สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 94
ตอนที่94 ดังใหญ่แล้ว
“เฮ้ย จัดการมัน”หนึ่งในกลุ่มอันธพาลตะโกนสั่ง ก่อนจะจับท่อนเหล็กขึ้นสนิมขึ้นมา แล้วพุ่งเข้าไปหาเฉินเป่ย
คนอื่นๆก็ถอดเสื้อคลุมออก แล้วพุ่งเข้าไปรุมทำร้ายเฉินเป่ย พอพวกเขาถอดเสื้อออก กล้ามเนื้อที่ใหญ่โตของพวกเขา ทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเฉินเป่ยตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด
นี่ไม่ใช่อันธพาลธรรมดา เพราะพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาแล้ว
หลายคนในกลุ่มมีสายตาดุร้าย แผ่รังสีสังหารที่น่าตกใจออกมา พวกเขาเคยฆ่าคนมาแล้ว
ฉึก
เฉินเป่ยถูกล้อมไว้ พวกเขาพุ่งขึ้นมาพร้อมกัน ตั้งใจจะเอาให้เฉินเป่ยตายเลยทีเดียว
เฉินเป่ยเหลือบตามอง สองเท้ากระโดดขึ้นจนพื้นดินสั่นสะเทือน ก่อนจะหายตัวไปจากที่เดิม
“มันไปไหนแล้ว”อันธพาลกลุ่มนั้นยืนอึ้ง มองหน้ากันไปมา
ตอนนี้ดึกมากแล้ว เสียงของเฉินเป่ย ดังขึ้นมาในความมืด อันธพาลกลุ่มนั้นมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นเงาของเฉินเป่ยเลย
“ลูกพี่ มันคงไม่ได้หนีไปแล้วหรอกนะ” หนึ่งในอันธพาลพูดขึ้น
วินาทีต่อมา เฉินเป่ยก็มองกลุ่มอันธพาลกลางอากาศ สองมือขยับ มือขวาที่จับมีดเคี้ยวมังกรไว้ เอ็นข้อมือทั้งสองข้างผุดขึ้นมา
ปึก
เฉินเป่ยกระโดดลงบนพื้น พื้นปูนที่แข็งแกร่ง… แยกออกเป็นเสี่ยงๆ
ใต้เท้าของเฉินเป่ย มีรอยเหมือนใยแมงมุมค่อยๆแตกร้าวแผ่ไปรอบด้านอย่างน่าตกใจ
อันธพาลกลถ่มนั้นหันกลับมา แล้วเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี จึงพากันตกใจกลัว
เฉินเป่ยเดินเข้าไปหา ยกมีดเคี้ยวมังกรขึ้นมา ก่อนจะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า ก่อนจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนจากหนึ่งในกลุ่มอันธพาลดังขึ้นมา แขนขวาของเขา ถูกตัดออกจนเลือดไหลออกมาเต็มพื้น
“มันหายไปไหนแล้ว” กลุ่มอันธพาลที่เหลือขมวดคิ้วแน่น เพราะพวกเขายังไม่รู้เลยว่าเฉินเป่ยลงมือตอนไหน พวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงาของเฉินเป่ยเลย
“ใช้มือขวาลูบไล้ ก็ต้องตัดมือขวาทิัง”เสียงพูดเรียบนิ่งดังในความมืด อากาศรอบข้างลดลงอย่างรวดเร็ว
“ลิงหลอกเจ้า แน่จริงก็ออกมาสิวะ”หนึ่งในกลุ่มอันธพาลตะโกนด่า
วินาทีต่อมา สีหน้าของหัวหน้ากลุ่มอันธพาลก็นิ่งงัน พอเห็นเฉินเป่ยเดินออกมาจากเงามืด สายตาที่เย็นชาไม่มีความรู้สึกใดๆมองมาที่พวกเขา เหมือนกำลังจ้องมองศพคนตาย
