สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 640
บทที่640 ราชินีไนต์คลับ
หลิวจิ้งจิ้งกะพริบดวงตาเบาๆ หยิบมือถือของตนเองออกมา สแกนวีแชทของเฉินเป่ยแล้ว ทั้งสองเพิ่มเป็นเพื่อนกันในวีแชท
เฉินเป่ยกดเปิดรูปโปรไฟล์วีแชทของหล่อนดูโดยจิตใต้สำนึก เป็นรูปเซลฟี่ของหล่อน งดงามน่าประทับใจ…งามเหมือนกับตัวจริงของหล่อน
“พี่ชาย ฉันสวยมั้ย?” หลิวจิ้งจิ้งพลางคาบอมยิ้มไว้ เอียงศีรษะน้อยๆ ถามไป
เฉินเป่ยหัวใจเต้นแรง
เขาพยักหน้าแบบปากคอแห้งผาก “สวย”
หลิวจิ้งจิ้งยิ้มหวานชื่น ดุจสตรีที่สวยหยาดเยิ้ม
เวลานี้ มือของเฉินเป่ยยังจับหล่อนเอาไว้อยู่ รู้สึกถึงผิวพรรณที่เนียนนุ่มนั้นของหล่อน เฉินเป่ยรู้สึกเพียงว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น…แม่สาวอวบอึ๋มชั้นเยี่ยมระดับนี้ เป็นรสชาติโอชะบนโลกเสียจริง
หลิวจิ้งจิ้งกวาดตามองมือของตนเองที่โดนเขาจับไว้แบบมีความหมายแฝงแวบหนึ่ง แล้วบ่นพึมพำกับตนเอง “อย่างอื่นก็ดีหมด…แค่แขนข้างนี้…น่าจะกำจัดออกไปนะ~” ในตาของหล่อนเผยสีสันล้ำลึกที่น่าประหลาดใจออกมา
“หา?” เฉินเป่ยได้ยินแล้วอดตะลึงไม่ได้ มองหลิวจิ้งจิ้งอย่างมึนงงพอสมควร…ซวยแล้ว…ผู้หญิงคนนี้…หน้าตาสวยแต่ใจโหดเหี้ยมเหรอ? ไม่ใช่แค่จับมือของหล่อนนิดเดียวเองเหรอ? นี่คืออยากตัดแขนตนเองขาดเลยเหรอ?
เฉินเป่ยหดมือของตนเองกลับโดยจิตใต้สำนึก รู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง…ผู้หญิงที่ยิ่งสวยที่แท้ยิ่งหาเรื่องไม่ได้~
พอเห็นท่าทางประหม่าเช่นนี้ของเฉินเป่ย หลิวจิ้งจิ้งอดหัวเราะไม่ได้ จากนั้นหัวเราะแบบงดงาม
“ทำไม? กลัวฉันกินพี่งั้นเหรอ?” หลิวจิ้งจิ้งเงยหน้ามองเขาอยู่
วินาทีนี้ รู้สึกเหมือนเฉินเป่ยถูกหล่อนหยอกเย้าเข้าแล้ว เฉินเป่ยหมดคำจะพูดอยู่บ้าง…ออร่าของยัยเด็กคนนี้ดูแตกต่างไปบ้าง ตนเองจับหล่อนไม่อยู่สักเท่าไร
เฉินเป่ยเกาศีรษะแบบกระอักกระอ่วน “กูจะกลัวกับผีอะไร”
หลิวจิ้งจิ้งหยิบอมยิ้มที่คาไว้ในปากออกมา จากนั้นยื่นอมยิ้มเข้าในปากของเฉินเป่ยแบบเป็นธรรมชาติดูสนิทสนมกันมาก…
วินาทีนี้ อากาศเหมือนแข็งตัวแล้ว
