สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 26 ความกล้าหาญ
ตอนที่ 26 ความกล้าหาญ
รอจนหนังสือหย่าเขียนเสร็จหมึกยังไม่แห้งดี เฉียวซื่อก็รู้ตัวว่าจบสิ้นแล้ว
“ท่านพี่ ท่านพี่ทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสามีภรรยากันมายี่สิบกว่าปี…” ท่าทางดำรงตนสงบเสงี่ยมในยามปกติบัดนี้ไม่เหลือแม้แต่นิด เฉียวซื่อคว้าแขนเสื้อรองเจ้ากรมต้วนคล้ายคนเสียสติอยู่บ้าง
รองเจ้ากรมต้วนเบือนหน้าหนี “เจ้าดูแลตัวเองให้ดีก็แล้วกัน”
คุณหนูรองต้วนอวิ๋นหวาได้ข่าวเรื่องนี้ก็รีบวิ่งมา
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านต้องเขียนหนังสือหย่าท่านแม่”
รองเจ้ากรมต้วนเดิมก็ว้าวุ่นใจอยู่แล้ว คำถามบุตรสาวยิ่งทำให้เขาเดือดดาล หน้าบึ้งตึงขึ้นทันที ตอบว่า “เรื่องของผู้ใหญ่ เจ้าอย่าได้ข้องเกี่ยว”
ต้วนอวิ๋นหวาจ้องมองรองเจ้ากรมต้วนอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ กรีดร้องเสียงดัง “นั่นคือท่านแม่ข้า! ท่านพ่อทำกับท่านแม่เช่นนี้ เคยคิดถึงข้ากับพี่ใหญ่หรือไม่ พี่ใหญ่…”
ต้วนอวิ๋นหวาเป็นคนฉลาด หาขอนไม้ช่วยชีวิตยามใกล้จมน้ำมาได้ “ข้าจะไปบอกพี่ใหญ่!”
เห็นนางจะวิ่งออกไป รองเจ้ากรมต้วนก็ตวาดดัง “ส่งคุณหนูรองกลับห้อง สองสามวันมานี้ห้ามออกจากห้อง!”
พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดของสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยนแล้ว รองเจ้ากรมต้วนกับนายหญิงผู้เฒ่าหารือกันแล้ว ว่ารอให้ต้วนอวิ๋นเฉินกับต้วนอวิ๋นหลางพรุ่งนี้หยุดพักกลับบ้าน ค่อยบอกพวกเขาเรื่องหย่าเฉียวซื่อ
“ปล่อยข้า ปล่อยข้า!” ต้วนอวิ๋นหวาดิ้นรน
ต้วนอวิ๋นหลิงยืนอยู่มุมหนึ่งมองดูต้วนอวิ๋นหวาร่ำไห้น้ำตานองถูกบ่าวหญิงลากตัวออกไป ก็กัดริมฝีปากเบาๆ
ที่แท้พี่หวาที่วางอำนาจยามอยู่ต่อหน้านางกับพี่หว่าน พอเผชิญหน้ากับท่านพ่อ ก็ทำอันใดไม่ได้
ต้วนอวิ๋นหลิงค่อยๆ เบนสายตาไปหยุดที่ชิงชิง
พี่ชิงถึงกับทำให้ท่านพ่อเขียนหนังสือหย่าแม่ใหญ่ได้! นางไม่เกรงกลัวอันใดแม้สักนิดหรือ
ไม่มีผู้ใดมาไขข้อข้องใจบุตรสาวอนุตัวเล็กๆ ที่ยืนอยู่มุมห้อง แต่เห็นชัดว่ายืนอยู่ท่ามกลางแรงลมฝน แต่ต้วนอวิ๋นหลิงกลับรู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“พี่ใหญ่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น” นายท่านสองต้วนเหวินไป่กับจูซื่อภรรยาเร่งมาถึง ก็เห็นต้วนอวิ๋นหวาถูกนำตัวไปพอดี
“น้องรองก็ไม่ต้องถามมากแล้ว” รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าเคร่งเครียด ดูเหมือนว่าแก่ชราลงไปหลายปี
ทางจวนรองเจ้ากรม เพราะเรื่องนายหญิงใหญ่ถูกหย่าทำให้ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ ทางตระกูลเฉียวได้จดหมายที่ส่งมาจากตระกูลต้วน
นายหญิงตระกูลเฉียวก็คือหนิงซื่อพี่สะใภ้เฉียวซื่อ ตอนนางเปิดจดหมายออกอ่าน สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนทันที
เพื่อหลีกเลี่ยงความบาดหมางใจของสองตระกูล ในจดหมายแม้ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องโค่วชิงชิงตกหน้าผา แต่บอกเรื่องม้าโค่วชิงชิงตื่นตกใจเป็นฝีมือเฉียวซื่อ นี่คือสาเหตุของการหย่าเฉียวซื่อ
จดหมายในมือหนิงซื่อสั่นระริกไม่หยุด หนิงซื่อแทบไม่อยากจะเชื่อ ไล่อ่านข้อความในจดหมายทีละคำ
น้องสามีนางถึงกับทำเรื่องเช่นนี้ ข่าวลือสะพัดข้างนอกถึงกับเป็นเรื่องจริง!
