สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 589
บทที่589 นั้นก็มาสู้
ได้ยินคำพูดนี้ของซูเหลย ใบหน้าหลีชิงเยียนงงงวยอีกครั้ง…เธอตอบว่า“อ่อ”เบาๆ จากนั้นใส่รองเท้าแตะขึ้นด้านบนไป…
ด้านนอกคฤหาสน์ กลิ่นคาวเลือดนั้นทอดยาวไร้ขอบเขต ในอากาศยามค่ำเสียงร้องโอดครวญ…นักฆ่าอิ่นซากลุ่มนั้นจู่โจมมาที่คฤหาสน์ไม่ขาดสาย ทว่ากลับโดนขวางกั้นไว้ที่ด้านนอกตาข่ายใยแมงมุมที่น่าสะพรึงกลัวนั้นทั้งหมด
นักฆ่ากลุ่มอิ่นซากลุ่มนี้สั่นสะเทือนตกใจ เหล่านักฆ่าทั้งหมดถลึงดวงตาโต ตาทั้งสองแดงก่ำ
ในชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยเสียเปรียบมากขนาดนี้ บนพื้นมีร่างที่บาดเจ็บของพวกพ้องนับไม่ถ้วนนอนอยู่…กลุ่มอิ่นซาขนาดใหญ่เต็มๆ กลุ่มหนึ่ง…เวลานี้เหลือเพียงส่วนน้อย…มีครึ่งหนึ่งล้มลงนอนแล้ว ถูกตาข่ายป้องกันที่น่ากลัวนั้นโจมตีจนเจ็บหนัก
“ไอ้โง่! สารเลว! นี่สรุปว่ามันของผีบ้าอะไรกัน?” นักฆ่ากลุ่มอิ่นซาสูญเสียการควบคุมตะโกนออกมาด้วยความโมโหสุดขีด พวกเขาลนลานหวาดวิตกถึงที่สุด พวกเขาอยู่มากันครึ่งชีวิตแล้ว ยังไม่เคยเจอการตั้งรับที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน นี่แม่งเป็นคฤหาสน์ที่ไหนกัน? เดิมทีแม่งก็คือฐานทัพกองทหารแบบลับๆ ชัดๆ
ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลหลีออกไปสามกิโลเมตร รถยนต์เลกซัสคันนั้นจอดอยู่ในความมืดที่เงียบงันอย่างนิ่งๆ
เวลานี้ยามาโมโตะเคนเริ่มเร่าร้อนไปทั่วตัว ฤทธิ์ยาของไวอากร้าเริ่มค่อยๆ อุ่นเครื่องขึ้น ริมฝีปากเขาแห้งผาก หัวใจของเขายิ่งเต้นรุนแรง ผู้หญิงหัวเซี่ย…โดยเฉพาะเป็นสาวงามแบบหลีชิงเยียนนั้น นั่นคือหญิงงามที่หายากบนโลกนี้เลยทีเดียว บวกกันกับยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศไวอากร้าคุณภาพที่ทำเป็นกรณีพิเศษ คืนนี้…จะต้องย่ำยีอย่างแรง จัดการหลีชิงเยียนที่อยู่ใต้ร่างกายให้หนักหน่วง ทำให้เธอรู้ถึงจุดจบที่ผิดใจตนเองเข้า ทำให้เธอรู้จักจุดจบที่ล่วงเกินแก๊งยามาโมโตะ
“ทำไมพวกอิ่นซาถึงยังไม่มีข่าวมาอีก?” ยามาโมโตะเคนร่างกายเร่าร้อน พูดอย่างรำคาญอยู่บ้าง เขารอคอยต่อไม่ไหวเท่าไรแล้ว เวลานี้เขาปรารถนาผู้หญิงเหลือเกิน ปรารถนาให้กลุ่มอิ่นซาจับหลีชิงเยียนนังชั้นต่ำคนนั้นเข้ามา จากนั้น…เขาอยากจะย่ำยีอย่างหนักสักรอบ…อยู่ในรถ
ที่นั่งเบาะหน้าของรถเลกซัส คนขับรถสอบถามกับไมโครโฟน “กลุ่มอิ่นซา ภารกิจสำเร็จไปถึงขั้นไหนแล้ว? จับตัวเป้าหมายได้สำเร็จหรือยัง?”
