สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 85
บทที่ 85 นักฆ่าล่ะ?
ด้านบนของกริชสีดำขลับราวกับหมึกเล่มนี้ แกะสลักลวดลายที่โบราณสลับซับซ้อน ราวกับเป็นสัญลักษณ์ชาติกำเนิดของแต่ละบุคคล เต็มไปด้วยความลึกลับ
บนคมมีดของกริช มีเงี่ยงที่แหลมคมมาก ราวกับเป็นกรงเล็บและฟันของปีศาจที่ดุร้าย!
โจวโจ้แห่งเชียนเย่มองกริชเล่มนี้ ราวกับได้มองอะไรบางอย่างที่น่าตกใจกลัว ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อและความหวาดกลัว!
“โจวโจ้แห่งเชียนเย่ ยังจำมันได้ไหม?” เฉินเป่ยเอ่ยปากอย่างวางเฉย น้ำเสียงสงบนิ่ง แต่กลับมีความเย็นยะเยือกก่อตัวขึ้นบางๆ
“หลงหยา……มันมาอยู่ในมือของนายได้อย่างไร……” โจวโจ้แห่งเชียนเย่เสียงสั่น ร่างกายควบคุมอาการสั่นเทิ้มเอาไว้ไม่ได้
เฉินเป่ยกำลังจ้องมองกริชสีดำขลับราวกับหมึกเล่มนี้ ในสายตาที่สงบลึกซึ้ง ปรากฏความคิดถึงที่หลากหลาย
หลงหยา……กริชเล่มนี้อยู่เป็นเพื่อนเขามาหลายปีแล้ว ราวกับเป็นเพื่อนเก่ากันอย่างนั้น ยกทัพไปปราบปรามที่ต่างประเทศ ท่ามกลางห่ากระสุนปืนที่นับไม่ถ้วนก็ได้รับหัวของศัตรู……หลงหยา เป็นเพียงอาวุธชิ้นหนึ่ง แต่กลับทำให้คนไม่น้อย หน้าถอดสีเมื่อได้พบ!
การมีอยู่ของหลงหยา ก็เป็นสัญลักษณ์หนึ่ง…… เป็นพลังที่ต่างประเทศล้วนแต่รับรู้ หลงหยา เป็นความหมายของราชาหลงที่โจมตีได้อย่างน่ากลัวและรุนแรงที่สุด!
แม้ว่าฐานะของโจวโจ้แห่งเชียนเย่จะเป็นนักดาบคนแรกของประเทศหมู่เกาะ แม้ว่าจะเป็นบุตรของสวรรค์ก็ต้องเคารพนอบน้อม ตอนที่เห็นหลงหยาเล่มนี้……ความมั่นใจความทระนงก็โดนตีแตกไปทันที!
หลงหยา……สั่นสะเทือนสยบใจต่างประเทศ สั่นสะเทือนสยบใจทั้งกลุ่มต้นหญ้าทั้งผู้มีอิทธิพลอย่างนับไม่ถ้วน!
“โจวโจ้แห่งเชียนเย่……คำเตือนของฉัน นายก็กล้าลืม……” เฉินเป่ยเอ่ยปากอย่างใจเย็น สายตายากที่จะเข้าใจ มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยความโหดร้ายที่ทำให้คนหวาดกลัว……
โจวโจ้แห่งเชียนเย่สั่นระริกไปทั้งตัว ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง กำลังจ้องเฉินเป่ยอย่างแน่วแน่ เขาคิดอะไรได้อย่างกะทันหัน จึงตะโกนออกมาอย่างหวั่นไหว “เป็นไปไม่ได้……เป็นนายไปไม่ได้แน่ๆ……นายจะเป็นเขาได้อย่างไร!”
โจวโจ้แห่งเชียนเย่ที่วางเฉยสงบนิ่งมาโดยตลอด เป็นครั้งแรกที่เขาบ้าคลั่งเช่นนี้ มือทั้งสองของเขากำหมัดแน่น สายตาที่มองเฉินเป่ยเหลือแต่ความไม่เชื่อ!
