สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 470
บทที่ 470 ความสุขสงบ!
หลีเช่าเทียนหันกลับไป ทันใดนั้น เขาก็เห็นเงาสีดำพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ!
หลีเช่าเทียนหรี่ตา ด้วยสัญชาตญาณ ศีรษะของเขาหันไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว!
“ตูม!
เงาสีดำกระแทกเข้ากับรถคันหรูที่อยู่ด้านหลังของหลีเช่าเทียนจนทำให้หน้ารถบุบเข้าไปและส่งเสียงดังสนั่นออกมา หลีเช่าเทียนหันกลับไปมองที่รถด้วยความตกใจ!
แน่นอนว่ารถของหลีเช่าเทียนต้องมีความทนทานเป็นพื้นฐานของรถหรูอยู่แล้ว แต่สภาพรถในตอนนี้กลับพังเหมือนเพิ่งเกิดอุบัติเหตุด้วยความเร็วสูงอย่างไรอย่างนั้น!
ทันทีที่หลีเช่าเทียนเห็นเงาสีดำที่กระแทกกับหน้ารถจนเสียหาย เขาถึงกับต้องผงะ!
เงาสีดำนั้น…..กลับเป็นแค่รองเท้าหนังข้างเดียว!
หลังจากรองเท้าหนังกระแทกกับรถแล้วมันก็ตกลงไปด้านข้างของล้อรถยนต์ หลีเช่าเทียนได้แต่มองไปที่รองเท้าข้างนั้นด้วยความสับสน!
และเมื่อบอดี้การ์ดรอบกายของหลีเช่าเทียนเห็นรองเท้าหนังข้างนั้น ทุกคนก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที!
แค่รองเท้าหนังข้างเดียวกลับทำลายสภาพของหน้ารถหรูที่ทนทานนั้น! เป็นแรงกระแทกที่น่ากลัวอะไรเช่นนั้น!
อย่างน้อย มันก็เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัว เหล่าบอดี้การ์ดก็ให้ความสนใจกับมันทันที!
“ใคร!”
บอดี้การ์ดเหล่านั้นรีบหันหลังให้กับหลีเช่าเทียนแล้วล้มรอบเข้าไว้เพื่อปกป้องการลอบสังหารจากทั่วทุกมุม!
หลีเช่าเทียนที่อยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ด เมื่อเขามองออกไปในระยะไกล ทันใดนั้นดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างกะทันหัน
หลีเช่าเทียนเพ่งเล็งสายตาไปที่ร่างคนคนหนึ่งในที่ระยะไกล ทันทีที่เขาเห็นร่างคนคนนั้นปรากฏตัวขึ้น สายตาของเขาก็เย็นเยียบขึ้นมาทันที
“ภรรยาผมสวยขนาดนี้ แล้วจะให้คุณดูถูกตามใจชอบได้เหรอ?”
ในขณะนี้ เสียงพูดคนคนนั้นดังขึ้นจากด้านหลังของหลีชิงเยียน เธอจึงหันกลับไปมองและเห็นเฉินเป่ยเดินเข้ามา
แต่เฉินเป่ยในตอนนี้แค่ดูเหมือนตัวตลกไปหน่อย เขาค่อยๆ เดินกะเผลกเข้ามา เพราะขาข้างหนึ่งของเขาสวมรองเท้าหนัง ส่วนอีกข้างเป็นเท้าเปล่า ซึ่งไม่มีความน่าเกรงขามในตัวเลย
หลีชิงเยียนขมวดคิ้วขึ้นทันที นี่เฉินเป่ยกำลังจะเข้ามาก่อความวุ่นวายเพิ่มอีกหรือ?
หลีเช่าเทียนเพ่งมองเฉินเป่ยด้วยสายตาที่ไม่คลาดเคลื่อนไปไหน เขาไม่เคยลืม ครั้งนี้หลีหงปูทางให้เขาด้วยความยากลำบาก เพียงเพื่อจะทำให้เขาก้าวขึ้นสู่ที่หนึ่งของสุดยอดดาบสามเล่ม แต่กลับกลายเป็นชายตรงหน้าคนนี้ที่ดับฝันของเขาอีกครั้ง แล้วจะให้เขาทนอยู่ได้อย่างไร?
ทุกครั้งก็เป็นไอ้หมอนี่ที่เป็นคนขัดขวางเขาตลอด ดังนั้นระหว่างหลีเช่าเทียนกับเฉินเป่ยนั้นมีเรื่องบาดหมางกันอยู่ไม่น้อย!
