สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 533
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่533 ฉันกลัวแก?
พวกคนกลุ่มเดียวกันนั้นชั่วขณะหนึ่งก็ตอบสนองเข้ามา ไม่รีรออะไร มีดคมกริบนับไม่ถ้วนพุ่งแทงเข้ามาโดยตรง ช่างดุร้ายเสียจริง ถ้าถูกมีดพวกนี้แทงเข้า ไม่ตายก็คงพิการหนัก
ในที่สุดผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์กลุ่มหนึ่งสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ กลัวว่าวันนี้คงต้องเห็นเลือดตกยางออก คาดไม่ถึงอันธพาลกลุ่มนี้อยากลงมือแทงคนจริงๆ
“รีบแจ้งตำรวจเร็ว…โทรเบอร์ฉุกเฉิน120…” เหล่าคนที่มุงดูโดยรอบสั่นสะเทือนถอยหลัง มีผู้หวังดีหลายคนแอบต่อสายโทรศัพท์ฉุกเฉินเงียบๆ…
พวกนักเรียนมัธยมที่มุงดูกลุ่มนั้นสีหน้าซีดเซียว หวาดกลัวจนถอยหลังหลบซ่อน พวกเขาเป็นเพียงนักเรียน…เคยเจอฉากนองเลือดเช่นนี้ที่ไหนกัน…
หนุ่มผมทองสีหน้าโหดร้าย ถลึงตามองเฉินเป่ยไม่ขยับ…เขาอยากให้เจ้าสารเลวที่สมควรตายคนนี้ถูกแทงพรุนเต็มตัวจนตาย
เฉินเป่ยโอบหวาหย่าหรุ่ยแน่น ปกป้องเธอไว้ในอ้อมอก เห็นเพียงขายาวของเขาโจมตีออกไปกะทันหันดุจสายฟ้าแลบ แทบจะกลายเป็นเหล็กยาวท่อนหนึ่ง
อันธพาลคนหนึ่งมือถือมีดไว้แทงมาโดยตรง มีดยังไม่เข้าใกล้ตัว กลับมีลมแรงแวบผ่านกะทันหันตรงหน้า ขายาวที่น่ากลัวโจมตีเข้ามา
“ตึง!” อันธพาลคนนั้นโดนถีบจนลอยไปกลางอากาศโดยตรง เลือดสดพ่นออกมาเป็นสาย
อันธพาลอีกคนหนึ่งโบกมีดโหดเหี้ยม เสียบไปยังส่วนท้องของเฉินเป่ย การจู่โจมนี้ดุดันอย่างยิ่ง แทงเข้าเฉียบพลัน นั่นคือชีวิตที่พิการ
ทันใดนั้นภาพวืดขายาวเปลี่ยนลงฉับพลัน เฉินเป่ยฟาดเท้าบนไหล่ของอันธพาลคนนั้นทันใด
“แกร๊ก!” เสียงกระดูกเคลื่อนดังทีหนึ่ง กระดูกหัวไหล่ของอันธพาลคนนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ขาทั้งคู่สั่นจนคุกเข่าลงที่พื้น แม้แต่กระดูกหัวเข่ายังคุกเข่าจนแตกละเอียด…ก้อนหินที่พื้นก็แตกร้าวเช่นกัน…
ผู้คนที่มุงดูรอบด้านดูกันจนตาค้างแล้ว เชี้ย? นี่มันช่างองอาจห้าวหาญสยองขวัญเกินไปหน่อยมั้ง? อันธพาลหนุ่มที่ถือมีดกลุ่มหนึ่งขนาดนี้ยังจัดการผู้ชายคนนี้ไม่ได้? นี่แม่งเป็นบรูซลีกลับชาติมาเกิดรึไงวะ
พวกอันธพาลกลุ่มหนึ่งดุร้ายฉุนเฉียว มีดในมือยิ่งเพิ่มขึ้นยิ่งแทงมาอย่างดุดัน หมายเอาถึงชีวิต หากไม่ระวังโดนแทงเข้า จำเป็นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยจริงๆ
เฉินเป่ยสีหน้าเรียบเฉยที่สุด ขายาวดุจสายฟ้าแลบที่ดุเดือดรุนแรงน่ากลัว
“ตึงๆๆ——!” ภาพเงาแต่ละคนล้มลอยไป กลางอากาศผสมปนเปกันจนกลายเป็นภาพที่สะเทือนขวัญ กระทบการมองเห็นอย่างแรง
