สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 643
บทที่643 ฉันเห็นนายเป็นพี่ชายนายกลับ
เฉินเป่ยถูกเสียงร้องทำให้ต้องตื่นนอน…ตกใจจนตื่นไปทั้งตัว ลุกขึ้นมาจากเตียงทันใด…
“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นแล้ว!” เฉินเป่ยทำหน้าตาลนลานมึนงง…จากนั้นมองเห็นหญิงสาวงดงามที่ข้างกายคนหนึ่ง…
หลิวจิ้งจิ้งดึงผ้าปูเตียงสีขาวเข้ามาปิดร่างกายของตนเองไว้ ดวงตาเธอจ้องเฉินเป่ยเขม็ง ในตาที่งดงามแวววาวมีสายตาที่อยากฆ่าคนแวบผ่าน
หัวใจเฉินเป่ยเต้นเร็วขึ้น…เวลานี้สีหน้าของเขายากลำบากอยู่บ้างเช่นกัน…ไม่ต้องคิด…ก็รู้ว่าเมื่อคืนสองคนนี้เกิดอะไรขึ้น…
ในใจเฉินเป่ยเกิดความเสียใจ เมื่อคืน ท้ายที่สุดตนเองเสียการควบคุมแล้ว ขณะนี้ในหัวสมองยังปรากฏภาพฉากหนึ่งที่พัวพันยุ่งเหยิงเมื่อคืนนั้นแบบเลือนรางขึ้นมา…ภาพพวกนั้นทำให้เขายิ่งรู้สึกเสียใจขึ้นไปอีก
“ยัยหนู เธอฟังฉันก่อน…เมื่อคืนมีคนวางยาในเหล้า…พวกเราไม่มีทางควบคุมได้…” เฉินเป่ยจำใจอยู่บ้าง พูดอธิบายแบบรู้สึกผิด
ดวงตาหลิวจิ้งจิ้งประกายแดงสับสน ในดวงตามีน้ำตาเปล่งประกาย…เธอจ้องเฉินเป่ยตรงๆ แบบนี้…วินาทีนี้ อารมณ์ของเธอสับสนไร้ที่เปรียบ…
“ฉันเห็นนายเป็นพี่ชาย…แต่นาย…นายทำอะไรกับฉันกันเนี่ย?” หลิวจิ้งจิ้งกัดริมฝีปากแดงแน่น น้ำเสียงเสียการควบคุมและสั่นเครือ
เมื่อวินาทีนั้นที่เธอเจอเฉินเป่ย เธอคิดว่า…เฉินเป่ยเหมือนพี่ชายเธอมาก…เพราะเหตุนี้ เธอจึงเห็นเฉินเป่ยเป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆ…แต่ว่า…แต่ว่าในขณะนี้…คาดไม่ถึงว่าตนเองกับผู้ชายที่มีความประทับใจซึ่งเห็นเป็นพี่ชายแท้ๆ จะนอนด้วยกันได้? นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?
