สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 611
บทที่ 611 บ้านตระกูลจาง
เฉินเป่ยถอนหายใจยาว “ก็ได้ คุณอย่าพึ่งลนลานไป งั้นผมไปล่ะ…ราตรีสวัสดิ์”
ระหว่างพูด เฉินเป่ยหมุนตัวเดินออกไปอย่างจำยอม…
….
วันต่อมา เฉินเป่ยยังคงตื่นเป็นปกติทุกวัน โดนอุดอู้อยู่ในห้องพักรับรองตั้งหลายวัน…จู่ๆก็กลับมาอยู่ห้องนอนท็อปสุดหรูแบบนี้ ทำให้เฉินเป่ยอดรู้สึกขัดเขินไม่ได้
หลังจากออกกำลังกายตอนเช้าและอาบน้ำเสร็จ…เฉินเป่ยกลับมาคฤหาสน์บ้านหลี
หลีหยางดึงเฉินเป่ยเข้ามาร่วมทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างร่าเริง…
และในเวลานี้ หลีชิงเยียนประธานสาวกำลังอยู่ในชุดนอน นั่งทานอาหารเช้าตาปรืออยู่ที่โต๊ะอาหาร
เฉินเป่ยรีบปราดมานั่งข้างหลีชิงเยียน เกาะชิดติดเธออย่างสนิทสนม ทั้งคู่นั่งติดกัน ขาเฉินเป่ยแทบจะเกยขึ้นไปบนร่างหลีชิงเยียนอยู่แล้ว สรุปคือนั่งกินข้าวเช้าอย่างสนิทสนมแบบนี้แหละ
แต่หลีชิงเยียนกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอไม่อยากสนใจเฉินเป่ยสักนิด เธอรีบกินแล้วก็ลุกไปเลย…
เฉินเป่ยมองตามแผ่นหลังรีบร้อนของสาวเจ้า…เขารู้สึกเหมือนน้ำลายจะไหล…เกรดท็อปเลยนะเนี่ย..ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ลิ้มรสน้า…
ตอนนี้เอง ข่าวเช้าในจอโทรทัศน์จู่ๆก็ประกาศรายงานข่าวใหม่ล่าสุด…!
“เมื่อคืน ตามการยืนยันข่าวของประชาชนที่เกี่ยวข้อง…ใกล้เขตชุมชนแห่งหนึ่งในเมืองหู้ไห่…ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องสองครั้ง…สงสัยว่าจะเกิดเหตุระเบิดของวัตถุขนาดใหญ่ประเภทเครื่องบิน…แต่เท่าที่พบหลักฐานในที่เกิดเหตุตามคำบอกเล่าของนักข่าวเรา…พื้นที่เกิดเหตุราบเรียบ..ส่วนเหตุการณ์อัพเดท…หน่วยงามที่เกี่ยวข้องจะทำการสืบต่อไป…”
ซื้ด! พอเห็นข่าวนี้..สายตาเฉินเป่ยขมวดแน่นทันที!
เขารีบหันไปมอง จ้องภาพข่าวบนหน้าจอทีวีเขม็ง!
…
ในเวลาเดียวกัน เมืองหู้ไห่ บ้านตระกูลจาง
หวางอู๋ตี๋นั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร และทานอาหารเช้ากับจางจ้านนิ่งๆ อาหารเช้าบ้านตระกูลจางอุดมสมบูรณ์ผิดปกติ หวางอู๋ตี๋เป็นแขก แขกวีไอพีของบ้านตระกูลจาง ดังนั้น จางจ้านเลยต้อนรับด้วยมารยาทระดับท็อปสุด
หวางอู๋ตี๋สีหน้านิ่งสงบ รับรู้รสชาติอาหารเช้าอันอุดมสมบูรณ์ สำหรับเขาแล้ว อาหารพวกนี้ก็ธรรมดา ไม่ได้ทำให้เขาสนใจอะไร
แต่ว่า…ข่าวเช้าที่ประกาศหน้าจอทีวีแห่งหนึ่งของเมืองหู้ไห่ กลับดึงความสนใจเขาได้อย่างแท้จริง แถมยังเปลี่ยนเป็นตกตะลึงในชั่วพริบตาด้วย! !
