สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 552
บทที่ 552 มหาราชันย์
เฉินเป่ยยืนอยู่บนยอดตึกสูง เขามองพนักงานพวกนั้นอย่างสนุก จู่ๆ ดวงตาของเขาก็นิ่ง เขาเด้งตัวขึ้นและกระโดดลงมาจากยอดตึกสูง จากนั้นก็พุ่งเข้ามา
“ปึง!”
พื้นสั่นสะเทือนไปหมด เสียงดังกึกก้องไปทั่ว พื้นใต้เท้าของเฉินเป่ยแยกตัวออก ภาพนั้นน่ากลัวมาก เสียงอึกทึกครึกโครมดังไปทั่วทุกทิศอย่างต่อเนื่อง ราวกับแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น
แม้แต่หลีเช่าเทียนและพนักงานที่ยืนอยู่ไกลๆ ยังรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาล!
หลีเช่าเทียนอกสั่นขวัญแขวน สีหน้าไม่สู้ดี เขารีบตวาดออกมาว่า “รีบพาฉันไปเร็วๆ!”
“ตึกๆ” เฉินเป่ยก้าวเข้าไปหาหลีเช่าเทียนช้าๆ
“สกัดมันไว้!” แววตาที่หลีเช่าเทียนมองไปยังเฉินเป่ยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“หยุดนะ!” เหล่าพนักงานพุ่งเข้าไปล้อมตัวเฉินเป่ยเอาไว้
“ถ้าแกกล้าก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว แกจะต้องได้รับผลเกินกว่าที่แกจินตนาการเอาไว้!” เสียงของพนักงานเย็นชาเป็นอย่างมาก
เฉินเป่ยชะงักเท้าลง เขากวาดตามองไปรอบๆ ท่าทางนิ่งเฉยราวกับว่าพนักงานพวกนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
“หึ ตอนแรกฉันอยากจะให้โอกาสพวกแกสักครั้ง แต่ทำไมพวกแกดันแต่จะรนหาที่ตายล่ะ” เฉินเป่ยแสยะยิ้มเย็นชา ในเสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน
“บังอาจนักนะ! แกเป็นใคร! ถึงกล้ามาทำร้ายคุณชายหลี ให้ตายเหอะ! แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!” น้ำเสียงของพนักงานทั้งเย็นชาและโมโห สีหน้าของพวกเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก ดึกขนาดนี้พวกเขาควรจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่กลับโดนโทรเรียกตัวมาที่นี่
ปกป้องคุณชายหลี หน้าที่นี้สำคัญจนไม่มีอะไรสามารถเปรียบได้ พวกเขาอาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งเพราะเหตุนี้ แต่ทว่าตอนนี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะคิดเลยว่าจะมีคนบีบบังคับคุณชายหลีจนกลายเป็นแบบนี้ นี่มันบังอาจมาก!
“พวกแกไม่รู้จักฉันเหรอ” เฉินเป่ยหรี่ตาลง
สำหรับพวกกระจอกนี่ ความเย็นชาของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“แกเป็นใคร ฉันไม่สนใจหรอก มาก่อเรื่องในสนามบินก็ถือว่าทำผิดกฎหมาย กลับไปกับฉันซะดีๆ” สีหน้าของพนักงานเย็นชา ความเย็นชาแผ่ซ่านออกมาไม่หยุด
คนพวกนี้ไม่พูดด้วยเหตุผล พวกเขาไม่รู้จักผู้ชายตรงหน้า เพราะว่าระดับของพวกเขาต้อยต่ำเกินกว่าจะรู้จักเฉินเป่ย!
สำหรับพวกเขาแล้วหลีเช่าเทียนคือผู้ยิ่งใหญ่ในเยี่ยนจิง พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่าเฉินเป่ยคือบุคคลเหนือมนุษย์!