วินาทีนี้ ภาพลักษณ์พี่ชายที่ดีงามของเฉินเป่ยในใจหลิวจิ้งจิ้งดับสลายในชั่วขณะหนึ่ง ในใจของเธอ พี่ชายตนเองจะเป็นผู้ชายเลวทรามต่ำช้าชนิดที่สู้สัตว์ป่าไม่ได้แบบนี้ได้อย่างไร? ในจิตใจเธอนั้น พี่ชายเป็นผู้ชายที่สูงใหญ่แข็งแรง…และในเวลานี้ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ก็คือสัตว์ป่า สัตว์ป่าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“จิ้งจิ้ง ขอโทษ…” เฉินเป่ยรู้ตัวดีว่าทำลายหญิงสาวคนนี้แล้ว กล่าวขอโทษอย่างเสียใจและรู้สึกผิดนิดๆ
“ฉันไม่รู้ว่าจะชดใช้เธอยังไง…สรุป…เป็นฉันที่ทำผิดต่อเธอ…” เฉินเป่ยถอนหายใจทีหนึ่ง “เธอต้องการอะไร? ขอเพียงเป็นสิ่งที่เธอต้องการ…ฉันจะช่วยเธอทำทั้งนั้น…” เขาอยากใช้วิธีแบบนี้มาชดใช้ให้หลิวจิ้งจิ้ง
หลิวจิ้งจิ้งใช้ผ้าห่มปิดร่างกายแน่น เธอลงจากเตียงด้วยใบหน้าหนาวเย็น เธอในเวลานี้…เห็นได้ชัดว่าผิดปกติและนิ่งสงบมากะทันหัน
เธอค่อยๆ เดินไปที่หน้าตู้หัวเตียง เปิดกระเป๋าคาดอกของตนเองออก
ซู่! ทันใดนั้นหลิวจิ้งจิ้งล้วงปืนพกของผู้หญิงกระบอกนั้นออกมาจากกระเป๋าคาดอก เล็งปากกระบอกปืนที่ดำขลับน่าสะพรึงกลัวไปยังเฉินเป่ยโดยตรง
วินาทีนี้ บรรยากาศเงียบงันในชั่วพริบตาเดียว
หัวใจของเฉินเป่ยค่อยๆ เต้น…เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยๆ พูดว่า “ยัยหนู เธอใจเย็นหน่อย…เรื่องเมื่อคืนนี้…ผิดที่ฉันเอง…เธอให้โอกาสฉันได้ชดใช้สักครั้งจะได้หรือเปล่า?”
ตอนที่เฉินเป่ยกำลังเผชิญหน้ากับปากกระบอกปืน ไม่มีความหวาดกลัวใดๆ เหมือนว่าสงบนิ่งไร้ที่เปรียบ
บนตัวหลิวจิ้งจิ้งจับผ้าห่มไว้ ในมือกุมปืนไว้ เล็งไปยังเขาตรงๆ ขนาดนี้
“เลวทราม…วันนี้ ไม่ใช่นายตาย…ก็เป็นฉันที่ตาย” หลิวจิ้งจิ้งกัดฟันริมฝีปากแดงแน่น เสียงมีอาการสั่นเครือแบบไม่ได้รับความเป็นธรรม
ดวงตาเฉินเป่ยไม่สดใส ถอนหายใจทีหนึ่ง “ถ้า…แบบนี้จะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นหน่อย…งั้นเธอยิงมาเถอะ…”
ใบหน้าของหลิวจิ้งจิ้งแค้นเคือง ปืนในมือจ่อที่เฉินเป่ย…เธอลั่นไกสลักปืนออกฉับพลันแล้ว
อุณหภูมิของอากาศราวกับลดต่ำลงไปหลายระดับ…
เฉินเป่ยค่อยๆ หลับตาลงแล้ว เหมือนว่าเผชิญกับการข่มขู่ของปืนนี้ เขาไม่มีวิธีต้านทานแต่อย่างใด…
เมื่อคืนสองคนที่ยังนัวเนียกันสนิทแนบชิด…วันนี้กลับถืออาวุธประจันหน้ากัน…
ลมหายใจหลิวจิ้งจิ้งผิดจังหวะเร่งถี่เล็กน้อย นิ้วมือของเธอกดลงบนไกปืนเบาๆ…วินาทีนี้ ในใจของเธอขัดแย้งอย่างยิ่ง เธอเกลียดผู้ชายตรงหน้าคนนี้แทบแย่…แต่ว่า…เขาเหมือนกับพี่ชายของตนเองมากจริงๆ…จะต้องฆ่าเขาแล้วเหรอ?
