สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 95
ตอนที่95 คำค้นหายอดฮิตอันดับ 1
“ผมดังอะไรกัน” เฉินเป่ยสีหน้ามึนงง เขาดังเรื่องอะไรกัน
นี่มันเรื่องอะไรกัน ตั้งแต่เขามาถึงที่นี่ เขาก็สงบเสงี่ยมมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยเปิดเผยฐานะของตัวเองให้ใครรู้เลย และคนที่รู้เรื่องของเขา… ก็ตายไปหมดแล้วนี่นา
เฉินเป่ยดวงตาลึกซึ้งราวกับหมู่ดาว หลีชิงเยียนยื่นโทรศัพท์ไปให้เขาดู “คุณดูสิ ว่าคุณไปทำอะไรงามหน้าไว้”
ถึงแม้เมื่อคืนหลีชิงเยียนจะยกโทษให้เฉินเป่ยไปเกือบหมดแล้ว แต่พอเห็นข่าวในโทรศัพท์ ความรู้สึกไม่พอใจก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
เฉินเป่ยรับโทรศัพท์มา แล้วอ่านข่าวที่อยู่ในโทรศัพท์ ก่อนที่สีหน้าจะบึ้งตึง
ข่าวที่ปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ มีรูปเขากับหลีหงเดินเข้าโรงแรมด้วยกัน และไม่ใช่แค่นั้น ยังมีรูปของเขากับหลีชิงเยียนติดอยู่ด้วย โดยหัวข้อพาดข่าวเขียนไว้ว่า ชายปริศนาที่แอบคบหาดูใจกับประธานสาวสุดสวยและในเวลาเดียวกันยังแอบไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นด้วย…
เฉินเป่ยอ่านข่าวที่เขียนบิดเบือนสร้างเรื่อง ก่อนจะอารมณ์เสีย
“ใครเป็นคนทำ” เฉินเป่ยวางโทรศัพท์ลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“คุณคิดว่าใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเจ้าชู้ จะเกิดเรื่องบ้าๆพวกนี้ได้ยังไงกัน… แล้วยังเอาฉันเข้าไปยุ่งด้วยอีก”หลีชิงเยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ
“ตอนนี้มีหลายสำนักพิมพ์ล้วนแต่ลงข่าวของพวกคุณ ไม่นาน คุณคงจะดังมากในเมืองหู้ไห่”ซูเสี่ยวหยุนพูด “แต่ว่า ดังเรื่องนี้ไม่เป็นผลดีกับคุณเลยแม้แต่น้อย”
เฉินเป่ยพยักหน้า จริงอย่างที่พูด เขาปกปิดฐานะที่แท้จริงของตัวเองในประเทศนานแล้ว ถ้าเขาออกข่าวหน้าหนึ่ง ฐานะของตัวเองคงเสี่ยงที่จะถูกเปิดโปงสูงมาก
เขาเองไม่เป็นอะไร แต่เขากังวล หลีชิงเยียน ซูเสี่ยวหยุน และเมืองหู้ไห่ จะต้องเดือดร้อนเพราะเขา หรืออาจจะถูกดึงเข้าไปยุ่งกับเรื่องที่พวกเขาไม่เกี่ยวข้องด้วย
“เรื่องนี้ น่าจะเป็นฝีมือของหลีเช่าเทียน” เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะพูดต่อ “แต่เรื่องนี้คุณไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเขาเอง”
“คุณจะจัดการเขาเองเนี่ยนะ”หลีชิงเยียนมองไปทางเฉินเป่ย ก่อนจะพูดยิ้มๆ “คุณเก็บแรงไว้เถอะ เขามีตระกูลหลีเป็นผู้ช่วย เรื่องนี้ฉันจะให้ทีมทนายของบริษัทจัดการ”
