สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 69
ตอนที่ 69 ตัวตนที่แท้จริง!
หลังจากเฉินเป่ยออกจากห้องทำงาน หลีชิงเยียนเอามือกอดอกจ้องมองไปที่ด้านหลังของเฉินเป่ยด้วยความโกรธ ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”
หลีเฉว่าเห็นหลีชิงเยียนที่ยังคงหงุดหงิด กระซิบว่า “มีแขกที่ไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า แต่เขาจะขอพบคุณ”
“ ใคร?” หลีชิงเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติ ครั้งนี้เธอถูกหลินเฉว่รบกวน ในใจของเธอรู้สึกโกรธอย่างบอกไม่ถูก
“แขกบอกว่า … เป็นคนในครอบครัวของคุณ” ใบหน้าที่งดงามและใสซื่อของหลินเฉว่แสดงความลังเลและกล่าวอย่างแปลกประหลาด
“ครอบครัว?” หลีชิงเยียนยกคิ้ว คิดไปสักพัก ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉันรู้แล้ว คุณไปทำงานของคุณเถอะ” หลีชิงเยียนสั่งให้หลินเฉว่ไป เหยียบรองเท้าส้นสูง เดินไปที่หน้าต่าง มองไปที่รถสีดำที่จอดอยู่หน้าอาคารตระกูลหลี ทันใดนั้น ความซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงาม
หลินเฉว่เดินออกจากห้องทำงาน ยังไม่ทันก้าวไปข้างหน้า ก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังเธอ “ เลขาหลิน เมื่อกี้พูดอะไรกับประธานหลีเหรอ?”
หลินเฉว่หยุดเดิน หันไปเห็นเฉินเป่ยยืนพิงอยู่ที่มุม คาบบุหรี่อยู่ในปาก
“คุณเฉิน บริษัทกำหนดชัดเจนว่า ห้ามสูบบุหรี่” กลิ่นควันที่แสบจมูกกระจายอยู่ทั่วอากาศ หลินเฉว่ขมวดคิ้วเล็กน้อ ยปิดจมูกและปากของเธอ
“ข้อบังคับของบริษัท มีผลบังคับใช้สำหรับพวกคุณ แต่ไม่มีผลกับผม” เฉินเป่ยยกมุมปาก โน้มตัวไปใกล้หลินเฉว่ พูดด้วยรอยยิ้ม “หลินเสฉว่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” “ ข้างนอกบริษัท มีกลุ่มคนที่ยืนกรานอยู่ จะพบคุณหลีให้ได้ ดูเหมือนไม่ได้มาดี” หลินเฉว่เหลือบมองไปรอบๆ พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“คนที่มาไม่ได้จะดี?”เฉินเป่ยเย็นชาเล็กน้อยและมีความหมายลึกซึ้งแวบเข้ามาในดวงตาของเขา
“ผมรู้แล้ว เลขาหลิน น้ำหอมของคุณ … มันหอมมาก” เฉินเป่ยเดินไปที่ลิฟต์ แต่หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว เขาก็หยุดและพูดว่า
“อ๋า … ” ใบหน้าที่บริสุทธิ์ราวกับนางฟ้าของหลินเฉว่ก็แข็งตัวขึ้นทันที จ้องมองหลังเฉินเป่ยที่จากไป โดยที่แข็งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน
ผ่านไปเป็นเวลานาน ใบหน้าสวยของหลินเฉว่ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
ทางเข้าอาคารของตระกูลหลี ในรถสีดำ หลีหงและหลีเช่าเทียนนั่งอยู่ในนั้น สีหน้าหลีหงดูสงบ ส่วนหลีเช่าเทียนสีหน้าดูนิ่งมาก
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ประตู ห้ามป้าและป้าสองของตระกูลหลีไว้ทันใดนั้น ป้าก็ยกมือขึ้นตบหน้ารปภ. คนหนึ่ง! “ กล้าดียังไง แม้แต่ฉันก็กล้า!” ป้าดุว่าเสียงดังและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็สั่นด้วยความกลัว แม้ว่าพวกเขาจะยังคงขวางประตูอาคารตระกูลหลีอยู่ แต่บรรยากาศฝั่งของพวกเขาดูอ่อนลงมากแล้ว
“ใช่ ฉันบอกคุณแล้วว่านามสกุลของเราคือหลี คุณได้ยินหรือยัง ให้หลีชิงเยียนออกมาพบเราเร็ว!” ป้าสองกล่าว
“ขออภัยด้วยครับ เราไม่ได้รับคำสั่งให้เข้า ท่านทั้งสองก็เข้าไปไม่ได้” รปภ. เอาแต่ขอโทษ แต่เพราะความเป็นมืออาชีพของเขาสูงมาก เขาจึงสามารถหยุดป้าและป้าสองไว้ข้างนอกได้
ในไม่ช้า ผู้คนมากมายมารวมตัวกันที่ทางเข้าอาคารตระกูลหลี ทุกคนต่างก็ดูอย่างสนุกสนาน
ในขณะนี้เอง ฝูงชนที่พลุกพล่านได้หลีกทางออกมาหนึ่งทาง
ในตอนท้ายของถนน เงาที่สวยงามยืนอยู่ที่นั่น ดึงดูดความสนใจนับไม่ถ้วนในพริบตา ป้าใหญ่กวาดมองไปที่รูปร่างที่มีทรวดทรงองเอวของหลีชิงเยียน ส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชาและพึมพำกับตัวเองว่า “นางจิ้งจอก”
หลีชิงเยียนเดินเข้ามาช้าๆ กวาดมองป้าและป้าสองแล้วถามว่า”เกิดอะไรขึ้น?”