วินาทีที่มองเห็นข่าว “การระเบิดในเขตชุมชนเมืองหู้ไห่”ที่ออกอากาศทางทีวี…สีหน้าหวางอู๋ตี๋เปลี่ยนจากตกตะลึงเป็นโกรธจัด! !
“ปั้ง! “คุณชายตระกูลหวางแห่งเยี่ยนจิงโกรธจัด ตบโต๊ะดัง! ทำเอาโต๊ะสะเทือนไปเลย! จางจ้านตกใจสะดุ้ง..สีหน้าลุกรี้ลุกลน “คุณชายหวาง…ทำไมหรอ? เกิดอะไรขึ้น? !”
หวางอู๋ตี๋โกรธจนสีหน้าซีดเผือด เขาชี้ไปที่ข่าวในหน้าจอทีวีเขม็ง “รีบ.. รีบไปหาวิธีหยุดการกระจายข่าวนี้เดี๋ยวนี้! ทำอย่างนี้ได้ยังไงกัน! ! ใครอนุญาติให้พวกเขารายงานแบบนี้! !”
จางจ้านอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะได้สติกลับมา เขารีบโทรศัพท์ทันที…
ไม่นาน ข่าวที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ก็หยุดชะงักไปดื้อๆ…และมีโฆษณาหนึ่งเข้ามาแทนที่…
…
ในคฤหาสน์ตระกูลหลี เฉินเป่ยจ้องข่าวที่โดนแทรกกะทันหันนั่นเขม็ง..แววสงสัยในแววตายิ่งหนักขึ้น! วินาทีนี้เขากำหมัดทั้งสองแน่น เหมือนกำลังจะระเบิดความโกรธ!
ภูเขาต่างซานนั่น เป็นที่ที่เขาฝังศพเล่ยิงไว้! และการที่เครื่องบินลำนั้นระเบิด…มีความเป็นไปได้แค่อย่างเดียว! มีคน…มาขโมยศพเล่ยิง! ทำลายศพและหลักฐาน! เพราะเขาปรับเปลี่ยนระบบการระเบิดตัวเองในศพเล่ยิงไปหลายอย่าง เพื่อป้องกันอำนาจบางแห่งมาลักพาศพ…แต่ไม่คิดเลยว่า..พวกเขาจะมาจนได้…พวกเขาไม่ยอมเว้นแม้แต่ศพคนตายด้วยซ้ำ!
วินาทีนี้ เฉินเป่ยระงับความโกรธไว้ไม่ได้แล้ว…ต่อให้เล่ยิงผิดยังไง…แต่เขาก็เสียเลือดเสียเนื้อเพื่อหัวเซี่ย เขาเสียสละให้! ต่อให้หลังจากที่เขารับคำสั่งบ้านหวาง แล้วจะสูญเสียเกียรติในวันวานไป..แต่หลังจาก…เขาตาย..ไม่ควรโดนรบกวนอีก! เขาควรมีสิทธิ์หลับอย่างเป็นสุข!
แต่คนพวกนี้…กลับไม่ยอมละเว้นแม้แต่ศพคนตาย! นี่มัน…บ้าชัดๆ!
“ทำไมหรอ?” ตอนนี้ซูเหลยเดินเข้ามา เห็นสีหน้าเฉินเป่ยไม่สู้ดีนัก เลยอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
เฉินเป่ยสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามระงับความโกรธในใจ และกลับสู่ความสงบในพริบตา
“ไม่มีอะไร” เขาดูปกติจนผิดปกติ เหมือนไม่มีอะไร แต่แววตานิ่งสงบนั่นกลับทอประกายคมปลาบขึ้นวูบหนึ่ง!