แววตาของเฉินเป่ยเย็นชามาก เขากวาดตามองพนักงานเหล่านั้นและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกแกยอมรับแล้วใช่ไหมว่าจะเป็นพวกเดียวกับเขา”
“แกเป็นใครไม่ทราบ พวกเราจำเป็นต้องอธิบายให้แกฟังด้วยเหรอ!” น้ำเสียงของพนักงานเย็นชา
พวกเขาคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าในเมืองนี้จะมีคนกล้าหือกับหลีเช่าเทียน นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ ตอนนี้เหล่าพนักงานเห็นเฉินเป่ยเป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ ถ้าพวกเขาทำหน้าที่สำเร็จลุล่วง พวกเขาก็จะได้รับประโยชน์เต็มๆ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันคงไม่จำเป็นต้องพูดไร้สาระกับพวกแกอีก” เฉินเป่ยพยักหน้า มีรังสีอันน่ากลัวกำลังเดือดพล่านอยู่รอบตัวของเขา เสมือนสัตว์ป่าที่ดุร้ายถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพ!
“หุบปาก! จัดการมัน…”
“เพียะ” เสียงตบอันน่ากลัวดังขึ้น
พนักงานคนนั้นยังไม่ทันพูดจบก็โดนตบจนหมุนอยู่กับที่ เลือดไหลทะลักออกมาทางปาก
หลังจากไม่กี่วินาที ร่างกายของเขาก็ซวนเซ เสียงตุ้บดังขึ้น เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้นด้วยฝ่ามือเดียวของเฉินเป่ย
บรรยากาศถูกปกคลุมด้วยความเงียบ
เฉินเป่ยค่อยๆ ดึงมือกลับมาแล้วมองคนพวกนั้นด้วยสายตาราบเรียบ จากนั้นเขาจึงพูดออกมาแค่ไม่กี่คำ “น่ารำคาญ”
แววตาของเขาฉายแววความแน่วแน่ คนพวกนี้ยอมเป็นพวกเดียวกับหลีเช่าเทียน เขาจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดอะไรอีก
วินาทีต่อมา รังสีแห่งความอาฆาตลอยอยู่ในอากาศ คนพวกนั้นโกรธจนสุดขีด
“ไอ้เวร รนหาที่ตาย! จัดการมันให้ได้!” สีหน้าของพนักงานโกรธจัด พนักงานสองคนเหวี่ยงหมัดและพุ่งไปยังเฉินเป่ย
ขณะที่พนักงานสองคนนั้นกำลังจะเหวี่ยงหมัดเข้ามา เฉินเป่ยเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า เขาตอบโต้สองหมัดนั่นออกไป
“พลั่ก พลั่ก” ร่างสองร่างลอยกระเด็นไปในอากาศ มีเลือดกระเด็นตามออกมาด้วย
หนามยอกเอาหนามบ่ง!
แววตาของเฉินเป่ยนิ่งและเย็นชา เขาดึงหมัดกลับมาช้าๆ ในตอนนี้แววตาของเขาเย็นชาจนถึงขีดสุด
“ให้ตายเถอะ แกกล้าทำร้ายคนของเราเหรอ บุกเข้าไป!” สีหน้าของพนักงานโกรธเป็นอย่างมาก
“สวบ สวบ” พวกเขาชักท่อนโลหะออกมาจากแขนเสื้อ พวกเขาได้เตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว
พนักงานเหล่านั้นพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางของพวกเขาดูดุดันและเหิมเกริม ตอนนี้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อีก
