สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 64
บทที่64 แกขู่ใครกัน?
ในตอนที่ป้าสองเตรียมที่จะโผเข้าไปจู่โจมตรงด้านหน้าของเฉินเป่ยนั้น จู่เฉินเป่ยก็ได้ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง ทำให้ป้าสองกระโจนเข้าสู่ความว่างเปล่า จึงได้ล้มลงกับพื้นไปอย่างแรง
“โครม”
เสียงที่เกิดจากการกระทบกันดังขึ้นมา ป้าสองพยุงตัวลุกขึ้นมาด้วยสภาพที่ใบหน้าคลุกเต็มไปด้วยฝุ่น มองไปยังเฉินเป่ยด้วยสีหน้าอาฆาตแค้น มือเท้าสะเอว เอ่ยออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว “แกคิดว่าแกเป็นใครกันหา แกมีสิทธิ์พูดอะไรที่นี่ด้วยงั้นหรอ ถึงได้สั่งให้ฉันหุบปาก แกคู่ควรงั้นหรอ?”
“ไอ้คนชั้นต่ำ ไม่สั่งให้แกไสหัวออกไปจากที่นี่ก็ถือว่าไว้หน้าแกแล้ว สมกับที่ตัวเองเกาะคนชั้นสูงปีนขึ้นมาเสียจริง” ส่วนป้าใหญ่ที่อยู่อีกข้างกันนั้นได้ยิ้มเย็นออกมาเล็กน้อย จากนั้นจิบชาไปคำหนึง
“การ์ดล่ะ มาไล่มันออกไปซะ!” บนโต๊ะรับประทานอาหาร แต่ละสายตาที่มองไปยังร่างของเฉินเป่ยนั้น มีแต่ความโกรธแค้นและดูถูกเหยียดหยามออกไป
สีหน้าของเฉินเป่ยเรียบนิ่ง ส่วนหลีชิงเยียนนั้นก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย พยายามพูดให้เฉินเป่ยหลุดพ้นจากเรื่องนี้ “เขาเป็นสามีของฉัน มีเรื่องอะไร ก็มาเคลียร์กับฉันเอง”
“ไปเคลียร์กับเธอ? พวกแกนี่เป็นเหมือนผีเน่ากับโลงผุเสียจริง อย่าคิดว่าจะรอดไปได้แม้แต่คนเดียว ฉันขอจัดการกับมันก่อน แล้วค่อยมาจัดการแก” ป้าสองเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเยือกเย็น
สีหน้าของหลีชิงเยียนดูย่ำแย่ขึ้นมาทันที งานเลี้ยงในวันนี้ หลีเช่าเทียนยังไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา แต่ป้าใหญ่ป้าสองพวกนี้ กลับกลายเป็นผู้เริ่มลงมือต่อต้านหลีชิงเยียนออกมา
“ดี” หลีเซิ่งแค่นเสียงออกมา จากนั้นก็เอ่ยพูดเกลี้ยกล่อมออกมา “เรื่องนี้ให้มันหยุดอยู่เพียงแค่นี้เถอะ หยุดกันแค่ตรงนี้ก็พอ”
หลีเซิ่งพูดออกคำสั่งออกมา ป้าใหญ่ป้าสองที่ถึงแม้ว่าจะยังมีสีหน้าเคียดแค้นไม่พอใจออกมา แต่ก็ทำได้เพียงต้องข่มกลั้นมันกลับไปเท่านั้น จ้องมองเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนไปอย่างไม่ละสายตา จากนั้นก็นั่งลง
“ชิงเยียน ฉันกับพ่อของแกก็นับว่าเป็นพี่น้องกัน แกมาร่วมงานเลี้ยงของตระกูลหลี ก็ควรจะเรียกฉันคุณลุงสักคำสิ?” หลีเซิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมา
หลีชิงเยียนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูดออกมา “คุณลุง”
“ดี งั้นก็อาศัยที่แกเรียกลุงคำนี้ เรื่องที่ผ่านมาพวกเราก็ปล่อยให้มันแล้วๆกันไปเถอะ อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย” หลีเซิ่งหัวเราะเสียงดังออกมา “รอพวกเรากลับเยี่ยนจิง แกกับพ่อของแกก็กลับไปพร้อมกันเถอะ”
หลีชิงเยียนนิ่งตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหัวออกไปทันที เอ่ยพูดอธิบายเสียงหวานออกไปว่า “คุณลุงคะ ตอนนี้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปยังไม่มีแผนที่จะพัฒนาออกไปยังเมืองเยี่ยนจิง ฉันเกรงว่าฉันคงปลีกตัวไปเยี่ยนจิงไม่ได้หรอกค่ะ”
