สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 572
บทที่ 572 นรก
เยี่ยนจิง ห้องพักคนไข้วีไอพีชั้นบนสุดของโรงพยาบาลเอกชน
จิงนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ มองเอกสารหนาๆที่วางอยู่บนตักด้วยสีหน้าครุ่นคิด คนปกติดูไม่ออกเลยว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน
หู้ที่อยู่ข้างๆมองจิงและพูดอย่างมีเลศนัยว่า “สมเป็นคนดังหัวเซี่ยจริงๆ ขนาดอยู่ในช่วงพักฟื้นยังไม่ลืมงานอีก ประชาชนเยี่ยนจิงต้องขอบคุณนายนะเนี่ย”
จิงสีหน้าไม่เปลี่ยน พูดอย่างราบเรียบว่า “เป็นหน้าที่ฉันอยู่แล้ว”
ทันใดนั้น ประตูห้องพักเปิดออก ลูกน้องคนหนึ่งลนลานเข้ามา
“บอสครับ แย่แล้ว เกิดเรื่องแล้ว”
“ทำไมหรอ?” จิงเงยหน้าขึ้น มองไปที่ลูกน้องคนนั้น
“แก๊งเทพมารล้มเหลวแล้ว” ลูกน้องคนนั้นบอก “เมื่อกี้ทางแก๊งเทพมารบอกว่า ปฏิบัติการทีมเล็กตายเรียบ”
ข่าวนี้เข้าหูจิงแต่กลับไม่ได้ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนเลยสักนิด มีแค่มือที่ถือปากกาชะงักเล็กน้อย และเริ่มแก้ไขเอกสารต่อไป และตอบกลับเสียงเรียบว่า “รู้แล้ว”
“แล้วก็…ยังมี…” ทันใดนั้นลูกน้องคนนั้นยังพูดอึกอักอีกว่า
“หือ? มีอะไรอีก?” จิงอึ้งเล็กน้อย เขาค่อนข้างแปลกใจ ไม่รู้ว่ายังมีเรื่องอะไรอีกที่ทำให้ลูกน้องคนนี้ลังเลแบบนี้
“ยังมีอะไรอีก พูดมาเถอะ” จิงเปิดปากถาม สีหน้าเขาดูหยิ่งเล็กน้อย ในโลกของเขาเขาไม่เคยต้องเกรงกลัวอะไร
“ก่อนนี้แก๊งเทพมารบอกมาอีกว่า เพราะหน้าที่ของคุณ ทำให้แก๊งเทพมารสูญเสียหนักมาก ดังนั้นพวกเขาเลยจะแถลงข่าวให้แน่ชัด…”
“แถลงข่าว? แถลงอะไร?” สีหน้าหล่อเหลาของจิงเปลี่ยนทันที เขามีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“แถลงข่าวว่าเรื่องเว็บมืดครั้งนี้เป็นงานของคุณ พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับราชาหลง นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณกับราชาหลง ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา พวกเขาจะไม่แทรกแซง…”
“บังอาจ!”
“เพี๊ยะ!”
ปากกาในมือจิง…หักออกเป็นสองท่อนทันทีในวินาทีที่จิงโกรธ!
“ใจเย็นครับบอส!”
ลูกน้องคนนั้นเห็นจิงโกรธ ก็ตกใจ รีบคุกเข่าลง
“ดีนี่แก๊งเทพมาร..”
สีหน้าหล่อเหลาของจิงโดนความเย็นเยือกเข้ามาทาบทับ เขาจ้องมองไปที่ไกลเขม็ง เหมือนกำลังจ้องไปทางทิศของแก๊งเทพมาร และพูดอย่างเย็นชาทีละคำว่า “แก๊งเทพมาร แกรู้ผลลัพธ์ของการขัดใจฉันไหมเนี่ย? !”
ชิ้ง! บรรยากาศดูเงียบฉี่ ต่อให้หู้ที่ไม่กลัวจิงเลยสักนิด ตอนนี้ยังเลือกเงียบนิ่งเลย!
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านในอากาศ! หัวใจลูกน้องแทบตกไปอยู่ตาตุ่ม! จิง เทพของเยี่ยนจิงนี่ท่าจะโกรธสายฟ้าฟาดละ! เขาคิดได้ถึงภาพจิงโกรธแล้วเป็นยังไงได้เลย! นั่นเป็นอะไรที่เปรียบเสมอฟ้า! ขอแค่เขาเอ่ยมาคำเดียว ฟ้าสะท้านดินสะเทือนได้เลยทีเดียว!
