สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 628
บทที่ 628 ขอโทษ
ภายในห้องอาหารเต็มไปด้วยแรงอาฆาต ลูกน้องของอู๋ตุ้งถือมีดตัดฟืนอยู่ในมือ มันเต็มไปด้วยความน่ากลัว
คนในงานตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ทุกคนหน้าซีดเผือด
“ฟันมันเลย ฟันมันให้ตาย!” อู๋ตุ้งแผดเสียงออกมาด้วยความโมโห
มีดตัดฟืนพุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ยอย่างไร้ความปรานี ต้องตายเท่านั้น
“กรี๊ดดดด” ผู้หญิงที่อยู่ในงานกรีดร้องออกมา
ซุนเจียเจียยืนอึ้งอยู่อีกด้าน หน้าของเธอซีดเผือด ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ถูก
ขณะที่มีดตัดฟืนกำลังจะฟันลงมา เฉินเป่ยง้างมือขึ้น
“ผัวะ” ร่างของใครบางคนกระเด็นออกไปชนกับกำแพงอย่างแรง จนกำแพงแตกกระจาย
ทักษะของเฉินเป่ยรวดเร็ว เขาพุ่งเข้าไปหาพวกอันธพาล
“ผัวะๆๆๆ” เสียงกึกก้องดังขึ้น ร่างแต่ละร่างกระเด็นออกไป
หลังจากผ่านไปสองวินาที ทั้งห้องก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบ
บนพื้นเต็มไปด้วยร่างของผู้บาดเจ็บ พวกลูกน้องถูกถีบกระเด็นไปบนพื้นเหมือนตุ๊กตา พวกนั้นร้องออกมาไม่หยุด
สีหน้าของอู๋ตุ้งซีดเผือด เขาจ้องภาพตรงหน้าเขม็ง
จางจื่อหลานตัวสั่นเพราะความกลัว
ผู้หญิงที่อยู่ในงานแทบจะหยุดหายใจและยืนตัวแข็งเป็นหิน
สีหน้าของเฉินเป่ยราบเรียบ เขาก้าวเข้ามาหาอู๋ตุ้ง
“วางยาเบื่อหนู จะฆ่าคน ช่างคิดดีนี่” น้ำเสียงของเฉินเป่ยราบเรียบ แต่มันเหมือนเสียงที่มาจากนรก ตอนนี้เขาโมโหแล้ว การกระทำของจางจื่อหลานกับอู๋ตุ้งทำให้ราชาหลงโกรธ
เขาหยิบมีดตัดฟืนขึ้นมาจากพื้น จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปแทงเฉินเป่ย
เฉินเป่ยง้างมือขึ้นมาตบ
“เพียะ!” อู๋ตุ้งถูกตบจนกระเด็น เลือดสาดออกมา
ขณะนั้นประตูห้องอาหารถูกถีบจนเปิดออก
โจวชางเดินอย่างโมโหเข้ามาพร้อมกับรปภ.ของโรงแรม
“บังอาจ! ใครกล้ามาก่อเรื่องในโรงแรมของฉัน!” สีหน้าของโจวชางเย็นชา เขาโมโหเป็นอย่างมาก
ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ
ทุกคนพากันหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตู
เมื่ออู๋ตุ้งเห็นชายหนุ่มที่เข้ามา ตอนแรกเขาอึ้งไป ต่อมาก็มีสีหน้าดีใจ
“เฮียชาง!” อู๋ตุ้งสีหน้าตื่นเต้น เขารีบวิ่งเข้าไปหาโจวชาง ท่าทีของเขานอบน้อมเป็นอย่างมาก
โจวชางอึ้งไป เขามองผู้ชายตรงหน้าอย่างมึนงง “นายเป็นใคร”
“เฮียชาง ผมอู๋ตุ้งไง ประธานบริษัทตระกูลหวู เมื่อสามเดือนก่อน ผมโชคดีที่ได้เจอกับคุณ จากการแนะนำของพ่อ” อู๋ตุ้งพูดอย่างตื่นเต้น
แววตาของโจวชางนิ่ง เขามองผู้ชายตรงหน้าอย่างสงสัย ชายหนุ่มลังเลอยู่นาน ในที่สุดเขาก็นึกออก
อู๋ตุ้งสีหน้าตื่นเต้น เขาพยักหน้ารัวๆ “ใช่ ผมอู๋ตุ้ง เฮียชาง คิดไม่ถึงว่าคุณจะอยู่ที่นี่ เฮียฉางช่วยจัดการแทนผมด้วย!”