“เฮอะ โจวโจ้แห่งเชียนเย่ ความจริงวางอยู่ตรงหน้านายแล้ว……นายไม่ยินยอมจะเชื่อเองนะ” เฉินเป่ยเก็บหลงหยาขึ้นมา ยิ้มอย่างวางเฉย
“หลง……เป็นไปไม่ได้……เขาปลดเกษียณไปแล้ว คนที่อยู่ในระดับเหมือนกับเขาอย่างนี้ ทำไมถึงลดเกียรติมาอยู่บนแผ่นดินที่สกปรกผืนนี้ มาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงของครอบครัวที่มีอิทธิพลทั่วไปอย่างนี้……” โจวโจ้แห่งเชียนเย่ตัวสั่น ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาล้วนแต่ไม่ยินยอมจะเชื่อ ตัวตนของเฉินเป่ย!
คนหนึ่ง เป็นตำนานเหนือชั้นที่สั่นสะเทือนต่างประเทศ……ทำให้อิทธิพลของประเทศใหญ่ๆนับไม่ถ้วนไม่อยากกระทบกระเทือนไปถึง ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นลูกเขยของตระกูลเล็กๆที่มีอิทธิพล ต่ำต้อยราวกับเศษฝุ่น
สองคนนี้ โจวโจ้แห่งเชียนเย่ไม่มีทางเชื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว……ไม่นึกว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน!
นี่……เป็นไปได้อย่างไร! โจวโจ้แห่งเชียนเย่ราวกับโดนฟ้าผ่า อย่างไรเขาก็คิดไม่ถึง เขามาหัวเซี่ยเพื่อแก้แค้นให้หลงซื่อหลางแห่งสำนักเชียนเย่ ไม่นึกว่า……จะได้พบกับคนๆหนึ่งที่ชีวิตนี้เขาไม่อยากเจอ!
“นายกำลังสวมรอยเป็นเขาอย่างแน่นอน! ฉันไม่เชื่อ!” โจวโจ้แห่งเชียนเย่กัดฟันเอ่ยปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ล้มเลิกความตั้งใจใช่ไหม?” ใบหน้าที่วางเฉยของเฉินเป่ยชะงักขึ้นมาทันที สายตาส่งความเย็นยะเยือกที่ทำให้ใจของโจวโจ้แห่งเชียนเย่สั่นไหว!
“อย่างนั้นฉันก็จะทำให้นายเลิกล้มความตั้งใจอย่างถึงที่สุด……” เฉินเป่ยค่อยๆเอ่ยปาก “ปีนั้น นายสาบานกับฉัน ว่าชีวิตนี้จะไม่เข้ามาก่อเรื่องที่หัวเซี่ยแม้แต่เพียงครึ่งก้าว……แต่ที่ฉันคิดไม่ถึง ไม่นึกว่านายจะกล้าฝ่าฝืนคำสาบาน……”
สายตาของเฉินเป่ยแค่ชั่วพริบตา ท่าทางดุร้ายของคลื่นลูกใหญ่ที่แผ่กระจายออกมาม้วนเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป นำโจวโจ้แห่งเชียวเย่ครอบคลุมไปอยู่ในนั้น
อุณหภูมิของอากาศลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งร่างของโจวโจ้แห่งเชียนเย่สั่นระริก สายตาทั้งหมดโดนแทนที่ด้วยความตกใจและความสิ้นหวัง!
สายตาของเฉินเป่ยราวกับสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย ราวกับดาบที่แหลมคม กลิ่นคาวเลือดที่น่ากลัวพุ่งออกมา……คุกคามจนหวาดผวา!
โจวโจ้แห่งเชียนเย่เลิกล้มความตั้งใจในทันที……ใบหน้าซีดขาวสิ้นหวัง……เป็นเขาจริงๆ!
โจวโจ้แห่งเชียนเย่ไม่เคยเห็นหน้าของเฉินเป่ยเลย แต่กลับจำสายตาที่เย็นชาดุร้ายและด้านหลังนั้นได้ตั้งแต่แรก!