เฉินเป่ยส่ายหน้าไปมา “ในเมื่อหลีเช่าเทียนกล้าใช้ข่าวทำลายชื่อเสียงของพวกเรา เรื่องที่เราอาจจะใช้ทีมทนายของบริษัทจัดการ เขาต้องเดาได้อยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ใช่คนโง่ เขาคงจะเตรียมแผนเล่นงานทีมทนายของบริษัทเราไว้แล้วเหมือนกัน”
“แล้วคุณคิดว่าจะทำยังไง”หลีชิงเยียนนั่งกอดอก ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเริ่มไม่พอใจ
ต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างมาจากเฉินเป่ย ตอนนี้หลีชิงเยียนอุตส่าห์ช่วยแก้ปัญหาด้วยความหวังดี แต่เขากลับยังไม่ยอมให้เธอช่วยอีก
“ท่านประธาน ได้โปรดเชื่อใจผม ผมจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน”เฉินเป่ยพูดเสียงทุ้ม
“นายพูดเองนะ ถ้าจัดการไม่เรียบร้อย ทั้งบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะได้นับผลกระทบไปด้วย”หลีชิงเยียนพูด
หลีชิงเยียนเป็นหน้าตาของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ถ้าชื่อเสียงของเธอเสียหาย ก็เท่ากับสร้างความด่างพร้อยให้กับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปไปด้วย
หลีชิงเยียนมองไปทางเฉินเป่ย ในใจเธอไม่เชื่อว่าเฉินเป่ยจะจัดการเรื่องนี้ได้
“เสี่ยวเยียน เธอลองให้โอกาสเขาสักครั้งไหม หลังจากผ่านเรื่องครั้งที่แล้ว คนที่พวกเราเชื่อใจได้มีไม่กี่คน ไม่แน่ว่าทีมทนายของบริษัทอาจจะถูกผู้ชายคนนั้นซื้อตัวไปแล้วก็ได้นะ”ซูเสี่ยวหยุนช่วยพูดให้เฉินเป่ย
“งั้นก็ได้ ฉันจะเชื่อใจคุณสักครั้ง คุณอย่าทำให้เรื่องราวมันแย่ลงก็แล้วกัน” หลีชิงเยียนนิ่งคิดไปสักพัก ก่อนจะตัดสินใจให้โอกาสเฉินเป่ยสักครั้ง
เธอต้องคิดถึงบริษัท ดังนั้นจะต้องพิจารณาถึงบริษัทเป็นหลัก
หลีชิงเยียนกินข้าวอีกไม่กี่คำก็ลุกขึ้นยืน เธอหยิบแซนด์วิชใส่กล่องหนึ่งชิ้น แล้วพูด “ฉันอิ่มแล้ว ไปบริษัทก่อนนะ”
พอพูดเสร็จ หลีชิงเยียนก็เดินขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนใส่ชุดกระโปรงสวยหรู ปกปิดเรียวขาสวยไว้ส่วนหนึ่ง ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่าง เรียวขายาวเบียดรัดกระโปรงจนทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน
เฉินเป่ยยืนมองแผ่นหลังสุดสวย ก่อนจะยิ้มออกมา หุ่นที่สุดแสนมีเสน่ห์นั้น ช่างสะดุดตามากจริงๆ
“คุณมั่นใจว่าจะจัดการเรื่องข่าวนี้ได้ใช่ไหม” ซูเหลยที่นั่งอยู่ด้านข้างถามขึ้นมากะทันหัน
“แน่นอน เรื่องจิ๊บๆ” เฉินเป่ยยิ้มบาง
สีหน้าของซูเหลยนิ่งมาก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวของเฉินเป่ย ผู้ชายที่มีแต่คำพูดโกหกอยู่เต็มปาก ซูเหลยไม่เชื่อใจเขาเลย