สีหน้าของโจวชางนิ่งไป เขามองหน้าอู๋ตุ้งที่แดงก่ำ จึงอดถามออกมาไม่ได้ “ใครทำร้ายนายจนเป็นแบบนี้”
อู๋ตุ้งโกรธจัด เขาชี้ไปที่เฉินเป่ย “เฮียชาง ไอ้เวรนั่นครับ”
แววตาของโจวชางมองตามทางที่อู๋ตุ้งชี้ไป เขามองไปยังเฉินเป่ย
โจวชางอึ้งเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “นายเหรอ ที่ทำให้อู๋ตุ้งเป็นแบบนี้”
โรงแรมนี้เป็นของโจวชาง การที่มีคนมาก่อเรื่องวุ่นวายในโรงแรม เขาต้องจัดการอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นอู๋ตุ้งกับเขาก็เคยเจอกันครั้งหนึ่ง บริษัทตระกูลหวูทำธุรกิจไปมาหาสู่กับโรงแรมของเขา ในเมื่อเป็นลูกชายของเพื่อน เป็นธรรมดาที่โจวชางต้องจัดการ
เฉินเป่ยจุดบุหรี่ จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันขอเตือนนายว่าอย่ายุ่งเรื่องของคนอื่นให้มาก..”
พูดพลางเขาก็คาบบุหรี่เดินเข้ามาหาอู๋ตุ้ง
จู่ๆ อู๋ตุ้งก็อึ้งไป เขาถอยหลังกรูด เมื่อกี้เฉินเป่ยทำให้เขากลัวเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับเฉินเป่ย ที่พึ่งเดียวของเขาในตอนนี้คือโจวชาง
โจวชางมายืนขวางเฉินเป่ยเอาไว้ เหล่ารปภ.ของโรงแรมก็ก้าวเข้ามาล้อมเฉินเป่ยเอาไว้
“นายอยากมายุ่งเรื่องคนอื่นใช่ไหม” เฉินเป่ยพ่นควันบุหรี่ออกมาใส่หน้าโจวชางเหมือนยั่วโมโหเขา
ทันใดนั้นบรรยากาศเงียบลงทันที
คนที่แอบอยู่ข้างหลังอย่างอู๋ตุ้งมีสีหน้าโหดเหี้ยม เขาหัวเราะเยาะอยู่ในใจ วันนี้ไอ้เวรเฉินเป่ยมายั่วโมโหโจวชาง มันต้องตายอย่างแน่นอน
สีหน้าของโจวชางเย็นชามาก ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาก็หัวเราะออกมา
“นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” โจวชางถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“หา? นายเป็นใครงั้นเหรอ” เฉินเป่ยคาบบุหรี่มองหน้าเขา
“หรือฉันอ่อนข้อให้แกมากไป” โจวชางยิ้มบางๆ รอยยิ้มของเขาลุ่มลึก “พ่อของฉันคือท่านโจว”
เฉินเป่ยอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็มองเขาด้วยท่าทีเฉยชา
โจวชางยิ้มกว้างเข้าไปอีก “ท่านโจวแห่งถานกงคือพ่อของฉันเอง”
ความเงียบปกคลุมไปทั่ว
คนในงานอึ้งกันไปหมด ท่านโจวแห่งถานกงงั้นเหรอ
คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นลูกชายของท่านโจวแห่งถานกง
ถานกงคืออำนาจที่ยิ่งใหญ่ ในเมืองหู้ไห่ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
เหล่าคนที่อยู่ในงานอึ้งกันไปหมด บางคนถึงกับตัวสั่น เรื่องวันนี้จบไม่สวยแน่ๆ มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะขึ้นเรื่อยๆ ขนาดถานกงยังเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พวกเธอเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเจ้าของโรงแรมนี้จะน่ากลัวขนาดนี้
อู๋ตุ้งกับจางจื่อหลานหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้โจวชางออกหน้าแทนพวกเขาได้ มีถานกงอยู่ วันนี้เฉินเป่ยต้องตายอย่างแน่นอน
“ไอ้เลว เมื่อกี้แกเหิมเกริมมากไม่ใช่เหรอ อยู่ต่อหน้าของเฮียชาง แกมันก็แค่หมาตัวหนึ่ง วันนี้แกตายแน่!”