สิบนาทีผ่านไป ประธานสาวก้าวลงบันไดมาหลังจากเปลี่ยนชุดเรียบร้อย
เฉินเป่ยตามติดร่างเธอกับซูเหลย เข้าไปนั่งในรถ ซูเหลยขับรถMaybachไปจนถึงอาคารตระกูลหลี…
หลีชิงเยียนและซูเหลยลงจากรถ
หลีชิงเยียนในรองเท้าส้นสูงเดินเข้าตึกอย่างสง่า…แต่ในเวลาเดียวกันเธอกลับเดินแช่มช้า…ราวกับกำลังรอให้ใครเดินตามมา…แต่รออยู่นาน ผู้ชายคนนั้นกลับหายตัวไปไม่เหลือแม้แต่เงา…ไปไหนเนี่ย??
หลีชิงเยียนหันไปมองอย่างสงสัย…เธอเห็นแค่รถMaybachเลี้ยวออกไป…เหลือเพียงท้ายรถลิบๆ
พอเห็นฉากนี้ เธออดใจกระตุกวูบไม่ได้…เขาไปทำอะไรน่ะ?
เหอะ…หมอนี่จะทำอะไรเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? ประธานสาวเดินกระแทกรองเท้าส้นสูงเข้าลิฟท์อย่างไม่สบอารมณ์…
….
Maybachวิ่งไปด้วยความเร็วสูง สุดท้ายก็หยุดลง
เฉินเป่ยก้าวลงจากรถ พลางหยิบบุหรี่ออกมาสูบ
เขายืนสองมือล้วงกระเป๋า ปากคาบบุหรี่ไว้ ท่าทางดูกร่างเป็นอันธพาล ก้าวเข้าโรงพักช้าๆ
ในโรงพัก เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น ดูยุ่งกันมาก พอเห็นเฉินเป่ยเข้าโรงพักมา…เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนพากันตะลึง! !
ทุกคนพากันหันไปมอง เบิกตากว้าง มองเขาเขม็ง! !
วินาทีนี้ เฉินเป่ยกลายเป็นบุคคลอันตรายอันควรจับตามองของโรงพักหู้ไห่ไปแล้ว! ชื่อนี้สร้างกระแสมากมายขึ้นในที่นี้! เมื่อวานทุกโรงพักในหู้ไห่ต่างพากันรู้เรื่องหมด!
“เฉินเป่ย… ! แกมาทำอะไรน่ะ? ! อยากโดนจับขังอีกหรือไง? !” เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนตะคอกเสียงดังด้วยสีหน้าเย็นชามาก!
เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมาทีหนึ่ง พูดอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “อย่าตื่นเต้นไป ทุกคน…ฉันแค่มาเอาของๆฉันคืน…”
เจ้าหน้าที่ทุกคนสีหน้าสงสัย ตะคอกอย่างเย็นชา “บังอาจ!”
พอได้ยินคำนี้ เฉินเป่ยหรี่ตามองทันที
“หลายวันก่อน นาฬิกาข้อมือของฉัน แล้วก็มีดสั้น…พวกนายยึดไปเองนะ พวกนายคิดจะไม่คืน?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสีหน้าเย็นชาสุดๆ ตะคอกกลับว่า “กล้าพกอาวุธโดยพลการ แกยังอยากได้คืนอีกหรือไง? ! รีบไสหัวไปเลย!”
เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมาอีกที เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย “พูดแบบนี้..พวกแกคิดจะฮุบไปเองล่ะสิ?”
“บังอาจ! แกจะไปไม่ไป?” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งส่งซิก ทุกคนล้อมกรอบกันเข้ามา ล้อมเฉินเป่ยเป็นรูปสามเหลี่ยม บรรยากาศดูตึงเครียดมาก
เฉินเป่ยปรายตามองหนึ่งรอบ “อยากลงมือ…ฉันแค่มาเอาของๆฉันคืนเท่านั้นเอง…ไม่จำเป็นต้องลงไม้ลงมือหรอกมั้ง?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสีหน้าขมึงทึง หลายคนในนั้นดึงกระบองออกมารอแล้ว!