“ปัง—!” เสียงปืนดังสะเทือนเลือนลั่นกึกก้อง
กระสุนปืนลูกหนึ่งยิงทะลุออกมาจากปากกระบอกปืน…มีพลังที่เกรียงไกรมหาศาล แทบจะแหวกฉีกอากาศ…แฉลบไปที่ระหว่างคิ้วของเฉินเป่ย…
นี่เป็นกระสุนที่เจตนาฆ่า
หลิวจิ้งจิ้งตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เธอทนไม่ได้ที่ความประทับใจอันงดงามของพี่ชายตนเองถูกทำลายลง…เฉินเป่ยคนเลวทรามนี้ได้แตะเส้นกั้นของเธอจนถึงที่สุดแล้ว…เดิมคิดว่ารับเป็นพี่ชายคนหนึ่งแล้ว…กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นพวกเลวทรามอย่างกับสัตว์ป่า ในเมื่อเป็นสัตว์ป่า งั้นก็ฆ่าซะ
“ปั้ง—!” กระสุนแหวกทะลุอากาศ วินาทีนั้นที่ยิงเข้าระหว่างคิ้วของเฉินเป่ยอย่างรวดเร็ว…ทั้งตัวเฉินเป่ยกลายเป็นภาพวืดแล้ว…
“ฉึก!” กระสุนยิงเข้ากลางผนังที่อยู่ด้านหลังทันที เหลือรูลึกๆ เอาไว้หนึ่งรู ด้านบนยังมีควันเขม่าโผล่นิดๆ
กระสุนยิงเข้าที่ว่างไป…สีหน้าเฉินเป่ยซีดเซียวไปหมด หัวใจกำลังเต้นอย่างรุนแรง
“แม่คุณ…เธอเอาจริงเหรอ?” เฉินเป่ยจ้องเธอด้วยสายตาตื่นตกใจ นึกไม่ถึงว่าเธอจะลั่นไกปืนจริง…
เฉินเป่ยคิดมาตลอดว่าเธอเพียงแค่ขู่ตนเองนิดหน่อย…กลับนึกไม่ถึงว่า…ผู้หญิงคนนี้จะลั่นไกปืนเข้าจริงๆ นี่แม่คุณคงอยากจะฆ่าคนจริงๆ สินะ
นักศึกษาสาวอายุยี่สิบปีคนหนึ่ง…คาดไม่ถึงว่าจะลั่นไกปืนฆ่าคนได้อย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ยัยเด็กคนนี้บ้าอย่างแท้จริง
หลิวจิ้งจิ้งกัดริมฝีปากแดงแน่น ไม่พูดพร่ำทำเพลง…เล็งปืนในมือไปที่เฉินเป่ยอีกครั้ง ลั่นไกเสียงดัง“ปัง!”อีกครั้ง
หัวใจเฉินเป่ยเต้นแรง ร่างกายแวบหายในทันใด
“ฉึก!” กระสุนลูกนั้นยิงเข้าที่ว่างอีกครั้ง
“ยัยเด็กคนนี้…เธอบ้าแล้วเหรอ?” เฉินเป่ยสีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน เปลี่ยนไปดูยากลำบาก
ใบหน้าของหลิวจิ้งจิ้งหนาวเย็น ในดวงตาสาดส่องแววตาที่แค้นเคืองไร้ที่เปรียบออกมา “สารเลวชั่วช้า! ตายซะเถอะ!!”
“ปังๆๆ—!” ปืนพกของผู้หญิงในมือเธอลั่นไกอย่างดุเดือด กระสุนแต่ละลูกทะลุผ่านอากาศ ยิงมายังเฉินเป่ยเฉียบไว
ร่างกายเฉินเป่ยหลบหลีกแวบหายไม่หยุด…เห็นได้ชัดว่าสับสนสุดจะทน
“นาย…สารเลว! แน่จริงนายอย่าหลบสิ!!” ส่วนหน้าอกที่สง่างามของหลิวจิ้งจิ้งสั่นเทาอยู่ แววตาแทบจะสามารถฆ่าคนได้ ส่วนเธอก็กำลังฆ่าคนอยู่จริงๆ ปืนพกในมือยิงโจมตีรุนแรง…เพียงแต่ว่าเป็นการฆ่าคนที่ไม่สำเร็จเท่านั้น
