สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 451
บทที่451 พุ่งเป้าโจมตี!
หลังประกาศอันดับรายชื่อและผู้ตกรอบเสร็จ ไม่นานพิธีกรได้ประกาศเข้าสู่เวลาพักผ่อนสิบห้านาที
บนที่นั่งผู้ชมมีคนดูมากมายค่อยๆ ลุกขึ้น มีบางคนไปห้องน้ำ และในโซนวีไอพีมีบุคคลยิ่งใหญ่ระดับแขกผู้มีเกียรติมากมาย มุ่งไปทางผู้เข้าแข่งขันที่เลื่อนขั้นเหล่านั้น ต่างแสดงความเป็นมิตรและมอบโอกาสให้ พยายามสร้างความสัมพันธ์บางอย่าง
ส่วนจางเป่าเฉิงกลับไปยังที่นั่งผู้ชม หลีชิงเยียนรีบขยับเข้ามาใกล้ ถามด้วยความห่วงใย “ไม่เป็นอะไรนะคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ” ถึงแม้จางเป่าเฉิงจะให้หลีชิงเยียนไม่ต้องกังวลเกินเหตุ แต่ในความเป็นจริง ท่าทางของจางเป่าเฉิงยังเหนื่อยล้ามาก ในรอบแรกของสุดยอดดาบสามเล่มเมื่อสักครู่นี้ ถ้าไม่ใช่ผู้ตัดสินลึกลับท่านนั้น มีความเป็นไปได้มากว่าเขาในเวลานี้คงตกรอบไปแล้ว เขาประหม่าสุดๆ ทั้งกระบวนการ กำลังวังชาน้อยนิดมาก
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ” หลังหลีชิงเยียนแน่ชัดว่าจางเป่าเฉิงสบายดี จึงพยักหน้า ถือได้ว่าวางใจลงมาบ้าง
“หัวหน้าสมาคมจางคะ รอบที่สองมีความมั่นใจมั้ยคะ?” ซูเหลยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากด้วยความเป็นห่วง
สีหน้าของจางเป่าเฉิงซีดเซียวอยู่บ้าง พูดว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะมี แต่ครั้งนี้ ในบรรดาผู้ตัดสินมีผู้ตัดสินสองสามคนที่เมื่อก่อนเคยมีความบาดหมางกับผม โดยเฉพาะยังมีเทพเมถุนอยู่ด้วย อย่าว่าแต่เอาตำแหน่งชนะเลิศมาเลย แม้แต่รอบที่สอง ในใจผมยังไม่แน่ใจเลย”
จางเป่าเฉิงมองทางหลีชิงเยียน ภายในสายตาเต็มไปด้วยความเสียใจ “ขอโทษครับ ประธานหลี กลัวว่าคงทำให้คุณผิดหวังแล้ว”
หลีชิงเยียนปัดๆ มือ พูดปลอบใจด้วยเสียงน่าดึงดูด “ไม่เป็นไรค่ะ คุณพยายามทำเต็มที่ก็พอ เดิมฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะเข้ามาสุดยอดดาบสามเล่ม ครั้งนี้ยังสามารถฝ่าเข้ารอบสองได้อีก นี่คือเซอร์ไพรส์ใหญ่มากแล้ว ฉันเตรียมใจไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ยอมรับผลลัพธ์ทุกอย่าง……”
คำพูดหลีชิงเยียนชะงักไปนิดหน่อย จากนั้นมองไปทางที่นั่งผู้ตัดสิน ชี้ไปยังผู้ตัดสินชุดดำคนนั้น ถามจางเป่าเฉิงว่า “หัวหน้าสมาคมจางคะ คุณรู้จักคนนั้นเหรอ?”
