สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 527
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่527 ล้มเหลว!
ซูเหลยขับรถยนต์อยู่ เฉินเป่ยกับหลีชิงเยียนนั่งอยู่ ขับเคลื่อนบนถนนของเยี่ยนจิงอย่างสงบ
ลมของคืนนี้เย็นสบายอยู่บ้าง หลังจากหลีชิงเยียนเปิดหน้าต่างรถ พิงที่ขอบหน้าต่างรับลม เหมือนเหนื่อยล้าอยู่บ้าง
ซูเหลยขับรถอย่างนิ่งเงียบ และเฉินเป่ยก็ถือโอกาสที่หลีชิงเยียนไม่ระวัง แอบสูบบุหรี่ไป มือที่คีบบุหรี่อิงขอบหน้าต่าง กลิ่นบุหรี่ถูกลมพัดหายเกลี้ยงหมด
ไม่รู้ว่าเมื่อไร ซูเหลยจอดอยู่หน้าสี่แยกแห่งหนึ่ง บนถนนที่ว่างเปล่า ถนนเส้นนี้เดิมควรเบียดเสียดแทบไม่ไหว ถึงเวลานี้กลับไม่มีรถสักคันหนึ่ง
ซูเหลยขมวดคิ้วเล็กน้อย ส่วนเฉินเป่ยยังคงสูบบุหรี่แบบนิ่งเฉย ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขากำลังคิดอะไรบ้าง เพียงแต่ดวงตาทั้งคู่ของเขาหรี่ขึ้นมานิดหน่อย เหมือนว่ามีลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง
ไม่นานไฟเขียวตรงสี่แยกสว่างขึ้น ซูเหลยเหยียบคันเร่งลงไป พึ่งขับออกมาได้ไม่กี่เมตร เฉินเป่ยก็เอ่ยปากกะทันหัน “หยุดรถ!”
ซูเหลยอยู่ในทีมรบพิเศษมาหลายปีฝึกฝนความสามารถในการตอบสนองที่ดีเลิศออกมา ทำให้หล่อนเหยียบเบรกลงโดยจิตใต้สำนึก
“ฮู้!”
ทันใดนั้นด้านหน้ามีรถก่อสร้างคันหนึ่งพุ่งออกมากะทันหัน ขวางกั้นด้านหน้าของรถเบนซ์ไว้โดยตรง ชั่วขณะหนึ่งอุดถนนไว้แล้ว
จากนั้นด้านหลังที่เดิมทีเป็นถนนที่ว่างโล่งมาก่อน ทันใดนั้นก็มีรถขนดินขนาดใหญ่โตแต่ละคันเลี้ยวโค้ง พุ่งเข้ามาทางรถยนต์
“ตึง!” รถขนดินชนท้ายของรถยนต์เข้ามาโดยตรง
ด้านในรถ ซูเหลยสีหน้าเปลี่ยน นี่คือ…การบุกโจมตีฉับพลัน
ท่านประธานเทพธิดาที่กำลังหลับตาพักผ่อนถูกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากะทันหันนี้เล่นเอาทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง
อย่างไรเสียเธอก็คาดไม่ถึง เธอเพียงแค่เข้าร่วมงานเลี้ยงงานหนึ่ง จะมาประสบกับการจู่โจมสังหารเข้า
เวลานี้หลีชิงเยียนอึ้งค้าง…ใบหน้างดงามซีดเซียวอย่างยิ่ง ผมยาวยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาหยาดเยิ้มแข็งทื่อ มองฉากที่น่ากลัวตรงหน้านี้ด้วยความมึนงง
ในเวลานี้ ด้านหลังส่วนกระบะของรถขนดินคนนั้นยกขึ้นทันใด ทรายและหินของทั้งรถคันนั้นเหมือนอยากจะเทลงมาตรงกลางของรถยนต์คันนี้โดยตรง นี่คือทรายที่หนักหลายสิบตันเต็มๆ นี่ถ้าชั่วขณะหนึ่งราดเทลงมา กลัวว่ารถยนต์คันนี้จะโดนทับจนกลายเป็นเศษเหล็กกองหนึ่งทันที สำหรับผู้คนที่อยู่ในรถคงตายแบบไม่ต้องสงสัย
ในรถยนต์ ซูเหลยสีหน้าเปลี่ยนไป กลายเป็นดูแย่ยิ่งขึ้น วิธีบุกฆ่าแบบนี้ หล่อนพึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
“ปิดหน้าต่างรถ!” ในวินาทีเร่งด่วนนี้ เฉินเป่ยตะโกนบอก
ซูเหลยรีบกดปุ่มปิดกระจก กระจกรถค่อยๆ เลื่อนขึ้น…ส่วนทรายเทสาดมาเหมือนฝนตกห่าใหญ่ ทำให้หลังคารถเกิดเสียงดังครืน ทันใดนั้นถูกทับลงมาหลายส่วน
เวลานี้หลีชิงเยียนตกใจจนงงงวย ไม่มีการตอบสนองเข้ามาแต่อย่างใด…
“ครืน!” ทรายเทลงมาราวกับสายฝนกระหน่ำ เกือบจะท่วมรถยนต์คันนี้แล้ว รถยนต์ครึ่งคันที่จมเข้าในกองทราย เดิมทีไม่มีทางสตาร์ทได้
“ตึง!”