“ไปตามนายท่านกลับจวน”
ในยามนี้เอง สาวน้อยนางหนึ่งก็เดินเข้ามา
สาวน้อยคิ้วดังใบหลิ่ว ดวงตากลมโตดังเมล็ดซิ่ง หน้าตาสะสวย พอเอ่ยขึ้นก็มีน้ำเสียงร่าเริงแจ่มใส “ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านอา พรุ่งนี้ไปเยี่ยมท่านอาได้หรือไม่”
สาวน้อยผู้นี้ก็คือหลานสาวจากตระกูลของเฉียวซื่อ นามว่ารั่วจู๋
หนิงซื่อกำลังตกอยู่ในอาการถูกระทบกระเทือนอย่างแรง ได้ยินคำพูดบุตรสาวก็ตวาดออกไปว่า “ไสหัวกลับห้องเจ้าไปซะ!”
“ท่านแม่?” เฉียวรั่วจู๋นิ่งอึ้งไปทันที ถูกตบเข้าฉาดหนึ่งจนใบหน้าแสบร้อน
“กลับไป!”
เฉียวรั่วจู๋กุมใบหน้าวิ่งกลับไป
พอคนตระกูลเฉียวมาถึง ก็เป็นเวลาจุดโคมแล้ว
จวนรองเจ้ากรมจุดโคมไฟส่องสว่างทั้งจวน แต่กลับรู้สึกเงียบเหงาเศร้าสร้อย นายหญิงผู้เฒ่าไม่มีกะจิตกะใจรับประทานอาหารค่ำ คนอื่นๆ ก็ย่อมไม่อยากอาหารตามไปด้วย
เฉียวซื่อร้องไห้จนเหนื่อย ด่าจนพอใจ สีหน้าไร้ความรู้สึกนั่งซังกะตาย จนกระทั่งถูกคนประคองลุกออกไป ก็พลันหยุดฝีเท้าลงเอ่ยว่า “ข้าต้องการคุยกับคุณหนูนอกสักสองสามคำ”
คนประคองเฉียวซื่อไว้อดมองไปทางนายหญิงผู้เฒ่าไม่ได้
นายหญิงผู้เฒ่าคิดปฏิเสธด้วยสัญชาตญาณ แต่เห็นท่าทางเฉียวซื่อก็กลัวจะยั่วยุให้นางอารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก จึงมองไปทางซินโย่ว
“พอดีข้าก็อยากคุยกับเฉียวไท่ไท[1]สักสองสามคำเจ้าค่ะ” ซินโย่วเดินไปหาเฉียวซื่อ
คำเรียกขานที่เปลี่ยนไปดังคมมีดกรีดกลางใจเฉียวซื่อให้ยิ่งเจ็บปวด นางจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าเขม็ง มือสั่นเทาอย่างไม่อาจระงับ
“คุณหนูนอก ผลลัพธ์เช่นนี้ท่านพึงพอใจแล้วสินะ” เฉียวซื่อเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก
พอถามคำถามนี้ออกไป สายตานายหญิงผู้เฒ่ากับรองเจ้ากรมต้วนก็มองไปยังซินโย่ว
ซินโย่วเอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ไม่อาจเอ่ยว่าพึงพอใจหรือไม่ ทำผิดโดนลงโทษ นับว่าเป็นคำตอบให้ข้ากระมัง”
เป็นคำตอบให้กับคุณหนูโค่วที่ตายไป
“ข้าเองก็อยากของถามเฉียวไท่ไท เหตุใดจึงทำกับข้าเช่นนี้” สีหน้าซินโย่วฉายแววนึกสงสัย
สีหน้าเฉียวซื่อแปรเปลี่ยนไปมา พยายามระงับอารมร์พลุ่งพล่านที่ล้นทะลักขึ้นมาลงไป เอ่ยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ข้าไม่อยากให้เจ้าแต่งกับเฉินเอ๋อร์ เจ้าไม่คู่ควรกับเขา”