ที่ลูกน้องคนนั้นคิดไม่ถึงคือ แก๊งเทพมารกลับ…กลับกล้าไม่เห็นจิงอยู่ในสายตา? ไม่กลัวฟ้าสูงแผ่นดินต่ำซะจริง? ! มดเล็กๆตัวหนึ่งก็กล้ามาทำกร่างต่อหน้าช้างตัวมหึมาเนี่ยนะ??
“แค่แก๊งเทพมารแก๊งเดียว เดิมก็แค่อยากยืมมือเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะอ่อนขนาดนี้ ช่างมัน แก๊งแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเหลือไว้อีกแล้วล่ะ..” น้ำเสียงของจิงเย็นชามาก เหมือนน้ำค้างเดือนสิบสอง วินาทีนี้แววตาเขาเต็มไปด้วยความอยากฆ่า! แก๊งเทพมารเยี่ยนจิง เดิมเขาไม่คิดทำลาย แต่ในเมื่อแก๊งเทพมารอยากตาย ก็โทษเขาไม่ได้แล้ว
สีหน้าจิงเปลี่ยนแปรไม่หยุด เขาในตอนนี้สีหน้าแย่มาก! เขาโกรธมาก! เขาเป็นผู้นำเยี่ยนจิง เขาคือจิง!
แต่ตอนนี้กลับโดนคนหักหลัง ประหนึ่งโดนตบหน้าฉาดใหญ่ในเมืองของตัวเอง! นี่มันหยามกันชัดๆ! เขาต้องแก้แค้นแน่!
“ไปจัดการแก๊งเทพมารให้หายไปซะ! ถ้าปล่อยข่าวในเว็บมืดออกไป งั้นหน้าตาของฉันคงโดนเหยียบเรี่ยราดไปทั่วเยี่ยนจิงหรือทั่วทั้งหัวเซี่ยแน่!” จิงตะคอกลั่น
นึกได้ทันทีว่า ถ้าจิงโดนแก๊งเทพมารแถลงข่าวในเว็บมืดออกไป อำนาจทั้งหมดรวมถึงคนและทั่วทั้งเยี่ยนจิงก็ต้องรู้กันหมดว่า จิงยอมวางฐานะและเกียรติของตนลง ใช้วิธีการต่ำช้าแบบนี้เพื่อลอบฆ่าคนๆหนึ่ง! ชื่อเสียงเขาจะหายวับไปในพริบตา ต่อไปเขาจะพบหน้าใครได้ยังไง? !
ไม่เพียงแค่นี้ ที่จิงกังวลที่สุดคือ ถ้าเรื่องนี้หลุดรอด…ไปเข้าหูพวกนั้นเข้า คงกลายเป็นอันตรายอันยิ่งใหญ่ของตนเป็นแน่!
เขาจะไม่ยอมให้อันตรายแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด!
จิงลุกลงมาจากเตียง เดินไปที่หน้าต่าง เขายืนจ้องมองด้านนอกอยู่นาน ก่อนจะหันกลับมา “ถ้าหัวหน้าแก๊งไม่เชื่อคำ ก็ไม่ต้องการเขาอีกต่อไป เอาคนอื่นมาทำตำแหน่งนี้แทน มีคนมากมายยอมฟังคำฉัน”
“ครับ” ลูกน้องรับคำเร็วมาก เขาเข้าใจความหมายของจิงทันที…จิง นี่คือจะใช้อำนาจหน้าที่ตัวเองบังคับแย่งเอาตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมา และยกคนอื่นขึ้นเป็นแทน!
ลูกน้องตกใจมาก เขาได้เจอสภาพจิงกลายเป็นคนโหดร้าย ไม่เลือกวิธีการใดๆเลยน้อยมาก เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า มีแต่ตอนที่จิงเจอสถานการณ์อันตรายยากลำบาก เขาถึงจะทำแบบนี้
เขาทำใหจิงเสียแผนและความใจเย็นทั้งหมดไป
…..