“ยัยหนู…มีอะไรพูดกันดีๆ เถอะนะ…ฉันทำผิดต่อเธอ…แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าคนนี่…เธออายุยังน้อย…ทำไมถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้ล่ะ? ฆ่าคนผิดกฎหมายนะ!!”เฉินเป่ยหลบเลี่ยงกระสุนปืนอย่างกระเซอะกระเซิงพลางพูดเกลี้ยกล่อมแบบเร่งรีบ
กระสุนปืนในมือของหลิวจิ้งจิ้งล้วนยิงที่ว่างไปทั้งหมด…เธอโกรธแค้นอย่างยิ่ง ควักกระสุนอีกชุดหนึ่งจากในกระเป๋ามาโดยตรง เปลี่ยนทันใด จากนั้นเล็งเป้าที่เฉินเป่ยอีกครั้ง…
“ปังๆๆ—!” กระสุนปืนนับไม่ถ้วนยิงเข้ามา
หัวใจเฉินเป่ยเต้นรุนแรง หลบหลีกผ่านลูกกระสุนฉับพลัน ถือโอกาสใส่เสื้อผ้าของตนเองด้วย…
“ยัยหนู…ฆ่าคนผิดกฎหมายนะ…เธออายุยังน้อย อย่าทำแบบนี้!” เฉินเป่ยพูดโน้มน้าว
“สารเลว! ตายซะเถอะ! ตายซะ!!” หลิวจิ้งจิ้งยิงปืนติดกันมากขนาดนี้ ทว่ากลับยิงไม่โดนเฉินเป่ยสักนัด…เห็นได้ชัดว่าเธอยิ่งแค้นเคืองขึ้นไปอีก แทบจะสูญสิ้นการควบคุม
“ยัยหนู…เธอใจเย็นลงก่อนนะ…เรื่องระหว่างพวกเรา…รอเธอใจเย็นลงมาแล้วค่อยคุยกัน…” เฉินเป่ยใส่เสื้อผ้า พอเห็นว่าโน้มน้าวไม่ได้…จึงรีบพุ่งออกไปนอกประตูห้อง…ก้าวเท้าวิ่งหนี หาเรื่องไม่ได้…ฉันยังหลบไม่ได้อีกเหรอ?
“สารเลว! อย่าหนีนะ!!” หลิวจิ้งจิ้งเสียการควบคุมและแค้นเคือง เหวี่ยงผ้าห่มทิ้งพุ่งไปหน้าประตูห้องโดยตรง ยิงปืนไปทางระเบียงทางเดิน…
ท้ายที่สุดมองเห็นเฉินเป่ยหายไปจากระเบียงทางเดินต่อหน้าต่อตา…
หลิวจิ้งจิ้งแค้นเคืองอย่างมาก รีบกลับเข้าไปในห้องพัก เปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเอง จากนั้นถือปืนพุ่งออกไปทันที…
รอถึงตอนที่เธอพุ่งลงมาด้านล่างตึกโรงแรม…ก็ไม่เห็นภาพเงาของผู้ชายสมควรตายคนนั้นตั้งนานแล้ว
พนักงานโรงแรมที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์เห็นในมือเธอถือปืนไว้ ตกใจงงไปหมดทั้งตัว…ร่างกายสั่นเทา…
“คุณ…คุณผู้หญิง…” เสียงพนักงานตะโกนเรียกแบบสั่นเครือ “นี่…นี่คือของที่คุณผู้ชายคนเมื่อสักครู่ฝากเอาไว้..เขาบอกว่า…ให้พวกเรามอบให้คุณ…”
เสียงของพนักงานสั่นเครืออยู่ ยื่นการ์ดใบหนึ่งไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า…
