สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 59
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 59 หลีชิงเยียนเนื้อเข้าปากเสือ
ผ่านไปไม่นาน เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในต่างแดน แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา กองกำลังในประเทศมหาอำนาจมากมายทางตะวันตกได้รับข่าวสารนี้ จนทำให้ตกใจสะพรึงกลัวกันหมด!
กองกำลังหลายฝ่ายในต่างแดน หายตัวไปในหลายประเทศ!
พวกเขาไม่ใช่กองกำลังเล็กๆ แต่ไม่กี่นาทีก่อนหน้า มีขีปนาวุธปรากฏขึ้นมาจำนวนมาก เพื่อโจมตีแต่ละประเทศ ทำให้กองกำลังพวกนั้น ดับสลายไปทันที!
เกาะเล็กๆมากมาย ถูกขีปนาวุธโจมตีจนพังทลาย!
เมื่อข่าวสั่นสะเทือนวงการแพร่สะพัดออกไป…หลายคนต่างพากันคาดเดาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้…
มีพลังอำนาจมากมายขนาดนี้ อยู่ต่างแดน ช่างน้อยเหลือเกิน!
ไม่เพียงเท่านั้น ประเทศมหาอำนาจมากมายในต่างแดน ล้วนแล้วแต่ได้รับคำเตือนกันหมด…ห้ามคิดทำอะไรกับหัวเซี่ย ถ้าคิดจะทำอะไร… ผู้มีอำนาจพวกนั้นจะหายไปในค่ำคืนนี้!
ไม่มีใครรู้ว่า มีประธานาธิบดีจำนวนมากมายเท่าไหร่ที่กำลังนั่งทำงานอยู่บนเก้าอี้ ต้องขาอ่อนตัวสั่น เหงื่อออกท่วมตัว…ยิ่งไม่รู้เลยว่า ใครเป็นผู้ออกคำสั่งนี้กันแน่
ตอนนี้ หลายคนกลับเชื่อว่าราชาหลงถอนตัวแล้ว…ถ้าราชาหลงไม่หายตัวไป จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่นอน… ราชาหลงหายตัวไปจริงๆ!
เหล่ากองทัพทหารแอบพากันดีใจ…การมีตัวตนของราชาหลง….บีบคั้นพวกเขามานานแสนนานแล้ว! ตอนนี้ราชาหลงไม่อยู่ ในที่สุดพวกเขาจะได้เป็นใหญ่ในต่างแดนแล้ว!
เพียงแต่ ถ้ากองทัพต่างประเทศรู้เรื่องนี้ งั้นท่านเทพต่างแดน ที่ตอนนี้ยอมเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ในสายตาคนอื่น ไม่รู้ว่าจะสีแดงออกมาเช่นไร….
พวกเขาต้องกระอักเลือด คงเข้าใจถึงความรู้สึกในการเป็นคนไร้ค่า หรือว่าไม่อยากเป็นราชาหลงแล้ว?
ในเมื่อยอมไปเป็นลูกเขยที่ไร้ซึ่งฐานะยศศักดิ์ ได้รับฟังแต่คำพูดดูถูกเหยียดหยามในทุกวัน ไม่มีใครเข้าใจว่าเฉินเป่ยทนชีวิตแบบนี้ได้อย่างไร รวมถึงชิงเหนียนอีกด้วย
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูเหลยลืมตาขึ้นมา กำลังคิดจะลุกขึ้น ทันใดนั้น หล่อนก็ปวดท้องราวกับจะฉีกขาด ถึงขั้นต้องสูดหายใจเข้าลึก จนตื่นขึ้นมาทันที
“อย่าขยับ แผลของเธอถูกเย็บไว้อยู่ อย่าให้ขาดล่ะ” เสียงอันเรียบนิ่งอ่อนโยนดังขึ้น ซูเหลยหันหลังไปเห็นหลีชิงเยียนและซูเสี่ยวหยุน อีกทั้งหน้าของคนที่ตัวเองเกลียดมาก กำลังนั่งจดจ้องมองหล่อน
“เธอตื่นแล้วเหรอ?” หลีชิงเยียนถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนหวาน
“ประธานหลี ฉันปกป้องคุณได้ไม่ดี เป็นเพราะฉันบกพร่องในหน้าที่” ประโยคแรกที่ซูเหลยพูดขึ้น กลับเป็นคำขอโทษหลีชิงเยียน
ใบหน้าของหล่อนในตอนนี้ รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
หลีชิงเยียนเป็นเพียงประธานหญิงคนเดียวในเมืองหู้ไห่เพียงแค่คนคนหนึ่ง…ตัวเองก็ไม่สามารถปกป้องได้