“ปัง” แก้วไวน์ของหลีเซิ่งวางลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ไวน์ในแก้วได้สาดกระจายออกมา สีหน้าของหลีเซิ่งนิ่งขรึมไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “ชิงเยียน เรื่องบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปแกไม่ต้องกังวลหรอก เช่าเทียนจะอยู่ที่นี่ช่วยแกดูแลแทนเอง”
ในทันใดนั้นเอง หลีชิงเยียนก็ได้นิ่งชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าสวยนิ่วหน้าออกมาเล็กน้อย ความหมายของคำพูดนี้ของหลีเซิ่งนั้นชัดเจนอย่างมาก…นี่ต้องการจะปล้นกันชัดๆ!
ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนเย็นชาออกมา “คุณลุงคะนี่มันไม่เห็นจะต้องยึดบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปกันไปเลยนี่คะ?”
“ชิงเยียน ฉันขอแนะนำให้แกคิดใหม่อีกครั้ง เมื่อตอนนั้นพ่อของแกไม่ได้คิดให้ดี จึงได้ถูกขับไล่ออกจากบ้านตระกูลหลี ฉันไม่อยากให้แกต้องมีจุดจบแบบนั้น” หลีเซิ่งเอ่ยเสียงต่ำออกไป
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันได้ตัดสินใจแล้ว ถึงแม้ว่าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะล้มละลาย ฉันก็จะไม่โอนสิทธิ์ผู้ถือหุ้นให้ใครแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว!” หลีชิงเยียนแผ่กระจายความเดือดดาลออกมาจากทั่วทั้งร่าง เอ่ยออกมาอย่างเฉียบขาด
“ปัง!” จู่ๆหลีเช่าเทียนก็ยื่นมือเข้ามารวดเร็วอย่างกับสายฟ้าแลบ ฝ่ามือทุบลงไปบนโต๊ะ
ห้องรับประทานอาหารได้ตกอยู่ในความเงียบทันที หลีเช่าเทียนค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองไปยังหลีชิงเยียนแล้วเอ่ยออกไปว่า “ชิงเยียน…ฉันให้โอกาสเธอมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เธอทิ้งมันไปเสียทุกครั้ง!”
“เพื่อเธอ ครั้งแรกฉันถึงได้อดทนถึงขนาดนั้น บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปนั่น ถ้าฉันอยากได้จริงๆ จะยังต้องมาใช้วิธีอ้อมโลกอยู่แบบนี้หรอ?” หลีเช่าเทียนกระโชกเสียงออกมา ร่างของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นแผ่ออกมาและความเย็นชาเหี้ยมเกรียมที่ทำให้คนอื่นตัวสั่นขวัญเตลิดกันเป็นแถว!
สีหน้าของหลีชิงเยียนนิ่งเรียบ แต่ภายในใจกับเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง หลีเช่าเทียนพูดไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเขาอยากได้ ด้วยอำนาจของตระกูลหลีนั้นทำได้แน่นอน ใช้อำนาจเข้าไปยึดครอง…บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่เป็นบริษัทเล็กบริษัทหนึ่ง ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับตระกูลสูงส่งตระกูลหนึ่งแห่งเยี่ยนจิงได้อย่างแน่นอน…แต่เขาก็ยังดึงดันที่ให้หลีชิงเยียนมอบสิทธิ์ของการถือหุ้นให้เขา
นี่ สำหรับคนที่มีนิสัยไม่ยอมคนอย่างหลีชิงเยียนนั้นมันเป็นการเหยียบหน้ากันอย่างแรง เหยียบย่ำลงมาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม!
ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้นไป จากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นออกไป “คุณชายหลี คำตอบก็พูดออกไปชัดเจนแล้วนี่ว่าสิทธิ์ของการถือหุ้นของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ไม่จะว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันขาย…คุณชายหลีก็อย่าได้คิดเรื่องอะไรพวกนี้เลย และก็อย่ามาเซ้าซี้ชิงเยียนอีกเลย”
ซ่า! ในบรรยากาศตอนนี้กลิ่นดินปืนที่เข้มข้นปะทุออกมาทันที หลีเช่าเทียนจ้องมองหลีชิงเยียนด้วยสายตาเย็นชา ทรงพลังและดุดัน ในแววตาคู่นั้นของเขา ได้แผ่กระจายรังสีสังหารที่ไม่เคยแสดงมาก่อนออกมา!
เซ้าซี้!
คำพูดนี้ของหลีชิงเยียนได้ทำให้หลีเช่าเทียนเกิดโทสะขึ้นมาทันที ดวงตาสังหารคู่นั้นของหลีเช่าเทียนได้เผยออกมาอีกครั้ง มองจ้องไปยังหลีชิงเยียนด้วยสายตาที่สื่อความหมายชัดเจน ราวกับต้องการเหยียบทำลายหลีชิงเยียนให้สุดแรง!
คุณชายหลีอย่างเขา ผู้เป็นลูกรักสวรรค์แห่งเยี่ยนจิง ผู้หญิงหลายคนต้องมาคุกเข่าเลียแข้งเลียขาเพื่อถวายตัวให้ แต่เขาก็ไม่เคยใส่ใจเลยสักนิด ผลสุดท้ายวันนี้กลับถูกคนอื่นมาเหยียบหน้ากันถึงถิ่นของตน…ไม่นึกเลยว่าเขาจะเซ้าซี้ผู้หญิงคนหนึงได้!
เยี่ยนจิงและหู้ไห่ ประชากรทั้งหัวเซี่ย จะมีสักกี่คนที่กล้าพูดอย่างนี้กับเขา?! หลีชิงเยียน…ได้ทำลายประวัติที่เคยมีไปเรียบร้อย!
นัยน์ตาอ่านยากของหลีเช่าเทียนจ้องมองไปยังหลีชิงเยียน…นี่เป็นการตบหน้ากันต่อหน้าธารกำนัล! คิดจะให้เขาต้องอับอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนี! เขาไม่อาจรับการดูหมิ่นพวกนี้ได้อย่างเด็ดขาด!
ทันใดนั้น จู่ ๆป้าใหญ่ของหลีเช่าเทียนก็พรวดพราดลุกยืนขึ้นมา เท้าก้าวเดินมุ่งออกไปยังหลีชิงเยียน ด้วยจิตสังหารที่ดุเดือดรุนแรง!
“หุบปาก ก็แค่ลูกสาวของลูกนอกสมรสอย่างผู้หญิงร่านๆยั่วยวนผู้ชายไปทั่วคนหนึง คู่ควรที่จะมาว่าเช่าเทียนของเราด้วยหรอ แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรที่นี่ ตบปากซะ!” ป้าใหญ่เดินก้าวเข้าไป ฝ่ามือก็เตรียมที่จะฟาดลงไปบนแก้วขาวเนียนของหลีชิงเยียนในอีกไม่ช้า!
หลีชิงเยียนถอยไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าสวยมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ไม่นึกมาก่อนเลยสักนิดว่า จู่ ๆป้าใหญ่จะกล้าเข้ามาลงไม้ลงมือกันได้!