“ช่วย…ช่วยด้วย! พวกเขา…คฤหาสน์พวกเขามีอุปกรณ์กองทัพเทคโนโลยีขั้นสูง…พวกเราไม่มีทางจู่โจมเลย!!” ในอินเตอร์คอม เสียงที่ตกใจหวาดกลัวของกลุ่มอิ่นซาลอยออกมา แม้กระทั่งได้ยินเสียงร้องโหยหวนที่น่าเวทนาในที่เกิดเหตุด้วย
“อ๊าก——!” ทันใดนั้นสมาชิกกลุ่มอิ่นซาคนนั้นร้องโหยหวนขึ้นทีหนึ่ง ตามมาด้วยในไมโครโฟนมีเสียงกระแสไฟลอยมา…ก่อนที่สายจะตัดไป
ยามาโมโตะเคนสีหน้าย่นขึ้นทันใด ลูกตาหดตัวรุนแรง กลุ่มอิ่นซา? ภารกิจล้มเหลว? นี่เป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นไปไม่ได้! อิ่นซาคือทีมรบจู่โจมลับของแก๊งยามาโมโตะ ในความมืดพวกเขาไม่เคยพ่ายแพ้ ชนะได้ทุกงาน แล้วจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?
ในตอนนี้ตัวแทนแก๊งยามาโมโตะคนนี้กุมหมัดแน่น ระเบิดข้อต่อเสียงดัง“กึก”ออกมา เผยให้เห็นถึงความโกรธแค้นในเวลานี้ของยามาโมโตะเคน เขามาที่หัวเซี่ย ได้รับความพ่ายแพ้ไม่ขาดสาย นี่ทำให้เขาไม่สามารถยอมรับได้
“อิ่นซากลุ่มสอง…ออกจัดการให้ฉัน! โจมตีซึ่งหน้า ฆ่านองเลือดคฤหาสน์ตระกูลหลี!!” เสียงยามาโมโตะเคนน่าครั่นคร้ามดุร้ายขั้นสุด ในแววตามีความคิดอยากฆ่าไร้ขอบเขตแวบผ่าน
หลังจากสั่งการเรื่องนี้ออกไป ในความมืดมีแรงสังหารปกคลุมไร้ขีดจำกัด
ในความมืดมิด ห่างจากคฤหาสน์ตระกูลหลีไปหนึ่งกิโลเมตร…นินจาอีกกลุ่มหนึ่งที่หลบซ่อนตัวอยู่เริ่มเคลื่อนไหวทันที นี่คืออิ่นซากลุ่มสอง
กลุ่มอิ่นซาแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก…จู่โจมลอบสังหาร กลุ่มที่สอง…สังหารโหดร้ายทารุณ
ถ้าบอกว่ากลุ่มแรกคือยาพิษที่เงียบเชียบไร้เสียง อย่างนั้นกลุ่มที่สอง…คงเป็นระเบิดที่น่ากลัวสั่นสะท้าน
จุดที่น่ากลัวอย่างแท้จริงของอิ่นซาก็อยู่ที่จุดนี้ และวันนี้ กลุ่มอิ่นซาที่ยามาโมโตะเคนพามานั้น เป็นเพียงเสี้ยวเดียวของภูเขาน้ำแข็ง แต่กลับเพียงพอที่จะสังหารโหดทั้งหู้ไห่ได้ พอจะสังหารนองเลือดทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเลยทีเดียว
ภาพเงาดำนับไม่ถ้วนวิ่งจู่โจมด้วยความรวดเร็วในฉากยามค่ำคืน จากนั้นพุ่งไปทางคฤหาสน์ตระกูลหลี เสียงลมฉับไวแต่ละระลอกดังซู่ซ่า อิ่นซากลุ่มสองนั้น เดิมทีพวกเขาไม่ต้องหลบซ่อน ขอเพียงต้องสังหารหมู่ ย่อมสังหารหมู่ได้อย่างไม่มีจุดสิ้นสุด
ในคฤหาสน์ตระกูลหลี คนในครอบครัวต่างอารมณ์ซับซ้อน หลีชิงเยียนนั่งนิ่งอยู่ในห้องหนังสือ ผ้าม่านถูกเธอลากปิดไว้…เธอทนดูภาพคาวเลือดฉากนั้นไม่ไหว…ถึงแม้จะรู้ว่าระบบป้องกันของคฤหาสน์แข็งแกร่งมาก แต่เธอยังคงอารมณ์ยุ่งเหยิงอยู่บ้าง
หลีชิงเยียนอยู่ในห้องแบบจิตใจไม่สงบ…โดยเฉพาะด้านนอกมีการโจมตีโหดเหี้ยมมาไม่ขาดสาย พวกเขาจะสบายใจได้อย่างไรกัน?