น่าเสียดายที่หล่อนเคยเป็นถึงรองแม่ทัพกองทัพพิเศษ ผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน หล่อนยังเคยได้รับรางวัลเกียรติยศ แต่ตอนนี้กลับเหมือนโดนตบหน้าอย่างจัง
“เธอบาดเจ็บแล้ว เธอทำเต็มสุดความสามารถแล้ว” หลีชิงเยียนพูดปลอบหล่อน เมื่อคืนหล่อนดื่มเยอะมาก สติเลือนลาง จนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ใครเป็นคนเย็บบาดแผลให้ฉัน?” ซูเหลยก้มหน้าลง มองตามแนวเสื้อที่เปิดออกเห็นรอยเย็บแผล รู้สึกตกตะลึงทันที
จากนั้น ซูเหลยทำท่าทีจริงจังขึ้นมา บาดแผลของหล่อนถูกรักษาจากผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ทำแผลได้ดีอย่างไร้ที่ติ แม้ว่าซูเหลยเอง ยังทำไม่ได้ดีขนาดนี้
“เขาเป็นคนเย็บแผล” หลีชิงเยียนหันไปมองเฉินเป่ย
“นาย?” ซูเหลยมองเฉินเป่ยด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ หล่อนไม่อยากเชื่อเลยว่า คนหลอกลวงผู้นี้ จะมีฝีมือด้านการแพทย์มากขนาดนี้?
เป็นไปได้อย่างไร เขาปฐมพยาบาลเบื้องต้น…ปฐมพยาบาลเบื้องต้น….มีเพียงเจ้าหน้าที่พิเศษและหน่วยทหารกองรบพิเศษของหัวเซี่ยเท่านั้น ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ!
ซูเหลยสบตามองเฉินเป่ย พยายามค้นหาอะไรบางอย่างจากสายตาของเขา…แต่สายตาของเฉินเป่ยกลับเรียบนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ซูเหลยเหม่อมองอยู่สักพักใหญ่ แต่ก็มองอะไรไม่ออก
“เมื่อคืนฉันดื่มหนักจนเมา เธอก็บาดเจ็บจนสลบไป เมื่อเขามาถึงโรงแรม จึงรีบพาพวกเรากลับบ้าน” หลีชิงเยียนเหลือบมอง เฉินเป่ย พูดขึ้น “นี่เป็นคำพูดของเขา”
“นายพิสูจน์ได้ยังไงว่าสิ่งที่พูดมาคือความจริง?” ”ซูเหลยจ้องมองเฉินเป่ย พูดขึ้นช้าๆ
“ประธานหลี ตอนนั้นผมอยู่ที่บ้าน โทรหาคุณ แต่คุณไม่รับสาย ผมเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณ จึงรีบตามมาดูที่โรงแรม แต่เมื่อเข้ามา เห็นศพนอนเกลื่อนมากมายในโรงแรม ผมวิ่งหาอยู่นานมาก จึงพบคุณทั้งสอง” เฉินเป่ยทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ด้วยท่าทีเสียใจ ไม่เหมือนเป็นการเสแสร้ง
เฉินเป่ยเพิ่งพูดจบ เสียงมือถือของหลีชิงเยียนก็ดังขึ้นมา
หลังจากหลีชิงเยียนวางสาย หล่อนมองไปที่เฉินเป่ยอย่างจดจ้อง พูดขึ้น “เมื่อครู่หลินเฉว่โทรมา หล่อนเห็นข่าวในทีวีรายงานว่า เมื่อคืนมีกลุ่มโจรลึกลับ บุกฆ่าคนภายในโรงแรม นอกจากแขกในห้องVIP ก็ไม่มีใครมีชีวิตรอดเลยสักคน”
“ไม่ใช่ พวกเขาไม่ใช่โจรธรรมดา” ทันใดนั้น ซูเหลยพูดขึ้น
“ไม่ใช่โจร แล้วพวกเขาคือใคร?” หลีชิงเยียนหันไปมองซูเหลยด้วยสายตาแปลกประหลาด
“ฉันไม่ทราบ แต่โจรธรรมดาทั่วไปไม่มีทางมีฝีมือดีมากขนาดนี้” ซูเหลยพูดพึมพำ ขมวดคิ้วขึ้น “เมื่อก่อนฉันเคยจับโจรมามากมาย แต่กลุ่มคนเมื่อคืนกลับไม่เหมือนกัน พวกเขาเป็นพวกที่ได้รับการฝึกฝนมาก่อน ท่าทางเก่งกาจ ทั้งยังสามารถควบคุมฝีเท้าได้ ถ้าฉันไม่ได้กลิ่นคาวเลือดก่อน คงหาพวกเขาไม่เจอ”
ซูเหลยวิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้น “คนมากฝีมือขนาดนี้ เกรงว่ามีน้อยมาก”
หลีชิงเยียนหน้าซีด หล่อนรู้ดีว่าฝีมือการต่อสู้ของซูเหลย เหนือชั้นกว่าคนธรรมดาทั่วไป แต่ขนาดคนยังหล่อนยังเกือบเอาชีวิตจากเมื่อคืนไม่รอด….ตัวเอง ถูกใครจดจ้องอยู่กันแน่?