เฉินเป่ยส่ายหน้าเบาๆ มองหยันพลางว่า “ทำไมต้องบังคับฉันด้วยน้า…”
พูดจบ…บุหรี่ครึ่งมวนในมือเขาบินออกไปทันที!
“พรืด!” บุหรี่พุ่งแรงเร็วราวลูกกระสุน พุ่งเข้าหน้าเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง…เจ้าหน้าที่คนนั้นรู้สึกแค่หน้าผากโดนกระแทกอย่างแรง..ร่างสะท้านถอยเสียหลักไป…ก่อนล้มคะมำลงพื้น!
“บังอาจ!” เจ้าหน้าที่ทั้งหมดรุมสะกำกรูเข้ามาทันที! ลงมือเอาดื้อๆเลย!
ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกฝนหลักสูตรพิเศษมาแล้วทั้งนั้น ต่างมีฝีมือพอตัวเลย! พวกเขารุมเข้ามา ต่อให้ไม่ตาย ก็คางเหลืองล่ะ! !
บรรยากาศบนโรงพักวุ่นวายขึ้นมาทันที! รังสีอำมหิตคุกรุ่น!
เฉินเป่ยหรี่ตามอง ก่อนยกเท้าขึ้นถีบ!
“ปึ้ง!” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งโดนถีบกระเด็นไปหลายเมตร!
“บังอาจ! กล้าหืออีกหรอ? !” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งร้องด้วยความโกรธ สองมือกำหมัดแน่น!
เฉินเป่ยไม่แยแสเขาสักนิด ยกหมัดชกออกไปเลย! อหังการ์จริงๆ!
“ปึ้ง–!” หมัดเจ้าหน้าที่คนนั้นยังไม่ทันได้ใช้…ก็โดนเฉินเป่ยชกกระเด็นออกไป เลือดสดไหลริน
“แม่ง! จัดการมันซะ! !” ทั้งหมดโกรธหน้าดำหน้าแดง รุมสกรัมกันเข้ามา จะจัดการเฉินเป่ยให้หมอบ!
เฉินเป่ยโดนคนเจ็ดแปดคนจับไว้แน่น ประหนึ่งคนร้ายโทษหนักโดยคุมตัวไว้!
เขาหรี่ตามอง ทันใดนั้นระเบิดพลังออกมา!
“ปึ้งปึ้งปึ้ง–!” เจ้าหน้าที่ทั้งเจ็ดแปดคนต่างโดนพลังน่ากลัวกระแทกจนลอยกระเด็น! ไปชนกำแพง ระเนระนาดกันไปหมด!
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด…ยังคุมตัวคนๆเดียวไม่ได้… !
ทั่วทั้งโรงพัก สภาพวุ่นวายมาก! เจ้าหน้าที่ผู้หญิงพากันตะลึง..เหงื่อแตกซิก…
เฉินเป่ยจุดบุหรี่อีกมวน ก่อนเดินข้ามร่างเจ็บปวดครวญครางของพวกเจ้าหน้าที่ เข้าไปในโรงพักต่อ
ในนั้นมีประตูกระจกกันกระสุนอยู่บานหนึ่ง ต้องมีลายนิ้วมือของเจ้าหน้าที่มาปลดล็อค ถึงจะเข้าไปได้
เฉินเป่ยตอนนนี้ไม่มีนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีทางปลดล็อคระบบแบบนี้ได้อยู่แล้ว
เฉินเป่ยปากคาบบุหรี่ ยกฝ่ามือขึ้นทาบเบาๆ…ทันใดนั้น ฝ่ามือกลายเป็นหมัด! หมัดสะท้านโลกา!
“ปึ้ง–! เพล๊ง!” หมัดหนึ่งพุ่งออกไป ประตูกระจกกันกระสุนสุดหนาแข็งแกร่งนั่นโดนกระแทกแตกเป็นเสี่ยงๆ!