เฉินเป่ยงุนงงพอสมควร…มุมปากเต็มไปด้วยรสหวานของอมยิ้มรสสตรอว์เบอร์รีนิดๆ…คล้ายกับยังมีน้ำลายระยิบระยับของหล่อนติดอยู่ด้วย…
นี่…ถือว่าจูบกันทางอ้อมหรือเปล่า? เดิมทีเฉินเป่ยนึกไม่ถึง…ยัยเด็กคนนี้จะทำพฤติกรรมที่เดาไม่ออกขนาดนี้ออกมา…นำอมยิ้มในปากของหล่อนมายัดใส่ในปากของตนเอง? นี่…นี่มีความหมายทำให้คนเข้าใจผิดอยู่นะ~
ซุนเจียเจียที่อยู่ด้านข้างใบหน้าโมโหเดือดดาล มองฉากนี้จนทำให้เกิดอารมณ์หึงหวง ยัยขี้หึงปรากฏโฉมขึ้นตั้งนานแล้ว
หลิวจิ้งจิ้งกะพริบดวงตาที่หยาดเยิ้ม จ้องมองเฉินเป่ยอยู่แบบนี้
“ทำไม รังเกียจเหรอ?” หล่อนเห็นลักษณะที่อึ้งทึ่งนี้ของเฉินเป่ย จึงฉีกมุมปากขึ้นมาบ้าง อยากจะยื่นมือแย่งอมยิ้มชิ้นนั้นเข้ามา
“เป็นไปได้ยังไงกันล่ะ ฉันจะรังเกียจจิ้งจิ้งได้ยังไง~ ขอบใจสำหรับอมยิ้มของเธอนะ” เฉินเป่ยยิ้มเจ้าเล่ห์กุมมือน้อยของหล่อนไว้ พยายามลูบคลำสักพักอย่างเอาเปรียบหล่อนอยู่
เหล่านักศึกษากลุ่มหนึ่งที่งานรับสมัครพนักงานก็ตกตะลึงกัน…คนกลุ่มหนึ่งถึงแม้ว่าไม่ได้พูดอะไร…แต่สามารถดูความตกใจในแววตาของกันและกันออก
พี่จิ้งจิ้ง…ดาวมหาวิทยาลัยขั้นสุดที่ลึกลับคาดเดายากที่สุด…คาดไม่ถึง…คาดไม่ถึงจะนำอมยิ้มของตนเองยื่นเข้าในปากของอีกฝ่าย? ไม่สนใจข่าวลือที่จูบโดยอ้อมแบบนี้โดยสิ้นเชิง? วินาทีนี้ ทุกคนล้วนรับรู้ถึงความรู้สึกที่อยากระเบิดออกมา
พี่จิ้งจิ้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมาสองปีนี้ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเกิดข่าวลือด้านความสัมพันธ์กับผู้ชายเลย…ในอดีต เคยมีผู้ชายหล่อเหลาไม่กี่คนพยายามตามจีบหล่อน…ผลปรากฏว่าวันต่อมาโดนตีจนเจ็บหนักถึงพิการ…ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา…ไม่มีใครกล้าเกิดข่าวลือกับหล่อนอีก… แต่ว่าวันนี้…คาดไม่ถึงว่าพี่จิ้งจิ้งจะ…สร้างข่าวฉาวกับผู้ชายเองเลย?
“พี่ชาย พี่อย่าเข้าใจผิดนะ…ฉันเพียงแค่รู้สึกว่าพี่เหมือนกับพี่ชายของฉัน” หลิวจิ้งจิ้งเงยหน้าขึ้น พูดด้วยเสียงน่าดึงดูด
ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจที่ถูกกระตุ้นดวงนั้นของเฉินเป่ยแข็งไปในชั่วขณะนั้น…แม่งเอ๊ย? เห็นว่าตัวเองเป็นพี่ชาย? เพียงแค่นี้เท่านั้น?
