สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 526
บทที่526 พลังสามสิบตัน?
เซียวจ้านกลับห้ามเขาไว้ ส่งสายตาไปทางเขา “ใจเย็น” เซียวจ้านรู้จักการควบคุมสติดีมาก แผนการนี้ล้มเหลว แผนการที่สองจำเป็นต้องดำเนินต่อไป มิฉะนั้นจะถูกฝ่ายตรงข้ามรู้เข้า
เซียวจ้านถือแก้วไวน์ค่อยๆ เดินเข้าไป “ชิงเยียน ไม่ได้เจอกันนาน ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณชอบของหวานเป็นพิเศษ”
หลีชิงเยียนกับเซียวจ้านชนแก้วกันเบาๆ ยิ้มอ่อนตอบ “ผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว ช่วงนี้กำลังลดน้ำหนัก ดังนั้นอาหารที่น้ำตาลสูงฉันไม่ค่อยกินเท่าไร”
“ช่วงนั้นที่ผมพึ่งรู้จักคุณ ผมซื้อของหวานให้คุณทุกวันเลย” เซียวจ้านพูดพลางยิ้มให้เฉินเป่ยและซูเหลย เห็นได้ชัดว่าที่พูดมาจงใจพูดใส่เฉินเป่ยชัดๆ
หลีชิงเยียนส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ “เป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว”
เฉินเป่ยนั่งอยู่ด้านข้าง สายตาอยากจะฆ่าคน…นิสัยอิจฉาถูกขุดขึ้นมาทั้งหมด นั่นเรียกว่าการหึงหวง
เซียวจ้านกลับเหมือนมองไม่เห็น ยืนอยู่ด้านข้าง พูดคุยหัวเราะกับหลีชิงเยียนแบบนิ่งเฉย
เฉินเป่ยโมโหเดือดดาล ทานซุปร้อนไปคำหนึ่งจนติดที่ด้านในลำคอ ทำให้เขาสำลักอย่างแรง เห็นได้ชัดว่ากระเซอะกระเซิงอย่างยิ่ง ขัดจังหวะการสนทนาของเซียวจ้านกับหลีชิงเยียนไม่หยุด
เซียวจ้านกำลังพูดคุยกับหลีชิงเยียนอยู่ บทสนทนาของทั้งสองคนถูกเฉินเป่ยขัดจังหวะไม่ขาดสาย ทำให้เขามองทางเฉินเป่ยอยู่บ่อยๆ ด้วยสีหน้าดูถูกเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นเฉินเป่ยอยู่ในสายตาตั้งแต่แรก
เฉินเป่ยเห็นเซียวจ้านและหลีชิงเยียนทั้งสองคนคุยกันนับวันยิ่งสนุก เวลานี้ยิ่งร้อนใจ
ทันใดนั้นในใจเฉินเป่ยสั่นไหว เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ มุมปากฉีกรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้น
เฉินเป่ยก้มหน้า ดึงบุหรี่มวนหนึ่งออกจากกล่องบุหรี่ หลังจากจุดไฟ ดีดนิ้วมือเบาๆ…บุหรี่มวนนั้นดัง“ซู่”ยิงออกไป ทันใดนั้นไหม้ส่วนเป้ากางเกงของเซียวจ้านออกเป็นรูหนึ่ง ร่วงเข้าไปโดยตรงแล้ว
“โอ๊ย!” เซียวจ้านเจ็บไปทั้งตัวร่างกายสั่นรุนแรง พอก้มหน้าลง ชั่วขณะนั้นตื่นตกใจเข้าให้
เขาตกใจไปทั้งตัว แก้วเหล้าในมือไม่คงที่ ไวน์แดงนั้นสาดไปบนเสื้อเชิ้ตสีขาวของตนเองทันที กระเซอะกระเซิงหาที่เปรียบไม่ได้
เซียวจ้านสีหน้าสุดจะทน มือทั้งคู่พยายามตบเป้ากางเกง ความเจ็บที่ร้อนลวกกำลังแผ่กระจายตรงเป้ากางเกงของเขา…ในเวลานี้กิริยาท่าทางงดงามของคุณชายอย่างเขาหายไปตั้งนานแล้ว เปลี่ยนเป็นดูไม่จืดสุดจะทน