นั่นคือท่ามกลางคืนฝนตก โจวโจ้แห่งเชียนเย่ได้รับเงินก้อนใหญ่เป็นค่าจ้าง ให้สังหารคนที่เป็นระดับหัวหน้าคนหนึ่ง แต่ก็ตอนที่อยู่บนเรือ เขาเป็นคนลงมือปฏิบัติหน้าที่ด้วยตนเอง แต่กลับล้มเหลว……
เนื่องจาก เขาพบฝันร้าย ฝันร้ายที่พันรอบตัวเขามาตลอดชีวิต
ท่ามกลางฝนตกหนัก เขาแค่เห็นดวงตาคู่นั้นภายใต้หน้ากาก กลิ่นคาวเลือดเย็นยะเยือก ราวกับเป็นดวงตาของสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย
ครั้งนั้นเขาโชคดีที่หลบหนีไปได้ หลังจากกลับมาที่ประเทศหมู่เกาะ ตั้งแต่นั้นก็ไม่เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ใดๆอีกเลย ตั้งอกตั้งใจ……วันนี้จึงกลายมาเป็นปรมาจารย์
อย่างไรเขาก็คิดไม่ถึง ว่าจะมีวันหนึ่ง ตอนที่เขาเตรียมจะแก้แค้นให้หลงซื่อหลางแห่งสำนักเชียนเย่ ไม่นึกว่าจะได้พบชายคนนั้นที่กลายเป็นฝันร้ายของเขา
และ เขาที่มีฐานะเป็นนักดาบคนแรกของประเทศหมู่เกาะ ไม่นึกว่าจะไม่มีเรี่ยวแรงตอบโต้กลับไป……
ชายคนนี้ ปีนั้นทำให้เขารู้สึกถึงความหวาดกลัวสิ้นหวัง……วันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น!
นี่ก็เป็นชายที่อยู่บนจุดสูงสุดของพีระมิด……ทำให้อิทธิพลต่างประเทศนับไม่ถ้วน ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงความแหลมคมของเขา
“เป็นคุณจริงๆ……คุณไม่ใช่ปลดเกษียณไปแล้วเหรอ……” โจวโจ้แห่งเชียนเย่พึมพำ
“ฉันเป็นแค่ลูกเขยคนหนึ่งของตระกูลหลี ไม่มีการปลดเกษียณอย่างที่พูด” เฉินเป่ยค่อยๆเอ่ยปาก
โจวโจ้แห่งเชียนเย่หัวเราะกับตนเอง ตระกูลหลีประพฤติตัวมีคุณธรรม ไม่นึกว่าจะสามารถทำให้ตำนานคนนี้ยินยอมปลดเกษียณ……แล้วใช้ชีวิตอยู่ที่หัวเซี่ยอย่างสบายใจ
ถ้าโจวโจ้แห่งเชียนเย่รู้ว่า ลูกสาวของตระกูลหลีทำให้เฉินเป่ยกลายเป็นคนรับใช้……คงจะตกใจจนสลบไปแน่ๆ!
ใบหน้าของโจวโจ้แห่งเชียนเย่ราวกับขี้เถ้าที่ดับมอด สิ้นหวังอย่างถึงที่สุด!
“ผลุบ” โจวโจ้แห่งเชียนเย่ คุกเข่าไปทางเฉินเป่ย!!
“หลง……ฉันไม่รู้……ว่าคุณเป็นคนชี้ขาดหลงซื่อหลางแห่งสำนักเชียนเย่……” โจวโจ้แห่งเชียนเย่ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ พยายามขอความเมตตาอีกครั้ง แต่การอธิบายของเขา ไร้เรี่ยวแรงซีดเซียวเกินไป
เฉินเป่ยมองเขาเฉยๆ สายตาเย็นชาลึกล้ำ
นักดาบคนแรกของประเทศหมู่เกาะที่ยิ่งใหญ่ คุกเข่าให้ใคร เรื่องนี้คงพัดกระพือฮือโหมไปทั่วทั้งประเทศหมู่เกาะอย่างแน่นอน!
แต่ คุกเข่าให้เฉินเป่ย กลับเปลี่ยนเป็นเรื่องที่ปกติมาก
เฉินเป่ยเงียบไม่พูดไม่จา เพียงแต่กำลังมองโจวโจ้แห่งเชียนเย่อย่างเย็นชา
“หลง……เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักเสี่ยวเชียนเย่ ทั้งหมดฉันทำเพียงคนเดียว……หลังจากฉันตาย โปรดคุณอย่าไปสืบหาภารกิจของเป่ยเฉินอีตาวหลิวเลย……” โจวโจ้แห่งเชียนเย่ตัวสั่นไปหมด เฉินเป่ยไม่พูดอะไรสักคำ แต่กลับมีความกดดันมากกว่าเดิม
“นายคว้านท้องตนเองเถอะ……ฉันกลัว ว่ามือของฉันจะสกปรก……” เฉินเป่ยพูดออกมา แล้วกลับตัวไปทันที
มุมปากของโจวโจ้แห่งเชียนเย่เผยรอยยิ้มที่เศร้าสลด……ตอนนี้ลำไส้ของเขาล้วนแต่เสียใจแล้ว……เพราะอะไรตนเองถึงมาที่หัวเซี่ย เพราะอะไรถึงอยากมาสร้างปัญหาที่ตระกูลหลี……ใครจะรู้ล่ะ ตระกูลหลี……ไม่นึกว่าจะมีมังกรที่ดุร้ายซ่อนตัวอยู่!