ถ้าบุคคลชื่อดังในต่างประเทศมาเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า คงจะตกใจจนตัวสั่น
เพราะว่า นี่คืออาการของราชาหลง
มีข่าวลือเล่าขานกันถึงราชาหลงว่า เมื่อราชาหลงพิโรธ จะต้องมีคนตายหลายพัน เลือดอาบไปทั่วพื้นที่
มีส่วนน้อยที่ราชาหลงจะพิโรธ แต่วันนี้ เกล็ดมังกรของเขาถูกแตะต้อง
หลีชิงเยียน… คือเป็นของของเขา เขาเห็นหลีชิงเยียนถูกรังแกต่อหน้าต่อตา
คนพวกนี้ ตกอยู่ในบัญชีชำระแค้นของราชาหลงตั้งนานแล้ว
กลุ่มอันธพาลเริ่มรู้สึกหวาดกลัวอย่างประหลาด พวกเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร เฉินเป่ยในเวลานี้ ถึงทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเหยื่อที่กำลังจะโดนจัดการ
ความรู้สึกนั้น น่ากลัวมากจริงๆ
“ตายซะเถอะ”หนึ่งในกลุ่มอันธพาล วิ่งเข้าไป แล้วยกท่อนเหล็กตีไปที่ศีรษะของเฉินเป่ย
ท่อนเหล็กพุ่งมาสุดแรง หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉินเป่ยกรีดร้องอย่างตกใจ ถ้าท่อนเหล็กโดนศีรษะ คงศีรษะแตกสมองไหลแน่ๆ
แต่เฉินเป่ยกลับยืนนิ่ง ไม่มีท่าทีจะหลบหนี อีกทั้งยังไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย
“ปัง” ท่อนเหล็กทุบลงบนศีรษะของเฉินเป่ย แต่เฉินเป่ยกลับไม่ขยับเขยื้อนตัว ทำให้อันธพาลคนนั้นถลึงตาโตด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้” เขาเซถอยหลัง เขาใช้ท่อนเหล็กตีไปสุดแรงของเขา แต่เฉินเป่ยกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“แค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”เฉินเป่ยพูด ก่อนจะจับท่อนเหล็กนั่นไว้ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก
“กร๊อบกร๊อบกร๊อบ”
เฉินเป่ยปล่อยพลัง ก่อนจะเห็นว่าท่อนเหล็กนั้นถูกบีบจนเปลี่ยนรูปร่างไปต่อหน้าต่อตาอันธพาลคนนั้น
กลุ่มอันธพาลต่างพากันตกตะลึง
เฉินเป่ยปล่อยท่อนเหล็กทิ้ง ก่อนจะได้ยินเสียงท่อนเหล็กตกลงบนพื้นจนเกิดเสียง
กลุ่มอันธพาลยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่กล้าขยับตัว
พลังที่น่ากลัวของเฉินเป่ย ทำให้ทุกคนตกใจมาก
และหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเฉินเป่ยเองก็ยืนมองเฉินเป่ยอย่างตกตะลึง ไม่ได้สติอยู่นาน
นี่… หรือว่าจะเป็นผู้มีพลังพิเศษที่เขาเล่าขานกัน พลังแบบนี้ คนธรรมดาทำไม่ได้แน่นอน มีแค่ผู้มีพลังพิเศษในละครถึงจะทำได้
“มึง…จะทำอะไรกันแน่”หัวหน้ากลุ่มอันธพาลไม่กล้าหาเรื่องอีก สีหน้าของเขาหวาดกลัว แล้วถามออกไปอย่างระมัดระวัง
“ฉันคิดจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ”เฉินเป่ยมองไปทางกลุ่มอันธพาลด้วยสายตาเยาะเย้ย ก่อนจะพูด “ฉัน… อยากให้พวกแก… ตาย”