ใบหน้าหลิวจิ้งจิ้งหนาวเย็นไร้ที่เปรียบ เดินมาที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างโมโหเดือดดาล พอคว้าการ์ดใบนั้นขึ้นดู…เป็นการ์ดธนาคาร
วินาทีนี้ หลิวจิ้งจิ้งโกรธจนร่างกายสั่นเทา…นี่…ถือว่าให้เงินนิดหน่อยก็เอาตัวเองออกไปได้แล้วเหรอ? หลิวจิ้งจิ้งรู้สึกว่าตนเองถูกเหยียดหยามแล้ว
“สารเลว! ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่!!” เสียงที่แค้นเคืองของหลิวจิ้งจิ้งแพร่ไปทั้งโถงใหญ่ของโรงแรม
และเวลานี้ เฉินเป่ยในฐานะคนต้นเรื่องของหายนะครั้งนี้…กำลังขับรถไมบัคหลบหนีด้วยความรวดเร็ว…
ทันใดนั้นเสียงกริ่งมือถือของเฉินเป่ยดังขึ้น
เป็นหลีชิงเยียนโทรศัพท์เข้ามา เฉินเป่ยพึ่งรับโทรศัพท์…ก็มีเสียงต่อว่าของหลีชิงเยียนลอยมา
“เฉินเป่ย! นายอยู่ไหน? เมื่อคืนไปทำอะไรมา? โทรหานายตั้งแต่เช้าก็ไม่รับสาย ส่งวีแชทไปก็ไม่ยอมตอบกลับทั้งวันไม่เห็นแม้แต่เงา?” เสียงของหลีชิงเยียนต่อว่าอย่างเย็นยะเยือก เห็นได้ชัดว่าโกรธมาก
“เอ่อ…ขอโทษครับ เมื่อคืนดื่มเหล้าไปหน่อย หลับเพลินเลย…” เฉินเป่ยพูดอธิบาย
“ไปดื่มเหล้ากับผู้หญิงที่ไหน?” หลีชิงเยียนถามโดยจิตใต้สำนึก ในน้ำเสียงมีอารมณ์ที่น่าประหลาดใจด้วย
“ไม่ใช่ผู้หญิง เป็นผู้ชายต่างหาก…” เฉินเป่ยไม่สามารถพูดความจริงได้แน่นอน จึงพูดอำพราง “เดี๋ยวผมเข้าไปรับคุณตอนนี้…”
รถไมบัคแล่นฉิวไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลีตลอดทาง เฉินเป่ยมารับท่านประธานเทพธิดา จากนั้นรีบพาเธอไปทำงาน…
ระหว่างทาง เฉินเป่ยสูบบุหรี่ไปมวนแล้วมวนเล่า เหมือนดูกลัดกลุ้มอย่างชัดเจนพอสมควร
“ชิงเยียน…ถามคุณสักเรื่องสิ…” เฉินเป่ยลังเลอยู่ตั้งนาน ค่อยๆ ถามขึ้น
หลีชิงเยียนหันหน้า มองเขาด้วยดวงตาที่สงสัย
“เซวอี้ประธานของเฟยหยางกรุ๊ป รากฐานของเขาที่เมืองหู้ไห่เป็นยังไง?” เฉินเป่ยถามนิ่งๆ ในแววตาของเขาสาดส่องความแหลมคมที่ลุ่มลึกออกมา…นั่นคือเจตนาอยากฆ่า หายนะครั้งนั้นเมื่อคืนนี้ กระตุ้นเส้นแบ่งความโกรธของเฉินเป่ยถึงที่สุดแล้ว…เขาเกิดความคิดอยากฆ่าขึ้นมาแล้ว
ดวงตาหลีชิงเยียนเปล่งประกายความตกตะลึง พลันถามว่า “ทำไมเหรอ? นายถามเรื่องนี้ทำไม?”
สงสัยอยู่ไม่กี่วินาที หลีชิงเยียนก็ตอบสนองกลับมาทันที พูดแบบตกใจ “นายอยากจัดการเซวอี้?”