ที่เกิดเหตุวุ่นวาย ด้านท้ายของรถยนต์ถูกรถขนดินชนเข้าอย่างหนักอีกครั้งหนึ่ง
ในรถ หลีชิงเยียนใบหน้าซีดเซียว กัดริมฝีปากแดงไว้ ในใจยุ่งเหยิงไร้อารมณ์ เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรถึงจะดี ยิ่งไม่รู้ว่าอันตรายตรงหน้าควรจัดการอย่างไร…
“คนพวกนั้น เธอไปจัดการแล้วกัน” เฉินเป่ยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากบอกกับซูเหลยเสียงต่ำ ซูเหลยงุนงงเล็กน้อย มองทางเฉินเป่ยแบบมีความตกใจอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าหล่อนแปลกใจพอสมควร คาดไม่ถึงเฉินเป่ยจะให้หล่อนไปลงมือ
ภายในอันตราย ซูเหลยพยักหน้า ยังคงเผชิญอันตรายแบบไม่เกรงกลัว ทุบหน้าต่างรถแตกทีหนึ่ง ก่อนจะพุ่งออกไปอย่างว่องไว
ส่วนเฉินเป่ยหันหน้ามองหลีชิงเยียนทีหนึ่ง ในดวงตาเปล่งประกายแสงรุ่งโรจน์ที่กำลังครุ่นคิดอยู่
“ปึง!”
และในเวลานี้รถก่อสร้างที่ขวางกั้นอยู่หน้ารถยนต์เมื่อก่อนหน้านี้คันนั้นเห็นหัวรถกลับกะทันหัน พุ่งเข้ามายังรถยนต์ เมื่อเทียบลักษณะของรถก่อสร้างคันนี้กับรถขนดินแล้วยังใหญ่กว่าหลายเท่า สามารถชนรถขนดินจนเละได้ง่ายดายเลยทีเดียว
ส่วนเวลานี้หลีชิงเยียนสับสนอลหม่าน เธอมองรถก่อสร้างคันนั้นพุ่งเข้ามารวดเร็วด้วยความงงงวย ทว่ากลับไม่มีวิธีอันใดที่จะสามารถรับมือได้
ในตอนนี้เอง ทันใดนั้นมือใหญ่ที่มีพลังข้างหนึ่งโอบกอดเธอไว้ ลากเธอเข้าไปตรงกลางที่ว่างของที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง หลีชิงเยียนหลบอยู่ที่วางเท้า ช่องว่างที่แคบเล็กคุ้มครองเธอได้พอดี
หลีชิงเยียนหันหน้าด้วยความตกใจ มองเห็นเฉินเป่ยที่หน้ามอมแมม กอดเธอไว้แบบกระเซอะกระเซิงแล้วพูดว่า “หลบดีๆ”
ตอนที่หลีชิงเยียนเงยหน้ามองไป พบว่าชั่วขณะนั้นเมื่อสักครู่ที่รถยนต์ถูกชน เศษกระจกที่แหลมคมนับไม่ถ้วนกระจาย ถ้าการกระทำของเฉินเป่ยช้ากว่านี้อีกหน่อย เกรงว่าหลีชิงเยียนคงเสียโฉมไปแล้ว
เฉินเป่ยและหลีชิงเยียนหลบอยู่กลางที่ว่างของเบาะทั้งสอง ช่องว่างที่แคบเล็กทำให้สองคนหลีกไม่ได้ที่จะต้องแนบชิดเข้าด้วยกัน แม้กระทั่งเฉินเป่ยยังรู้สึกได้ชัดเจนถึงรูปร่างโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบนั้นของหลีชิงเยียน ทำให้เฉินเป่ยเริ่มจินตนาการเรื่องที่น่าอับอายเชื่อมต่อในหัวโดยไม่รู้ตัว…
เพียงแต่ว่าหลีชิงเยียนในเวลานี้จิตใจสับสน ไม่มีกะจิตกะใจสนใจเรื่องพวกนี้โดยสิ้นเชิง ถ้าเปลี่ยนเป็นช่วงปกติ หลีชิงเยียนต้องตบเฉินเป่ยสักทีแน่
ไม่นานนัก ด้านนอกรถยนต์มีเสียงปืนรุนแรงดังขึ้น ซูเหลยมุดกลับเข้าในรถอย่างลำบาก พูดกับเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนว่า “มากเกินไป พวกนักฆ่ามากเหลือเกิน อย่างน้อยมีนักฆ่าที่แต่งตัวสองแบบ ไม่เหมือนเป็นคนของกลุ่มเดียวกัน”
“รถยังขับได้มั้ย รีบออกไปเดี๋ยวนี้” ในวิกฤติ เฉินเป่ยสีหน้าสงบนิ่ง ยังคงไม่แตกตื่นลนลาน ทำการตัดสินใจด้วยความใจเย็น
ซูเหลยเหยียบคันเร่งแล้ว เครื่องยนต์ของรถคำรามผลักดันล้อรถให้หมุนเคลื่อนอย่างว่องไว ขับเคลื่อนรถยนต์ไประยะไกล
“ตึง!”