“เมื่อก่อนอมยิ้มที่ฉันไม่กิน ก็เป็นพี่ชายฉันที่กินให้หมดเลยล่ะ เขาไม่รังเกียจด้วย…พี่เหมือนกันกับเขา ฉันรู้สึกว่าพวกพี่สองคนเหมือนกันเลยล่ะ~” หลิวจิ้งจิ้งหัวเราะหวานชื่น
ในใจของเฉินเป่ยผิดหวัง เฮ้อ…คุยมาตั้งนาน…หญิงสาวเจ้าตัวนั้นเห็นเขาเป็นเพียงพี่ชาย? เสียเวลาเมื่อกี้ที่ตนเองคิดมากขนาดนั้น…ความรู้สึกแม่งช่างเพ้อฝันทั้งหมด
“พี่ชาย งั้นพี่ค่อยๆ ทำงานไปนะ ฉันไปแล้ว~” หลิวจิ้งจิ้งกะพริบตานิดนึง โบกมือให้เฉินเป่ยแล้ว จากนั้นหมุนตัวออกไปอย่างอ่อนหวาน…
มองภาพด้านหลังที่งดงามของหล่อนจากไป…ขาเรียวงามสองข้างที่มีพลังกระตุ้นให้ใต้กางเกงตึงแน่นนั้น…เฉินเป่ยรู้สึกเพียงน้ำลายไหลยืด แอบถอนหายใจทีหนึ่ง…น่าเสียดาย…น่าเสียดาย งดงามปานนี้…ต้องมาถูกผู้ชายคนอื่นย่ำยีเหรอ? เฮ้อ
ซุนเจียเจียเบ้ปากอยู่ด้านข้าง ท่าทางจะเกิดความรู้สึกหึงหวง
“ดูพอแล้วเหรอ? อาลัยอาวรณ์ไม่เลิกอยู่รึไง?” ซุนเจียเจียพูดจาหนาวเหน็บ
หลังจากเฉินเป่ยได้ยิน ชั่วขณะนั้นก็ได้สติกลับเข้ามา ขยับเข้าไปข้างกายเจียเจียด้วยความระมัดระวัง พูดปลอบใจเธอ…เวลานี้เกลี้ยกล่อมหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ต่างหากถึงเป็นเรื่องสำคัญ…โดยเฉพาะ…’ความสุขทางเพศ’ในหลายวันมานี้ต้องพึ่งหญิงสาวคนนี้มอบให้เสียด้วย~ ไม่ง่ายเลยที่เฉินเป่ยจะพัฒนาความเป็นผู้ใหญ่ให้เจียเจีย…ดังนั้นจึงไม่สามารถสูญเสียคู่สร้างความสุขทางเพศที่ดีงามขนาดนี้ไปได้
งานรับสมัครพนักงานในวันนี้เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้ายาวต่อมาถึงช่วงบ่ายเลย ซุนเจียเจียวางท่าทางหึงหวงที่เดือดดาลและหนาวเย็น…เฉินเป่ยรู้สึกจำใจ…เขารู้สึกว่า…คู่สร้างความสุขทางเพศที่ตนเองพึ่งได้กินมากำลังจะต้องแยกทางกันแล้ว…ดูแล้วต่อไปความสุขทางเพศในชีวิตต้องยากลำบากแน่
พลบค่ำหลังสิ้นสุดงานรับสมัครพนักงาน เดิมทีซุนเจียเจียขี้เกียจสนใจเขา เก็บข้าวของออกไปโดยตรง…เฉินเป่ยตามเข้าไปติดๆ พยายามหลอกล่อ…ทว่ากลับไม่มีวิธี…เพื่อความสุขทางเพศแล้ว เขายอมทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
ว่ากันว่าผู้หญิงเป็นพวกขี้หึง…ที่แท้ไม่ผิดเลย อาการหึงหวงของซุนเจียเจียกำเริบแล้ว ยากมากที่จะลดลงไป…ทั้งวันนี้ล้วนเย็นยะเยือก ปล่อยเฉินเป่ยเกลี้ยกล่อมอย่างไรล้วนไม่มีประโยชน์…
…
ตอนกลางคืน เฉินเป่ยกลับไปที่โรงแรมของตนเองแบบกลัดกลุ้มพอสมควร…นอนอยู่บนเตียง…นึกย้อนภาพในเมื่อคืนวานนี้…เขารู้สึกว่ายิ่งนึกยิ่งดิ่งลงลึก แต่ว่าวันนี้เจียเจียกลับไม่สนใจเขาทั้งวัน…ความสุขทางเพศในอนาคตของเขา…ต้องทำอย่างไรล่ะ?
ตอนที่เฉินเป่ยนอนอยู่บนเตียง รู้สึกจำใจทอดถอนใจ…ทันใดนั้นมีข้อความส่งมาในวีแชท
เฉินเป่ยตื่นเต้นอยู่บ้าง คิดว่าเป็นซุนเจียเจียตอบกลับข้อความเขาแล้วในที่สุด…รีบหยิบขึ้นมาดู…
ผลปรากฏว่า…ไม่ใช่ข้อความที่ซุนเจียเจียส่งมา…
แต่ว่าเป็นน้องสาวอวบอึ๋มคนนั้นที่พึ่งรู้จักเพิ่มวีแชทกันมาวันนี้…ข้อความของหลิวจิ้งจิ้ง
หลิวจิ้งจิ้ง: พี่ชาย ตอนค่ำมาดื่มเหล้าที่ผับกัน~
เฉินเป่ยเห็นข้อความนี้ของเธอ อดตะลึงไม่ได้…ดื่มเหล้า? ยัยอวบอึ๋มนี้กำลังนัดตนเอง?