ฉึบ สีหน้าของกลุ่มอันธพาลเปลี่ยนไปทันที จุดประสงค์ของเฉินเป่ยง่ายดายมาก แค่อยากได้ชีวิตของพวกเขา
“เฮ้ย จะฆ่าพวกกู มึงสิต้องตาย” ในที่สุด หนึ่งในกลุ่มอันธพาลก็พุ่งตัวเข้าหาเฉินเป่ย
“ปัง” ท่อนเหล็กแข็งแรงตีเข้าที่หน้าของเฉินเป่ย แต่ใบหน้าของเฉินเป่ยกลับไม่มีรอยอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ท่อนเหล็กท่อนนั้นกลับบิดงอไปหมด
“เป็นไปได้ยังไงกัน”กลุ่มอันธพาลถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะมองไปทางเฉินเป่ยด้วยหน้าที่ซีดเผือด
พวกเขาไม่รู้หรอกว่าคนคนนี้เคยเป็นตำนานในต่างประเทศ เพื่ออัพระดับร่างกายของตัวเอง เขาต้องทนแรงทุบตีจากเหล็กแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน ร่างกายของเขา ส่วนใหญ่จะมีผิวหนังหนาครอบคลุมไว้หนึ่งชั้น ร่างกายของเขาอยู่ในระดับที่ร่างกายของมนุษย์สามารถฝึกฝนได้สูงสุดแล้ว
“คุกเข่า”เฉินเป่ยพูดเสียงเบา เบาจนแทบจะเลือนหายไปกับอากาศ
แต่น้ำเสียงของเขากลับแน่วแน่ พอคำพูดนี้ดังขึ้น ก็ทำให้กลุ่มอันธพาลคุกเข่าลงทันที
หลายคนเริ่มเข้าใจ ว่าตัวเองมีปัญหากับคนที่ไม่ควรจะมีปัญหาด้วยซะแล้ว
หญิงสาวที่ถูกพวกเขารุมโทรมมีจำนวนเยอะมาก คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาเจอกับเฉินเป่ย แล้วยังต้องมาสิ้นสุดชีวิตตัวเองที่นี่ด้วย
“ฉึบ”
เฉินเป่ยยกมือขึ้นมา มีดสั้นสีดำสนิทพุ่งออกไปกลางอากาศ ความแหลมคมของมีด ทำให้เกิดเสียงแหลมดังออกมา
มีดเคี้ยวมังกรแหลมคมโดดเด่น แสงสว่างกระทบปลายมีด ทำให้เห็นถึงความคมของมีด
สักพัก พวกที่กำลังคุกเข่าอยู่ก็หยุดหายใจ เบิกตาโต ก่อนจะล้มลงไป
พวกเขาคงคิดไม่ถึง ว่าคนที่ฆ่าพวกเขาจะเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหลี
เรียบง่ายและไม่ยุ่งยาก
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม มองไปที่ร่างของกลุ่มอันธพาลด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก
เขาเงยหน้าขึ้นมา แล้วเดินออกจากซอยตัน ก่อนจะมีเสียงเรียกเขาไว้
“ขอบ… ขอบคุณมากค่ะ”สายตาของหญิงสาวคนนั้นที่มองหน้าเฉินเป่ยดูหวาดกลัวมาก แต่เธอก็ยังรวบรวมความกล้าพูดออกมา
“ไปเถอะ ผมแค่ช่วยคุณโดยบังเอิญเท่านั้นเอง” เฉินเป่ยพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ฉันขอถามชื่อของคุณได้ไหมคะ” หญิงสาวถามอย่างกล้าๆกลัวๆ การกระทําของเฉินเป่ยก่อนหน้านี้ ถูกบันทึกไว้ในสมองของเธออย่างชัดเจน
ชาตินี้ เธอคงจะลืมไม่ลง