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์อึ้งทึ่งตกใจกันหมด
คนที่อยู่ในเหตุการณ์นิ่งค้างราวกับกลายเป็นหิน
เฉินเป่ยค่อยๆ เก็บขาวยาวของตนเองกลับ ปัดฝุ่นบนกางเกงเบาๆ เมินเฉยเรียบนิ่ง
ส่วนบนพื้น ร่างกายที่นอนเกลื่อนกลาดเต็มพื้นเสียแล้ว…ร้องโหยหวนทุกที่…ทำให้รู้สึกเศร้าสลด
หวาหย่าหรุ่ยใบหน้าซีดเผือด ทั้งตัวแอบอิงอยู่ในอ้อมอกของลุง ในขณะนี้หัวใจดวงน้อยของเธอยังกำลังเต้น“ตุบๆ” แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ที่อกสั่นขวัญแขวนเช่นนี้ ไม่รู้ทำไมขณะเดียวกันทั้งที่ในใจหวาดกลัว คาดไม่ถึงยังแอบมีความฮึกเหิมนิดๆ…ลุงเขาหล่อมากเลย…ตอนที่เขาต่อสู้ดูแมนขนาดนั้น…
หนุ่มผมทองสีหน้าสั่นสะท้าน ตกใจถลึงตาจ้องฉากนี้ มีความไม่อยากเชื่อเต็มใบหน้า
“เหยดแม่ง!” หนุ่มผมทองสั่นเทาโกรธเคือง ด่ากราดใส่เฉินเป่ย “แกกล้ามาตีคนของฉัน? ฉันจะไม่ปล่อยแกไปเด็ดขาด!” หนุ่มผมทองเบิกตาโต มีความคิดอยากฆ่าที่ดุร้าย
“อ่อ!” เฉินเป่ยหันหน้า มองเข้าแบบเฉยชา “ไม่ปล่อยฉันไป?”
เดิมทีเฉินเป่ยขี้เกียจสนใจเขา เขาเหยียดหยามวัยรุ่นที่ฟันไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้มากๆ ต่อยมันแล้วก็มาเปื้อนมือตนเองเสียเปล่าๆ แต่พอได้ยินคำขู่ประโยคหนึ่งของหนุ่มผมทองคนนี้ เฉินเป่ยกลับสนใจอยู่บ้าง…ถึงแม้เขาจะไม่ยินยอมเปื้อนมือของตนเอง แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามอยากหาที่ตายเอง…เขาก็ไม่ถือสาจัดให้สักยก
หนุ่มผมทองสีหน้าดุร้ายเต็มที่ ถลึงตาจ้องเฉินเป่ยโหดเหี้ยมสุดๆ “ยังมีผู้หญิงของแก ฉันก็จะไม่ปล่อยเหมือนกัน! ฉันจะเอาหล่อนมาย่ำยีให้หนัก ต่อหน้าแก…” หนุ่มผมทองพูดยังไม่ทันจบ เฉินเป่ยก็ตบหน้าเข้าไปอย่างรุนแรง
“ป้าบ——” พลังตบครั้งนี้หนักหน่วงมาก หนุ่มผมทองถูกตบจนลอยขึ้นกลางอากาศทั้งตัว ร่างกายหมุนวนรอบหนึ่งกลางอากาศ ก่อนจะกระแทกลงพื้นรุนแรง ปากเขาอ้าออก เลือดกบปากผสมกับฟันพ่นออกมาทั้งหมด…ย่ำแย่แบบหาที่เปรียบได้
เฉินเป่ยไม่พูดพร่ำทำเพลง ถีบเข้าไปอย่างแรงอีกทีหนึ่ง โจมตีด้วยพลังมหาศาล ทั้งตัวหนุ่มผมทองถูกถีบจนลอยไปสิบกว่าเมตร…กระแทกราวเหล็กที่อยู่ไม่ไกลนักโดยตรง หนุ่มผมทองพ่นเลือดออกมา ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด
ผู้คนรอบด้านต่างตกใจมึนงงกันหมด นี่…นี่มันช่าง…ความแตกต่างที่มหาศาลนี้ทำให้พวกเขาทั้งหมดยากจะตอบสนองกลับมา
เหล่านักเรียนมัธยมต้นกลุ่มนั้นอึ้งทึ่งกันถึงที่สุด…ตกใจจนแม้แต่จะพูดยังพูดกันไม่ออกเลย…พี่ผมทอง…จอมอันธพาลของถนนเส้นนี้…คาดไม่ถึง…คาดไม่ถึงจะโดนต่อยเหมือนตุ๊กตาขนาดนี้?
ขณะนี้พวกนักเรียนหญิงซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุกลุ่มนั้นต่างก็ตะลึงกัน เวลานี้ไอดอลในใจของพวกหล่อนเหมือนเกิดการเปลี่ยนแปลง…บุคคลอย่างเช่นหนุ่มผมทองเหมือนอยู่ในใจพวกหล่อนกลับดูสุดจะทนเช่นนี้…แต่ผู้ชายรุ่นลุงที่หนวดเคราเต็มหน้าคนนี้…กลับกลายมามีเสน่ห์เต็มเปี่ยมกะทันหัน ทำให้คนใจเต้นแรงเช่นนี้
หวาหย่าหรุ่ยแอบอิงในอ้อมอกเฉินเป่ย ใบหน้างดงามงงงวย มองฉากนี้ด้วยความมึนงง
เฉินเป่ยโอบเธอไว้แน่น ไม่ได้ปล่อยมือตลอดทั้งกระบวนการ ราวกับว่ามีเพียงแบบนี้ถึงสามารถให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอได้
เฉินเป่ยโอบหวาหย่าหรุ่ยไว้ ค่อยๆ เดินไปตรงหน้าหนุ่มผมทอง มองเขานิ่งๆ ในสายตาไม่มีอารมณ์สักนิด สุดแสนหนาวเย็นยะเยือก
หนุ่มผมทองเลือดสดเต็มปาก เส้นเลือดฝอยเต็มดวงตา ท่าทางดุร้าย เขาพูดข่มขู่เสียงสั่นเครือ “แก…ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้ ฆ่าแกด้วยมือตัวเอง!”
เฉินเป่ยมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย “เด็กเมื่อวานซืนที่ฟันยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม วันๆ เอาแต่ตีรันฟันแทง รู้สึกเศร้าใจแทนพ่อแม่แกจริงๆ…ช่างเถอะ วันนี้จะสั่งสอนแกแทนพ่อแม่แกสักหน่อย”
เฉินเป่ยพูดนิ่งๆ ในดวงตาสาดส่องแสงหนาวเหน็บออกมาฉับพลัน
ตอนที่หนุ่มผมทองมองเห็นสายตาที่น่าหวาดหวั่นสยองขวัญของเขาก็สั่นไปทั่วทั้งตัว วินาทีนี้เขารู้สึกถึงความตายกะทันหัน ในใจของเขาปรากฏความรู้สึกวิกฤติที่ไร้ขอบเขตออกมา เวลานี้ผู้ชายคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ราวกับเป็นสัตว์ป่าที่โหดร้ายตัวหนึ่ง
ในที่สุดหนุ่มผมทองก็สั่นเทาแล้ว ในที่สุดเขาหวาดกลัวแล้ว
เฉินเป่ยค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามา อากาศเหมือนเหน็บหนาวเสียดกระดูก
“แก…แกอย่าเข้ามา…” หนุ่มผมทองสั่นสะท้านทั้งตัว ในดวงตามีความตกใจสุดๆ “แกแตะต้องฉันไม่ได้…ฉันคือ…” หนุ่มผมทองยังพูดไม่ทันจบ เฉินเป่ยก็เหยียบเท้าข้างหนึ่งลงไปที่แขนของหนุ่มผมทองอย่างหนัก