แต่ว่าเวลานี้เห็นได้ชัดว่าเฉินเป่ยไม่มีอารมณ์จีบสาว…เจียเจียคู่รักของเขาหึงหวงถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่อยากทำผิดต่อเจียเจีย…ดังนั้นเขาจึงตอบกลับแล้ว: ดึกเกินไป ไม่สะดวก
ไม่นานนัก ฝ่ายตรงข้ามส่งข้อความเข้ามาอีก…
หลิวจิ้งจิ้ง: ได้สิ ไม่มาก็ช่างเถอะ…ในเมื่อฉันเป็นผู้หญิงคนเดียว…ดื่มเหล้าเมานอนอยู่ในผับ…เกิดถูกคนอื่นคว้าเอาไปแล้ว…คงได้แต่ถือว่าตัวเองดวงซวยแล้วกัน
มองเห็นข้อความประโยคนี้ หัวใจเฉินเป่ยเต้นรัวเล็กน้อย…หลิวจิ้งจิ้งหญิงสาวที่สวยงามขนาดนี้…ถ้าดื่มเหล้าเมาจริง…ถูกเขาเก็บไปทำมิดีมิร้าย…นั่น…ย่อมรับไม่ได้เลยทีเดียว ความอยากปกป้องในใจของเฉินเป่ยผุดขึ้นมาในชั่วขณะนั้น สาวอวบอึ๋มมีเอกลักษณ์แบบนี้ เขาให้คนอื่นเอาเปรียบได้อย่างไร? เขาต้องปกป้องเธอ
ดังนั้นท้ายที่สุดเฉินเป่ยยังต้องรีบไปที่ผับแล้ว…
รถไมบัคค่อยๆ จอดที่หน้าประตูผับหรูหราแห่งหนึ่งของเมืองหู้ไห่
ผู้คนต่างพูดว่า…หู้ไห่คือเมืองปีศาจแห่งหนึ่ง เมืองที่ไม่หลับใหล ในยามค่ำคืนมันจะเต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟนีออน
ภายในผับ แสงไฟสาดส่องระยิบระยับ…เสียงดีเจที่เร้าใจดังไม่หยุด พวกแขกกลุ่มหนึ่งโยกย้ายอยู่บนฟลอร์เต้นรำในผับอย่างบ้าคลั่ง ปลดปล่อยอารมณ์ของตนเองอย่างเต็มที่~
เฉินเป่ยทะลุผ่านฝูงชนที่โยกย้ายกันอย่างบ้าคลั่ง…ในที่สุดก็พบสาวหุ่นสวยที่คุ้นเคยอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ของผับ
ผมยาวประบ่าอย่างกำเริบเสิบสาน บนใบหน้างดงามประณีตแต่งหน้ากรีดตาดำเวอร์ชันเกาหลี
ถ้าเฉินเป่ยสายตาไม่ดี…คงเกือบจำไม่ได้เลย…นี่…นี่ยังเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์งดงามดุจภาพวาดคนเมื่อกลางวันนั้นเหรอ? เวลานี้เปลี่ยนเป็นราชินีไนต์คลับไปเลยทีเดียว
หลิวจิ้งจิ้งในเวลานี้ไม่เหมือนกับบุคลิกที่บริสุทธิ์งดงามเมื่อกลางวันนั้นโดยสิ้นเชิง…เธอในเวลานี้ เปลี่ยนเป็นคนละคน เหมือนกับเป็นคนที่มีอีกวิญญาณหนึ่ง
“พี่ชาย ทางนี้~” หลิวจิ้งจิ้งเห็นเฉินเป่ยในฝูงชนเข้าแล้ว ยกมือขึ้นโบกเรียกเขามา
เฉินเป่ยจำใจพอสมควร ค่อยๆ เดินมาทางเธอ…
“ทำไมถึงมาสถานที่แบบนี้ล่ะ? สถานที่แบบนี้วุ่นวายมาก ยัยเด็กน้อยเธอไม่กลัวคนอื่นลักพาตัวไปรึไง?” เฉินเป่ยค่อยๆ พูดขึ้น
หลิวจิ้งจิ้งกะพริบขนตาที่เรียวยาวงดงาม พูดด้วยเสียงน่าดึงดูด “ทำไม…พี่กำลังเป็นห่วงฉันเหรอ?”