“ผมเป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าตระกูลที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรเท่านั้นเอง” เฉินเป่ยพูดเสร็จก็เดินไปไกลแล้ว
พอหญิงสาวเดินออกมาจากซอย เฉินเป่ยก็หายตัวไปแล้ว
…………
ช่วงเช้า บนโต๊ะอาหาร เฉินเป่ยทำอาหารมาวางไว้เต็มโต๊ะ ทุกคนนั่งล้อมโต๊ะอาหาร แล้วเริ่มกินอาหารเช้าอย่างเงียบๆ
โทรทัศน์ขนาดใหญ่แปดนิ้วกำลังรายงานข่าวของเช้าวันนี้
“เช้าวันนี้ ทางสถานีตำรวจเมืองหู้ไห่ได้พบศพชายฉกรรจ์หลายศพในซอยตันแห่งหนึ่ง จากคำอธิบายของฝ่ายนิติเวชสันนิษฐานว่าผู้ตายเสียชีวิตในช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ เป็นคดีฆาตกรรมหมู่ คนร้ายใช้อาวุธมีคมแทงไปที่จุดตาย มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า กลุ่มคนที่ตายก่อนหน้านี้ทำเรื่องผิดกฎหมายไว้เยอะมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าล้างแค้น”
เสียงของผู้ประกาศข่าวดังออกมาจากโทรทัศน์ หลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปที่โทรทัศน์ พอเห็นรูปภาพคนตายที่อยู่ในข่าวก็ชะงักไป
“เป็นอะไรไป เสี่ยวเยียน”ซูเสี่ยวหยุนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของหลีชิงเยียน จึงรีบถามอย่างเป็นห่วง
“คนพวกนี้… เป็นพวกที่ทำร้ายฉันเมื่อคืนนี้”หลีชิงเยียนวางตะเกียบลง แล้วพูดขึ้น
ซูเสี่ยวหยุนเงยหน้าขึ้น แล้วหันไปดูข่าวที่กำลังฉายอยู่ในโทรทัศน์ ก่อนจะพูดออกมาอย่างดีใจ “ชิงเยียน ทำไมเธอถึงได้โชคดีขนาดนี้ แปบเดียวก็มีคนแก้แค้นให้เธอแล้วเรียบร้อย”
“ฉันเองก็ไม่รู้…”หลีชิงเยียนส่ายหน้า แต่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ สายตาคู่งามมองไปทางเฉินเป่ยที่กำลังนั่งกินโจ๊กอยู่
หรือว่าจะเป็นเขา
ในสมองของหลีชิงเยียนมีความคิดนี้โผล่ขึ้นมา ก่อนจะรีบหยุดคิดไปทันที
ผู้ชายคนนี้ขี้ขลาดถึงขนาดนั้น แค่ให้เขาฆ่าไก่สักตัว เขาคงทำไม่ได้
แล้วจะเป็นใครได้
หลีชิงเยียนขมวดคิ้ว กำลังนั่งคิด แต่ซูเหลยที่นั่งอยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาซะก่อน “ท่านประธานคะ พวกเขาคงจะทำเรื่องเลวๆเอาไว้เยอะ คงจะโดนศัตรูล้างแค้น มันเป็นกรรมของพวกเขาเองค่ะ”
“อืม” หลีชิงเยียนพยักหน้า
ทันใดนั้น สีหน้าของซูเสี่ยวหยุนก็เปลี่ยนไป ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เสี่ยวเยียน เธอโดนคนเล่นงานแล้วล่ะ”
“มีอะไรเหรอ”หลีชิงเยียนแปลกใจ ซูเสี่ยวหยุนยื่นโทรศัพท์ให้หลีชิงเยียนดู
หลีชิงเยียนรับมาดู ก่อนที่สีหน้าจะเริ่มไม่ดี “เป็นฝีมือใคร”
“พ่อหนุ่มน้อย คุณดังใหญ่แล้วนะ”ซูเสี่ยวหยุนหันไปพูดกับเฉินเป่ย