แต่พอเขายิ่งใช้แรงตบ ส่วนที่เผาไหม้ลวกอยู่นั้นยิ่งหนักขึ้น ทำให้ทั้งท่อนล่างของเขาเหมือนจะไหม้ขึ้นมา
ในที่สุดเซียวจ้านไม่มีทางอดกลั้นความเจ็บไว้ได้ มือทั้งคู่ใช้แรงฉีกขาด
เสียงดัง“แคว่ก—” กางเกงแอร์เมสที่ราคาแพงตัวนั้นของเซียวจ้านถูกดึงขาด…ทั้งกางเกงถูกฉีกออกเป็นรูกว้างใหญ่ แม้กระทั่งเผยกางเกงสีชมพูตัวนั้นออกมาแบบเลือนราง
เซียวจ้านสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ มือทั้งคู่พยายามปิดรูกางเกงของตนเองไว้ เขาในขณะนี้เสียหน้าอย่างมาก อารมณ์ผ่อนคลายอะไร ความหล่อเหลาสง่างามอะไร ไม่เหลืออะไรแม่งสักอย่างเดียว…สีหน้าเขาอัปลักษณ์สุดจะทน มือทั้งคู่ปัดเป้ากางเกงของตนเองอย่างแรง เหมือนมีเพียงแบบนี้ถึงจะสามารถทำให้เย็นสดชื่นนิดๆ
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ อาการไฟลวกร้อนผ่าวนั้นเหมือนไม่ได้ลดลงสักนิด เซียวจ้านไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ฉีกกางเกงออกให้เป็นรูที่ใหญ่เพิ่มขึ้น ภาพขาทั้งสองของเซียวจ้านมองเห็นได้แจ่มแจ้ง
ทั้งตัวหลีชิงเยียนอึ้งค้างไปหมด…ท่านประธานเทพธิดาตาค้างถึงที่สุดเลย
ไม่เพียงแค่นี้ ความสนใจของแขกผู้มีเกียรติทั้งห้องงานเลี้ยงล้วนถูกดึงดูดเข้ามา ตกตะลึงพรึงเพริด
ในที่สุดเซียวจ้านค่อยๆ ล้วงบุหรี่ที่กำลังเผาไหม้มวนหนึ่งออกมาจากเป้ากางเกงด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ กลิ่นบุหรี่ฉุนตลบอบอวลเต็มอากาศ ตามมาด้วยกลิ่นตัวที่เหม็นหึ่งนั้นบนตัวเซียวจ้าน ทำให้ผู้คนไม่น้อยอุดจมูกเอาไว้
และเวลานี้ สามารถพูดได้ว่าเซียวจ้านกระเซอะกระเซิงแค่ไหนก็กระเซอะกระเซิงแค่นั้น กางเกงขายาวของเขาถูกฉีกขาดทั้งหมด ขาทั้งคู่เปลือยเปล่า เขาใช้มือทั้งสองอุดรูขาดของกางเกงตนเองไว้แน่น ดูยากลำบาก หน้าตา ขายขี้หน้ามาก
ไม่ไกลออกไปนัก เหล่าเพื่อนหลายคนของเซียวจ้านพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเดือดดาล ด่ากราดมายังเฉินเป่ยโดยตรง “แม่งเอ๊ย บุหรี่นี้ต้องเป็นแกใส่เข้าไปแน่ๆ!”
เฉินเป่ยกวาดตามองพวกเขาแวบหนึ่ง พูดเรียบเฉย “ขอเตือนพวกนายเอาไว้ว่าพูดจาให้ดีๆ หน่อย อย่าเอะอะอะไรก็มาด่าคนอื่น ใส่ร้ายป้ายสี ไม่อย่างนั้น…”
“เหยดเข้ ฉันด่าแกไอ้พวกไร้ค่า วันนี้ฉันไม่ใช่แค่ด่าแกอย่างเดียว ยังจะหักขาของแกทิ้งด้วย!” คุณชายคนหนึ่งต่อว่าอย่างก้าวร้าวที่สุด เสียงด่านั้นโหดร้ายอย่างยิ่ง
เฉินเป่ยสีหน้าเย็นชา ถีบเท้าออกไปทีหนึ่งทันใด
“ตึง——!” คุณชายคนนั้นโดนถีบลอยออกไปโดยตรง อยู่กลางอากาศพ่นเลือดแดงเหม็นคาวกระจายออกมา