“นี่คือคำเตือนที่หวังดีอย่างหนึ่ง” เฉินเป่ยจุดบุหรี่มวนหนึ่ง ท่วงท่าหงอยเหงาเศร้าซึม
หลิวจิ้งจิ้งยิ้มหวาน ทันใดนั้นขยับเข้ามาด้านหน้าเฉินเป่ย เสียง’จุ๊บ’ดังทีหนึ่ง จูบบนแก้มของเขาแล้ว
“พี่ ขอบคุณนะ~” รอยยิ้มของหลิวจิ้งจิ้งหวานมาก หวานจนเหมือนจะทำให้คนละลาย
ชั่วพริบตาเดียวเฉินเป่ยตะลึงค้างแล้ว…มองยัยเด็กสาวด้านหน้าแบบอึ้งๆ…ในเวลานี้ บนหน้าของเขาปรากฏรอยริมฝีปากรูปเชอร์รี่เล็กๆออกมารอยหนึ่ง
ยัยคนนี้…ช่าง…ช่างรุกก่อนเกินไปหน่อยมั้ง? ไม่พูดไม่จาอะไรดันจูบมาเลย? หรือว่า…นักศึกษาในตอนนี้บุกหนักกันขนาดนี้แล้วเหรอ? หัวใจของเฉินเป่ยเต้นรัวขึ้นมาในชั่วขณะหนึ่ง~
“มา ดื่มเหล้า” หลิวจิ้งจิ้งขยับเข้ามาด้านหน้าเฉินเป่ยก่อน เทเหล้านอกให้เขาไป
เฉินเป่ยกวาดตามองเหล้านอกขวดนั้น อดตะลึงไม่ได้…ยัยคนนี้…ยังดื่มแรงขนาดนี้? เรมี่มาร์ตินแบล็คเพิร์ล?? นี่เป็นเหล้าชื่อดังระดับโลก…ถูกเรียกว่าทองคำแห่งของเหลวเลย
หลิวจิ้งจิ้งยกแก้วเหล้าขึ้น ชนแก้วกับเฉินเป่ย เธอไม่ได้อมซ่อนไว้สักนิดเดียว ดื่มเหล้านอกในแก้วทั้งหมดทันที
เฉินเป่ยมองดูอยู่นั่นเรียกว่าเลื่อมใส…ยัยเด็กคนนี้…คือราชินีไนต์คลับเสียจริงๆ ปริมาณการดื่มนี้…จิตใจตรงไปตรงมานี้ เด็ดขาดสุดๆ เลย
ทันใดนั้นหลิวจิ้งจิ้งควงแขนของเฉินเป่ยไว้ พูดจาด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูด “ต่อไป พี่เป็นพี่ชายบุญธรรมของฉันได้รึเปล่า?”
เฉินเป่ยได้ยินก็อดตะลึงอีกทีไม่ได้…ยัยเด็กคนนี้…คงไม่…เห็นตนเองเป็นพี่ชายเธอจริงๆ หรอกมั้ง?
“ทำไมต้องให้ฉันเป็นพี่ชายบุญธรรมเธอด้วย…” เฉินเป่ยหน้าตาโง่เขลา “พี่ชายเธอล่ะ?”
หลิวจิ้งจิ้งกะพริบดวงตาเบาๆ เบ้ปากตอบ “เขาเหรอ เขาไม่อยู่ที่เมืองหู้ไห่ล่ะ…ยิ่งไปกว่านั้น ฉันรู้สึกสนิทกับพี่มาก~ ฉันเป็นน้องสาวพี่ไม่ได้เหรอ?”