“กร๊อบ!” เสียงกระดูกแตกหักดังทีหนึ่ง ทั้งแขนหนุ่มผมทองแตกละเอียดทันที…
“อ๊าก——” หนุ่มผมทองร้องคำรามเศร้าสลด ใบหน้าเต็มไปด้วยความอัปลักษณ์…
เท้านี้ของเฉินเป่ยเหยียบลงแบบไม่ปรานี เขาเพียงแค่เหยียบกระดูกแขนของหนุ่มผมทองหัก กระดูกแตกร้าว ยังสามารถผ่านการต่อกระดูกรักษาได้…พูดมาเช่นนี้ แสดงว่าเขายังมีโอกาสรักษาหายได้ครบถ้วน…
“แกกล้าทำกับฉันขนาดนี้…แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” หนุ่มผมทองหน้าเต็มไปด้วยความอัปลักษณ์ย่ำแย่ เสียงดูโกรธเคืองขั้นสุดและสั่นเครือ เขานึกไม่ถึง…ฝ่ายตรงข้ามจะกล้าลงมือหนักเช่นนี้จริงๆ เขาครอบครองถนนเส้นนี้มาหลายปี ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาเช่นนี้ หลายปีมานี้เขาพึ่งพิงอิทธิพลของครอบครัวเที่ยวก่อกรรมทำเข็ญ ไม่เคยมีใครกล้าหยามเหยียดเขาเช่นนี้ ไม่เคยเลย
“อ่อ! แกเป็นใคร?” เฉินเป่ยมองเขาอย่างเมินเฉย
หนุ่มผมทองสีหน้าโหดร้าย ลูกตาเหมือนอยากจะกลืนกินเฉินเป่ยทั้งเป็น
“ฉันคือคนในตระกูลหวังของเยี่ยนจิง! แกกล้าแตะต้องฉัน? ตระกูลหวังจะฆ่าแกไม่เลิกรา!” หวังอู้เหนิงตะโกนด้วยเสียงดุ เสียงนั้นมีพลังที่น่ากลัว ทำให้ทั้งอากาศแข็งตัวสะกดไว้ถึงที่สุด ในขณะนี้ผมสีทองหลายเส้นนั้นบนศีรษะของเขาเหมือนตั้งขึ้นมา นั่นคือท่วงท่าทระนงองอาจที่ทะยานขึ้น เขามาจากตระกูลหวัง
ทุกคนในที่เกิดเหตุเงียบเป็นเป่าสาก บรรยากาศเงียบงัน แม้แต่เสียงใบไม้ร่วงยังได้ยิน
เยี่ยนจิง…ตระกูลหวัง? ทุกคนล้วนอึ้งค้างแล้ว หนุ่มผมทองคนนี้น่ะเหรอ? คาดไม่ถึงมาจากตระกูลหวังของเยี่ยนจิง? เขาเป็นคนของตระกูลหวัง?
ผู้ชายด้านหน้าคนนี้ล่วงเกินคนของตระกูลหวังแล้ว
เวลานี้ในที่สุดผู้คนที่มุงดูเข้าใจแล้ว…ทำไมหนุ่มผมทองคนนี้ถึงกล้าเที่ยวก่อกรรมทำเข็ญและไม่มีใครกล้าหาเรื่องในเขตอิทธิพลแห่งนี้? ทำไมหนุ่มผมทองคนนี้ถึงกล้าแทงคนแบบกำเริบเสิบสานโดยไม่เกรงกลัว? ทำไมหนุ่มผมทองคนนี้ต่อให้โดนตำรวจจับแล้วก็ยังสามารถรอดออกมาได้อย่างสบายดี? ทุกอย่างนี้…เป็นเพราะเขามาจากตระกูลหวัง