จางจื่อหลานสีหน้าเคียดแค้น เธอชี้หน้าด่าเฉินเป่ย
“ฉันไม่เพียงแต่จะทำให้แกตาย ฉันจะทำให้ผู้หญิงของแกตายตามไปด้วย” จางจื่อหลานไม่มีคราบของผู้หญิงที่สูงส่งอีกแล้ว เธอเหมือนป้าปากจัดที่ไร้เหตุผล
เมื่อได้ยินสิ่งที่จางจื่อหลานพูด แววตาของเฉินเป่ยนิ่งไป เขายอมให้คนอื่นโจมตีเขา แต่เขาไม่ยอมให้ใครมารังแกซุนเจียเจีย
“สวบ” เฉินเป่ยก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงง้างมือขึ้นมาตบ
“เพียะ!” จางจื่อหลานโดนตบจนตัวหมุน เลือดพุ่งออกมาจากปากของเธอ
การที่มาก่อเรื่องในถิ่นของเขา แถมยังทำร้ายคนที่เขาต้องปกป้องอีก นี่มันเป็นการไม่ไว้หน้าโจวชางชัดๆ
พวกรปภ.ที่ยืนอยู่ข้างๆ โจวชางเข้ามาล้อมเอาไว้ และเขาไปลุมเฉินเป่ย
“ผัวะๆๆๆ” ร่างลอยออกไปทีละร่าง มันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เฉินเป่ยยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนรปภ.พวกนั้นนอนกองอยู่บนพื้น กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้ง
ตอนนี้สีหน้าของโจวชางแทบจะดูไม่ได้
“บังอาจ! นายกล้าทำร้ายคนของฉันอย่างนั้นเหรอ” คุณชายถานกงโมโหขึ้นมาแล้ว อีกฝ่ายกล้าเหิมเกริมในถิ่นของเขาโดยไม่กลัวแม้แต่น้อย บังอาจมาก!