หลิวจิ้งจิ้งพูดอยู่ ควงแขนเฉินเป่ยไง้พูดจาหวานๆ…เธอราวกับสาวอวบอึ๋มที่ติดหนึบ ถูบนแขนของเฉินเป่ยเบาๆ…กระตุ้นหัวใจของเฉินเป่ยให้เต้นเร็วเพิ่มขึ้น…ลำคอแห้งผาก…น้องสาวบุญธรรมที่เยี่ยมยอดขนาดนี้…พูดไปก็แม่งยั่วยวนเสียจริงๆ เลย~
ภายในผับ ดนตรีเร้าใจที่เสียงดังไม่หยุด…หน้าเคาน์เตอร์บาร์ เฉินเป่ยกับหลิวจิ้งจิ้งทั้งสองนั่งดื่มเหล้านอกอยู่ด้วยกัน…เฉินเป่ยรู้สึกแค่ว่าน่าประหลาดใจอยู่บ้าง…เขาราชาทหารรุ่นหนึ่งผู้น่าเกรงขาม…แต่ไหนแต่ไรจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเด็กสาวแบบนี้ทั้งนั้น…แต่ว่าวันนี้…เขากลับมานั่งดื่มเหล้าด้วยกันกับยัยเด็กสาวคนนี้อย่างน่าประหลาด นี่ถือว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หลิวจิ้งจิ้งดื่มเหล้าไปแก้วแล้วแก้วเล่า…ราวกับพวกขี้เหล้าคนหนึ่ง เดิมทีไม่สนใจปริมาณเหล้า…ไม่นานใบหน้าที่งดงามของเธอก็ปรากฏสีแดงระเรื่อออกมาแล้ว…หญิงสาวเมาอยู่บ้าง…
พอเธอดื่มเหล้าเมา กลับเห็นได้ชัดว่าเพิ่มความบ้าคลั่ง ร่างกายอ่อนช้อยกำลังเต้นโยกย้ายเต็มที่อยู่กลางลานเต้นรำ แสดงท่วงท่าที่สง่างามออกมา
เฉินเป่ยมองจนอดหวั่นไหวบ้างไม่ได้…ยัยเด็กคนนี้เป็นปีศาจที่น่าหลงใหลจริงๆ
ด้านข้าง สายตาเหล่าผู้ชายที่แต่งตัวในไนต์คลับหลายคนจ้องไปที่หลิวจิ้งจิ้งตั้งแต่แรกแล้ว…หญิงสาวที่สง่างามแบบนี้…เสมือนกับดอกกุหลาบที่บริสุทธิ์…ดึงดูดความสนใจของพวกเขาอย่างร้อนแรง
ไม่นานผู้ชายหลายคนก็ค่อยๆ รอบล้อมเข้ามา เริ่มรอบล้อมด้านข้างหลิวจิ้งจิ้งเหมือนมีอะไร จากนั้นเริ่มเข้ามาจีบ
“น้องสาว มาคนเดียวเหรอ?”
หลิวจิ้งจิ้งกำลังเต้นโยกย้ายสะบัดผมยาว เดิมทีไม่สนใจพวกเขา ย้ายออกห่างจากพวกเขาแล้ว
เหล่าผู้ชายกลุ่มนั้นกลับไม่รีรอ ขยับเข้ามาอีก ยิ้มชั่วร้ายพูดจาหยอกล้อ “น้องสาว พี่เลี้ยงเหล้าเธอแก้วหนึ่ง”
“ป้าบ!” ทันใดนั้นเกิดเสียงดังกังวาน หลิวจิ้งจิ้งไม่ได้มัวพูดไร้สาระใดๆ ยกมือขึ้นมาทันที จากนั้นตบบนหน้าผู้ชายที่มาหยอกเย้าคนนั้นอย่างแรงทีหนึ่ง
“ไสหัวไป” ใบหน้าของหลิวจิ้งจิ้งสงบนิ่งอย่างมาก เสียงน่าดึงดูดพ่นคำพูดนี้ออกมา
เสียงดนตรีในผับที่ตื่นเต้นดังไม่หยุด แต่ว่าอากาศในนี้…กลับเหมือนแข็งตัวอยู่บ้าง
ผู้ชายคนนั้นจับแก้มของตนเองไว้ หน้าตาอึ้งทึ่ง…ไม่อยากเชื่อ…
“นังคนนี้…แกกล้าตบฉัน?” ผู้ชายคนนั้นสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม
เหล่าพวกพ้องกลุ่มหนึ่งที่อยู่ด้านข้างแต่ละคนก็ปลดปล่อยความโหดร้ายมา บรรยากาศที่เกิดเหตุดูอัดอั้นตันใจในชั่วขณะนั้น
“ป้าบ!” เกิดเสียงดังขึ้น หลิวจิ้งจิ้งยกมือขึ้น ตบหน้าเข้าไปอีกที
เฉินเป่ยนั่งนิ่งอยู่ด้านข้าง มองภาพฉากนี้ด้วยความมึนงง…เขาอึ้งค้างไปถึงที่สุด
ไอ้เชี้ย!! ยัยเด็กคนนี้…แม่งช่างโหดเหี้ยมไปมั้ง? เดิมทีไม่เหมือนกับภายนอกที่ใสซื่อบริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง
“แม่ง! นังคนนี้ แก เชี้ยเอ๊ย!!” เหล่าผู้ชายกลุ่มนั้นโมโหเดือดดาล อยากล้อมเข้ามาลงมือโดยตรง
หลิวจิ้งจิ้งกลับไม่มีความหมายหวาดกลัวสักนิดเดียว แต่กลับหันหน้าไปเบาๆ ดวงตางดงามมองทางเฉินเป่ยที่อยู่ไม่ไกลนัก…สายตานั้น…ราวกับกำลังบอกเป็นนัย…พี่จะมาช่วยฉันมั้ย?