จู่ๆ เฉินเป่ยก็หยุดฝีเท้า เสียงที่วางเฉยลอยมาจากที่ไกลๆ “ไม่ต้องมาตายที่นี่……ภรรยาของฉันติดนิสัยรักความสะอาด ถ้าจะตายก็ไปไกลๆหน่อย……”
“รับคำสั่ง……” มุมปากของโจวโจ้แห่งเชียนเย่นองไปด้วยเลือด สายตาหม่นหมอง
นักดาบคนแรกที่ยิ่งใหญ่ของประเทศหมู่เกาะ ใครก็คงคิดไม่ถึง ไม่นึกว่าจะตกอยู่ในสภาพนี้!
ในคฤหาสน์ ท่ามกลางห้องควบคุมตรวจสอบ หลีชิงเยียนพวกเธอกำลังสงสัย ที่นักฆ่าคนนั้น หายตัวไปอย่างกะทันหัน
ซูเหลยจ้องไปที่เครื่องติดตามแต่ละเครื่องอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบร่องรอยของนักฆ่าคนนั้นเลย
“เขาไปไหนแล้ว?” หลีชิงเยียนถามขึ้น
“ไม่ทราบค่ะ” ซูเหลยส่ายหัว “จุดบอดในแต่ละจุดของคฤหาสน์ล้วนแต่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ ตามที่พูดมาเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ตามจุดลับตาคน……”
แม้ว่าจะใช้ซูเหลยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ก็ไม่นึกว่าจะหาตำแหน่งของนักฆ่าคนนั้นไม่พบ
ใครก็คิดไม่ออก นักฆ่ามาจนถึงประตูทางเข้าบ้านแล้ว แต่กลับหายไปอย่างกะทันหัน
ร่างบอบบางของหลีชิงเยียนแข็งเกร็ง ใจเต้นตึกตักรุนแรง บนใบหน้าสวยๆที่ละเอียดอ่อนเต็มไปด้วยความเครียด
เธอกลัวว่านักฆ่าคนนั้นจะโผล่เข้ามาที่นี่แบบไม่รู้ตัว
ท่านประธานเทพธิดา ยากที่จะได้เห็นใบหน้าที่ละเอียดอ่อนปรากฏสีหน้าที่ช่วยไม่ได้ออกมา อันที่จริง……เธอยังคงเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอบอบบางคนหนึ่ง
ในวงการค้าถึงเธอจะแข็งแกร่งเก่งกาจอย่างไร ในชีวิตจริง เป็นไปได้ว่าแม้กระทั่งชายที่แข็งแรงก็ล้วนแต่จัดการไม่ได้
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในหัวของหลีชิงเยียน ปรากฏร่างของชายลึกลับที่แข็งแรงราวกับซุปเปอร์แมนคนนั้นขึ้นมาทันที
คนลึกลับคนนั้น ปรากฏตัวในช่วงเวลาสำคัญซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่วยเธอเอาไว้
ตอนนี้เขาอยู่ไหน? คราวนี้จะปรากฏตัวออกมา ปกป้องตนเองอีกไหม?