เฉินเป่ยนิ่งสงบ เขาคาบบุหรี่อยู่ในปากและเดินเข้ามาหาอู๋ตุ้ง
สีหน้าของโจวชางเต็มไปด้วยความโมโห เขาขวางเฉินเป่ยเอาไว้และมองด้วยสายตาเย็นชา
“หลีกไป” น้ำเสียงของเฉินเป่ยราบเรียบ
สีหน้าของโจวชางเฉยเมยเป็นอย่างมาก เหมือนกับราชสีห์ที่กำลังจะปลดปล่อยความโกรธออกมา เขาจ้องเฉินเป่ยเขม็ง
“ฉันปกป้องสองคนนี้” น้ำเสียงของโจวชางเฉยชา แต่มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก
คนในงานตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา คำพูดของคุณชายโจวแห่งถานกง ในเมืองหู้ไห่มีใครจะไม่ฟังบ้างล่ะ
เฉินเป่ยมองโจวชางอยู่อย่างนั้น ผ่านไปนาน เขาจึงหัวเราะออกมา เขาใช้มือกระแทกไปที่ไหล่ของโจวชางอย่างแรง
“ผลั่ก” โจวชางเหมือนถูกจู่โจมด้วยสายฟ้า เขากระเด็นไปกระแทกกับกำแพงอย่างแรง
ตอนนี้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ
ทุกคนอึ้งจนแข็งเป็นหิน
เฉินเป่ยก้าวเข้าไปหาอู๋ตุ้งด้วยสีหน้าราบเรียบ
อู๋ตุ้งสั่นไปทั้งตัว เขาพูดออกมาว่า “แกจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่หักแขนทั้งสองข้างของแกเท่านั้น” น้ำเสียงของเฉินเป่ยราบเรียบ
อู๋ตุ้งตกใจ เขากำลังจะหันหลังหนี
แต่ทว่าเฉินเป่ยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและจับเขาเหวี่ยงออกไป
“ผัวะ” อู๋ตุ้งถูกเหวี่ยงลงพื้น จนกระอักเลือดออกมา
“บังอาจ ถ้าแกกล้าทำร้ายเขา ถือว่าแกเป็นศัตรูกับถานกง!” สีหน้าของโจวชางเย็นชา เขาพูดขู่ออกมาด้วยความโมโห
เฉินเป่ยแสยะยิ้ม เขายกขาเหยียบลงไปที่แขนของอู๋ตุ้งเต็มแรง
“กรอบบ” เสียงกระดูกดังสนั่น
“อ๊ากกก” อู๋ตุ้งร้องครวญครางออกมา กระดูกแขนซ้ายของเขาหักหมดแล้ว
ความเงียบปกคลุมไปทั่วงาน
เหล่าเพื่อนที่อยู่ในงานตกใจจนหน้าซีด
“แกกล้าเป็นศัตรูกับถานกงอย่างนั้นเหรอ” โจวชางโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ตอนนี้มีคนกล้ามายั่วโมโหเขาถึงที่โรงแรมของตัวเอง!
เฉินเป่ยแสยะยิ้ม “เป็นศัตรูกับถานกงแล้วจะทำไมเหรอ” พูดจบเขาก็ยกขาเหยียบลงไปที่แขนขวาของอู๋ตุ้งเต็มแรง
“หยุดนะ!” โจวชางแผดเสียงออกมา แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“อ๊ากกกก” อู๋ตุ้งร้องครวญครางออกมาอีกครั้ง กระดูกแขนขวาของเขาแตกละเอียด
คนทั้งงานตัวสั่นงันงกเพราะภาพที่เห็นตรงหน้า ทุกคนตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ซุนเจียเจียหน้าซีด ดวงตาคู่สวยมองไปที่เฉินเป่ย ตอนนี้สมองของเธอขาวโพลนไปหมด
จางจื่อหลานตัวสั่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอหนีไปหลบอยู่หลังโจวชาง
“เฮียชาง ช่วยฉันด้วย” คุณหนูอันแสนสูงส่งตกใจสุดขีด เธอหวาดกลัวมาก
โจวชางโกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขาตวาดออกมาว่า “แจ้งพ่อของฉันด้วยว่าวันนี้ฉันจะฆ่าคน!!”