เทพเมถุนถูกเขาจัดการไปแล้ว และมันยังมีหน้ามากระโดดเต้นทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าเขาอีก ถ้าเป็นไปได้หลีเช่าเทียนจะฆ่าเฉินเป่ยให้ตาย ณ ตอนนี้เลย!
แล้วบอดี้การ์ดข้างกายของเขามีสิทธิ์ฆ่าเฉินเป่ยจริงหรือ?
หลีเช่าเทียนหายใจเข้าลึกๆ และเฉินเป่ยก็เงยหน้าขึ้นสูงๆ แล้วมองไปที่หลีเช่าเทียน จากนั้นพูดอย่าไร้ความเกรงใจว่า “ตระกูลหลีของคุณเป็นพวกชอบอิจฉาจริงๆ ไม่ดูสารรูปของตัวเองเลย เห็นหลีชิงเยียนได้ดิบได้ดีหน่อยไม่ได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าคุณเอาความมั่นใจจากไหน”
น้ำเสียงของเฉินเป่ยเต็มไปด้วยความรังเกียจ ทันใดนั้นบรรยากาศก็เงียบลง มีเพียงเสียงพูดของเฉินเป่ยที่ยังดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ส่วนหลีชิงเยียนที่เต็มไปด้วยความโกรธสีหน้าก็เปลี่ยนไป เธอมองไปที่เฉินเป่ยอย่างประหลาดใจ ไม่คิดเลยว่าเฉินเป่ยจะใช้วิธีนี้จัดการกับหลีเช่าเทียน
ดวงตาของหลีเช่าเทียนเย็นเยือกลงกว่าเดิม แม้แต่หลีชิงเยียนยังรู้สึกถึงกลิ่นอายของการฆ่าที่ซึมผ่านตัวของหลีเช่าเทียน เขาเพ่งมองไปที่เฉินเป่ยอย่างไม่กะพริบตา ทั้งสองในตอนนี้เผชิญหน้ากันอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน!
หลีเช่าเทียนไม่ดูสารรูปของตัวเอง? เพียงแค่รูปลักษณ์ที่หล่อเหลา อารมณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามของเขาก็เคยขึ้นเป็นปกนิตยสารอย่างนับไม่ถ้วนแล้ว มากไปกว่านั้นเขาเคยเป็นที่หมายปองของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์มาหลายต่อหลายคนแล้วด้วย
ถ้าไม่ใช่หลีเช่าเทียนยับยั้งชั่งใจเพราะเขาไม่ได้ชอบพวกเธอ ป่านนี้ตระกูลหลีของเขาคงกลายเป็นเศรษฐีผู้โด่งดังและเป็นที่รู้จักของสาธารณชนไปนานแล้ว
คนแบบนี้ยังต้องดูสารรูปของตัวเองด้วย แม้แต่หลีชิงเยียนยังรู้สึกว่าคำพูดเฉินเป่ยนั้นจงใจประชุดประชันกัน
เฉินเป่ยยืนอยู่ข้างหน้าหลีชิงเยียนเพื่อปกป้องเธอ แม้เขาจะดูกล้าหาญแต่สภาพเขาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับตัวตลก ถึงกระนั้นหลีเช่าเทียนก็ไม่ได้คิดจะอ่อนข้อให้กับเขาเลย
ครึ่งชั่วโมงที่แล้วไอ้หมอนี่ยังทำลายแผนการอันรอบคอบของเขากับหลีหง จนทำให้พวกเขาต้องเสียแรงเปล่า
หลีเช่าเทียนเพ่งมองไปที่เฉินเป่ย “ถึงยังไง เธอก็เป็นคนของตระกูลหลี ส่วนนายที่เป็นคนนอกไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยว”
“แล้วคุณคิดว่าคุณเป็นใคร แน่จริงก็ให้หลีหงมาพูดเองสิ คงไม่กล้าเจอหน้าผมสินะ ถึงได้ส่งลูกน้องมาคุยด้วย?” เฉินเป่ยมองหลีเช่าเทียนด้วยหางตาและพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“แน่นอน หลีหงต้องอยากเจอพวกคุณอยู่แล้ว ช่วงหกโมงเย็นของวันอาทิตย์นี้ ผมจะให้หลีหงจัดงานเลี้ยงส่วนตัวในบ้านตระกูลหลี ถ้าพวกคุณไม่ติดอะไรก็เชิญมาร่วมงานนะ” หลีเช่าเทียนแสดงรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย จู่ ๆ เขาก็เอ่ยปากเชิญชวนทั้งสอง ทำให้เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนถึงกับมึนงง
จากนั้นเขาหันกลับไปที่รถแล้วพูดเบาๆ ว่า “เรื่องในวันนี้ผมจะไม่คิดบัญชีกับพวกคุณ แล้วเจอกันที่บ้านตระกูลหลีในวันอาทิตย์นี้……” หลีเช่าเทียนยิ้มแปลกๆ จากนั้นบอดี้การ์ดก็เปิดประตูให้เขาขึ้นรถไป
เสียงท่อรถหรูดังขึ้น ในไม่ช้าเฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนก็เฝ้าดูรถหรูคันนั้นแล่นออกไปด้วยความเร็ว หลังจากนั้นหลีชิงเยียนก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
“แย่แล้ว เราถูกหลอกแล้วล่ะ” หลีชิงเยียนพูดต่อ “คงเป็นแผนของเขาที่จะทำให้เราไปร่วมงานเลี้ยงสังหารในบ้านตระกูลหลีแน่เลย”
หลีชิงเยียนพูดด้วยความกังวล
นี่เป็นกลยุทธ์ของหลีเช่าเทียนเพื่อจะให้หลีชิงเยียนกับเฉินเป่ยติดกับ!
“คงเป็นแผนชั่วของเขาหลังจากที่แพ้สุดยอดดาบสามเล่มสินะ” เฉินเป่ยสีหน้าแนบนิ่ง ดูเหมือนเขาจะคาดเดาแผนการของหลีเช่าเทียนได้
“เรากลับโรงแรมกันก่อนดีกว่า” หลีชิงเยียนขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าหลีเช่าเทียนคนนี้จะรับมือได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
นั่นเป็นการเชิญชวนเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงสังหาร แต่หลีชิงเยียนกลับไม่รู้ตัว
หลังจากนั้น หลีชิงเยียนและคนอื่นๆ ก็กลับโรงแรม ในห้องพักของหลีชิงเยียน ท่านประธานเทพธิดานั่งอยู่บนโซฟา เธอกำลังดูประเด็นข่าวร้อนในแล็ปท็อปด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ประเด็นร้อนหลักๆ สามประเด็นก็ล้วนเกี่ยวข้องกับเราเลยนะ” หลีชิงเยียนปิดแล็ปท็อปแล้วถอนหายใจดังๆ
ซูเหลยที่อยู่ด้านข้างได้แต่นั่งอยู่เงียบๆ สุดยอดดาบสามเล่มครั้งนี้จางเป่าเฉิงก็มีบทบาทโดดเด่นมากพอแล้ว แต่คนที่โดดเด่นกว่าเขากลับเป็นเฉินเป่ย
จากการเป็นผู้ตัดสินลึกลับกลายเป็นตำนานผู้ไรพ่ายในโลกแห่งการพนันเพชรพลอย อีกทั้งยังทำให้ตำนานไร้พ่ายอีกคนต้องพ่ายแพ้และออกจากสนามแข่งอย่างน่าเศร้า ข่าวร้อนแบบนี้ แม้แต่ชัยชนะของจางเป่าเฉิงก็ไม่อาจเทียบได้
แต่ในไม่ช้า เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนก็ต้องเจอกับความวุ่นวาย เพราะหลังจากกลับถึงโรงแรม เสียงโทรศัพท์ของหลีชิงเยียนไม่เคยหยุดดังเลย
และหลังจากหลายสายที่กระหน่ำโทรเข้า ในที่สุดหลีชิงเยียนก็สุดจะทน เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดปิดเครื่องทันที จากนั้นค่อยๆ พูดขึ้นอย่างแผ่วเบาว่า “ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปหยุดขึ้นแล้ว”
“มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ?” ซูเหลยที่เห็นใบหน้าตึงเครียดของหลีชิงเยียนก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย
“ดีอะไรกัน ทั้งหมดนี้เป็นของหลีเช่าเทียนนะ” ทันใดนั้น เฉินเป่ยที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างก็พูดขึ้นมา