คุณชายคนนั้นล้มลงบนโต๊ะอาหารตัวหนึ่งอย่างแรง โต๊ะอาหารถูกกระแทกจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
สีหน้าเฉินเป่ยสงบนิ่ง พุ่งโจมตีเข้าไปฉับพลัน คว้าเขาขึ้นมาจากซากโต๊ะอาหาร “ป้าบ!” เสียงดังตบหน้าเข้าไปทีหนึ่ง
ฟันเต็มปากของคุณชายคนนั้นถูกตบจนร่วง ฟันกระเด็นหลุด น่าเวทนาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เฉินเป่ยตบหลังมือลงไปอีกเป็นครั้งที่สอง
“ป้าบ!” คุณชายคนนั้นเลือดสดเต็มปาก ฟันหลายซี่ถูกกลืนลงไปในท้อง สภาพสยดสยองเกินจะดูได้
ในร้านอาหารทุกคนต่างตาค้างกันหมด…มองฉากนี้ด้วยความอึ้งทึ่ง
“ป้าบ ป้าบ ป้าบ….” เฉินเป่ยใช้แรงตบหน้า คุณชายคนนั้นโดนตบจนหน้าใหญ่ บวมขึ้นเต็มหน้า นั่นเรียกว่าน่าสังเวช
คุณชายคนอื่นๆ แค้นเคืองอย่างมาก ยกหมัดพุ่งเข้ามาแล้ว
เฉินเป่ยหันหน้าจ้องตาเขม็ง บรรดาคุณชายกลุ่มนั้นหยุดชะงักฝีเท้าลงชั่วขณะหนึ่ง พวกเขามองเห็นดวงตาที่เย็นเฉียบอาฆาตคู่หนึ่งเข้า นั่นคือดวงตาที่มีเพียงยมทูตถึงมีได้
เฉินเป่ยยกคุณชายคนนั้นที่ด่าคนอื่นเอาไว้ ตบต่อไป เสียงตบหน้าที่กังวานดังขึ้นไม่หยุด ทั้งในร้านอาหารเงียบกริบ
“พอแล้ว!” ท่านประธานเทพธิดาตะโกนเสียงชัดแจ๋ว
เฉินเป่ยถึงค่อยๆ หยุดลงมือ เขามองคุณชายที่โดนตบจนหน้าบวมโตคนนั้นอย่างเย็นชา “ต่อไปก่อนจะมาใส่ร้ายป้ายสี ด่าคนอื่น ควรพิจารณาผลลัพธ์ดีๆ หน่อย”
เสียงของเฉินเป่ยราวกับเสียงจากนรก คุณชายคนนั้นสั่นเทาทั้งตัว เขาตกใจที่สุดจนฉี่ราด…
มือทั้งคู่ของเซียวจ้านกุมเป้ากางเกงของตนเองไว้แน่น สีหน้าสุดจะทนอย่างยิ่ง มีอาการสั่นที่อัปลักษณ์นิดๆ วันนี้เขาเสียหน้าสุดๆ ต่อหน้าผู้หญิงที่ตนเองเคยตามจีบ
หลีชิงเยียนลุกขึ้นกะทันหัน ดวงตาดูเพิกเฉยต่อเซียวจ้านโดยตรง ตะโกนไปทางเฉินเป่ย “ไปเถอะ ไม่มีกะจิตกะใจกินข้าวแล้ว”
เฉินเป่ยไม่พูดอะไรต่ออีก พุ่งไปทันที ควงแขนของหลีชิงเยียนไว้อย่างแนบชิด ควงเธอไว้จะออกไปกัน
เซียวจ้านที่อยู่ด้านข้างสีหน้ายิ่งเพิ่มความลำบาก มุมปากเขาสั่นเล็กน้อย อุดรูขาดของกางเกงไว้ พูดอย่างกระอักกระอ่วน “ชิงเยียน…ขอโทษ…เมื่อกี้ผมสติหลุดไปบ้าง…”
หลีชิงเยียนพยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับ ไม่ได้สนใจเขา อุ้มแมวการ์ฟิลด์เดินออกจากห้องอาหารทันที
เหลือเพียงเซียวจ้านที่กุมกางเกงขายาวที่ถูกฉีกขาดไว้คนเดียว ยืนอยู่ในห้องอาหารแบบอับอายอย่างยิ่ง …มุมปากเขากระตุกไม่หยุด สีหน้าดุร้ายไร้ที่เปรียบ…เฉินเป่ย…แกรอฉันเอาไว้…ฉันจะต้องไม่ปล่อยแกไปแน่
รถยนต์ค่อยๆ ขับอยู่บนถนน หลีชิงเยียนกอดหน้าอก ใบหน้างดงามเย็นชาอยู่บ้าง เงียบกริบไม่ยอมพูด
ตั้งนานเธอถึงเอ่ยปากพูดขึ้น “บุหรี่มวนนั้นเป็นนายทำสินะ?”