แต่ครั้งนี้ซูเหลยแปลกใจมาก ว่าเฉินเป่ยจะใช้วิธีไหนมาหลอกหลีชิงเยียนอีก
อาหารเช้ายังกินไม่ทันเสร็จ ก็มีสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วพูดกับซูเสี่ยวหยุน “คุณซูคะ ข้างนอกมีแขกท่านหนึ่งบอกว่าขอพบคุณค่ะ”
“มาหาฉันเหรอ” ซูเสี่ยวหยุนยักคิ้วสงสัย เธออาศัยอยู่ที่บ้านพักของหลีชิงเยียนมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยมีใครมาหาเธอที่นี่เลย
“ใช่ค่ะ เขาบอกว่ารู้จักกับคุณ มีเรื่องเข้าใจผิดต้องมาอธิบายให้คุณเข้าใจค่ะ”
“ให้เขาเข้ามาได้”ซูเสี่ยวหยุนพยักหน้าให้
ไม่นาน ก็มีคนกอดช่อดอกกุหลาบขนาดใหญ่ที่มีจำนวนดอกกุหลาบถึงเก้าสิบเก้าดอกเดินเข้ามา
เฉินเป่ยสีหน้าเคร่งขรึม ช่อดอกไม้ขนาดใหญ่นี้ ทำให้มองไม่เห็นคนที่กอดมันไว้ จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“คุณเป็นใครคะ” ซูเสี่ยวหยุนถามอย่างแปลกใจ
“เสี่ยวหยุน ผมเองครับ”กลังจากวางช่อดอกกุหลาบลง ถึงได้ปรากฏใบหน้าเหยเกของอีกฝ่ายให้เห็น
“คุณ”ซูเสี่ยวหยุนชะงักงัน พอเห็นว่าเป็นเซินหวยเฟิง สีหน้าของเธอก็เย็นชาขึ้นมา “คุณมาทำอะไร”
“เสี่ยวหยุนครับ ครั้งนี้ผมมาเพื่อขอโทษคุณ” เซินหวยเฟิงมีสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนจะโค้งคำนับอย่างเป็นทางการ
“คุณจำเป็นต้องขอโทษเรื่องอะไรคะ”ซูเสี่ยวหยุนนั่งไขว่ห้าง แล้วยิ้มเยาะ
“เสี่ยวหยุนครับ ผมกลับไปคิดทบทวนดูแล้ว… เมื่อวานผมพูดทำร้ายจิตใจคนมากจริงๆ หวังว่าคุณจะไม่ใส่ใจคำพูดพวกนั้น” เซินหวยเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงให้เกียรติ “พอผมรู้ว่าคุณมีสามีแล้ว ผมใจร้อนก็เลยพูดอะไรที่ไม่น่าฟังออกไป คุณอย่าเอามาใส่ใจเลยนะครับ”
เซินหวยเฟิงพูดอย่างระมัดระวัง ไม่มีน้ำเสียงเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้เลย
“คุณเป็นอะไรกันแน่”ซูเสี่ยวหยุนย่นคิัว จากที่เธอรู้จักกับเซินหวยเฟิงมา เธอรู้ดีว่าจะต้องเกิดเรื่องกับเขาแล้วแน่ๆ
“พวกเราถูกเล่นงานครับ…”เซินหวยเฟิงถอนหายใจออกมา แล้วพูดต่อ “เมื่อคืนหลังจากจบจากงานเลี้ยง ผมก็ได้รับข่าวว่ามีความแตกหักกันในบริษัท มีลูกค้าหลายบริษัทขอหยุดร่วมงานกะทันหัน พวกเขาบอกว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องร่วมธุรกิจกับบริษัทที่ใกล้จะล้มละลายอีกต่อไป… ทำให้บริษัทสูญหายอย่างหนัก โครงการที่ทำก่อนหน้าก็หยุดชะงัก เงินทุนที่ทุ่มลงไป…ไม่ได้กลับมาแม้แต่แดงเดียว”
“พวกเราถูกบริษัทตรงข้ามเล่นงาน จะต้องเป็นพวกเขาแน่ๆ” เซินหวยเฟิงกัดฟันกรอด “อย่าให้ผมรู้นะว่าเป็นฝีมือใคร ผมไม่ปล่อยเขาไปแน่”