เฉินเป่ยก้าวข้ามเศษแก้วเข้าไปด้านใน
ทั่วทั้งโรงพัก เจ้าหน้าที่ทั้งหมดกำลังทำงานกันอยู่ในห้องทำงาน…พอได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นนี่ ทุกคนพากันตะลึง! กรูกันมา!
“เฮ้ย! แกทำอะไร? ! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ! !” เจ้าหน้าที่ล้อมเฉินเป่ยอีกครั้ง…
“ปึ้งปึ้งปึ้งปึ้ง—!” เฉินเป่ยกลายร่างเป็นเงา ทุกที่ที่เขาพาดผ่าน จะเกิดเสียงกระแทกอันน่ากลัวขึ้น…แต่ละคนโดนซัดลอยกระเด็นราวตุ๊กตา…สภาพน่าอนาถมาก… !
เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกฝนพิเศษนี่พอมาอยู่ต่อหน้าเฉินเป่ย…เหมือนกับไม่มีทางต่อสู้อะไรได้เลย!
เฉินเป่ยปากคาบบุหรี่ เปิดระบบค้นหาจากมือถือ…มือถือของเขากับนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ตั้งระบบไว้…ไม่นานก็หาตำแหน่งของนาฬิกาเจอ
เขาเดินกร่างเข้าไปในห้องเก็บรักษาหลักฐานพิเศษของโรงพักราวกับอันธพาล
“เปิดประตู” เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบกับเจ้าหน้าที่ยืนรักษาการณ์ประตูอยู่
เจ้าหน้าที่คนนั้นสีหน้าเปลี่ยนอย่างระแวงทันที!
“แกเป็นใคร? !”
เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมา “ฉันมาเอาของฉันคืน…”
เวลานี้เอง เสียงกระดิ่งเตือนภัยดังขึ้นสนั่นในโรงพัก!
“ทุกคนฟัง เห็นผู้ชายชุดสูทดำปากคาบบุหรี่ รีบคุมตัวไว้ทันที!” เสียงออกคำสั่งเข้มงวดดังออกจากลำโพง และสะท้อนไม่หยุด!
ชุดสูทดำ…สูบบุหรี่? เจ้าหน้าที่คนนั้นปราดตามองเฉินเป่ย…จากนั้นเขาสีหน้าเปลี่ยนทันที! รีบเข้ามาหาหมายจะคุมตัวไว้!
เฉินเป่ยคว้าจับคอหอยเขาไว้ด้วยมือตัว และสะบัดออกไปทันที!
“ปึ้ง!” เจ้าหน้าที่คนนั้นลอยไปกระแทกพื้น…พื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ!
เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมา และเดินเข้าไปยืนหน้าประตูเหล็กของห้องเก็บหลักฐาน มันเป็นประตูเหล็กหนักมากบานหนึ่ง ต้องใช้รหัสถึงจะปลดล็อคได้
เฉินเป่ยไม่รอช้า ยกหมัดขึ้น “โครมโครมโครม–!”
หมัดของเขาน่ากลัวราวตุ้มเหล็ก ชกประตูเหล็กเสียงสนั่นทั่วโรงพัก! !
ประตูเหล็กที่เดิมปกติไร้ริ้วรอยกลับยากจะทานน้ำหนักอันน่ากลัวนี้ได้…บิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปไปทันที…. !
เจ้าหน้าที่ที่นอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้นพอเห็นภาพนี้เข้า…ก็สีหน้าซีดเผือด…เบิกตากว้าง…
“โครม—!” กล้ามเนื้อแขนของเฉินเป่ยแข็งเกร็ง เขาปล่อยหมัดออกไป! ประตูเหล็กใหญ่บานนั้นโดนชกทะลุเป็นรูขนาดใหญ่ทันที! น่ากลัวสุดๆ!
เฉินเป่ยยกเท้าขึ้น ถีบประตูเหล็กหนักหลายสิบกิโลกระเด็น!