“หา?” เฉินเป่ยมึนงง พูดจาดูหวาดผวาบ้าง “ไม่ใช่นะ…เมื่อกี้ผมกำลังกินข้าวอยู่ตลอด จะเป็นผมทำได้ยังไงกัน…”
หลีชิงเยียนทำตามองค้อนเขาทีหนึ่ง “นายเห็นฉันโง่เหรอ?”
“เอ่อ…” เฉินเป่ยกระอักกระอ่วน รีบมองทางนอกหน้าต่าง เขาในเวลานี้อึดอัดมากแค่ไหนก็อึดอัดแค่นั้น
“ทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วย?” หลีชิงเยียนเหมือนภรรยาที่ชอบต่อว่าสามี บีบคั้นถาม
“เอ่อ…ไม่มีอะไร ก็แค่มองไม่เข้าตา ในใจไม่สบายเท่านั้น” เฉินเป่ยพูดอธิบาย
“นายเป็นบ้ารึไง?” ดวงตาที่ประกายหยาดเยิ้มของหลีชิงเยียนจ้องเขาอยู่ “นี่นายไปหึงอะไรมากัน?”
“หึงมาจากเซียวจ้านไง!” ทันใดนั้นเฉินเป่ยบอกไป
“ฉันกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย!” ทันใดนั้นหลีชิงเยียนพูดเสียงอ่อนช้อย
พอคำพูดนี้ออกไป ชั่วขณะนั้นหลีชิงเยียนเสียใจอยู่บ้างแล้ว เดิมทีตนเองไม่จำเป็นต้องอธิบายกับเขา ทำไมตนเองต้องพูดด้วย ทำเหมือนว่าตนเองตั้งใจแสดงความชัดเจนต่อความสัมพันธ์ของเธอและเซียวจ้านมาก……
เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลีชิงเยียน หัวใจของเฉินเป่ยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงหึงดวงนั้นถึงได้สมดุลขึ้นบ้าง
“หึๆ ไม่มีอะไรก็ดี ไม่เกี่ยวข้องก็ดี” เฉินเป่ยยิ้มพูดแบบท่าทางพาล สายตาที่มองทางหลีชิงเยียนชั่วขณะนั้นดูมักมากขึ้นมา
“ใครให้นายมองฉัน? หันกลับไป!” หลีชิงเยียนรู้สึกถึงสายตาที่เปิดเผยของเฉินเป่ย ใบหน้างดงามเย็นชา พูดต่อว่า
เฉินเป่ยเบ้ปาก ได้แต่หันหน้ากลับไปแล้ว
ซูเหลยที่ขับรถอยู่ข้างหนึ่งแบบสงบ ได้ยินสารพัดอารมณ์ของเฉินเป่ยและหลีชิงเยียน ทำให้หล่อนอดเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้
……
ภายในห้องรับแขกหนึ่งของบ้านตระกูลหลี
หลีเช่าเทียนนายน้อยตระกูลหลีนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเงียบๆ ในแววตาปรากฏความลุ่มลึกฉับพลัน
ทันใดนั้นมือถือของเขาดังขึ้น เขาค่อยๆ รับสายโทรศัพท์
“คุณชายครับ บนเว็บมืดมีห้านักฆ่าและสองกลุ่มรับงานที่ประกาศแล้วครับ ส่วนหลีชิงเยียนและเฉินเป่ยเป้าหมายได้ออกจากงานเลี้ยงเรียบร้อย กำลังอยู่บนถนนกลับโรงแรมครับ”
หลีเช่าเทียนสีหน้าหมองหม่น หรี่ดวงตานิดหน่อย มุมปากยกเส้นรัศมีวงกลมที่เหี้ยมโหดขึ้น “เอาตำแหน่งที่อยู่แสดงให้พวกเขาดู ให้พวกเขาไปสกัดบุกฆ่า!”
“ครับ ผมจะรีบส่งจีพีเอสในตอนนี้ให้พวกเขาทันทีครับ!”
หลังหลีเช่าเทียนวางสายโทรศัพท์ รอยยิ้มเย็นยะเยือก เขารู้ว่าข้างตัวหลีชิงเยียนมียอดฝีมือสองคน ส่วนรางวัลในครั้งนี้ของเขา เป็นการกระตุ้นนักฆ่ามือผู้สังหารทั้งหมดของเยี่ยนจิงให้จู่โจมสังหาร
ถึงแม้ว่าครั้งนี้ล้มเหลว ขอเพียงเฉินเป่ยไม่ตาย คงมีการเคลื่อนไหวที่นับครั้งไม่ถ้วนแน่