จางเป่าเฉิงมองแวบหนึ่ง ส่ายหน้าด้วยความสงสัย บอกว่า “ไม่รู้จักครับ แต่ว่าเขาช่วยให้ผมได้เข้าสู่รอบที่สอง ไม่มีเขา เดิมทีผมคงไม่อาจจะเลื่อนขั้นได้”
“แปลกจัง พวกเราไม่ได้รู้จักเขา ทำไมเขาถึงต้องลงมือช่วยเหลือด้วยนะ?” หลีชิงเยียนขมวดคิ้วขึ้น เดิมเธอคิดว่าบางทีผู้ตัดสินชุดดำอาจรู้จักกับจางเป่าเฉิง แต่เธอคิดผิดแล้ว
“มีผู้ตัดสินพิเศษขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?” จางเป่าเฉิงบ่นพึมพำกับตนเอง
สายตาของหลีชิงเยียนสาดส่องไปทางผู้ตัดสิน สายตาของเธอตกอยู่บนตัวของเฉินเป่ย ดวงตาเปล่งประกาย จมสู่การครุ่นคิดแล้ว
“ภาพเงาคนคนนี้ เหมือนดูคุ้นตาอยู่บ้าง……” ซูเหลยที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลีชิงเยียน ได้ยินหลีชิงเยียนพูดพึมพำ สีหน้ายิ่งดูประหลาด
หล่อนอยากบอกหลีชิงเยียนมาก ภาพเงาคนที่เธอดูคุ้นตาอย่างยิ่งนี้ก็คือเจ้าหนุ่มที่ก่อนหน้านี้ที่เธอแค้นเคือง และโมโหจนใกล้จะบ้าแล้ว
แต่หล่อนรู้ดียิ่งกว่า ต่อให้หล่อนบอกหลีชิงเยียนไปแบบนี้ เดาว่าหลีชิงเยียนคงไม่เชื่อ
สายตาที่ซูเหลยมองทางเฉินเป่ยประกายความสงสัยและแปลกใจ หล่อนไม่รู้ว่าเฉินเป่ยทำได้อย่างไร แต่หล่อนยิ่งรู้สึกนับถือเลื่อมใสเฉินเป่ยขึ้นมาอีก พึ่งผ่านได้ไม่นานมาก ก็พลิกเปลี่ยนโฉม กลายเป็นผู้ตัดสินพิเศษของทางการคนหนึ่งแล้ว……เรื่องนี้แม้แต่จางเป่าเฉิงยังไม่รู้ด้วย
“ประธานหลี หัวหน้าสมาคมจาง อยู่ที่นี่กันหมดเลย ดูแล้วที่นี่คึกคักน่าดู”
ในเวลานี้ เสียงที่เรียบนิ่งสงบลอยมาจากข้างหนึ่ง หลีชิงเยียนหันหน้า เห็นเพียงภาพเงาคนหนึ่ง ภายใต้การคุ้มครองของบอดี้การ์ดหลายคน ค่อยๆ ก้าวเท้าออกมา แต่ละก้าวแฝงไปด้วยลักษณะท่าทางที่น่าประหลาด ทำให้ภาพคนคนนี้ยิ่งดูองอาจห้าวหาญอย่างเห็นได้ชัด ท่วงท่ามีเอกลักษณ์ขึ้นมา
หลังจากหลีชิงเยียนมองเห็นคนมา ชั่วขณะนั้นดวงตาเผยการระวังและเจตนาอันเป็นศัตรูนิดๆ ออกมา
และภาพเงาคนคนนั้น ดวงตาลุ่มลึก ลูกตาคู่นั้นราวกับมีจักรวาลซ่อนอยู่ภายใน ทั่วตัวแพร่กระจายลักษณะที่ลึกลับอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา ทำให้ทั้งตัวของเขาเปลี่ยนไปเลือนรางขึ้นมา
“หลีเช่าเทียน” ริมฝีปากที่เย้ายวนของหลีชิงเยียนเผยอเล็กน้อย พ่นชื่อหนึ่งออกมา
เพียงแค่เสน่ห์ความน่าสนใจไม่เหมือนที่หู้ไห่ ตอนนี้ท่าทีของหลีชิงเยียนที่มีต่อหลีเช่าเทียนเย็นชามาก
หลังมาถึงที่เยี่ยนจิง หลีเช่าเทียนก็มายั่วยุก่อนครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ความรู้สึกที่หลีชิงเยียนมีต่อเขาแย่เสียจนสุดจะทนแล้ว