ในห้องโถงคฤหาสน์ ซูเหลยยังคงอิงอยู่บนโซฟา ดูโทรทัศน์อย่างไม่สนใจ
เสียงร้องโหยหวนในความมืดยามค่ำด้านนอกประสานกันไม่หยุด…แต่เธอกลับทำเหมือนคนไม่เป็นอะไรเลย
ขณะเดียวกัน ในห้องวงจรปิดของคฤหาสน์
หัวหน้าบอดี้การ์ดกำลังจ้องหน้าจอวงจรปิดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ภาพทั้งหมดโดยรอบคฤหาสน์ล้วนปรากฏอยู่บนหน้าจออย่างคมชัด
“หัวหน้า! มีนักฆ่าชุดหนึ่งโผล่ออกมาอีกแล้ว!!” ลูกน้องพูดด้วยสีหน้าประหม่า
เห็นเพียงในหน้าจอนั้น ปลายทางบนถนนยามค่ำคืนที่เงียบงันนั้น…ทันใดนั้นนินจานักฆ่าชุดดำที่บุกเข้าโจมตีก็โผล่ออกมาอีกชุดหนึ่ง! ราวกับวิญญาณที่น่ากลัว พุ่งมายังคฤหาสน์ด้วยความฉับไว
หัวหน้าบอดี้การ์ดสีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง จ้องนักฆ่านินจากลุ่มนั้นในภาพวงจรปิดไม่กะพริบ เขาพบว่า…นักฆ่ากลุ่มนี้ไม่เหมือนกลุ่มแรกก่อนหน้านี้ กลุ่มแรกหลบซ่อนอยู่ในความมืด เงียบงันไร้เสียง แต่กลุ่มนี้กลับไม่มีความหมายที่จะซ่อนตัวใดๆ โผล่หัวออกมาใต้กล้องวงจรปิดโดยตรง วิ่งว่องไวมาทันที…แรงอาฆาตน่ากลัวน่าตกใจ
“เริ่มโจมตีแสงอินฟราเรด! สกัดกั้นพวกเขาไว้ข้างนอก!”