ความเงียบปกคลุมไปทั่ว
เมื่อโจวชางพูดสั่งออกมา เหมือนอากาศในงานถูกแช่แข็งเอาไว้
“ในเมื่อนายมีปัญญา กล้าอยู่ต่อไหมล่ะ” น้ำเสียงของโจวชางเต็มไปด้วยความโมโห วันนี้ชายคนนี้มาเหิมเกริมในถิ่นของเขาโดยไม่มีความเกรงกลัว เหมือนเป็นการตบหน้าเขาและถานกงชัดๆ
เรื่องวันนี้จบไม่สวยแน่นอน
เฉินเป่ยยังคงสงบนิ่ง เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร “ทำไมจะไม่กล้า นายรีบเรียกคนมาเถอะ”
พูดจบ เขาก็รินไวน์ให้ตัวเองและจิบไวน์ ทานอาหารอย่างสบายใจ เขานิ่งมาก
บรรยากาศในงานเงียบมาก เหล่าเพื่อนต่างพากันมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ตอนนี้ทุกคนงงและทำอะไรไม่ถูก เรื่องนั้นวันนี้มันหนักหนาเกินกว่าที่พวกเธอจะรับได้
หวาหย่าหรุ่ยกัดริมฝีปากแดง เธอลังเลอยู่นาน จากนั้นจึงพูดออกมาเบาๆ ว่า “คุณชายโจว เรื่องวันนี้เป็นแค่ความเข้าใจผิด ขอให้คุณได้โปรดเข้าใจด้วย”
เธอเป็นเจ้าของงานวันนี้ จะให้เธอยืนเฉยและให้เรื่องเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ เธอหวังว่าจะหยุดมันได้ ถานกงคืออำนาจมืดที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหู้ไห่ ถ้าถานกงออกโรงเอง เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน
สีหน้าของโจวชางเย็นชา เขาพูดออกมาเพียงสองคำ “ไม่ได้”
ซุนเจียเจียหน้าซีด เธอเดินเข้ามาหาโจวชางแล้วพูดอ้อนวอน “คุณโจว เมื่อกี้แฟนของฉันบุ่มบ่ามเกินไป คุณได้โปรดเข้าใจ ฉันยอมชดใช้เงินให้คุณ…” ซุนเจียเจียพูดอ้อนวอนด้วยสีหน้าซีดเผือด
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้!” สีหน้าของโจวชางเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขาเหมือนเทพมรณะ
จางจื่อหลานหลบอยู่ข้างหลังโจวชาง แววตาของเธอร้ายกาจและเอาแต่จ้องไปที่เฉินเป่ย วันนี้เฉินเป่ยต้องตายอย่างแน่นอน
เพราะว่าถานกงจะลงมือเอง!!
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความเงียบ มีเพียงแต่เสียงร้องโอดครวญของอู๋ตุ้งกับเสียงเคี้ยวอาหารแจ๊บๆ ของเฉินเป่ย
หลังจากผ่านไปยี่สิบนาที รถยนต์คาดิลแลคสีดำกว่าสิบคันจอดลงที่หน้าโรงแรมอย่างรวดเร็ว
เหล่าชายในชุดสูทลงมาจากรถด้วยท่าทางขึงขัง
ท่านโจวสวมแว่นดำ และถือไม้เท้าสีดำอยู่ในมือ เขาก้าวลงมาจากรถออฟโรดยี่ห้อเอสกาเลดที่อยู่ตรงกลาง
ความอาฆาตของเหล่าชายในชุดสูทค่อยๆ ปลดปล่อยออกมา พวกเขาเข้าไปในห้องอาหารภายในโรงแรม
ภายในห้องอาหาร เฉินเป่ยนั่งอย่างสบายใจอยู่ที่โต๊ะอาหาร เขากัดกุ้งมังกรอย่างเพลิดเพลิน
“ผัวะ” ทันใดนั้นประตูห้องถูกถีบออกอย่างแรง
ชายในชุดสูทพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
“ใครกล้าเป็นศัตรูกับถานกง” เสียงอันราบเรียบและเย็นชาดังขึ้น น้ำเสียงแฝงไปด้วยความน่ากลัว
ท่านโจวสวมแว่นดำและค้ำไม้เท้าเดินเข้ามา
ลูกน้องในงานต่างพากันทำความเคารพ
บรรยากาศอึดอัดขึ้นมาทันที เหล่าเพื่อนที่อยู่ในงานตกใจจนหน้าซีด ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ผู้อาวุโสถานกงมาถึงแล้ว