ตอนนี้แววตาของเฉินเป่ยสงบนิ่ง
เขาจับท่อนโลหะที่หมายจะทำให้ศีรษะของเขาแยกออกอย่างรวดเร็ว เขาใช้แรงบิดมัน
“กรอบ” ท่อนโลหะถูกหักด้วยแรงมหาศาล
เฉินเป่ยจับไหล่ของพนักงานคนนั้น แล้วใช้แรงยกขึ้น
“พลั่ก!” พนักงานคนนั้นถูกเหวี่ยงไปไกลหลายเมตร จนเลือดกระอักออกจากปาก
“ใครฆ่ามันได้ ไปรับรางวัลจากคุณชายหลี!” พนักงานแต่ละคนโกรธจัด พวกเขามีท่าทีดุร้าย เต็มไปด้วยแรงอาฆาต
พนักงานคนหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความโกรธ ท่อนเหล็กพุ่งไปที่หัวของเฉินเป่ย หวังจะให้ศีรษะของเฉินเป่ยเลือดสาด
เฉินเป่ยง้างมือขึ้น แล้วตบลงไปอย่างรุนแรง
“เพียะ!” เสียงตบดังกึกก้องไปทั่ว ตัวของพนักงานคนนั้นสั่นเทิ้ม เขาถูกตบจนลอยไปไกลและกระอักเลือดออกมา
ตอนนี้พนักงานพวกนั้นพุ่งเข้ามาด้วยความโกรธ แรงอาฆาตแผ่ซ่านไปทั่ว อุณหภูมิในอากาศลดลงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเฉินเป่ยเย็นชา มือเปล่าของเขากลายเป็นภาพลวงตาอันน่ากลัว
มีรังสีอันน่ากลัวกำลังปะทุออกมาจากตัวของเฉินเป่ย ราวกับจะกลายร่างเป็นมังกร
“เพียะเพียะเพียะ!” เสียงอันน่ากลัวดังออกมาไม่หยุด
ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที เสียงอันน่ากลัวดังขึ้นข้างหูติดต่อกัน
“พลั่ก พลั่ก พลั่ก!” ร่างของคนพวกนั้นโดนเฉินเป่ยตบจนกระเด็น เลือดสาดออกมา ที่นี่เต็มไปด้วยความน่าสยดสยอง
เลือดอาบทั่วร่างคนเหล่านั้น และนอนระเกะระกะอยู่บนพื้น คนที่ล้มลงบนพื้นสั่นสะท้านและร้องครวญครางออกมาอย่างน่าเวทนา
บรรยากาศยิ่งเงียบลงเรื่อยๆ สุดท้ายเหลือเพียงพนักงานคนสุดท้าย แววตาของมันสั่นด้วยความหวาดกลัว มันค่อยๆ ถอยไปข้างหลังช้าๆ
จู่ๆ มันก็ชักมีดออกมาจากอก ความน่ากลัวแผ่ซ่านออกมา
“ไอ้เวร ตายซะเถอะ!” มีดในมือของพนักงานคนนั้นพุ่งมาที่ท้องของเฉินเป่ย เขาหวังจะเอาชีวิตของไอ้ผู้ชายคนนี้
เฉินเป่ยมองพนักงานคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา ท่าทีของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาแทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เพียงแค่ง้างมือขึ้นตบ
“เพียะ!” เสียงตบดังกึกก้องขึ้นมา
พนักงานที่ถือมีดถูกตบจนกระเด็นและกระอักเลือด อาวุธในมือเกือบจะหล่นลงพื้น
สีหน้าของมันบิดเบี้ยวไปหมด มันกำมีดหวังจะพุ่งเข้ามาแทงเฉินเป่ยอีกครั้ง
เฉินเป่ยเอามือจับมีดนั่นไว้ และใช้แรงบิด
“กรอบ” มีดที่แข็งแกร่งถูกบิดจนแหลก
สีหน้าของเฉินเป่ยเฉยชาเป็นอย่างมาก เขาหิ้วพนักงานคนที่ถือมีด เดินตรงไปยังหลีเช่าเทียน
“แกจะทำอะไร คุณชายหลีไม่ปล่อยแกไว้แน่ แกตายแน่!” พนักงานคนนั้นขัดขืนอย่างหวาดกลัว จากนั้นจึงแผดเสียงออกมา
