับสาย เสียงที่ดีใจแทบบ้าของเสือขาวลอยมาจากในสายนั้น “ลูกพี่ พวกเรารอดแล้ว เมื่อกี้มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาพวกเรา บอกว่าเป็นยาถอนพิษเลือด ให้พวกเราใช้กัน ผลลัพธ์ดีมาก อาการของพวกพ้องของพวกเราหลายๆ คนดีขึ้นมาเร็วมาก……”
เสือขาวรายงานสถานการณ์ในเวลานี้ต่อเฉินเป่ยแล้ว ได้ยินว่าพิษเลือดในร่างกายคนมากมายหายไปอย่างรวดเร็ว อาการดีขึ้นมาก สีหน้าของเฉินเป่ยถือว่าดีมากเลยทีเดียว
“รีบพาคนกลับฐานทัพ นายคงไม่รู้ เพื่อยาถอนพิษนี้แล้ว พวกเราต้องชดใช้ไปมากเท่าไร……” ไม่นานเฉินเป่ย ได้นำต้นสายปลายเหตุทั้งหมด เล่าให้เสือขาวฟัง
“เทพธิดานางฟ้านี่ช่างไร้เหตุผลเหลือเกิน!” ในสายนั้น พอเสือขาวได้ยินว่าเทพธิดาแห่งภูมิปัญญานำหัวรบนิวเคลียร์ไปครอบครองแบบพูดเองเออเอง ชั่วขณะนั้นอารมณ์เสียขึ้นแล้ว โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“เทพธิดาแห่งภูมิปัญญาลงมือ พวกเรายังจะมีวิธีอะไรได้อีก?” เฉินเป่ยถามกลับประโยคหนึ่ง ชั่วขณะนั้นเสือขาวเงียบกริบ ใช่ ถึงแม้ว่าเฉินเป่ยจะไม่กลัวโม่ถีซือ แต่ถ้าโม่ถีซือขโมยหัวรบนิวเคลียร์ไปแล้ว ย่อมทำให้เฉินเป่ยไม่มีวิธีใดๆ เหมือนกัน
“เรื่องหัวรบนิวเคลียร์ค่อยว่ากันเถอะ ขอเพียงรู้ให้แน่ชัดว่าเป้าหมายของเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาอยากเอาหัวรบนิวเคลียร์ไป ข้อเท็จจริงทุกอย่างก็เปิดเผยหมดแล้ว” เฉินเป่ยค่อยๆ เอ่ยปากบอก
“พากองทหารหลงกลับไปที่ฐานทัพก่อนเถอะ ให้ชิงหลงไปตรวจสอบหัวรบนิวเคลียร์สักหน่อยว่าถูกขโมยไปยังไง” เฉินเป่ยพูดสั่งการ
“หัวรบนิวเคลียร์หายไปแล้ว ตอนนี้รักษานายทหารของกองทหารหลงไว้ถึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” หลังเฉินเป่ยมอบหมายเสร็จ วางสายโทรศัพท์ลง เขาขยับเข้ามาที่ริมหน้าต่าง สายตาสาดส่องไปยังนอกหน้าต่าง เผยความหมายล้ำลึกที่ไม่เข้าใจออกมา
เขาไม่รู้ถึงความหมายแฝงทั้งหมดที่โม่ถีซือทำในครั้งนี้ แต่เขามีลางสังหรณ์ที่น่าประหลาดอย่างหนึ่ง โม่ถีซือทำเรื่องพวกนี้เหมือนกำลังเตรียมพร้อม สรุปเธอวางแผนอะไรกันอยู่?
แววตาเฉินเป่ยปรากฏความหมายเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ขึ้นฉับพลัน ถ้าไม่ใช่นิมิตดีอะไร เขาจะไม่ให้โม่ถีซือสมหวังเป็นอันขาด
………
ในตำหนักหลิวหลี หลังโม่ถีซือตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง แววตาเปล่งประกายสีสันที่น่าประหลาด
“ราชาหลง หัวรบนิวเคลียร์ลูกนี้ นายให้ฉันแล้ว จะไม่ทำให้นายเสียใจอย่างเด็ดขาด” โม่ถีซือพูดพึมพำเสียงต่ำ
ทันใดนั้น สาวใช้คนหนึ่งรีบเดินเข้ามาในตำหนักหลิวหลี เอ่ยปากพูดกับเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาด้วยความเคารพ “เทพเจ้าแห่งสงครามมาขอพบท่านค่ะ”
“Ares?” โม่ถีซือยักคิ้วขึ้น “คนที่ยุ่งมากอย่างเขา ทำไมถึงมาหาฉันกัน?”
“เทพเจ้าแห่งสงครามบอกว่าราชาหลงปลดเกษียณแล้ว ช่วงนี้กองทหารหลงเคลื่อนไหวบ่อย เขาอยากมาปรึกษากับคุณสักหน่อยค่ะ เรื่องทำลายกองทหารหลง” สาวใช้คนนั้นเอ่ยปากตอบ
โม่ถีซือหมุนตัวนิ่งๆ บอกไป “บอกเขา ต่อไปเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับกองทหารหลงราชาหลง ฉันจะไม่ก้าวก่ายทั้งนั้น ให้เขาไปหาเทพคนอื่นเถอะ”
โม่ถีซืออยู่ด้านข้าง สาวใช้คนนั้นที่อยู่ด้วยกันกับโม่ถีซือมาตั้งแต่ต้นจนจบและผ่านทั้งกระบวนการมา ใบหน้าแข็งทื่อ ภายในใจตื่นตะลึงต่อโม่ถีซือที่ตัดสินใจออกมาแบบนี้อย่างมาก หล่อนคาดไม่ถึงว่าหลังโม่ถีซือโทรศัพท์เสร็จ ท่าทีจะพลิกเปลี่ยนไปร้อยแปดสิบองศาเลย
ต้องรู้ว่าAresและเทพเจ้าคนอื่นทั้งหมด เหมือนจะมีความแค้นที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้กับราชาหลง
โม่ถีซือ นี่อยากจะเป็นปฏิปักษ์กับทั้งทิศตะวันตกอย่างเปิดเผย