“พ่อครับ มันไงครับ” สีหน้าของโจวชางเย็นชา เขาชี้ไปทางเฉินเป่ยที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะอาหาร
“นายจะมาเป็นศัตรูกับถานกงอย่างนั้นเหรอ” ท่านโจวสวมแว่นดำ สีหน้าของเขาเฉยชา จากนั้นจึงเดินมองไปยังคนที่อยู่ตรงโต๊ะอาหาร
วินาทีต่อมาท่านโจวก็อึ้งไป
“เพียะ!” ท่านโจวหันไปตบหน้าลูกชายของตัวเองอย่างแรง
“ไอ้ลูกเวร!!” ท่านโจวตวาดออกมา เขาโกรธเป็นอย่างมาก
ในงานถูกปกคลุมด้วยความเงียบ ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างมองภาพตรงหน้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น
โจวชางเอามือกุมแก้มด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาทำอะไรไม่ถูก
“พ่อ นี่มันอะไรกัน” โจวชางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว
“เพียะ!” ท่านโจวตบหน้าลูกชายด้วยความโกรธอีกครั้ง เสียงดังก้องไปทั่วงาน
ทุกคนงงไปหมด นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ไอ้ลูกเวร บังอาจไร้มารยาทกับคุณเฉินอย่างนั้นเหรอ” ท่านโจวโกรธจนตัวสั่น เขาตบหน้าลูกชายตัวเองอีกครั้ง
โจวชางโดนตบจนมึนไปหมด มุมปากของเขามีเลือดซึมออกมา รู้เลยว่าแรงตบของท่านโจวหนักขนาดไหน นี่เขาลงมือทำร้ายลูกชายของตัวเองอย่างนั้นเหรอ
ตอนนี้ท่านโจวโกรธจนตัวสั่น เขาเกือบจะยกไม้เท้ามาตีขาของลูกชายให้หัก เขารับสายของลูกชาย บอกว่ามีคนมาก่อเรื่องที่โรงแรม เขาจึงส่งคนมาที่โรงแรม แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนที่ไอ้ลูกเวรจะจัดการคือเฉินเป่ย ลูกชายของเขาเหิมเกริมและไร้มารยาทจริงๆ
ท่านโจวคิดแล้วก็โกรธขึ้นมา เขาจับคอเสื้อของลูกชายขึ้นมาและตบลงไปอย่างแรง
“เพียะๆๆๆ” เสียงตบดังสนั่น
ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างและงงไปหมด สมองของพวกเขาขาวโพลนไปหมด นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“แกรู้ไหมว่าคนที่อยู่ตรงหน้าแกคือใคร!” ท่านโจวตวาดออกมาอย่างโมโห
“ไอ้ลูกเวร ไอ้ลูกไม่รักดี คนที่อยู่ตรงหน้าแกคือคุณเฉิน เป็นพี่ใหญ่ของฉัน!”
คำพูดของท่านโจวดังกึกก้องไปทั่ว คนในงานถึงกับตกตะลึงและใจเต้นตึกตัก
พี่ใหญ่ของท่านโจวงั้นเหรอ คนขับรถของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเนี่ยนะ ตอนนี้คนในงานเหมือนได้ยินเสียงระเบิดตู้ม และพากันอกสั่นขวัญแขวน
โจวชางถูกตบจนมึนไปหมด หน้าของเขาบวมเป่ง คำว่าคุณเฉินดังวนอยู่ในหัวของเขา ไอ้คนที่ไม่อยู่ในสายตาคนนี้ คือคนที่พ่อบอกว่าคือคุณเฉินที่น่ากลัว
จางจื่อหลานหน้าซีด ตาของเธอแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า เธอยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น
“ไอ้ลูกเวร คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ ขอโทษคุณเฉินซะ” ท่านโจวตวาดออกมา
“ตุ้บ” โจวชางคุกเข่าลงตรงหน้าเฉินเป่ย เขาตัวสั่นเบาๆ ตอนนี้คุณชายถานกงไม่ได้มีท่าทีสบายอกสบายใจเหมือนตอนแรกอีกแล้ว เขาเหลือเพียงความสับสนและตกตะลึง รวมถึงความหวาดกลัวที่อยู่ในใจ