“ประธานหลี คนที่มีอำนาจพอที่จะให้คนยอดฝีมือขนาดนี้มาได้…ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน” ซูเหลยสีหน้าเคร่งเครียด
“หลีเช่าเทียน” ในที่สุด หลีชิงเยียนพูดชื่อหนค่งออกมา หล่อนตัวสั่นเทา สายตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเยือกเย็น
ในที่สุดประธานหญิงสาวเพียงผู้เดียวของเมืองเมืองหู้ไห่ โมโหขึ้น จดอดทนต่อไปไม่ไหว
“คือคุณชายหลี?” ซูเสี่ยวหยุนถามขึ้น
หลีชิงเยียนใบหน้าซีดเซียว พยักหน้าลง “คนทั้งโลกต่างเรียกเขาว่าคุณชายหลี แต่ชื่อที่แท้จริงของเขา กลับมีไม่กี่คนที่รู้…เพราะไม่มีใครกล้า”
“ต้องเป็นเขาแน่นอน ที่จะมีอำนาจมากขนาดนี้…” หลีชิงเยียนสีหน้าสัครุ่นคิด “ฉันแคยคิดว่าตระกูลหลีต้องใช้กลอุบายและวิธีต่างๆ กดดันหล่อน…แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะกล้าฆ่าตัวเองเช่นนี้…”
“ที่มากไปกว่านั้นก็คือ เพื่อที่จะทำลายหลักฐานทั้งหมด เขาฆ่าคนทั้งโรงแรมจนกลายเป็นดินแดนนองเลือด! ไร้ซึ่งมนุษยธรรม!” หลีชิงเยียนตัวสั่น สายตาแสดงถึงความโกรธโมโห
เรื่องนี้ ทำให้หลีชิงเยียนโมโหมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
“เขาจะจัดงานหมั้นกับคุณไม่ใช่เหรอ? เขากล้าทำแบบนี้ได้ลงคอ?” เฉินเป่ยถาม
“ไม่” หลีชิงเยียนส่ายหน้า “เขาเพียงแค่อยากได้ท่าเรือกับสนามบินของฉัน…เพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่เขาอยากได้ เขาสามารถใช้วิธีสกปรก อีกย่างฉันแต่งงานแล้ว คงทำให้เขาขายหน้ามากพอแล้วล่ะ”
ทันใดนั้น หลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้น สายตามุ่งมั่นจริงจัง ราวกับกำลังตัดสินใจบางอย่างได้!
“พวกคนตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิง ที่ถูกหลีเช่าเทียนเชิญมา จะถึงเมืองหู้ไห่วันนี้ และคืนนี้มีงานเลี้ยงของตระกูลหลี ฉันจะไปร่วมงาน และต้องหยุดเขาให้ได้”
หลีชิงเยียนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จนทำให้ซูเหลยและซูเสี่ยวหยุนตกตะลึงไป
“ประธานหลี คิดให้ดีก่อนนะคะ ตอนนี้หลีเช่าเทียนอันตรายมาก คุณไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลหลี เกรงว่าจะอันตรายเกินไป” ซูเหลยพูดโน้มน้าว
“ใช่ เสี่ยวเยียน เธอเพิ่งจะมีชีวิตรอดมาราวปาฎิหาริย์ หากคืนนี้จะไปอีก คงอันตรายมากจริงๆ นี่เท่ากับว่าเนื้อเข้าปากเสือเลยสิ?” ซูเสี่ยวหยุนสองมือกอดอกแน่น พลางขมวดคิ้วด้วยความเคร่งเครียด
หลีชิงเยียนส่ายหน้า “ฉันต้องเผชิญหน้ากับเขาสักวันอยู่แล้ว…ถ้าตอนนี้ฉันไม่ไป ต่อไปไม่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องอะไรบ้าคลั่งขึ้นมาอีก”
เฉินเป่ยที่นั่งอยู่ในซอกหลืบด้านข้าง ไม่พูดอะไร มองไปที่หลีชิงเยียนด้วยท่าทีเด็ดขาด ยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย
…
ตอนเย็น ที่จอดรถใต้ดินที่ตึกตระกูลหลี
สาวสวยคนหนึ่ง พร้อมรองเท้าส้นสูง เดินตรงไปที่รถMaybachที่จอดอยู่ไม่ไกล
ทันใดนั้น หล่อนเดินช้าลง เพราะ มีผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่หน้ารถ ยิ้มให้หล่อน
ใบหน้าอันสวยงามของหลีชิงเยียนทำท่าทีสงสัย ถามขึ้น “นายมาได้ยังไง?”
“ไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนคุณไงล่ะ” เฉินเป่ยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
หลีชิงเยียนประหลาดใจ จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น “เรื่องนี้ฉันไปคนเดียวได้ นายจะไปทำอะไร?”
“ตอนนี้ผมเป็นสามีคุณอย่างถูกกฎหมาย คุณไปร่วมงานเลี้ยงตระกูลหลี แน่นอนว่าผมต้องไปกับคุณด้วย ไม่เช่นนั้น ถ้าพวกเขาถามถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมา จะทำอย่างไรล่ะ?” เฉินเป่ยพูดอธิบาย
หลีชิงเยียนเลิกคิ้วขึ้น “ที่ไหนมีนายอยู่ ที่นั่นมีแต่เรื่อง หลีเช่าเทียนอยากให้ฉันตาย นายก็อยากไปตายกับฉัน?”
“ประธานหลี ไม่ว่าผมจะตายหรือมีชีวิตอยู่ สิ่งไหนที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ผมยอมทำทุกอย่าง เพื่อคุณได้ทั้งหมด” เฉินเป่ยหัวเราะ
หลีชิงเยียนหัวเราะตาม หล่อนจะเชื่อคำพูดไร้สาระของเขาได้อย่างไรกัน ตอนที่หลีชิงเยียนถูกลอบฆ่า พ่อหนุ่มคนนี้หนีสุดชีวิต รีบวิ่งออกไปเร็วกว่ากระต่ายด้วยซ้ำไป หล่อนเปิดใจยอมรับทุกอย่างแล้ว และไม่จำเป็นต้องไล่เขาออกจากบ้านของตัวเองอีกแล้ว
หลังจากหลีชิงเยียนเข้าไปนั่งในรถ เฉินเป่ยไม่กล้าชักช้า จึงรีบเข้าไปในรถทันที
…
เมืองเมืองหู้ไห่ คฤหาสน์ในหมู่บ้านคนรวย
หลีเช่าเทียนนั่งอยู่บนโซฟาหนังอันหรูหรา พลางจิบชา ท่าทางสบายใจเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา หยุดอยู่ตรงหน้าหลีเช่าเทียน
“คุณชายหลี แย่แล้วครับ…ดูเหมือนว่า…หลี ชิงเยียนจะมาร่วมงานเลี้ยงด้วย” ลูกน้องพูดขึ้นด้วยความลังเล
คุณชายหลีกำมืออันสั่นคลอน สายตานิ่งเรียบ เยือกเย็น
“หล่อนจะมา? ดีสิ เนื้อเข้าปากเสือ…งั้นฉันก็สบายแล้ว!” คุณชายหลีค่อยๆพูดขึ้น แก้วชาอันสวยงามใบนั้น ถูกบีบจนแตก!
รอยแตกราวใยแมงมุม ร้าวไปทั่วทั้งแก้ว!!
ความอาฆาตแค้นอย่างเลือดเย็น แผ่ซ่านไปทั่ว