“ชิงเยียน เรามาที่นี่เพื่อหาคุณเป็นพิเศษ” ในเวลานี้ ในที่สุดหลีหงก็ก้าวออกจากรถสีดำและเดินไปหาหลีชิงเยียน
“ คุณปู่พาคนจำนวนมากมาที่บริษัทของฉันทำอะไร?” แม้ว่าการแสดงออกทางสีหน้าของหลีชิงเยียนจะผ่อนคลายและอ่อนโยนมากแล้ว แต่ความระมัดระวังในดวงตาที่สวยงามของเธอก็ยังไม่ลดลง
คนกลุ่มนี้ เคยวางแผนที่จะกลืนกินบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมาก่อน ดังนั้นตอนนี้พวกเขามาที่นี่ จะมีอะไรดีละ
บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปก่อตั้งโดยเธอและหลีหยาง ใช้ความพยายามและทุ่มเทไปมากมายกว่าจะเป็นแบบนี้ แน่นอนว่าหลีชิงเยียนไม่ยอมมอบให้กับคนอื่นง่ายๆอยู่แล้ว
“ มันไม่เหมาะสม ที่จะพูดที่นี่” หลีหงมองไปรอบ ๆ
หลีชิงเยียนเหลือบมองไปที่ฝูงชนและกล่าวว่า “บริษัท มีห้องประชุม ไปที่ห้องประชุมแล้วพูดกันเถอะ”
พวกเขาเดินเข้ามาในห้องประชุม หลีหงมองไปรอบ ๆ และยิ้ม “ชิงเยียน คุณเฉิน?”
หลีชิงเยียนรินชาให้หลีหงและพูดอย่างโมโหว่า “เขา ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหน”
“ คุณปู่ เรียกชื่อเขาโดยตรงเลย อย่าเรียกเขาว่าคุณเฉิน” หลีชิงเยียนพูดเบาๆ
หลีหงส่ายหัวหลีชิงเยียนไม่รู้หรอก ว่าทำไมเขาถึงเคารพเฉินเป่ย
ถ้าหลีชิงเยียนรู้สักนิด เธอจะไม่มีท่าทีแบบนี้ต่อเฉินเป่ยเลย
“ชิงเยียน คุณยังเด็ก หลายสิ่งหลายอย่างคุณยังไม่เข้าใจ” หลีหงกล่าวช้าๆ “คราวนี้ เรามาที่นี่เพื่อคุณเฉิน”
“ เรื่องรักษาคนป่วยอีกแล้วเหรอ?” หลีชิงเยียนเอามือกอดอก คิ้วขมวดไว้แน่นน
หลีหงพยักหน้า หลีชิงเยียนนิ่งเงียบ ฟันของเธอกัดริมฝีปากแดงของเธอไว้ ในใจคิดอยากจะฉีกเนื้อเฉินเป่ยเป็นชิ้นๆ!
ถ้าเขาไม่ออกหน้าในตอนนั้น ตอนนี้ก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก
“ ชิงเยียน คุณให้เขากลับมาได้ไหม?” หลีหงถาม
หลีชิงเยียนส่ายหัว ดวงตาที่สวยงามของเธอแสดงความแน่วแน่“ คุณปู่ ถ้าคุณต้องการดุปรดดุฉันเถอะ”
“ดุคุณ?” หลีหงชะงักไปชั่วขณะ “ทำไมต้องดุคุณด้วย?ผมจะมาชื่นชมพวกคุณต่างหาก
ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากพวกคุณ ตระกูลถังคงจบแล้ว!”
“ชื่นชม?” หลีชิงเยียนตกตะลึง เธอซึ่งเป็นเด็กฉลาดมาโดยตลอด ในขณะนี้คิดไม่ได้สักที ว่าทำไมหลีหงถึงชื่นชมเขา?
“ เราไม่ได้ช่วยอะไรเลย คุณปู่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว?” หลีชิงเยียนประหลาดใจ
“ ไม่ได้เข้าใจผิด ถ้าไม่ใช่เพราะใบสั่งยาที่คุณเฉินให้มา คุณถังเต๋อก็คงไม่มีความหวังเลย” หลีหงหยุดชั่วขณะและกล่าว“ ชิงเยียน คุณและคุณเฉินช่วยเรามากจริงๆ ถ้าไม่มีพวกคุณ ถังเต๋อจะยังคงไม่เชื่อใจผม”
หลีชิงเยียนตะลึง! ก่อนหน้านี้ระหว่างทางตนเองยังได้ตำหนิเฉินเป่ย ไม่มีปัญญาก็อย่าเสนอหน้า
ทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องแพทย์ แต่ไม่รู้ยังจะแสร้งทำเป็นรู้อีก!