เขายังคงปากคาบบุหรี่ เดินเข้าไปในห้องเก็บหลักฐานอย่างเอื่อยเฉื่อย…จากนั้นก็หยิบนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์กับมีดสั้นสีดำเล่มนั้นออกมา
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทั้งหมดพากันวิ่งเข้ามา ทุกคนอาวุธครบมือ! โรงพักวันนี้โดนคนเก่งขนาดนี้บุกรุก เรียกได้ว่าขายหน้าจริงๆ! พวกเขาต้องจับกุมตัวเจ้าบ้านี่ให้ได้!
พอพวกเขาพุ่งมาถึงห้องเก็บหลักฐาน ทุกคนพากันตะลึง!
เจ้าบ้านั่นไปไหนล่ะ? เหลือแต่รูรูปคนที่โดนแรงกระแทกมหาศาลที่กำแพงเท่านั้น…
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดพากันตะลึง…รู้สึกเหงื่อแตกซิก ทุกคนหัวใจสั่นไหว นี่มัน…ภาพนี้จะอธิบายยังไง? จะเอาสังคมวิทยาแขนงไหนมาอธิบาย? เอาวิทยาศาสตร์แขนงไหนมาอธิบาย? จะเอาอะไรอธิบายกับผู้บัญชาการโล่ที่กำลังจะกลับจากประชุม? !
สิบนาทีผ่านไป รถสปอร์ตสีดำคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดที่หน้าโรงพักอย่างช้าๆ ผู้บัญชาการโล่ก้วนจองถือกระเป๋าเอกสารเข้ามาในโรงพักเรียบเชียบ…
“ใครทำ…หา! !” ทั่วทั้งโรงพัก…ต่างได้ยินเสียงร้องตะโกนด้วยความโกรธอันสะท้านฟ้าดินของโล่ก้วนจอง!
….
รถMaybachสีดำค่อยๆแล่นไปบนถนน เฉินเป่ยบังคับพวงมาลัย ก่อนโทรหาคนๆหนึ่ง
“ส่งพิกัดที่อยู่ตอนนี้ของหวางอู๋ตี๋แห่งบ้านหวางเยี่ยนจิงมาให้ฉันหน่อย…” เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ
ปลายสาย ชายหนุ่มชะงักอึ้งๆก่อนตอบ “ครับ”
พอวางสายเฉินเป่ยเสร็จ ชายหนุ่มยิ้มเศร้ากับตัวเล็กน้อย เท่าที่เขาเข้าใจ น่าจะมีใครตาไม่ดีไปลูบคมพี่ใหญ่อีกแล้ว…ไม่นาน ชายหนุ่มก็ส่งพิกัดตำแหน่งของหวางอู๋ตี๋ไปให้
พอได้เห็นที่อยู่ในมือถือ เฉินเป่ยหรี่ตามอง เขาเหยียบคันเร่ง รถMaybachพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว…
หู้ไห่ บ้านตระกูลจาง
บ้านตระกูลจางอยู่ในพื้นที่เขตครึกครื้นของเมืองหู้ไห่…เป็นคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เก็บตัวแห่งหนึ่ง ในอาณาบริเวณรอบๆคฤหาสน์บ้านตระกูลจางราวหนึ่งกิโลเมตร แทบไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อีกเลย ที่นี่เงียบสงบมาก เหมือนสวนดอกท้อที่ตัดขาดโลกภายนอก ตอนนั้นที่ต้นตระกูลบ้านจางดังสะท้านหู้ไห่ ด้วยวิธีการสะท้านคนจำนวนมาก…ถึงจะผ่านไปร้อยปีแล้ว…แต่การฆ่าฟันในตอนนั้นยังคงทำคนรุ่นหลังผวาอยู่…
ทันใดนั้น รถMaybachคันหนึ่งบีบแตรดังลั่น แล่นเข้ามาในถนนที่เงียบเหงานี้..!