“แล้วคุณมาที่นี่ทำไมคะ” ซูเสี่ยวหยุนย่นคิ้ว แล้วถามออกไป
“เสี่ยวหยุน ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณสักหน่อย ได้ข่าวว่าบริษัทของพวกคุณกำลังหาบริษัทร่วมงานอยู่… ผมอยากร่วมงานกับพวกคุณด้วย…”เซินหวยเฟิงพูดด้วยท่าทางเคารพ “เสี่ยวหยุน คุณเป็นคนดีขนาดนี้ คงจะช่วยผมแน่ๆใช่ไหมครับ”
“คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ คุณมาหาฉันก็ไม่มีประโยชน์ คุณกลับไปเถอะค่ะ”ซูเสี่ยวหยุนปฏิเสธอย่างเย็นชา
“เสี่ยวหยุนครับ ถือว่าผมขอร้อง เห็นแก่ความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของเรา คุณช่วยผมสักครั้งเถอะ ถ้าบริษัทล้มละลาย ผู้หญิงที่อยู่ที่บ้านผมคนนั้น จะต้องเตะผมออกจากบ้านแน่ๆเลย” เซินหวยเฟิงเริ่มร้อนใจ
“โอ๊ะโอ คุณคบกับคุณหนูผู้ร่ำรวยแล้วไม่ใช่เหรอคะ”ซูเสี่ยวหยุนยิ้มเยาะ “ไปขอความช่วยเหลือจากเธอสิคะ จะมาหาฉันทำไม ส่งแขก”
“ซูเสี่ยวหยุน ดีมาก คุณแน่มาก” เซินหวยเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาถลึงตามองซูเสี่ยวหยุนอย่างเคียดแค้น “แน่จริงอย่าให้ผมมีโอกาสเล่นงานคุณได้”
หลังจากเซินหวยเฟิงรู้ว่าเจรจากับซูเสี่ยวหยุนไม่สำเร็จ จึงโยนแก้วน้ำบนโต๊ะลงบนพื้นอย่างแรง จนแก้วน้ำแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนหันเดินไปที่ประตูทางออก
“เดี๋ยวก่อน”
ทันใดนั้นเอง มีเงาร่างหนึ่งเข้ามาขวางทางไว้ก่อน
“นายเป็นใคร” เซินหวยเฟิงมองไปทางคนตนงหน้าอย่างไม่พอใจ “อ๋อ นายนี่เอง ยังไม่รีบหลีกทางอีก”
“นายทำแก้วแตก ชดใช้มาก่อน ถึงจะออกไปได้”เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ
“แค่แก้วน้ำใบเดียว จะแพงแค่ไหนกัน” เซินหวยเฟิงยิ้มเยาะ
“นี่เป็นชุดแก้วน้ำที่นำเข้าจาสาธารณรัฐออสเตรีย แตกใบหนึ่ง ต้องชดใช้สามหมื่น”เฉินเป่ยพูด
“สามหมื่น นายไม่ปล้นกันเลยล่ะ” เซินหวยเฟิงชะงักไป ก่อนจะตะโกนออกมา
“ประธานบริษัทเงินเดือนหลายสิบล้านดีกรีจบจากต่างประเทศแบบคุณ คงไม่ใส่ใจกับเงินแค่นี้หรอกจริงไหม”เฉินเป่ยยิ้มเยาะ เหมือนง้างมือขึ้นมา แล้วตบหน้าเซินหวยเฟิงอย่างแรง จนเซินหวยเฟิงหน้าร้อนผ่าว พูดอะไรไม่ออก
เงินเดือนสิบล้าน… นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้บริษัทจะล้มละลายอยู่แล้ว เงินที่เหลือของเขาแทบไม่มีแล้วด้วยซ้ำ
“ผมจะจำพวกคุณไว้ คู่ชายโฉด…”เซินหวยเฟิงหน้าบิดเบี้ยว ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเฉินเป่ยเตะกระเด็นออกไป
“พูดมาก” เฉินเป่ยเหลือบตามอง “บอดี้การ์ด ไล่เขาออกไป”