แต่ตอนนี้ หลีหงกลับบอกเธอว่า เฉินเป่ยเขียนใบสั่งยาให้รักษาโรคที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจำนวนนับไม่ถ้วนรักษาไม่ได้ ช่วยชีวิตถังเต๋อไว้!
คนที่ทำทั้งหมดนี้ไม่ใช่หลีหง ไม่ใช่หลีเช่าเทียน แต่เป็นลูกเขยที่ไม่เด่นของตระกูลหลี! หลีชิงเยียนไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดนี้ ดูเป็นเรื่องที่ไม่จริงเลย ทำให้เธอเวียนหัวเล็กน้อย … “ คุณหมายความว่า มันเป็นใบสั่งยาของเฉินเป่ย ที่ช่วยถังเต๋อไว้ เขารู้เรื่องการแพทย์?” หลีชิงเยียนถามหลีหง อย่างไม่เชื่อ หลีหงยิ้มและพยักหน้า“ สามารถเขียนใบสั่งยาเพื่อรักษาโรคและชีวิตคนป่วยไว้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เข้าใจเรื่องแพทย์ วันนี้ที่ผมมาหนึ่งคืออยากมาบอกคำพูดของคุณถังเต๋อให้เขา สองคือผมอยากจะคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว”
สีหน้าของหลีชิงเยียนชะลอเล็กน้อย “คุณรอก่อน ฉันจะตามเขามา”
หลีชิงเยียนก้มศีรษะลงและส่งข้อความ หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีหัวโผล่เข้ามาจากด้านนอกห้องประชุม เฉินเป่ยปรากฏตัวต่อหน้าหลีชิงเยียนและถามด้วยความสนิทสนมว่า “ชิงเยียน หาผมมีธุระอะไรเหรอ? ”
“ คุณเข้าใจเรื่องแพทย์จริงเหรอ?” หลีชิงเยียนถามเฉินเป่ยด้วยความเย็นชา
เฉินเป่ยใจสั่นเล็กน้อย กวาดมองไปที่คนในตระกูลหลีที่อยู่ในห้องประชุมและยิ้มฝืนๆว่า “ผมไม่รู้หรอก แต่ครั้งหนึ่งผมเคยรู้จักหมอชราคนหนึ่ง ท่านเคยรักษาคนป่วยที่คล้ายกับโรคนี้ ผมจึงจดสูตรยานี้มา … ไปลองเสี่ยงโชคดู … ”
“ คุณไม่เข้าใจเรื่องแพทย์ ทำไมแค่ดูหนึ่งครั้ง คุณก็สามารถจดมันลงมาได้ละ?” ดวงตาของหลีเช่าเทียนเย็นชา เฉินเป่ยไม่รู้เรื่องแพทย์ เขาไม่เชื่อ!
“ ผมแค่ช่วยเขาปรับปรุงใบสั่งยาให้มันสมบูรณ์ แต่ผมไม่ได้เป็นคนเขียน” เฉินเป่ยพูดอย่างเฉยเมยและตอบโต้กลับโดยไม่ลังเล
ป้ากับป้าสองถอนหายใจยาว หินที่ห้อยอยู่ในใจก็วางลง
พวกเธอกังวลว่าเฉินเป่ยจะรู้จริง ถ้าเช่นนั้นพวกเธอจะไม่สามารถอยู่ในเมืองหู๋ไห่ต่อไปได้ อายจนไม่มีที่ยืน!
โชคดี ไอ้แต่งเข้ามาในบ้านไม่รู้เรื่องแพทย์
“ ฉันว่าละ คนขับรถอย่างเขา จะรู้เรื่องแพทย์ได้อย่างไร ” ป้ายิ้มเยาะ
“ เขาขับรถให้มันดีๆก็ขอบคุณฟ้าแล้ว เรื่องแพทย์ที่ลึกซึ้งเช่นนี้ ดีนะที่ในวันนี้เขาโชคดีไป รักษาโรคจนหายโดยไม่ตั้งใจ ไม่เช่นนั้น … วันนี้ตระกูลหลีจะต้องอับอายขายหน้าแน่นอน!” ป้าสองพูดตาม
หลีหงโบกมือ ทำท่าทางให้ทุกคนออกไป
แม้แต่หลีชิงเยียนก็ถูกหลีหงเชิญออกไป
“ คุณเฉิน คุณสามารถบอกตัวตนที่แท้จริงของคุณได้หรือไม่?” ทันใดนั้น หลีหงก็มองดูเฉินเป่ยด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม หัวใจของเฉินเป่ยสั่นไหวและเขามองไปที่ดวงตาของ หลีหง ฉับพลันและลึกล้ำ!