คฤหาสน์ตระกูลหลี อาวุธแสงอินฟราเรดหลายเครื่องค่อยๆ เริ่มเพิ่มความร้อนล่วงหน้า ปากกระบอกอาวุธทั้งหมดเล็งเป้าไปยังนินจาที่วิ่งเข้ามาอย่างฉับไวในความมืดกลุ่มนั้น
ในห้องโถงคฤหาสน์ ซูเหลยหันหน้าเบาๆ มองด้านนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง…ในฉากยามค่ำที่ไร้ขอบเขตนั้น เจตนาอยากฆ่ากำลังก่อตัวขึ้น
ซูเหลยครุ่นคิดครู่หนึ่ง ลุกขึ้นกะทันหัน ก่อนจะเดินไปด้านนอกคฤหาสน์
ในห้องวงจรปิด แสงเลเซอร์อินฟราเรดทั้งหมดเริ่มเพิ่มความร้อนล่วงหน้าไว้เรียบร้อย คืนนี้ถูกกำหนดให้เป็นการสังหารเหี้ยมโหดฉากหนึ่ง
ทันใดนั้น สายตาหัวหน้าบอดี้การ์ดแข็งทื่อ
เห็นเพียงในหน้าจอวงจรปิด ภาพคนรูปทรงสวยงามกำลังค่อยๆ เดินไปยังด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลหลี…
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? นี่ไม่ใช่บอดี้การ์ดของประธานหลีเหรอ? เธอออกไปได้ยังไง?” หัวหน้าบอดี้การ์ดสีหน้าตกใจยกใหญ่ ด้านนอกมีการสังหารรอบด้าน และเวลานี้เพื่อนของคุณหลีท่านนี้กลับเดินไปนอกคฤหาสน์กะทันหัน นี่ช่างอันตรายเกินไปแล้ว
“เร็ว รีบขวางเธอไว้!” หัวหน้าบอดี้การ์ดสั่งการฉับไว
หน้าประตูใหญ่คฤหาสน์ ซูเหลยเดินไปยังด้านนอกด้วยฝีเท้าผ่อนคลาย บนหน้ายังมีรอยยิ้มที่มีเลศนัย
“คุณผู้หญิง! ที่นี่อันตราย รีบกลับไปเร็วครับ!” บอดี้การ์ดหลายคนสีหน้าเปลี่ยนไป รีบอยากเข้าไปขวางซูเหลย
“มีนักฆ่ากลุ่มใหญ่มาจู่โจม กลับไปเร็วครับ!” เหล่าบอดี้การ์ดตื่นตกใจลนลาน อยากห้ามซูเหลยเอาไว้
แต่ซูเหลยส่ายหน้าแล้ว ทักษะดุจวิญญาณ ชั่วพริบตาเดียวอ้อมผ่านการสกัดกั้นของพวกเขาไปแล้ว…ภาพเงาของเธอปรากฏอยู่นอกหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ในท้องฟ้ายามค่ำ มีเสียงของเธอลอยมา “พวกนายถอยไปเถอะ…นินจากลุ่มนั้น ให้ฉันจัดการเอง”
พอพวกบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งในคฤหาสน์ได้ยิน สีหน้าตกตะลึงกันหมด ทุกคนล้วนไม่ตอบสนองเข้ามาอยู่บ้าง
ในห้องวงจรปิด หัวหน้าบอดี้การ์ดสีหน้าเคร่งขรึม จ้องฉากนี้ไม่ขยับ
“หัวหน้า…เธอบอกว่าให้พวกเราถอยไปให้หมดครับ…” ลูกน้องพูดจาแบบประหม่างงงวยอยู่ด้านข้าง
หัวหน้าบอดี้การ์ดสายตาเคร่งขรึมไร้ที่เปรียบ เวลานี้เขาประหม่ามากเช่นกัน ท่านนี้คือเพื่อนของประธานหลี…จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอไม่ได้ แต่เวลานี้…เธอกลับปรากฏตัวอยู่ด้านนอกอย่างไม่สนใจการห้ามปราม? ยังน่าปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่บ้าง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่รนหาที่ตายเองหรอกหรือ?
