สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 445
บทที่445 การต่อสู้ครั้งแรก!
“เจ้าหมอนั่นไปที่ไหนแล้ว?” หลีชิงเยียนที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้ชม ไม่นานยากจะนิ่งเฉยต่อไปได้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย กอดหน้าอกไว้
“ประธานหลีคะ ถ้าไม่อย่างนั้นให้ฉันไปตามหาเขาสักหน่อยมั้ย?” ซูเหลยที่อยู่ด้านข้างเหมือนมองความคิดในคำพูดออก รีบถามขึ้น
หลีชิงเยียนตะลึง แวบหนึ่งระลึกตัวได้ ตนเองถูกซูเหลยมองความคิดในใจออกแล้ว ใบหน้าแดงทันที ทำเสียงฮึดฮัดแบบปากแข็งมาก พูดว่า “ไม่ต้อง ปล่อยเขาไป อยู่ที่นี่คงไม่ตายหรอก”
ซูเหลยที่อยู่ด้านข้างหลีชิงเยียนสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย ความคิดในใจของหลีชิงเยียนในเวลานี้ หล่อนไม่รู้ได้อย่างไรกัน?
“เอ๋ ทำไมถึงมาอีกคนได้ล่ะ?” ทันใดนั้น ดวงตาหลีชิงเยียนแข็งค้าง มองไปยังทิศทางหนึ่ง
ซูเหลยมองไปตามทางสายตาของหลีชิงเยียน ชั่วขณะหนึ่งมองเห็นภาพคนคนหนึ่งที่ใส่ชุดดำ ค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามา
ที่งานพนันเพชรพลอย ฝูงชนมากมาย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่คึกคักขนาดนี้ เขาใส่ชุดดำทั้งตัวนี้ เห็นได้ชัดว่าโดดออกไปเป็นพิเศษ และยิ่งแตกต่างออกไปด้วย
สนามแข่งขันเกือบพันตารางเมตร หลังชายชุดดำเดินเข้ามาในสนามแข่งขัน ไม่นานก็ดึงดูดสายตาความสนใจของนับไม่ถ้วน บนที่นั่งผู้ชม ชั่วขณะนั้นมีผู้ชมมากมายค่อยๆ มองไป วิพากษ์วิจารณ์ต่อชายชุดดำที่ลึกลับซับซ้อนคนนี้
“แม่งเอ๊ย ทำไมยังมีคนแต่งตัวประหลาดๆ ปรากฏตัวที่นี่ได้”
“ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่มั้ย เขาอยากมาทำอะไร มาแอบขโมยหินหยาบต่อหน้าผู้คนงั้นเหรอ?”
“ยังปิดหน้าเอาไว้อีก ต้องทำเรื่องไม่ดีอะไรสักอย่างแน่”
ภายใต้การถกเถียงของผู้ชมนับไม่ถ้วน เฉินเป่ยค่อยๆ เดินเข้าสนามแข่งขันแล้ว
เวลานี้เอง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกั้นเฉินเป่ยเอาไว้ “ขอโทษครับ ที่นี่เป็นโซนแข่งขันไม่ใช่ผู้เข้าร่วมแข่งขันเข้าไปข้างในไม่ได้”
เฉินเป่ยหันหน้ามองเจ้าหน้าที่แวบหนึ่ง ดวงตาสงบล้ำลึก หลังจ้องมองเจ้าหน้าที่คนนั้น ทำให้ในใจเขาสั่นเทาไม่หยุด
“หลบไป ฉันเป็นกรรมการพิเศษที่ปี้หย่วนเชิญมา” เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ
“กรรมการพิเศษ?” เจ้าหน้าที่คนนั้นขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ไม่รับข่าวอะไรเกี่ยวกับกรรมการชุดดำที่ลึกลับซับซ้อนคนหนึ่งเลย
“ปี้หย่วนเป็นชื่อที่นายมาเรียกได้ตามใจชอบเหรอ?” ในเวลานี้ มีคนหนึ่งเดินมาก้าวใหญ่ๆ จากระยะไกล
ส่วนตอนเจ้าหน้าที่คนนั้นมองเห็นภาพเงาที่เดินมานั้น ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าเคารพนอบน้อมขึ้นมา
“หัวหน้ากลุ่มจาง” เจ้าหน้าที่คนนั้นร้องเรียกไป
หัวหน้ากลุ่มจางพยักหน้า จากนั้นกวาดสายตามองเฉินเป่ยแวบหนึ่ง ถามอย่างหยิ่งยโส “นายเป็นใคร?”