หลีเช่าเทียนเกิดมาในตระกูลที่หลีชิงเยียนโดนไล่ออกมา หลีชิงเยียนในเวลานี้ ไม่มีเหตุผลใดๆ จะสามารถยิ้มต้อนรับหลีเช่าเทียนได้เลย
ไม่เจอกันช่วงเวลาหนึ่ง ภายในของหลีชิงเยียนตกใจอยู่บ้าง หลีเช่าเทียนยิ่งลุ่มลึกอย่างเห็นได้ชัด เดิมทีทำให้คนดูตื้นลึกหนาบางของเขาไม่ออก
“คิดไม่ถึงหัวหน้าสมาคมจางก็อยู่ที่นี่ด้วย” หลีเช่าเทียนมองทางจางเป่าเฉิง เอ่ยปากพูดประโยคหนึ่งแบบธรรมดา น้ำเสียงสงบดุจน้ำ แต่สายตาของเขาไม่ได้มองที่ตัวของจางเป่าเฉิงเลยสักครั้งหนึ่ง นี่คือการดูถูกเหยียดหยามแบบโจ่งแจ้งเลยทีเดียว
สีหน้าของจางเป่าเฉิงแข็งทื่อ ส่วนหลีชิงเยียนถือโอกาสเอ่ยปากไปตรงๆ “หลีเช่าเทียน มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ”
หลีเช่าเทียนหัวเราะเล็กน้อย “ฉันมาแสดงความยินดีกับหัวหน้าสมาคมจาง ยินดีด้วยนะหัวหน้าสมาคมจางที่เลื่อนขั้นอย่างหวาดเสียว”
ถึงแม้ใบหน้าหลีเช่าเทียนจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทว่าเอ่ยปากอย่างพิกล รู้กันเองว่าเดิมทีเขามีเจตนาไม่เป็นมิตร
“ขอบคุณที่มาแสดงความยินดี” จางเป่าเฉิงรู้จักหลีเช่าเทียนดี เขาไม่กล้าผิดใจเป็นธรรมดา มุมปากกระตุกนิดหน่อย พยักหน้าแล้ว
“ผมชื่นชมความกล้าหาญนี้ของหัวหน้าสมาคมจางมาก ผมคิดไม่ถึงว่าหัวหน้าสมาคมจางจะวางศักดิ์ศรีลงได้ และมาเข้าร่วมสุดยอดดาบสามเล่ม กล้าหาญน่ายกย่อง” หลีเช่าเทียนหัวเราะเล็กน้อย มองทางหัวหน้าสมาคมจาง น้ำเสียงของเขาสงบมาก สงบจนผิดปกติอยู่บ้าง ตอนสายตาที่ล้ำลึกของเขาตกบนตัวของจางเป่าเฉิง ร่างกายของจางเป่าเฉิงสั่นนิดหน่อยแบบควบคุมไม่อยู่
“ขอบคุณในความหวังดี เพียงแต่เรื่องที่พวกเราเข้าร่วมสุดยอดดาบสามเล่ม คงไม่ต้องให้คนนอกมาแสดงความคิดเห็น” หลีชิงเยียนตอบกลับแบบเย็นชาแทนจางเป่าเฉิง
“คนนอก? ชิงเยียน เหมือนว่าเธอต่างหากมั้งที่เป็นคนนอกคนนั้น ในร่างกายมีเลือดของตระกูลหลี ใช้แซ่ของตระกูลหลี กลับถูกตระกูลหลีขับไล่ออกจากบ้าน ในบรรดาของพวกเรา เหมือนมีเพียงเธอถึงมีสิทธิ์เรียกว่าคนนอกได้” หลีชิงเยียนจ้องหลีเช่าเทียนอยู่ เอ่ยปากชัดถ้อยชัดคำ แวบเดียวคำพูดประโยคนี้ก็แทงโดนรอยแผลเป็นในใจของหลีชิงเยียนเข้าแล้ว ทำให้ใบหน้าของหลีชิงเยียนแผ่คลุมด้วยน้ำค้างแข็งฉับพลัน
จางเป่าเฉิงที่อยู่ด้านข้าง พอได้ยินที่หลีเช่าเทียนพูด ชั่วขณะนั้นมึนงงแล้ว มองทางหลีชิงเยียน เขาไม่ตอบสนองเข้ามาอยู่บ้าง ไม่มีทางรับได้ หลีชิงเยียน ท่านประธานสาวของกิจการแนวหน้าของหู้ไห่คนนี้ คาดไม่ถึงมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้กับตระกูลหลีใหญ่ของเยี่ยนจิง
“ฉันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตระกูลหลีไปตั้งนานแล้ว นายพูดอีกก็คือการใส่ร้าย สาดโคลน!” หลีชิงเยียนใบหน้าหนาวเหน็บ ตอบกลับเฉียบขาดแบบไม่ลังเลสักนิด วินาทีนั้น นิสัยที่ดื้อรั้นและจิตใจที่ไม่ยอมศิโรราบของเธอ สนับสนุนเธอไว้ สำแดงพลังจิตที่ยิ่งใหญ่ออกมา ต้านทานแรงกดดันที่มาจากคำพูดของหลีเช่าเทียน
หลังจากเผชิญหน้ากับความโกรธแค้นของท่านประธานเทพธิดา มุมปากหลีเช่าเทียนวาดเส้นรัศมีวงกลมที่ล้ำลึกลึกลับขึ้น หัวเราะเบาๆ
ในเวลานี้เอง มีภาพคนสองคนเดินเข้ามา พวกเขาเดินมาที่ด้านหลังของหลีเช่าเทียน เอ่ยปากพูดอย่างเคารพ “คุณชายหลี”
หลีเช่าเทียนหันหน้า มองเห็นภาพสองคนนั้นแล้วพยักหน้าให้ หมุนตัวเอ่ยปากพูดกับจางเป่าเฉิงและหลีชิงเยียน “แนะนำให้พวกเธอรู้จักหน่อย ผู้อาวุโสสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง ครั้งนี้ พวกเขาเป็นตัวแทนฉันเข้าร่วมสุดยอดดาบสามเล่มในครั้งนี้”
หลีเช่าเทียนพึ่งพูดจบ สายตาของหลีชิงเยียนและจางเป่าเฉิงตกอยู่บนตัวสองคนนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปมากโดยฉับพลัน
จางเป่าเฉิงมองเห็นภาพสองคนนั้น ชั่วขณะหนึ่งสีหน้ายิ่งยากจะเชื่อ ทั่วทั้งตัวกำลังสั่นเทาอย่างแรง มือทั้งคู่สั่นไม่หยุดแบบควบคุมไม่ได้
จางเป่าเฉิงจ้องภาพสองคนนั้นตาเขม็ง ราวกับว่าลูกตาจะหล่นลงพื้นให้ได้
ส่วนหลีชิงเยียนมองเห็นภาพของสองคนนั้น ดวงตาหดตัว ชั่วขณะนั้นไม่มีทางรักษาอาการนิ่งสงบไว้ได้
“เทพเมถุน…” จางเป่าเฉิงพูดมาแบบไร้เสียง เขามองทางหลีเช่าเทียน ท่าทางนั้นอย่างกับว่าเห็นผี อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีทางนำเทพเมถุนและหลีเช่าเทียนมาเชื่อมต่อด้วยกันได้
เขาไม่มีทางเชื่อ เทพเมถุน ตำนานผู้ไม่แพ้ของวงการพนันเพชรพลอยผู้นี้ มีวันหนึ่ง กลายมาเป็นลูกน้องของหลีเช่าเทียนได้
หลีชิงเยียนก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้เช่นกัน เทพเมถุน เดิมทีเธอนึกไม่ถึงว่าเทพเมถุนจะร่วมมือกันกับหลีเช่าเทียน ลงมือเพื่อการนี้
เทพเมถุน ผู้อาวุโสสองท่านนี้กวาดตามองจางเป่าเฉิงนิ่งๆ แวบหนึ่ง ไม่นานสายตาก็ย้ายไปจากตัวของจางเป่าเฉิง จางเป่าเฉิงเหมือนกับเป็นธาตุอากาศ เห็นได้ชัดว่าจางเป่าเฉิง เดิมทีไม่เข้าตาของเทพเมถุนเอาเสียเลย
หลีชิงเยียนมองทางหลีเช่าเทียน ในที่สุดดวงตาเผยความเคร่งขรึมนิดๆ ออกมา เทพเมถุนร่วมมือกับหลีเช่าเทียน นี่พอจะกระตุ้นความสนใจของหลีชิงเยียนได้