“ถ้าคุณคิดว่าจัดการได้ วันพรุ่งนี้คุณชายเซวคนนี้จะหายไปจากบนโลก” ดวงตาเฉินเป่ยค่อยๆ แข็งทื่อขึ้น ชั่วขณะนั้นเจตนาอยากฆ่าที่เย็นยะเยือกถูกปลดปล่อยออกมา
วินาทีนี้ หัวใจของหลีชิงเยียนเต้นตุบๆ เปลี่ยนไปสับสน…เขา…อยากจัดการเซวอี้? เป็นเพราะตนเองเหรอ? อารมณ์ในใจของหลีชิงเยียนว้าวุ่นคาดเดาไม่หยุด…
เงียบเชียบไปตั้งนาน หลีชิงเยียนถึงค่อยๆ พูดว่า “เบื้องหลังของเซวอี้…ถ้านายแตะต้องเขาเข้า…อาจจะโยงไปถึงผลประโยชน์ของบริษัท…ช่วงนี้อย่าพึ่งจัดการเลย…ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ฉันไม่อยากให้บริษัทเผชิญหน้ากับการคุกคามอีก”
เสียงของเธอมีความซับซ้อนจำใจ เธอแค่ไม่อยากยั่วยุการทะเลาะวิวาท…และไม่อยากให้เฉินเป่ยพัวพันเข้าสู่ความวุ่นวายครั้งนี้…นี่คือปัญหาล้ำลึกที่ไม่ทางแก้ได้อย่างหนึ่ง…ลึกมากจนไม่เห็นปลายทาง
ได้ยินคำพูดของหลีชิงเยียน เฉินเป่ยค่อยๆ ดูดบุหรี่ทีหนึ่ง…เจตนาอาฆาตแค้นในแววตานั้นถึงหายไปอย่างช้าๆ…แม้ว่าหลีชิงเยียนจะบอกว่าไม่สะดวกจัดการ…งั้นก็เชื่อฟังเธอแล้วกัน…
เฉินเป่ยย่อมไม่กลัวใครใดๆ เป็นธรรมดา เพียงแต่เขากลัวว่าจะโยงมาถึงหลีชิงเยียน…ความก้าวร้าวโอหังของตนเองจะสร้างวิกฤติที่พูดไม่ถูกให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป นี่…บางทีก็คือความรู้สึกรับผิดชอบที่หมายถึงกันล่ะมั้ง…ก่อนหน้าที่เฉินเป่ยจะกลับมาถึงหัวเซี่ย…แต่ไหนแต่ไรไม่มีความรู้สึกรับผิดชอบและความกังวลพวกนี้…ทว่าตั้งแต่อยู่ด้วยกันกับหลีชิงเยียนมา…พฤติกรรมวิธีการทั้งหมดของเขา…ล้วนต้องพิจารณาผลลัพธ์อีกขั้นเพิ่มขึ้นมา สามารถทำให้ราชาหลงผู้น่าเกรงขามคำนึงถึงความรู้สึกรับผิดชอบส่วนนี้ได้…นี่…เป็นเรื่องที่หญิงสาวมากมายในโลกทิศตะวันตกทำไม่ได้…ในขณะที่หลีชิงเยียนไม่รู้ตัว…เธอกลับทำได้แล้ว~
หลังจากส่งหลีชิงเยียนถึงบริษัท เฉินเป่ยนั่งอยู่ในรถ สูบบุหรี่มวนหนึ่งเสร็จแบบนิ่งสงบ
จากนั้นเขาเลี้ยวหัวรถกลับ…ขับออกไปทันที…
…
หน้าประตูอาคารเฟยหยางกรุ๊ป เหล่าบอดี้การ์ดไม่กี่คนกำลังยืนอยู่หน้าประตูหน้าป้อมยาม
เวลานี้เป็นช่วงเวลาเข้าทำงาน…เหล่าพนักงานต่างรีบมาเข้างานกัน เหล่าพนักงานทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสาย พากันเดินเข้าในตึกอาคาร
ทันใดนั้นเสียงเครื่องยนต์คำรามดังขึ้น รถไมบัคสีดำคันหนึ่งแล่นเข้ามาจากระยะไกล
“หยุดรถ!” เหล่าบอดี้การ์ดไม่กี่คนเห็นรถคันนี้เข้า ชั่วขณะนั้นสีหน้าเย็นชา อยากเข้าไปห้าม
“ปึง!” รถไมบัคชนไม้กั้นที่อยู่ด้านหน้าประตูจนพัง ก่อนจะพุ่งเข้าข้างในอาคาร สะบัดท้ายจอดอยู่หน้าประตูใต้ตึกอาคาร
ในปากเฉินเป่ยคาบบุหรี่ไว้ ค่อยๆ ก้าวออกมาจากรถไมบัค
บรรดาพนักงานเฟยหยางกรุ๊ปกลุ่มหนึ่งที่อยู่โดยรอบตื่นตะลึงกันหมด…มองรถยนต์และผู้ชายคนนี้แบบอึ้งๆ…
เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน? แม้แต่ประตูใหญ่เฟยหยางกรุ๊ปของพวกเขายังกล้าชน?