เฉินเป่ยกวาดตามองเขาเช่นกัน ตอบอีกครั้ง “กรรมการพิเศษที่เพิ่มมาใหม่”
“กรรมการพิเศษ?” หัวหน้ากลุ่มจางคนนั้นสีหน้าฝืดค้าง จากนั้นในเสียงเพิ่มความหมายที่เสียดสี “ฉันเข้าร่วมงานพนันเพชรพลอยมาสี่ครั้ง ทุกครั้งรับหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มที่คุ้มครองสถานที่และงานรักษาความปลอดภัย เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่ามีกรรมการพิเศษเรื่องนี้…..”
หัวหน้ากลุ่มมองเฉินเป่ย พูดจาเรียบนิ่ง “บอกมา เป็นคนหลอกลวงจากที่ไหน”
“ฉันไม่ใช่คนหลอกลวง” เผชิญหน้ากับการสอบถามของหัวหน้ากลุ่ม สีหน้าของเฉินเป่ยยังสงบนิ่งเป็นพิเศษ
“ยังกล้าเล่นลิ้น พวกหลอกลวงสมัยนี้ยังกล้าโกหกต่อหน้าฉันแล้ว” หัวหน้ากลุ่มจางทำเสียงฮึดฮัด พูดด้วยเสียงหนาวเย็น “เอาตัวไป!”
“ไปเถอะ” เจ้าหน้าที่หลายคนที่อยู่ด้านข้างต่างพุ่งเข้ามา กดไหล่ของเฉินเป่ยไว้ อยากจะควบคุมเฉินเป่ยเอาไว้ บังคับนำตัวไป
“ไป?” แววตาเฉินเป่ยเรียบนิ่งสงบ ไม่มีกระเพื่อมสักนิด มีเพียงการดูถูกจางๆ ที่แวบผ่านไป
“พวกนายทำไมยังไม่ลงมืออีก?” หัวหน้ากลุ่มมองเจ้าหน้าที่หลายคนที่เหลือพูดด้วยความรำคาญ
“หัวหน้ากลุ่มครับ พวกเรา…..ไม่มีวิธีครับ” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นหน้าแดงขึ้นแล้ว หลายคนนั้นใช้สองมือกดเฉินเป่ยไว้ ต่างใช้แรงกันเต็มที่ แต่เท้าทั้งคู่ของเฉินเป่ยเหมือนหยั่งรากลงไปที่พื้น ไม่ขยับแม้แต่น้อย
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่นั่น ดูความผิดปกติใดๆ ไม่ออกโดยสิ้นเชิง แต่เป็นเจ้าหน้าที่เหล่านั้นที่ในใจค่อยๆ สั่นเทาขึ้นมา……พวกเขาพบเข้าอย่างน่าตกใจ ไม่ว่าพวกเขาจะใช้แรงอย่างไร ล้วนไม่สามารถทำให้เฉินเป่ยขยับแม้สักครึ่งเซนติเมตรได้
“พวกสวะไร้ประโยชน์กลุ่มหนึ่ง!” หัวหน้ากลุ่มจางหงุดหงิดแล้ว ก้าวฉับไวพุ่งขึ้นมาคว้าคอเสื้อของเฉินเป่ยเอาไว้ จับแบบฉับพลัน
เดิมหัวหน้ากลุ่มจางคิดว่าจะขยับเฉินเป่ยได้ แต่แวบหนึ่ง ชั่วขณะนั้นหัวหน้ากลุ่มจางก็สีหน้าเปลี่ยนแล้ว
เฉินเป่ยยืนอยู่ตรงนั้นไปแบบนี้ ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ว่าหัวหน้ากลุ่มจางจะใช้แรงอย่างไร ล้วนไม่มีทางใด
หัวหน้ากลุ่มจางดวงตาหดลง เขาไม่เคยเจอสถานการณ์ที่แปลกอย่างนี้มาก่อน
หลายคนออกแรงพร้อมกัน ล้วนไม่สามารถทำให้เฉินเป่ยขยับได้ เจ้าหมอนี่ สรุปหนักเท่าไรกัน ยังเป็นคนอยู่อีกเหรอ?