กลางดึก รถซานตาน่าสีแดงเข้มที่สภาพร่อแร่รุ่งริ่งคันหนึ่งค่อยขับมาหยุดที่หน้าสนามบิน
จากนั้นประตูรถเปิดออก เผยให้เห็นร่างหนึ่งใส่หมวกปากเป็ดที่ดึงต่ำลง รีบวิ่งเข้าไปในสนามบิน
คนๆนี้วิ่งหลบกล้องวงจรปิดและการเดินตรวจตราของยามได้อย่างคล่องแคล่วง่ายดาย จนเข้าไปในเครื่องบินส่วนตัวอย่างสบายๆ
“ทำไมพึ่งมาล่ะ?”หลังจากเห็นซูเหลย หลีชิงเยียนถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก และเอ่ยถาม
“คุณไม่จำเป็นต้องเหนื่อยกับการหลบหลีกคนพวกนั้นให้เหนื่อยเปล่าเลย เธอเป็นแขกวีไอพีของที่นี่ พวกเราปลอดภัยมาก” เฉินเป่ยเบ้ปาก อธิบายออกมา
ซูเหลยสีหน้าเจื่อน หลีชิงเยียนแค่นเสียงหึ หันมามองเฉินเป่ยอย่างไม่พอใจ สบถเบาๆว่า “นายหุบปากเลยนะ”
เฉินเป่ยได้แต่หุบปากอย่างว่าง่าย
“ประธานหลี นี่สัมภาระของคุณค่ะ ฉันจัดการกลบร่องรอยของพวกเราหมดแล้ว” ซูเหลยรายงาน
“ร่องรอย?” หลีชิงเยียนอึ้ง เธอมึนงงไม่รู้ว่าซูเหลยพูดถึงอะไร
“ก็คือร่องรอยที่พวกเราสร้างขึ้น ตำรวจจะไม่มีทางสืบสาวราวเรื่องมาถึงพวกเราจากร่องรอยพวกนั้นได้” เฉินเป่ยอธิบาย
ในตอนที่ทั้งหมดกำลังคุยกัน ด้านนอกสนามบิน จู่ๆก็มีรถMaybachสำดำแล่นเข้ามา ท่าทางอหังการ์มาก วิ่งเข้าสนามบินอย่างไม่แคร์ใคร ผ่านรถสปอร์ตที่ค่อนข้างแข็งแรง วิ่งชนรั้วกันเข้ามาดื้อๆ
“ใครน่ะ จอดเดี๋ยวนี้!” ยามจำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่รถMaybachสำดำด้วยสายตาหวาดระแวง!
“บรื้น!” รถMaybachสีดำที่หยุดแล้ว ทันใดนั้นไฟพุ่งที่หน้ารถก็เปิดโพล่งขึ้น จากนั้นเสียงแตรรถแสบแก้วหูดังสนั่นราวกับสัตว์ป่าคำราม รถMaybachสตาร์ทรถพุ่งเข้าใส่ยามพวกนั้น!
“โครมโครมโครม!”
เสียงชนกระแทกดังขึ้นติดๆกัน ยามพวกนั้นหลบไม่ทัน โดนMaybachสีดำพุ่งชนลอยกระเด็นราวกับว่าวที่เชือกขาด แต่ละคนลอยกระเด็นไปหลายสิบเมตรเลยทีเดียว!
ยามหนึ่งในนั้นกระอักเลือดออกมา เขาพยายามลุกขึ้น แต่สองขาของเขากลับโดนรั้วเหล็กที่ล้มอยู่แล้วกระแทกจนหัก
ยามอีกคนข้างเขายิ่งหนัก โดนรั้วเหล็กชนทะลุท้องเลือดสาด ดูน่ากลัวนัก!
“ขับต่อไป”
ที่นั่งด้านหลังของMaybach ร่างหนึ่งใส่แว่นดำพูดด้วยสีหน้าเย็นชา คล้ายกับว่าชีวิตคนพวกนี้ในสายตาเขามีค่าเท่ากับมดก็ไม่ปาน
“แปร๊นแปร๊นแปร๊น…”
เสียงแตรของMaybachดังขึ้นอีกครั้ง รถได้ขับเคลื่อนพาดผ่านร่างที่นอนแบบกับพื้น ทันใดนั้นเลือดสดไหลสาดล้อรถ ฉากนี้ดูแล้วน่ากลัวมาก เหมือนนรกที่มีชีวิตเลย!