ด้านขวาของรถยนต์ รถก่อสร้างคันนั้นยิ่งพุ่งชนอย่างดุร้าย แม้กระทั่งประตูรถด้านหนึ่งโดนชนจนหลุดลอยไปเลย
ตึง!
ในที่สุดรถยนต์ก็ขับเคลื่อนฉับไว ขณะนั้นเอง หลีชิงเยียนลุกขึ้นมองด้านหลังแวบหนึ่ง ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ
ด้านหลังพวกเขามีรถยนต์และรถก่อสร้างสิบกว่าคันตามมาติดๆ คลุ้มคลั่งไร้ที่เปรียบ ไล่ตามไม่ปล่อย
“ฮู้!”
ทันใดนั้นดวงตาหลีชิงเยียนแข็งตัว หลังประตูรถโดนชนหลุดไป ลมแรงโหมพัดกระหน่ำเข้ามาจากด้านนอก ส่วนเฉินเป่ย เพราะอยู่ติดตรงประตูรถ คาดไม่ถึงถูกพัดออกไปนอกรถแล้ว
“อย่า!”
หลีชิงเยียนตะโกนเสียงหลง ชั่วขณะที่เธอมองเห็นเฉินเป่ยโดนหอบลอยไปต่อหน้าต่อตา หัวใจเหมือนหยุดเต้นไป
“ไม่!”
ไม่รู้ทำไมในวินาทีนั้นหลีชิงเยียนถึงหายใจลำบาก ดวงตาของเธอเบิกโต มองฉากตรงหน้านี้ตาไม่กะพริบ ยากจะเชื่อ
“ประธานหลีคะ คาดเข็มขัดนิรภัยจับไว้ให้มั่นด้วยค่ะ” ซูเหลยที่อยู่เบาะหน้าหลบหลีกทางซ้ายขวาอย่างบ้าคลั่ง ตะโกนเสียงดัง
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนไร้เลือดฝาด ราวกับสูญเสียอะไรไป ทำให้ตอนนั้นเธอดูหวั่นวิตก
“เป้าหมายอยากจะหลบหนี ตามไปทั้งหมด!” ด้านหลังรถยนต์ที่ซูเหลยขับ รถยนต์สีเทาแต่ละคันตามมาด้านหลังติดๆ ทันใดนั้นคนขับรถยนต์ที่นำหน้ามาคันหนึ่งดวงตาเบิกโต เห็นเพียงภาพเงาคนคนหนึ่งมาจากระยะไกล เขามองเห็นไม่ชัดเจน หน้าต่างรถของตนเองก็โดนภาพคนคนนั้นกระแทกจนแตกละเอียด
“เพล้ง!”
รถยนต์สีเทาคันนั้นหมุนวนกะทันหัน ขวางดักกลางถนน ทำให้รถยนต์ด้านหลังหลบกันไม่ทัน ต่างชนเข้ามากันหมด
“ตึงๆๆ!”