หัวหน้ากลุ่มจางถลึงตาใส่เฉินเป่ยแรงๆ แบบดุร้าย พูดเสียงดุ “นายไม่ขยับ ฉันก็มีวิธีทำให้นายขยับได้!”
จากนั้นหัวหน้ากลุ่มจางหันหน้าไปด้านหลังตะโกนบอกคนติดตาม “ไปเรียกคนอื่นที่งานเข้ามา เขารบกวนขั้นตอนการแข่งขัน ถึงตอนนั้นเอาเขาไปส่งสถานีตำรวจ!”
หัวหน้ากลุ่มจางพึ่งพูดจบ ทันใดนั้น เฉินเป่ยขยับแล้ว
ไม่มีใครมองเห็นการกระทำของเฉินเป่ย คนทั้งหมดมองเห็นเพียงร่างกายของเฉินเป่ยเคลื่อนไหว ตามมาด้วยร่างกายของหัวหน้ากลุ่มจางกระเด็นออกไป
“ปึง!” ร่างกายของหัวหน้ากลุ่มจางล้มไปด้านนอกสิบกว่าเมตร ตอนที่เขาปีนขึ้นมา สีหน้าเขียวปัด สายตาที่มองทางเฉินเป่ยนั้น เผยความหมายโกรธเคืองโจ่งแจ้ง
“จับเขาเอาไว้ให้ฉัน!” หัวหน้ากลุ่มจางชี้เฉินเป่ยไว้ตะโกนขึ้น
เจ้าหน้าที่หลายคนด้านข้างกระโจนเข้ามา ส่วนเฉินเป่ยยกมุมปากเล็กน้อย ดันเท้าหนึ่งฉับไว
“ปึง!”
หลายคนที่กระโจนเข้ามาเหล่านั้นต่างถูกเฉินเป่ยเตะกระเด็น
“วอนหาที่ตาย!”
หัวหน้ากลุ่มจางพึ่งด่าประโยคหนึ่ง เสียงหนึ่งก็ลอยออกมาจากอินเตอร์คอม ทำให้ฝีเท้าของเขาชะงัก
“หยุดนะ นี่เป็นหัวหน้าสมาคมสั่งด้วยตัวเอง ให้คุณผู้ชายคนนี้รับหน้าที่กรรมการ ผ่านความเห็นชอบของพวกเรารองหัวหน้าทั้งหลาย นายยังไล่เขาออกไปอีกเหรอ?”
ตึง!
บรรยากาศเงียบสงบทันใด ทั้งตัวหัวหน้ากลุ่มจางชั่วขณะนั้นสีหน้าเปลี่ยน เขาก้มหน้ามองดูอินเตอร์คอมแวบหนึ่ง มีคำพูดหนึ่งลอยออกมาในอินเตอร์คอมอีกครั้ง “ฉันอยู่ในห้องวงจรปิด รีบขอโทษกับคุณผู้ชายท่านนี้ จากนั้นไสหัวมาเจอฉันที่ห้องวงจรปิด!”