“บังคับเธอเข้ามา! จะต้องคุ้มกันความปลอดภัยของเธอ!” หัวหน้าบอดี้การ์ดออกคำสั่งจริงจัง
“ครับ!”เหล่าลูกน้องรับคำสั่ง
หน้าประตูคฤหาสน์ เหล่าบอดี้การ์ดหลายคนสีหน้าประหม่า พุ่งออกมาอยากจะบังคับพาซูเหลยเข้าไปในคฤหาสน์…
ในขณะเดียวกัน…ในความมืดด้านหน้า เสียงคำรามบ้าคลั่งดังขึ้นมากะทันหัน ปลายทางความมืด นักฆ่านินจาชุดดำนับไม่ถ้วนราวกับวิญญาณพุ่งโจมตีมาด้วยความรวดเร็ว
หน้าประตูคฤหาสน์เหล่าบอดี้การ์ดกลุ่มนั้นชั่วขณะนั้นอึ้งค้างแล้ว พวกเขามองภาพวืดที่เปลี่ยนไปกะทันหันด้วยความมึนงง…ภาพเงาผู้หญิงคนนั้นหายตัวไปตรงหน้า…ทุกคนต่างตอบสนองไม่ทัน
ในห้องวงจรปิด หัวหน้าบอดี้การ์ดกับเหล่าลูกน้องกลุ่มนั้นสายตาแข็งกันหมด ความคิดที่ไม่ดีอย่างหนึ่งผุดขึ้นมา ซวยแล้ว นินจามาโจมตี แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับพุ่งเข้าไปฉับพลัน เกรงว่าผู้หญิงคนนั้น…มีแนวโน้มจะเกิดเรื่องไม่ดี
“เตรียมแสงอินฟราเรดให้พร้อม! คุ้มกันความปลอดภัยของเธอเต็มกำลัง!!” หัวหน้าบอดี้การ์ดตัดสินใจสั่งการทันที
ในคฤหาสน์ แสงอินฟราเรดนับไม่ถ้วนเตรียมพร้อมโจมตีทุกเมื่อ
ในความมืด นินจาอิ่นซากลุ่มสองพุ่งโจมตีรวดเร็ว
“ชิ้งๆๆ——!” ดาบนักรบที่ที่เย็นเฉียบน่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วนชักออกจากฝักในชั่วขณะนั้น ในฉากยามค่ำคืนประกายแรงอาฆาตแค้นที่น่ากลัว อุณหภูมิอากาศลดลงเฉียบพลัน
เหล่านักฆ่านินจาทั้งหมดสีหน้าน่าครั่นคร้ามหนาวเหน็บ ดุจนักฆ่านรก พวกเขาเป็นอิ่นซากลุ่มสอง พวกเขาเป็นนักฆ่านินจาที่เหี้ยมโหดทารุณที่สุด
ชั่วขณะนั้น ภาพเงาที่แข็งแรงทรงพลังปรากฏตัวในท้องฟ้ายามค่ำด้านหน้ากะทันหัน สกัดกั้นทางของพวกเขาไว้แล้ว
นักฆ่านินจาลูกตาหดตัวเฉียบพลัน แรงอาฆาตดุร้ายปรากฏขึ้น ก่อนจะฟันลงมา!
“ชิ้งๆ——!” ดาบนักรบกรีดแหวกที่ว่างกลางอากาศ คำรามเบาๆ เข้ามา ไวดุจฟ้าแลบ
ทันใดนั้นภาพเงาคนตรงหน้าหายไปทันใด หายตัวจากที่เดิมถึงที่สุด
“ความเร็วของพวกนายไม่เร็วพอ” บนท้องฟ้ายามค่ำที่มืดมิด มีเสียงหนึ่งลอยมากะทันหัน
นินจาทั้งหมดเงยหน้าขึ้นอย่างหวั่นวิตก
เห็นเพียงบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ภาพเงาอ่อนช้อยงดงามของคนคนหนึ่งกำลังหมุนวนช้าๆ จากนั้นร่วงลงด้วยความเฉื่อยตามแรงโน้มถ่วง
“ฟัน!” นินจาสีหน้าโมโห ดาบนักรบน่าสะพรึงกลัวกวัดแกว่งไปกลางท้องฟ้ายามค่ำโดยตรง
ซูเหลยหมุนวนเบาๆ กลางอากาศ ยกมือขึ้นเบาๆ ที่กลางอากาศ
“ซู่ๆๆๆ——!” ชั่วขณะนั้นขว้างมีดออกมา มีดถูกพลังที่ยิ่งใหญ่โยนออกมา แหวกที่ว่างกลางอากาศยามค่ำ กลายเป็นอาวุธสังหารที่น่ากลัวไร้ขอบเขต
เหล่านินจากลุ่มนั้นลูกตาหดตัวฉับพลัน เดิมทีไม่ทันตอบสนองเข้ามา
“ฟึ่บๆๆ——!” ชั่วขณะนั้นมีแสงมีดกรีดข้อมือของนินจากลุ่มนั้น บุกไปทางไหนก็ราบไปหมด
ชั่วขณะนั้นบนข้อมือของเหล่านินจากลุ่มนั้นถูกตัดจนเกิดบาดแผลที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เลือดสดพุ่งกระจายออกตามบาดแผลโดยตรง ดาบนักรบในมือร่วงลงพื้นทั้งหมด
ในห้องวงจรปิด หัวหน้าบอดี้การ์ดเบิกดวงตาโต จ้องฉากนี้ตาเขม็ง
เหล่าบอดี้การ์ดกลุ่มนี้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงจนแข็งเป็นหินทั้งหมด นี่คือ…สถานการณ์อะไร?