แต่มันก็สายเกินไป การตอบสนองของหลีชิงเยียนช้าไปก้าวเดียว ฝ่ามือใหญ่ของป้าใหญ่ได้ฟาดลงมาอย่างแรง จนใกล้จะฟาดลงไปบนแก้มเนียนนุ่มของหลีชิงเยียนในอีกไม่ช้า!
ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ! ก็มีแขนข้างหนึ่งยื่นออกมาจากบริเวณข้างๆ แล้วจับแขนของป้าใหญ่เอาไว้ จากนั้นก็มีเสียงกระดูกแตกดังกร๊อบออกมา!
บนใบหน้าของหลีชิงเยียนไม่มีรอยฝ่ามือแดงประทับเอาไว้ แต่กับเป็นป้าใหญ่ที่ถูกกรรมตามสนองเหมือนกับว่าวที่ถูกตัดสายแล้วบินตกลงมาแทน จนร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างแรง!
สีหน้าของหลีเซิ่งแข็งค้าง เหยียดตัวลุกขึ้นทันที จากนั้นก็หันไปมองเฉินเป่ย
เฉินเป่ยปรากฏตัวอยู่ข้างๆร่างของหลีชิงเยียน มือใหญ่ข้างหนึ่งของเขาจับมือนุ่มของหลีชิงเยียนเอาไว้ด้วยสีหน้าเย็นชา
“แกไอ้คนชั้นต่ำ นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้าลงมือทำร้ายฉัน! ไอ้คนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าทำร้ายคนตระกูลหลี แกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วล่ะมั้ง!” ป้าสองเหยียดร่างลุกขึ้น กรีดร้องต่อว่าออกมาอย่างไม่พอใจทันที
เฉินเป่ยมีสีหน้านิ่งเรียบออกมา ไม่ได้สนใจคำพูดของป้าสองเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังหันไปมองหลีชิงเยียน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนออกไปว่า “ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย?”
หลีชิงเยียนส่ายหน้าออกไปเล็กน้อย “ไม่มี ฉันสบายดี”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” เฉินเป่ยพยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ได้สนใจคำด่าทอเมื่อครู่ ทั้งหมดก็เป็นเพราะหลีชิงเยียน ถ้าคนพวกนี้ไม่ได้แซ่หลี ก็สมควรตายไปตั้งแต่เอ่ยพูดเหยียดหยามกันออกมาในตอนแรกแล้ว
เพียงแค่พวกเขาไม่เข้ามาทำร้ายหลีชิงเยียน เขาก็สามารถทนได้ทั้งนั้น เพื่อหลีชิงเยียนแล้ว จะให้เขาอ่อนข้อให้ยังไงก็ได้ทั้งนั้น
“ยัยคนชั้นต่ำไร้ยางอาย…ยังดีที่แกยังแซ่หลี ไม่นึกเลยว่าแกจะร่วมมือกับคนนอกมารังแกคนตระกูลหลี!” ป้าใหญ่พยุงตัวลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล มองหลีชิงเยียนไปอย่างอาฆาตแค้น กล่าวโทษออกมาเสียงดัง
“พวกคุณก็ยังรู้นี่ว่าฉันก็แซ่หลีเหมือนกัน งั้นพวกคุณก็ยังจะกล้าที่จะคิดแตะต้องบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป…พวกคุณไม่ละอายใจต่อแซ่ของตัวเองกันหรือคะ? ก่อนหน้านั้นประธานจางคนนั้นของบริษัทของฉัน ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของตระกูลหลี ฉันไล่เขาออกไปตั้งนานแล้ว” หลีชิงเยียนสุดที่จะทน แสยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันออกมา
“หุบปาก! นังคนชั้นต่ำ แกมันก็แค่ลูกสาวของลูกนอกสมรส เลือดในตัวแกก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นสายเลือดของตระกูลหลีเลยด้วยซ้ำ แกยังกล้ามาว่าพวกเรา? พ่อของแกแม้แต่ประตูบ้านตระกูลหลีก็ยังไม่คู่ควรที่จะได้เข้าเหยียบมาเลย แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดหา!” ป้าสองตวาดเสียงดังออกมา คำพูดร้ายกาจเหนือคำบรรยาย!