สีหน้าหัวหน้ากลุ่มจางแย่ลง กลายเป็นซีดเซียวสุดๆ เขาเงยหน้ามองเฉินเป่ยแวบหนึ่ง ในแววตายังหลงเหลือความไม่อยากเชื่อ ชายชุดดำตรงหน้าคนนี้ คาดไม่ถึงเป็นกรรมการชุดดำจริง
ในใจเขาเต้นตุบๆ ชัดแจ้งอยู่แก่ใจ เขารู้ดีอยู่แก่ใจเสียยิ่งกว่าอะไร รู้ลึกว่าตนเองต้องจบเห่แล้ว
ตนเองได้ล่วงเกินกรรมการท่านหนึ่งเข้า กรรมการของสุดยอดดาบสามเล่ม คนไหนบ้างที่ไม่ใช่บุคคลมีอำนาจมีอิทธิพล
และเจ้าหน้าที่ด้านข้างเหล่านั้น ยิ่งหลบไปได้ไกลเท่าไรก็ไปไกลเท่านั้น พวกเขาล้วนได้ยินเสียงที่ลอยออกมาจากในอินเตอร์คอมเมื่อสักครู่นี้ เวลานี้มองทางหัวหน้ากลุ่มจาง สายตาค่อยๆ ดูตื่นตระหนกขึ้นมา
เฉินเป่ยยังคงยืนอยู่ที่เดิม ส่วนหัวหน้ากลุ่มจาง ยกเท้าช้าๆ เดินไปทางเฉินเป่ยทีละก้าว เขาในเวลานี้ ในใจขมขื่น เขาเดินมาถึงด้านหน้าของเฉินเป่ย พูดจาเสียงต่ำแบบเคารพนอบน้อม “ขอโทษครับ คุณผู้ชาย เป็นความสะเพร่าของผมเอง ต้องขออภัยจริงๆ ขอให้ท่านยกโทษให้กับพฤติกรรมที่หยาบคายของผมด้วยนะครับ”
หัวหน้ากลุ่มจางยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเป่ย ก้มหน้าลงต่ำมาก ทันใดนั้นเฉินเป่ยขยับตัว ทว่าไม่ได้สนใจเขา เดินไปยังสนามโดยตรง
มุมปากหัวหน้ากลุ่มจางกระตุก นี่เดิมทีเป็นการถากถางอย่างไร้เสียง เฉินเป่ยเพิกเฉยเขาตรงๆ ทำอย่างกับเขาเป็นอากาศ ความหมายช่างชัดเจนเสียเหลือเกิน เดิมทีเขาไม่เข้าตาเฉินเป่ยเลย เขาไม่มีสิทธิ์หรือเหตุผลอะไรทำให้เฉินเป่ยโกรธได้
…………
หลังจากเฉินเป่ยเดินเข้าสนามแข่งขัน เสียงที่ถกเถียงสงสัยกันไม่น้อยบนที่นั่งผู้ชมถึงเบาลงบ้าง
“น่าสนใจอยู่…….” บนที่นั่งผู้ชม หลีเช่าเทียนที่แอบจ้องมองทุกอย่างนี้ ยกมุมปากขึ้นทันใด วาดเส้นรัศมีวงกลมที่มีเลศนัยขึ้นแล้ว
“คนที่ใส่ชุดดำนั้น รู้ไหมว่าคือใคร? เมื่อกี้ที่แสดงฝีมือนั้นออกมา ดูแล้วมีของ” อีกมุมหนึ่งของโถงประชุม ทันใดนั้นหู้หันหน้าไปถามกับลูกน้องด้านข้าง
“ไม่แน่ใจครับ เหมือนว่าเป็นผู้เข้าร่วมแข่งขันที่เพิ่มมาทีหลัง เมื่อก่อนที่งานพนันเพชรพลอยจะปรากฏผู้เข้าแข่งขันพิเศษบางส่วน แต่ไม่มีใครที่แต่งตัวแบบเขาครับ” ลูกน้องตอบกลับ
“ลึกลับซับซ้อน เขาคงทำต่อไปตลอดไม่ได้หรอก” หู้เอ่ยปากนิ่งๆ สายตาตกอยู่บนตัวของเฉินเป่ย เห็นได้ชัดว่าแวบหนึ่งเกิดความสนใจต่อเขา
หลังจากเดินเข้าสนามแข่งขัน เฉินเป่ยเดินไปที่หน้าแท่นกรรมการ นั่งลงไปทันที
กรรมการสี่ท่านด้านข้างมองแวบหนึ่ง พวกเขาพินิจพิเคราะห์ชุดดำบนตัวเฉินเป่ยแล้ว ชั่วขณะนั้นเพิ่มความดูถูกหลายระดับ
“เริ่มเถอะ” เฉินเป่ยพูดกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งนั้น
“เจ้าหนุ่ม นายบอกเริ่มก็เริ่มรึไง?” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่อายุค่อนข้างมากในนั้นพูดอย่างไม่พอใจ
เฉินเป่ยชายตามองคนนั้นแวบหนึ่ง “การแข่งขันถึงตอนนี้ยังไม่ได้เริ่ม ไม่ใช่รอผมอยู่เหรอ?”
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งทำเสียงเย็นชา “รอนายก็คือรอนาย แต่นายนั่งลงมาก็บอกให้เริ่ม ช่างถือว่าตัวเองถูกเกินไปรึเปล่า พวกเราหลายคนยังไม่ได้พูดอะไร นายก็ออกคำสั่งไปตรงๆ เลย?”