หลังจากที่เซินหวยเฟิงถูกไล่ออกไป เฉินเป่ยก็เดินไปนั่งข้างๆซูเสี่ยวหยุน พอเห็นว่าซูเสี่ยวหยุนเหม่อลอย กูพูดหยอกล้อ “กำลังคิดอะไรอยู่”
“เมื่อวานหลังจากงานเลี้ยงเพิ่งจบลง บริษัทของเขาก็ถูกเล่นงาน คุณไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอคะ”ซูเสี่ยวหยุนถาม
เฉินเป่ยใจเต้นแรง แต่สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง ก่อนจะตอบ “เรื่องปกตินี่ครับ คนเย่อหยิ่งอย่างเขา ต้องมีศัตรูเยอะอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะไม่มีใครไม่อยากเล่นงานเขา”
“ที่คุณพูดก็ถูก” ซูเสี่ยวหยุนพยักหน้าเห็นด้วย
…………
ในเวลาเดียวกัน ข่าวในเมืองหู้ไห่ก็แพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว
ข่าวในกรอบเล็กๆในหนังสือพิมพ์ กลับถูกปลุกปั่นข่าวจากทุกสำนักพิมพ์ ภายในไม่กี่ชั่วโมงเองกลายเป็นอันดับแรกของคำค้นหายอดฮิตตไปแล้ว
ในห้องทำงานประธานบริษัทสื่อมวลชน ประธานหลินตู้หัวกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อย่างดีอกดีใจ
“คุณชายหลีครับ ผมทำตามที่คุณพูดแล้วครับ ตอนนี้ทุกคนในเมืองหู้ไห่ที่เล่นโซเชียลได้ ล้วนแต่ได้รู้ข่าวเรื่องนี้หมดแล้ว”
“ทำได้ดีมาก”เสียงปลายสายเป็นเสียงของคุณชายหลีดังขึ้นมา
“คุณชายหลีครับ ต่อไปนี้ถ้ามีข่าวดีๆแบบนี้อีก ติดต่อผมได่เลยนะครับ” หลังจากหลินตู้หัวกดวางสาย เขาก็ยกขาทั้งสองข้างขึ้นวางบนโต๊ะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะชงชาให้ตัวเองหนึ่งแก้ว
หลีเช่าเทียนส่งรูปให้สำนักพิมพ์ทั้งหมดในเมือง และสั่งให้พวกเขาทำข่าวนี้ในวันต่อมา พยายามสร้างกระแสให้ดังที่สุด บริษัทสื่อมวลชนเป็นสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหู้ไห่ จึงเป็นผู้นำข่าวนี้
ถ้าไม่มีบริษัทสื่อมวลชนเป็นตัวนำ สำนักพิมพ์เล็กๆคงจะทำให้ข่าวนี้ขึ้นเป็นอันดับแรกของคำค้นหายอดฮิตได้ยาก
และหลีเช่าเทียนรับปากข้อเสนอดีๆให้เยอะมาก หลินตู้หัวถึงได้ยอมทุ่มเทสุดแรงขนาดนี้
ทันใดนั้นเอง มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เลขาของหลินตู้หัวเดินเข้ามา “ท่านประธานครับ ด้านนอกมีคนต้องการเข้าพบท่านประธานครับ แต่ไม่ได้นัดไว้ก่อนล่วงหน้า”
“ถ้าไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้าก็ไม่เจอ ถ้าเป็นคนธรรมดาไม่มีชื่อเสียงก็ไล่กลับไปให้หมด” หลินตู้หัวโบกมือไล่อย่างกมดความอดทน
“อย่างนั้นเหรอ งั้นผมเข้ามาแล้ว คุณคิดจะไล่ผมออกไปยังไง”ทันใดนั้นเอง มีเสียงพูดเยือกเย็นดังขึ้นมา หลินตู้หัวตัวสั่น ขนลุกซู่ไปทั้งตัว