ด้านหลัง พนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งถือกระบองไฟฟ้าพุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย ล้อมรอบเฉินเป่ยไว้เป็นวง
“แกเป็นใคร? ใจกล้าบ้าบิ่น…กล้าชนประตูเฟยหยางกรุ๊ปของพวกเรา? ไม่อยากอยู่แล้วรึไง?” เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยชี้กระบองไฟฟ้าไปยังเฉินเป่ย พูดอย่างโมโห
เฉินเป่ยค่อยๆ พ่นควันบุหรี่ออก พูดนิ่งๆ “มาส่งของให้ประธานเซวอี้ของพวกแก”
“ส่งของอะไรกัน? บริษัทขนส่งที่ไหน?” เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้นมึนงง ตวาดถามขึ้น
“1024” เฉินเป่ยพูดอย่างลุ่มลึกน่าประหลาด มุมปากฉีกรอยยิ้มที่เหมือนเยาะเย้ยขึ้น…
เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้นมองหน้าซึ่งกันและกัน…ตอบสนองกลับมาไม่ทันเท่าไร… 1024? ชื่อนี้ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง?
“ผู้…ผู้จัดการ… 1024…เป็นเว็บไซต์อันนั้นนี่…” ลูกน้องคนหนึ่งขยับมาด้านหน้าผู้จัดการพนักงานรักษาความปลอดภัยเบาๆ พูดด้วยความระมัดระวัง
ได้ยินคำพูดนี้ ผู้จัดการพนักงานรักษาความปลอดภัยตื่นตกใจในชั่วขณะนั้น เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งล้วนแปลกใจกันจนพูดไม่ถูกอยู่บ้าง…
ตอนที่บรรดาพนักงานรักษาความปลอดภัยมึนงงอึ้งทึ่งกัน…
รถบรรทุกขนส่งสองคันค่อยๆ ขับมา จอดอยู่ที่หน้าประตูเฟยหยางกรุ๊ปแล้ว
“สินค้ามาถึงแล้ว” มุมปากเฉินเป่ยฉีกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น ค่อยๆ เดินไปที่รถบรรทุกขนส่ง
“เมื่อช่วงเช้านี้…คือคุณสั่งของไว้สินะ?” พนักงานขนส่งถามขึ้น
เฉินเป่ยคาบบุหรี่ไว้ พยักหน้ารับ
“เอาสินค้าลงไว้หน้าประตูอาคาร” เฉินเป่ยพูดอย่างนิ่งเฉยลุ่มลึก
“หา?” พนักงานขนส่งหลายคนนั้นประหลาดใจพอสมควร…ลูกค้าคนนี้…ความต้องการนี้ช่างประหลาดมาก? แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก…พวกเขาเพียงรับหน้าที่ส่งสินค้า ไม่รับผิดชอบอย่างอื่น
รถบรรทุกขนส่งสองคันขับรถถอยมาที่หน้าประตูเฟยหยางกรุ๊ปโดยตรง จากนั้นสินค้าแต่ละกล่องถูกย้ายลงจากรถทันที
“ใช่แล้ว ฉีกสินค้าออกให้ฉันด้วย เทออกมา”เฉินเป่ยพูดแบบมีเลศนัย ขณะเดียวกันทิ้งเงินปึกหนาให้พนักงานขนส่งไป
พนักงานขนส่งหลายคนนั้นดวงตาลุกวาว รับเงินมาทำงาน
“พรวด!” กล่องสินค้าแต่ละลังถูกแกะออก ถุงยางอนามัยดูเร็กซ์สีชมพู สีฟ้า สีแดงกองใหญ่สาดกระจายออกมาในชั่วขณะนั้น…เทเกลื่อนกลาดเต็มไปทั่วหน้าประตูอาคาร…
พนักงานกลุ่มหนึ่งโดยรอบหน้าตาตะลึง…มองฉากนี้ด้วยความงงวย…นี่…นี่คือสินค้าอะไรกัน? นี่แม่งล้วนเป็นถุงยางอนามัย นี่คือ…อยากทำอะไรกัน?
เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้นก็ตาค้างเช่นกัน มองถุงยางอนามัยที่เต็มพื้นนี้กันแบบอึ้งๆ…
พนักงานขนส่งกลุ่มนั้นเทของต่อไป นำสินค้าในกล่องเทออกมาให้หมด
“ครืน!” เซ็กซ์ทอยกองใหญ่ตกกระจายอยู่ที่พื้นทันใด…อุปกรณ์เลียนแบบสารพัดเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น…แพร่กระจายสีสันที่ลึกลับ
เหล่าพนักงานโดยรอบถลึงตาโตแข็งเป็นหินกันถึงที่สุด… เชี้ย… นี่แม่ง…นี่คืออยากทำอะไร?
“เฮ้ยทำอะไร? หยุดให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย!!” เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้นตอบสนองเข้ามาทันใด…นี่เดิมทีไม่ใช่มาส่งพัสดุหรอก นี่แม่งเห็นได้ชัดว่ามาก่อความวุ่นวาย
พนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งเข้ามาโดยตรง พยายามห้ามพนักงานขนส่งไว้
เฉินเป่ยคาบบุหรี่ไว้ ค่อยๆ สกัดขวางด้านหน้าเหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้น…
บรรดาพนักงานรักษาความปลอดภัยสีหน้าเย็นเฉียบไร้ที่เปรียบ เสียงของกระบองไฟฟ้าแต่ละอันดังเปรี๊ยะๆ กวัดแกว่งมายังเฉินเป่ยโดยตรง
เฉินเป่ยใช้มือจับกระบองไฟฟ้าที่ดังเปรี๊ยะๆ นั้นไว้โดยตรง ก่อนจะใช้แรงบีบ
“แกรก!” กระบองที่กระแสไฟฟ้าเป็นประกายในมือพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้นถูกบิดจนกลายเป็นเกลียวแล้วในชั่วขณะหนึ่ง
“แม่งเอ๊ย!” เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยโกรธเคืองแล้ว คนกลุ่มหนึ่งจู่โจมมาอย่างเหี้ยมโหดไร้ที่เปรียบ
เฉินเป่ยคาบบุหรี่ไว้ ฝ่ามือกลายเป็นภาพวืดทันที
“ป้าบ ป้าบ ป้าบๆๆ…!” เสียงตบหน้าที่ดุเดือดกังวานหลายที
เหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างกับตุ๊กตา ถูกเฉินเป่ยตบจนลอยไปโดยตรง… ภาพเขย่าขวัญน่าตกใจขั้นสุด
“อย่ามัวอึ้ง ย้ายต่อไป” เฉินเป่ยตะโกนใส่พนักงานขนส่งที่อึ้งทึ่งกลุ่มนั้น ขณะเดียวกันก็ทิ้งธนบัตรปึกหนึ่งเข้าไปอีก…
เหล่าพนักงานขนส่งกลุ่มนั้นฮึกเหิมอย่างยิ่ง ขนสินค้ากันสุดชีวิต
เซ็กซ์ทอยแต่ละกล่อง…ไวอากร้า…ถุงยางอนามัยดูเร็กซ์…สินค้าสองคันรถเต็มๆ…ทั้งหมดแม่งเทลงมาแล้ว…กองเต็มหน้าประตูใหญ่ของเฟยหยางกรุ๊ป แทบจะกองสะสมเป็นภูเขาขนาดย่อมลูกหนึ่งได้
ที่เกิดเหตุ เหล่าพนักงานกลุ่มนั้นของเฟยหยางกรุ๊ปอึ้งทึ่งแข็งเป็นหินกันหมด…มองฉากนี้ด้วยความมึนงง…นี่…นี่แม่งเกิดเรื่องอะไรกันแน่?
ในที่สุดเซ็กซ์ทอยเต็มคันรถขนก็ลงมาหมด…กองรวมกันดุจภูเขา…อุดที่หน้าประตูอาคารของเฟยหยางกรุ๊ปแน่นแล้ว น่าตกใจอย่างมาก
เฉินเป่ยคาบบุหรี่อยู่ หยิบป้ายผ้าขนาดใหญ่สองผืนออกมาจากในกระโปรงรถด้านหลังรถไมบัค เขากระโดดร่างกายขึ้นฉับพลัน ชั่วพริบตาเดียวก็กระโดดขึ้นกลางอากาศ…นำป้ายผ้าสองผืนนั้นแบ่งไปติดบนผนังสองข้างของหน้าประตูอาคารแล้ว