รถยนต์แต่ละคันชนท้ายกันติดๆ กลายเป็นอุบัติเหตุที่เชื่อมโยงด้วยกันแล้ว
ในระหว่างที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งนี้ พลันปรากฏภาพเงาคนหนึ่งขึ้นมา มุมปากเฉินเป่ยคาบบุหรี่ไว้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง สูทบนตัวยับยู่ยี่ กำลังลงมาจากบนรถยนต์สีเทาแบบเยือกเย็นสงบขนาดนี้
ในรถยนต์ที่ด้านหลัง นักฆ่าแต่ละคนจ้องภาพเงาคนที่ดูเหมือนอันธพาลคนนั้น…เขาออกมาทำอะไร…คนคนนี้ก็คือเป้าหมาย เขาไม่ตายได้อย่างไร
“ล็อกเป้าหมายไว้ เตรียมยิง!” นักฆ่าแต่ละคนลงมาจากในรถ ปากกระบอกปืนเล็งไปที่เฉินเป่ย
เดิมทีเฉินเป่ยไม่ได้สนใจ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง เดินไปด้านหน้าอย่างนิ่งเฉยสุดๆ
“ปัง——!” กระสุนลูกหนึ่งจู่โจมมาทันที
เฉินเป่ยเอียงคอเบาๆ กระสุนลูกนั้นเฉียดตามคอของเขาออกไปโดยตรง ยิงเข้ากลางพื้น
เหล่านักฆ่ากลุ่มหนึ่งตื่นตกใจกันหมด คาดไม่ถึงเขาหลบลูกกระสุนได้? นี่เป็นไปได้อย่างไร
“ปังๆ——!” กระสุนหลายลูกโจมตีมาอีกแล้ว
เฉินเป่ยหมุนวนร่างกาย ชั่วขณะหนึ่งหลบการจู่โจมของกระสุนได้อีกครั้ง
บรรดานักฆ่าที่อยู่โดยรอบกลุ่มนั้นสั่นสะท้านกันถึงที่สุด นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร? นี่คือมนุษย์เหรอ? เขาหลบลูกกระสุนที่ไวกว่าเสียงได้อย่างไรกัน?
เวลานี้ กระบะด้านหลังของรถขนดินยกขึ้นเทครึ่งหนึ่ง ขับไปยังเฉินเป่ย มองเห็นว่าอยากจะเทลงมา
ช่วงพริบตาเดียวนี้ ร่างกายของเฉินเป่ยเพิ่มพลังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พุ่งโจมตีไปที่กระบะด้านหลังของรถขนดินทันที
เท้าทั้งคู่ของเขาสะสมกำลังระดับหนึ่ง ทั้งตัวเด้งกระโดดขึ้นมาทันใด ชั่วขณะนั้นบนถนนยางมะตอยปรากฏหลุมแตกร้าวที่ลึกมากขึ้น
เหล่านักฆ่าในที่เกิดเหตุกลุ่มหนึ่งหน้าตาตกใจหมด อึ้งค้างมองฉากนี้
คาดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนั้นจะกระโดดขึ้นจากพื้นเรียบ พุ่งขึ้นไปยังรถขนดิน นักฆ่านับไม่ถ้วนต่างหยุดหายใจกันแล้ว สายตาโฟกัสที่ภาพเงาคนที่กระโดดขึ้นไปบนอากาศนั้น ชั่วขณะนั้นอากาศเงียบงันแข็งทื่อ หัวใจของคนทั้งหมดเต้นคล้ายหน่วงหนืด
ร่างกายเฉินเป่ยกระโดดลอยขึ้นจากพื้น เสียงลมดังซู่ซ่า เขามีพลังที่ยิ่งใหญ่สยองขวัญ ทันใดนั้นเหยียบบนกระบะด้านหลังที่หนักสามสิบตันเต็มๆ อันนั้นทีหนึ่ง
“ตึง!” กระบะดินทรายที่กำลังจะเทราดลงมาของรถคันนั้นถูกพุ่งโจมตีด้วยพลังมหาศาล ชั่วพริบตาเดียวก็ทำลายสมดุลของแรงลง กระบะดินทรายที่หนักสามสิบตันนั้นค้างอยู่กลางอากาศ
เฉินเป่ยยืนอยู่บนรถเทดินราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามขนาดนี้ สีหน้าเขาเย็นชา เท้าทั้งคู่เพิ่มพลังพังลงอีกครั้ง
ในที่สุดรถเทดินคันนั้นก็สูญเสียกำลังทรงตัว ตามวงโคจรดั้งเดิมกลับไปยังตำแหน่งเดิมฉับพลัน กระบะหลังสามสิบตันกระแทกลงบนรถขนดินอย่างแรง จนรถขนดินสั่นสะเทือน ล้อรถระเบิดแตกทันที ชั่วขณะนั้นรถทั้งคันเว้าลึกลง
พวกนักฆ่ากลุ่มหนึ่งในเหตุการณ์เบิกดวงตาโต ตื่นตระหนกถึงที่สุด นี่…นี่เป็นมนุษย์คนหนึ่งจริงเหรอ? คาดไม่ถึงอาศัยกำลังของร่างกายคนเหยียบกระบะดินทรายที่หนักหลายสิบตันคันเต็มๆ รถคันนั้นกลับที่เดิมโดยตรง?