เมื่อคำพูดของป้าสองหลุดออกมา ทันใดนั้นก็มีลูกไฟลูกหนึ่งพ่นออกมาจากปากของเฉินเป่ย และได้ยิงลงไปในปากของป้าสองอย่างแม่นยำ!
ป้าสองร้องเสียงดังขึ้นมาทันที คายลูกไฟร้อนลูกนั้นออกไป…แต่ลิ้นของหล่อนนั้นได้เกิดเป็นแผลพองจนพูดได้ไม่ชัดไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ป้าสองคายลูกไฟลูกนั้นออกมา ทุกคนในที่นั้นได้มองไป นั่นเป็น…ก้นบุหรี่!
สายตาของทุกคนในที่แห่งนั้นต่างตกตะลึงกันไปตามๆกัน…นึกไม่ถึงเลยว่าจะสามารถใช้โอกาสในตอนที่ป้าสองกำลังพูดอยู่ยิงก้นบุหรี่เข้าไปในปากได้แม่นยำขนาดนี้…นี่มันทำได้ยังไง! คนทั่ว ๆไปไม่มีทางทำได้แน่!
“ขอโทษ” สายตาของเฉินเป่ยเรียบนิ่ง สายตาของเขากวาดมองไปยังป้าใหญ่ ป้าสอง และพวกญาติๆที่ส่งสายตาดูถูกเหยียดหยามออกมาเมื่อก่อนหน้านี้ จากนั้นก็เอ่ยพูดไปอย่างเย็นชา “ถ้าไม่ขอโทษ งั้นต่อไปจะไม่ใช่ก้นบุหรี่ธรรมดาๆอย่างนี้แล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ทำร้ายผู้หญิง แต่คนที่ดูถูกภรรยาของฉัน ฉันไม่ออมมือให้แน่”
“ไอ้คนชั้นต่ำ…แก…กล้านักนะ! แกรู้มั้ยว่าพวกเราเป็นใคร?” ป้าใหญ่พยุงร่างลุกขึ้นมา มองเฉินเป่ยไปเหลือเชื่อ พร้อมทั้งตวาดออกไปด้วยถ้อยคำรุนแรง
“รู้สิ ตระกูลหลีจากเยี่ยนจิง” เฉินเป่ยเบ้ปากออกมาเล็กน้อย “ถึงแม้ว่าจะเป็นโอรสสวรรค์ ถ้ากล้ามาดูถูกภรรยาของฉัน ก็มีจุดจบแบบนี้เหมือนกัน!”
หลีชิงเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉินเป่ย เงยหน้าขึ้น ใบหน้าสวยนิ่งค้างไป เธอไม่คิดเลยว่าเฉินเป่ยจะมาออกหน้าแทนเธอในช่วงเวลาแบบนี้
ในความทรงจำของเธอนั้น เฉินเป่ยเป็นคนจำพวกขี้ขลาดตาขาว พอมีเรื่องอะไรก็จะต้องพาตัวเองเบี่ยงหนีออกไปตลอด
แต่วันนี้ เฉินเป่ยกลับเป็นฝ่ายก้าวออกมา โดยที่ไม่มีความขี้ขลาดออกมาเลยแม้แต่น้อย
“คิดท้าทายคนตระกูลหลีในถิ่นของตระกูลหลี แกมันจบเห่แน่!” ป้าใหญ่โกรธจนหัวเราะอย่างเสียสติออกมา เป็นครั้งแรกที่หล่อนได้เจอคนที่อวดดีขนาดนี้อย่างเฉินเป่ย ที่ไม่เห็นตะกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!
“ตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงแล้วยังไง ขอโทษภรรยาฉันเดี๋ยวนี้!” เฉินเป่ยเอ่ยพูดเนือยๆออกมา น้ำเสียงดุเดือดรุนแรง ความหมายชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัยออกมาเลย
“อยากตาย!” ทันใดนั้นเองหลีเช่าเทียนก็ลุกขึ้นมา มือบีบแก้วไวน์ จ้องนิ่งไปทางเฉินเป่ย สายตาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดและเยือกเย็น!
“เพล้ง!” หลีเช่าเทียนทิ้งแก้วไวน์ให้ตกลงไปบนพื้นอย่างแรง จากนั้นก็มีการ์ดหลายคนถือปืนบุกกุนเข้ามาด้านในคฤหาสน์หรูแห่งนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด!
“หลีเช่าเทียน นี่คุณจะทำอะไร!” ใบหน้าสวยของหลีชิงเยียนนิ่งแข็งออกมา คาดเดาอะไรบางอย่างขึ้นมาได้บ้างแล้ว!
“ผู้หญิงที่ได้มาไม่ได้ ไม่สู้ตายไปเสีย” หลีเช่าเทียนเอามือไขว้หลัง เดินก้าวเข้าไปยังหลีชิงเยียน “ไม่ได้มา ไม่สู้ทำลายทิ้งไปเสีย…เหตุผลนี้ เธอยังไม่เข้าใจอีกหรอ?”
“ฉันให้โอกาสพวกแกมาหลายครั้ง แต่พวกแกก็กลับไม่ต้องการ! งั้นก็อย่ามาหาว่าลูกน้องของฉันไร้ความเมตตาแล้วกัน!” น้ำเสียงของหลีเช่าเทียนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เหมือนอย่างกับออกมาจากนรกโลกันตร์
ดวงตาคู่นั้นของเฉินเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย การ์ดชุดดำที่ถือปืนจริงกระสุนจริงมากมายพวกนั้น เห็นได้ชัดว่าหลีเช่าเทียนได้เตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว แค่รอให้พวกเขากระโดดเข้าแหไปเท่านั้น!
นี่เป็นลานสังหารที่หลีเช่าเทียนได้จัดเตรียมเอาไว้ ภายนอกดูเหมือนว่าเป็นงานเลี้ยงครอบครัวของตระกูลหลี…แต่ความจริงกลับเป็นเครื่องมือการสังหารหมู่ที่เปิดรับรอเหยื่อเข้ามา!
สีหน้าของหลีชิงเยียนซีดเผือด…เธอคิดเอาไว้แล้วว่างานเลี้ยงในวันนี้อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แต่เธอจะไม่มาก็ไม่ได้! ภายในใจที่แข็งแกร่งและนิสัยที่เด็ดเดี่ยวของเธอนั้นได้ทำให้เธอเลือกที่ยอมตายตั้งแต่ยังสาว แต่จะไม่ยอมฝืนใจยอมหลีเช่าเทียนแม้แต่น้อยเช่นกัน!
หลีเช่าเทียนจ้องมองเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนนิ่งด้วยสายตาเย็นชา สุดท้าย เขาก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกฆ่าฟันที่เกิดขึ้นมาในใจของตัวเองได้!
วันนี้เขาไม่มีวันปล่อยให้เฉินเป่ยมีชีวิตเดินออกไปจากที่นี่ได้อย่างเด็ดขาด!
ทันใดนั้น เฉินเป่ยก็กวาดสายตามองไปยังการ์ดชุดดำที่ถืออาวุธครบมือเตรียมเข้าต่อสู้พวกนั้น แล้วยกยิ้มเหยียดหยามออกไปเล็กน้อย “แกขู่ใครกัน?”
ความเงียบปกคลุมไปทั่วทุกทิศทาง ใบหน้าเย็นชาเหี้ยมโหดของหลีเช่าเทียน นิ่งแข็งออกมาทันที!
ไอ้คนแต่งเข้าบ้านผู้หญิงที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำอย่างมัน ความตายจะไปเยือนในไม่ช้านี้แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะยังกล้าอาจหาญได้ถึงขนาดนี้?!