ถึงขั้นที่หลีชิงเยียนเองก็ไม่ได้สังเกตถึง เธอกำลังค่อยๆมีความรู้สึกดีๆกับชายลึกลับคนนั้น โดยที่ไม่รู้ตัว
ท่านประธานเทพธิดาที่แข็งแกร่งดุเดือดอยู่เสมอ เป็นครั้งแรกที่เกิดความเลื่อมใสต่อผู้ชายคนหนึ่ง
ฝีมือเก่งกาจราวกับซุปเปอร์แมนอย่างนั้น เป็นสิ่งที่ผู้หญิงแต่ละคนล้วนแต่คาดหวังว่าผู้ชายของตนเองก็จะมี
ใครก็คงไม่อยากได้ผู้ชายอย่างเฉินเป่ยที่อ่อนแอขนาดนั้น ทุกครั้งที่ประสบอันตรายไม่เคยลุกขึ้นไปอย่างห้าวหาญ แต่กลับหาที่ซ่อนตัวอยู่ตลอด
ถึงขั้นที่หลีชิงเยียนก็เกิดความที่ผิดปกติอย่างถึงที่สุด ถ้าเฉินเป่ยมีฝีมือกับความกล้าหาญอย่างที่คนลึกลับคนนั้นมี ความชิงชังที่ตนเองมีต่อเขา อาจจะน้อยลงสักหน่อย
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ผ่านไปนานแล้ว นอกห้องควบคุมตรวจตรา จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าที่ก้าวอย่างต่อเนื่องกัน!
“ระวัง!” ซูเสี่ยวหยุนเอ่ยปาก เสียงเบาราวกับจะหายไปในอากาศ
หลีชิงเยียนสีหน้าตึงเครียด ดวงตาคู่สวยจ้องไปที่ประตูทางเข้าของห้องควบคุมตรวจตราอย่างแน่วแน่ ร่างบอบบางที่ตึงเครียดสั่นไหวไม่หยุด
ผู้หญิงสามคน หดตัวอยู่ที่มุมห้อง จ้องไปที่ทางเข้าอย่างตื่นตัว ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก็เตรียมพร้อมกันจนถึงขีดสุด
ทางเข้าห้องควบคุมตรวจตรา ปรากฏร่างที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้ายุ่งเหยิง กำลังมองหลีชิงเยียนพวกเธออย่างแปลกๆ ถามขึ้น “ประธานหลี นี่พวกคุณทำอะไรกัน?”
“นายเอง……” หลีชิงเยียนพวกเธอเป่าปากอย่างผ่อนคลาย ซูเสี่ยวหยุนถามขึ้น “นักฆ่าคนนั้นล่ะ?”
“นักฆ่าอะไร? ผมไม่เจอนะ” เฉิยเป่ยสีหน้างงงัน เกาๆหัว
“นายไม่เห็นนักฆ่าเหรอ?” ซูเหลยถาม
“ผมดูทั้งคฤหาสน์แล้วหนึ่งรอบ เห็นแต่ศพเท่านั้น ไม่เจอใครเลย” เฉินเป่ยชะงัก แล้วถามขึ้นอย่างสงสัย “นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เมื่อกี้นายไปไหนมา?” ใบหน้าสวยๆของหลีชิงเยียนจ้องเขม็ง ถามกลับอย่างเย็นชา
“ผม……เมื่อครู่ไปเข้าห้องน้ำมา……” เฉินเป่ยหน้าตาใสซื่อ “ประธานหลี ผมไปเข้าห้องน้ำก็ต้องโดนอบรมเหรอ?”
“นาย……” หลีชิงเยียนเงียบพูดไม่ออก ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงจ้องไปที่เฉินเป่ย
“เข้าห้องน้ำต้องนานขนาดนี้เลย?” ซูเหลยถามอย่างเย็นชา อยากจะเปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเฉินเป่ย
“แค่กๆ ช่วงนี้ด้านในค่อนข้างร้อน ท้องผูก……” เฉินเป่ยยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก ซูเหลยส่งเสียงหึ่มเย็นชา ไม่เชื่อที่เฉินเป่ยพูดอยู่แล้ว พ่นเสียงทุ้มต่ำออกมา “ขี้ขลาด”
“ประธานหลี ~” เฉินเป่ยหันไปประจบทางหลีชิงเยียน ใครๆก็รู้ว่าหลีชิงเยียนไม่มีสีหน้าดีๆให้เขาสักนิด เสียงที่อ่อนนุ่มตะโกนออกมาอย่างเย็นชา “ออกไป!”
ภาพที่สวยงามกี่คนนั้นทยอยกันเดินออกจากห้องควบคุมตรวจตรา ทิ้งเฉินเป่ยไว้ที่เดิม ด้วยใบหน้าที่มึนงง ตนเองก็ต่ำต้อยเกินไปแล้ว!