มองสายตาที่เหมือนขอความช่วยเหลือของเธอนั้น เฉินเป่ยได้แต่ดื่มเหล้าในแก้วให้หมดอย่างจำใจ…จากนั้นค่อยๆ เดินเข้าไปทางพวกผู้ชายกลุ่มนั้น
“นี่…ฉันว่าพวกแก…รีบออกไปแบบเจียมตัวเถอะ…” เฉินเป่ยเอามือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ค่อยๆ เดินไปด้านหน้าของหลิวจิ้งจิ้งแล้ว
มองภาพด้านหลังของผู้ชายคนนี้ด้านหน้าตนเอง มุมปากของหลิวจิ้งจิ้งฉีกรัศมีวงกลมขึ้น…ช่างเหมือนเสียจริง
พวกผู้ชายกลุ่มนั้นเดือดดาลโหดร้าย “เชี้ยแม่ง แกเป็นใครกัน จัดการให้ฉัน!”
“ป้าบ!” ผู้ชายคนนั้นเพิ่งต่อว่าจบ กลับถูกพลังมหาศาลตบจนลอยออกไปทั้งตัวแล้ว…
ที่เกิดเหตุเงียบงันในเวลาสั้นๆ
เหล่าพวกพ้องกลุ่มนั้นตอบสนองเข้ามากันทันใด กุมหมัดพุ่งเข้ามาทันที…
ปึงๆๆ!” เฉินเป่ยสะบัดฝ่ามือใหญ่แล้วตบ…ผู้ชายที่ดุดันกลุ่มนั้นโดนตบลอยกันไปโดยตรง…น่าเวทนาอย่างยิ่ง
ในดวงตาหลิวจิ้งจิ้งเปล่งประกายสีสันที่ประหลาดใจ จ้องภาพฉากนี้ไม่กะพริบตา เส้นรัศมีวงกลมที่มุมปากนับวันยิ่งเข้มขึ้น มีรอยยิ้มที่สนใจขึ้น
เฉินเป่ยกลับไปอยู่ข้างกายของหลิวจิ้งจิ้งอย่างจำใจ ดึงมือของเธอขึ้น ลากเธอเข้าไปในที่นั่งเดี่ยวของผับ
“น้องสาว ฉันว่าเธออยู่เฉยๆ หน่อยได้มั้ย…อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้ฉันอีกเลย…” เฉินเป่ยพูดอย่างอกสั่นขวัญแขวนอยู่บ้าง…ยัยเด็กคนนี้ คือเจ้าแม่หาเรื่องวุ่นเสียจริง…
“ทำไมจะหาเรื่องไม่ได้?” หลิวจิ้งจิ้งเอียงศีรษะที่สง่างามไว้ มองเขาไปแบบนี้ “พี่เป็นพี่ชายฉัน ฉันหาเรื่องแล้ว…พี่ต้องช่วยฉันสิ…ฉันกลัวอะไรล่ะ~”
เฉินเป่ยได้ยินคำพูดนี้ของเธอ หมดคำจะพูดไปเลย…ยัยคนนี้…ช่างพาลเหลือเกินเลยนะ? คือแม่มดน้อยเสียจริง พวกชอบหาเรื่อง ถ้าเป็นพี่ชายเธอ นั่นก็ได้แล้วเหรอ? ไม่รู้จริงว่าพี่ชายแท้ๆ คนนั้นของเธอผ่านมันมาได้อย่างไรกัน~
แสงไฟเลเซอร์สีม่วงที่เร้าใจเปล่งประกาย เสียงคนเอะอะกันในผับ หนวกหูไปหมด