หลีชิงเยียนมองไปที่เฉินเป่ย เสียงของเฉินเป่ยนั้นลึกซึ้งอย่างอธิบายไม่ถูก ใบหน้าของเขาที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างนั้นไร้รอยยิ้มอันไร้เดียงสาอีก
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนถึงกับอึ้งไปสักพัก เธอเริ่มรู้สึกอ่านใจเฉินเป่ยไม่ออกแล้ว
“หมายความว่าไง?” ซูเหลยถาม
“สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสินทรัพย์ที่ตระกูลหลีเตรียมไว้ให้กับหลีเช่าเทียน ถ้าเราแย่งมันไปจากหลีเช่าเทียน เขาต้องหันมาโจมตีเราอย่างแน่นอน……” เฉินเป่ยยังคงพูดต่อ “ตอนนี้หุ้นในตลาดของตระกูลหลียังไม่แน่นอน แต่ที่แน่นอนนั้นคือพวกเราถูกตระกูลหลีหมายหัวแล้ว” เฉินเป่ยค่อยๆ ถอนหายใจ หลีชิงเยียนที่ได้ยินคำนี้ของเฉินเป่ย ใบหน้าอันงดงามของเธอก็ยิ่งซีดเซียวมากขึ้น
“แล้วเราควรทำยังไงต่อ?” หลีชิงเยียนหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายามจะสงบสติอารมณ์
“ค่อยเป็นค่อยไป” เฉินเป่ยมองไปที่หลีชิงเยียนแล้วพูดต่อ “ชิงเยียน คุณไม่ต้องกังวลนะ ไม่ว่าตระกูลหลีคิดจะทำยังไงกับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ผมก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาได้สมหวังอย่างแน่นอน”
ดวงตาของเฉินเป่ยเต็มไปด้วยความแน่วแน่จนทำให้หลีชิงเยียนถึงกับอึ้งไปสักพัก เธอมองไปที่เฉินเป่ยด้วยหัวใจที่เริ่มหวั่นไหว
แต่หลีชิงเยียนก็ยังแสดงสีหน้าเฉยเมย “ฟังดูดีนะ แต่ท้ายที่สุดคุณก็ยังไม่มีวิธีที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหานี้อยู่ดี”
เฉินเป่ยหันมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาลึกซึ้งและมองออกไปที่ไกลโพ้น จากนั้นมุมปากข้างหนึ่งโค้งขึ้นแล้วพูดว่า “ก่อนอื่นเราต้องสั่งสอนพวกเขาที่บ้านตระกูลหลีในวันอาทิตย์นี้ก่อน”
……
เย็นวันนั้น ณ ห้องอาหารส่วนตัวในโรงแรม ท่ามกลางโต๊ะงานเลี้ยงขนาดใหญ่ที่มีบรรยากาศคึกคัก
จางเป่าเฉิงนั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะ ที่นั่งด้านข้างสองข้างของเขาคือหลีชิงเยียนกับประธานสมาคมการพนันเพชรพลอยในท้องถิ่น หลีชิงเยียนในขณะนี้สวมชุดเปิดอกกระโปรงยาวสีม่วงและเส้นผมยาวพาดบ่าอันขาวเนียนราวกับหิมะ จึงทำให้ท่านประธานเทพธิดาคนนี้ดูมีเสน่ห์และเซ็กซี่สุดจะพรรณนา
ค่ำคืนนี้ท่านประธานเทพธิดาดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ
ท่านประธานเทพธิดาและประธานสมาคมการพนันเพชรพลอยเยี่ยนจิงนั่งอยู่คนละข้างกับจางเป่าเฉิง ทั้งสองยกแก้วเพื่อดื่มแสดงความยินดีให้กับจางเป่าเฉิงอย่างไม่หยุด
จากนั้นสักพัก ใบหน้าของจางเป่าเฉิงก็เริ่มแดงก่ำ บรรยากาศให้ห้องอาหารเริ่มครึกครื้นขึ้นทันที
ในขณะที่เพลงในห้องอาหารกำลังบรรเลง และสิ่งที่ทุกคนในห้องอาหารไม่รู้ก็คือขบวนรถเก่งสีดำกำลังแล่นมาจากที่ไกล!
กลิ่นอายแห่งการฆ่าระเหยอยู่ทั่วอากาศ พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้มาร้าย!
ค่ำคืนนี้ มันจะต้องเป็นค่ำคืนแห่งนรกที่ต้องนองด้วยเลือด