“หัวหน้า…การโจมตีแสงอินฟราเรด…ยังเปิดอยู่อีกหรือเปล่า?” ลูกน้องคนหนึ่งถามด้วยความมึนงงเซ่อซ่า…เขาตกใจฉากนี้จนอึ้งค้างโดยสมบูรณ์แบบแล้ว…สูญเสียความคิดเห็นถึงที่สุด…นี่…สรุปต้องโจมตี…หรือไม่โจมตีกันแน่?
หัวหน้าบอดี้การ์ดดวงตาเคร่งขรึม บนหน้ามีความตื่นตระหนก “หยุดไว้…ชั่วคราว”
แสงอินฟราเรดพวกนั้นปล่อยออกค้างไว้ครึ่งหนึ่งแบบนี้ ไม่ได้เริ่มดำเนินการ
ในคฤหาสน์ พวกบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งมองภาพที่น่าสะพรึงกลัวขั้นสุดที่ด้านนอกอย่างอกสั่นขวัญแขวน…จิตใจของทุกคนล้วนกลายเป็นหิน ผู้หญิงคนนี้…เป็นมนุษย์จริงเหรอ?
ร่างกายของซูเหลยค่อยๆ หมุนวนก่อนจะร่วงลงดุจวิญญาณภูตผี~
นินจาประเทศญี่ปุ่นกลุ่มนั้นดุร้ายแค้นเคืองเป็นพิเศษ ดาบนักรบฟาดฟันเข้ามาด้วยจิตสังหารดุเดือด ในความมืดมีแสงเย็นเฉียบปะทุขึ้น
ซูเหลยเม้มปากเบาๆ มีดในมือพุ่งออกไปเฉียบไวทันที
“ชิ้ง!” พลังของมีดที่พอฟัดพอเหวี่ยง ชั่วขณะนั้นปะทะเข้ากันกับดาบนักรบที่ฟาดฟันเข้ามา
ข้อมือนักฆ่าชาวญี่ปุ่นคนนั้นสั่นรุนแรง ดาบนักรบที่น่ากลัวและเย็นเฉียบเล่มนั้นแตกร้าวในชั่วพริบตา ถูกคมของมีดโจมตีจนแตกร้าวอย่างจัง…สยองขวัญจนถึงตอนนี้
“ไอ้โง่สารเลว! ที่หล่อนใช้งานเป็นอาวุธลับอะไรกันแน่?” นินจาคนหนึ่งสีหน้าดุร้ายอย่างยิ่ง พูดอย่างเดือดดาล
นินจาชุดดำอีกคนก็หน้าตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
“ไอ้โง่!! ฟัน!” เหล่านินจากลุ่มนั้นโมโหเดือดดาลน่าหวั่นเกรงถึงที่สุด
ภาพเงาดำนับไม่ถ้วนวาร์ปหายกลางอากาศ ดาบนักรบที่หนาวเย็นนั้นฟันแทงเข้ามายังซูเหลย นี่คือสภาพที่ต้องตาย
เส้นรัศมีวงกลมที่มุมปากของซูเหลยลึกขึ้น ผ่านสงครามที่ยากลำบากมาแล้ว เธอมีความมั่นใจต่อความสามารถของตนเองเต็มเปี่ยม
“ซู่ๆๆ!” ชั่วขณะนั้นมีดแหวกทะลุกลางอากาศ มีพลังที่น่ากลัวสั่นสะเทือน
พวกนินจากลุ่มนั้นสีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน
“ไอ้ไง่!” นินจาคนหนึ่งเพิ่งตะโกนด่าออกมา แวบเดียว…
นินจาคนนั้นก็สั่นไปทั้งตัว ในปากพ่นเลือดสดออกมา
“ไปตายซะ นังปีศาจ!!” นินจาชุดดำคนหนึ่งกวัดแกว่งดาบนักรบ ร่างกายยังไม่ทันเข้าใกล้ แสงที่เย็นเฉียบเส้นหนึ่งก็แวบผ่าน เขาโซเซล้มลงที่พื้นทันที ก่อนที่เลือดกำเดาจะไหลทะลัก