แต่ทว่าเฉินเป่ยนังคงเดินเข้าไปหาหลีเช่าเทียนโดยไม่แยแสสิ่งใด
แววตาทั้งสองข้างของพนักงานคนนั้นแดงก่ำจนน่ากลัว เขากำแขนของเฉินเป่ยเอาไว้แน่น จากนั้นจึงพูดอย่างโมโหว่า “แกตายแน่! ถ้าแกกล้าแตะต้องคุณชายหลีเพียงนิดเดียว แกจะต้องตาย” น้ำเสียงของพนักงานโมโหมาก
“หา? เหรอ” เฉินเป่ยแสยะยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ “งั้นก็ต้องดูว่าเขามีปัญญาหรือเปล่า”
สีหน้าของเฉินเป่ยนิ่งเฉย เขาโยนพนักงานคนนั้นไปทางกลุ่มคนเหล่านั้น
“อ๊ากกก” เสียงอันน่าเวทนาดังขึ้น
“พลั่ก!” เสียงดังก้องขึ้นมา
ร่างของพนักงานคนนั้นลอยไปตกอยู่บนรถยนต์คันสีขาว รถทั้งคันยุบลงทันที มันถูกกระแทกอย่างแรงจนเป็นรูใหญ่ พนักงานคนนั้นแขนขาชี้ฟ้า มันนอนเลือดอาบอยู่บนรถยนต์คันนั้น ร่างของมันกระตุกเบาๆ กระดูกสันหลังของมันหักหมดแล้ว มันพิการอย่างแน่นอน ชีวิตที่เหลือคงจะต้องนอนอยู่บนเตียง
“เอ๋อตงเฉิน!” หลีเช่าเทียนมองไปบนรถคันสีขาวที่มีพนักงานอันน่าเวทนา เท้าของเขาชะงักลง และสบถออกมาอย่างน่ากลัว
เฉินเป่ยจุดบุหรี่ แล้วก้มลงกวาดตามอง พนักงานเหล่านั้นนอนกองอยู่บนพื้นและส่งเสียงร้องครวญคราง ที่นี่เต็มไปด้วยเลือด
แววตาของเฉินเป่ยเรียบเฉย เขามองตรงไปที่ด้านหลังของหลีเช่าเทียน จากนั้นจึงแสยะยิ้มออกมา “ฉันบอกแล้วว่าแกหนีไม่พ้นหรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเป่ย บอดี้การ์ดและพนักงานที่ยืนข้างหลีเช่าเทียนถึงกับชะงัก
เฉินเป่ย คนที่ตามฆ่าหลีเช่าเทียน เขาตามมาได้จริงๆ ตอนนี้พนักงานทุกคนต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน มันเป็นความกลัวที่อยู่ก้นบึ้งของหัวใจ เฉินเป่ยปีศาจชื่อฉาวโฉ่ที่พวกเขาได้ยินจากปากของหลีเช่าเทียน อีกทั้งไม่รู้ว่าได้ยินมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
“ตอนนี้รีบออกห่างจากมัน ใช้ยังสามารถไว้ชีวิตพวกแก ไม่งั้นอย่ามาว่าฉันตอนลงมือ จุดจบของพวกแกจะไม่ต่างจากคนพวกนั้น” เฉินเป่ยกวาดตามองเหล่าคนที่อยู่ข้างกายหลีเช่าเทียนด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงของเขาราวกับปีศาจอย่างไรอย่างนั้น
ตอนนี้พวกเขาตกตะลึงกับปีศาจที่อยู่ตรงหน้า พวกมันหันไปมองข้างหลังของเฉินเป่ย ขนลุกขึ้นมาทันที
ข้างหลังของเฉินเป่ย เป็นภาพที่เจิ่งนองไปด้วยเลือด มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก
นี่มันนรกบนดินชัดๆ พวกเขามองแค่ครั้งเดียวก็ไม่สามารถลืมได้ชั่วชีวิต!
หลังจากที่พนักงานพวกนั้นมองภาพที่เหมือนนรกบนดิน ต่างก็พากันชะงัก พวกเขายืนอยู่ที่เดิมเพราะความกลัว มือเท้าเย็นไปหมด!