ที่มืดมุมหนึ่งในผับ ผู้ชายรูปหล่อที่สวมชุดสูทกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเดี่ยว จ้องตรงที่ไม่ไกลด้วยแววตาล้ำลึกสงบนิ่ง…ทิศทางสายตาของเขาคือที่นั่งนั้นของเฉินเป่ยและหลิวจิ้งจิ้ง
ลูกน้องคนหนึ่งขยับเข้ามาด้านหน้าผู้ชายใส่สูท พูดพึมพำเสียงเบาไม่กี่ประโยค
ผู้ชายใส่สูทค่อยๆ หรี่ดวงตาขึ้น พยักหน้าแล้ว…
ภายในผับ ดนตรีตื่นเต้นดังไม่หยุด
หลิวจิ้งจิ้งนั่งอยู่ตรงที่นั่ง สั่งเหล้านอกบรั่นดีเรมี่มาร์ตินอีกสามขวด ลักษณะสง่างามนั้นคือปีศาจสาวตนหนึ่งที่สุด เธอยกขวดเหล้าขึ้นแบบดูพาลไร้ที่เปรียบ เทเหล้าในแก้วของตนเองและเฉินเป่ยแล้ว
เฉินเป่ยมองจนตกใจครู่หนึ่ง ยัยคนนี้…ดื่มเก่งเหลือเกิน…ถึงแม้เวลานี้ใบหน้าเธอจะแดงก่ำไปหมด แต่เหมือนกับไม่ได้ดื่มจนมึนเมา ดูเธอลักษณะนี้ ท่าทางยังสามารถดื่มอีกสองขวดจนหมดได้
หลิวจิ้งจิ้งยกแก้วเหล้าขึ้นมา เม้มริมฝีปากแดงเบาๆ ปากรูปเชอร์รี่อ้ำๆ อึ้งๆ ดื่มเหล้าบรั่นดีของเหลวสีทองที่เข้มข้นในแก้วนั้นหมดทันที
“พี่ ทำไมพี่ไม่ดื่มล่ะ?” หลิวจิ้งจิ้งเห็นว่าเฉินเป่ยไม่ดื่มเหล้า จึงอดฉีกริมฝีปากแดงขึ้นบ้างไม่ได้ เธอยกแก้วเหล้าไปตรงปากเฉินเป่ย พูดเสียงสะบัดสะบิ้ง “พี่ ดื่มสักหน่อยสิ~”
เฉินเป่ยกวาดดวงตามองเส้นรัศมีวงกลมโค้งเว้าบนเสื้อยืดสีขาวตัวนั้นของเธอแวบหนึ่ง แอบคอแห้งผาก…เขายกแก้วเหล้าเช่นกัน ดื่มเหล้าบรั่นดีในแก้วจนเกลี้ยง
เหล้าบรั่นดีที่กลิ่นหอมนุ่มกำลังไหลลงในลำคอ…รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมความเข้มข้นของเหล้า…ทันใดนั้นเฉินเป่ยรู้สึกไม่ปกติอยู่บ้าง…เขาเหมือนรู้สึกว่าในรสชาติของเหล้านี้…เหมือนผสมรสชาติอะไรอย่างอื่นเข้ามาด้วย?
เฉินเป่ยส่ายหน้าด้วยความสงสัย…เดาว่าเดิมทีเหล้านอกของผับแห่งนี้คงผสมเหล้านอกปลอมมาด้วยล่ะมั้ง…
ในโถงของผับ ที่มุมดำมืดไม่ไกลนัก
สายตาของผู้ชายชุดสูทคนนั้นจ้องมาที่นี่ตรงๆ ราวกับกำลังสังเกตจ้องมองอะไร…ตอนเขาเห็นว่าหลิวจิ้งจิ้งกับเฉินเป่ยทั้งสองดื่มเหล้านอกในแก้วหมด…ชั่วขณะนั้น…มุมปากของผู้ชายชุดสูทยกเส้นรัศมีวงกลมที่ลุ่มลึกขึ้น นั่นคือรอยยิ้ม ยิ้มที่ทำให้คนสะพรึงกลัว