“นังปีศาจ! ไปตายซะ!” พวกนินจาโกรธเป็นพิเศษและน่ากลัวมาก แสงมีดนับไม่ถ้วนแวววับขึ้น ฟาดฟันยุ่งเหยิงในท้องฟ้าค่ำคืน คมมีดที่เฉียบแหลมนั้นถูกต้านทานไว้ได้
ในห้องวงจรปิด พวกบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งแข็งทื่อเป็นหินอยู่ตรงนั้น
“เมื่อกี้…ที่เธอใช้คืออาวุธลับอะไร?” บอดี้การ์ดคนหนึ่งถามด้วยความงุนงง
“ไม่รู้…ไม่เคยเห็นอาวุธลับที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน…ช่างไวเหลือเกิน มองไม่ชัดเลย?” บอดี้การ์ดอีกคนตอบกลับแบบสั่นไหว…
ด้านนอกคฤหาสน์…เลือดสดน่าสะพรึงกลัว ในอากาศมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่ล่องลอยอยู่ สมาชิกอิ่นซากลุ่มสองพ่ายแพ้ทั้งหมด พวกนักฆ่าประเทศญี่ปุ่นกลุ่มนั้นเจ็บไปทั้งตัว ดาบนักรบถูกโจมตีหักไปหลายเล่ม ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน นี่คือการต่อสู้ที่พวกเขาอิ่นซากลุ่มสองได้รับความอัปยศอดสูที่สุดในประวัติศาสตร์
“สารเลว!” พวกนักฆ่ากลุ่มนั้นสีหน้าดุร้าย มีความไม่พอใจและแค้นเคืองขั้นสุด พวกเขาเป็นอิ่นซากลุ่มสอง พวกเขาคือนินจาที่สังหารเหี้ยมโหดทารุณ พวกเขาจะแพ้ได้อย่างไร?
“ฟัน!” นินจานับไม่ถ้วนแกว่งดาบขึ้นอีกครั้ง ใช้ทักษะพุ่งจู่โจมในความมืด “นังปีศาจ! มาสู้กันซึ่งหน้าสักยกเถอะ!!” พวกนินจาใช้ภาษาญี่ปุ่นที่ฟังไม่ชัดตะคอกบอก
ดวงตาซูเหลยกะพริบเบาๆ “ได้สิ ในเมื่อพวกนายอยากสู้ งั้นก็สู้สิ”
ซูเหลยยิ้มนิดหน่อย ราวกับดอกกุหลาบที่น่าดึงดูดขั้นเอาชีวิต
ชั่วพริบตาเดียว มีดที่บางดุจปีกจักจั่นเล่มหนึ่งค่อยๆ ปรากฏอยู่ในมือเธอ
ชั่วขณะนั้นดวงตาซูเหลยแข็งทื่อขึ้นทันใด มีดเล่มนั้นในมือกวัดแกว่งเบาๆ มีดดุจกระดาษที่ขาวสะอาดแผ่นหนึ่ง สะท้อนแสงจันทร์ที่สุกสกาวในท้องฟ้ายามค่ำจนเป็นแสงเทาเงินออกมา งดงามดุจภาพวาด
ลูกตาของนักฆ่านินจากลุ่มนั้นหดลงเฉียบพลัน บนหน้าดุร้ายไร้ที่เปรียบ ฟาดฟันมายังซูเหลยโดยตรง ภาพเงาดำโจมตีฉับไว จิตสังหารเหลือล้น
ในท้องฟ้ายามค่ำคืน ปลายนิ้วของซูเหลยขยับนิดหน่อย มีดประกายแสงจันทร์ประสานกันในท้องฟ้ายามค่ำกลายเป็นสีสันที่งดงามแบบเดียวกัน…หลังจากนั้นมีดได้ระเบิดแรงอาฆาตขึ้นทันใด ชั่วขณะนั้นกลิ่นคาวเลือดที่สยดสยองน่ากลัวปกคลุมเต็มไปหมด
“ฉึก——!”มีดแหวกทะลุท้องฟ้ายามค่ำฉับไว ร่างกายซูเหลยวาร์ปตาม แทบจะกลายเป็นภาพวืดที่น่ากลัวในท้องฟ้ายามค่ำคืน
“เฮือกๆๆ——!” เลือดสดไม่ถ้วนสาดกระจาย
มีดปล่อยแสงจันทร์ที่สุกกาวออกมา วาร์ปหายในท้องฟ้ายามค่ำในชั่วพริบตาเดียว ทุกที่ที่ผ่านไปนั้น มีกลิ่นคาวสีแดงเต็มอากาศ
พวกนินจาชุดดำร้องโอดครวญโศกเศร้าอาดูร ขอเพียงตรงที่โดนมีดสัมผัส…บาดแผลที่แดงสดจะเผยกลิ่นคาวออกมาทันที เจ็บปวดราวกับโดนมดกัด ตามมาด้วยความเจ็บปวดที่เพิ่มรุนแรงขึ้น ลึกเข้าในกระดูก นี่ไม่เพียงเป็นแผลภายนอกธรรมดาเท่านั้น…แม้แต่กระดูกยังโดนตัดแล้ว สยดสยองถึงขั้นนี้
นักฆ่านินจาที่เก่งกาจของประเทศญี่ปุ่นกลุ่มนี้…เวลานี้กลับกลายเป็นเป้าโจมตีที่น่าเวทนา…อยู่ต่อหน้ามีดเล่มนั้น เดิมทีแม้แต่โอกาสต่อต้านยังไม่มี
นินจาคนหนึ่งยกดาบนักรบขึ้นสองมือ ฟันลงมาจากกลางอากาศแบบสยองขวัญ พยายามสังหารซูเหลย แต่มีดเล่มนั้นกรีดผ่านเบาๆ…ตัดดาบนักรบในมือของนินจาหักเป็นสองท่อนในชั่วขณะนั้นราวกับตัดโคลน
ในห้องวงจรปิดของคฤหาสน์ ลูกตาของหัวหน้าบอดี้การ์ดถลึงโต จ้องฉากนี้ในหน้าจอวงจรปิดไม่กะพริบ…ทั้งตัวเขาสั่นตะลึงไปหมด สายตาจ้องภาพในคลิปวิดีโอแน่นิ่ง…อาวุธที่ปล่อยแสงสีเงินอ่อนๆ ออกมานั้น…นั่น…คืออาวุธที่น่ากลัวอะไรกัน?
พวกบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งแข็งค้างเป็นหินอยู่ที่เดิมเช่นกัน ในตาของแต่ละคนมีความตื่นตระหนก
ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลหลีสามกิโลเมตร ในความมืดมิดนั้น รถยนต์เลกซัสจอดอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
ยามาโมโตะสีหน้าเปลี่ยนไปแดงก่ำขั้นสุด เวลานี้ฤทธิ์ยาไวอากร้าสำแดงประสิทธิภาพโดยสมบูรณ์แบบแล้ว เขาปรารถนาผู้หญิงที่สุด กำลังรุ่มร้อนไปทั้งตัว ท่อนล่างขยายตัวรุนแรง
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอิ่นซากลุ่มสองถึงยังทำภารกิจไม่สำเร็จ?” เสียงของยามาโมโตะเคนรีบร้อนสุดจะทน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ในขณะนี้เขาต้องการผู้หญิงอย่างเร่งด่วน
ในเวลานี้เอง อินเตอร์คอมที่เงียบงันก็มีเสียงร้องคำรามที่น่าสังเวชลอยออกมากะทันหัน
“เคนซามะ!! ฝ่ายตรงข้ามมียอดฝีมือ!! เหล่าพวกพ้องบาดเจ็บสาหัส ภารกิจ…ล้มเหลว!!