“แค่นี้หรือ…” ซินโย่วลากเสียงยาว ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเยาะแวบหนึ่ง
ช่างเป็นมารดาจิตใจดีงามวางแผนเพื่อบุตรธิดาเสียจริง ถึงเวลานี้แล้ว ยังอดทนกล่าวออกมาเพียงครึ่งเดียวได้
เห็นอยู่ว่าเพราะสมบัติมหาศาลนั่น จึงเป็นเหตุผลทำให้โค่วชิงชิงต้องตาย หากไม่มีเงินทองนั่น เฉียวซื่อไม่พอใจให้โค่วชิงชิงเป็นสะใภ้ก็ปฏิเสธได้ไม่ใช่หรือ
แต่แม้ว่ายามนี้เฉียวซื่อโกรธเกลียดนายหญิงผู้เฒ่าที่บีบให้บุตรชายหย่ากับนางเพียงใด โกรธเกลียดสามีที่ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาหลายปีเพียงใด ก็มิได้เอ่ยถึงทรัพย์สมบัติก้อนนี้แม้แต่ครึ่งคำ
นางกลัวจะทำให้สาวน้อยตรงหน้ารู้ตัว ทรัพย์สมบัติมหาศาลจะโบยบินไป บุตรชายหญิงของนางก็จะไม่ได้ผลประโยชน์กองนี้
ซินโย่วกำลังคิดเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจโค่วชิงชิง
เฉียวซื่อแสดงท่าทางมารดาผู้เมตตาอารี แต่หากลองคิดในมุมของมารดาโค่วชิงชิงที่จากไปแล้ว
ซินโย่วกลับมายืนข้างนายหญิงผู้เฒ่า สงบนิ่งไม่เอ่ยอันใด
อาหารต้องค่อยๆ กินทีละคำ ยามนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องหย่าเฉียวซื่อให้เรียบร้อย ส่วนสมบัติโค่วชิง ชิงควรจัดการเยี่ยงไร ยังต้องคุยกับเสี่ยวเหลียนดูก่อน
คนตระกูลเฉียวรู้ว่าคนของตนเองทำผิดก่อนจึงไม่ได้เอะอะโวยวาย เฉียวซื่อเองก็ไม่โวยวาย นายหญิงผู้เฒ่าก็ผ่อนคลายลงปลอบโยนซินโย่ว “อย่าได้ฟังเฉียวซื่อพูดจาเหลวไหล กลับเรือนหว่านฉิงไปพักเถอะ”
“ชิงชิงขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”
ต้วนอวิ๋นหลิงถอยออกไปเงียบๆ ไล่ตามไปขอบคุณซินโย่วเบาๆ “พี่ชิง ขอบคุณ”
ซินโย่วยิ้มกล่าวว่า “มีผลลัพธ์เช่นวันนี้ได้ ล้วนอาศัยความกล้าของน้องหลิง”
ความกล้า?
ต้วนอวิ๋นหลิงพึมพำคำนี้ แล้วก็ขอบตารื้นขึ้นมา “ข้าคิดมาตลอดว่า ล้วนไร้ประโยชน์…”
“ไม่หรอก ความกล้าหาญย่อมเป็นหนึ่งในของล้ำค่าที่สุดตลอดไป โดยเฉพาะกับผู้หญิงเช่นพวกเรา”
นี่คือคำที่มารดานางกล่าวกับนางในวัยเด็ก
นางจดจำมาตลอด และพยายามรักษาไว้ ยามเห็นภาพมารดาตายอนาถ สติจึงไม่ได้กระเจิดกระเจิงไป
“พี่ชิง วันหน้าพี่หว่านจะเป็นอย่างไร” ต้วนอวิ๋นหลิงถามถึงต้วนอวิ๋นหว่านที่ถูกบ่าวพากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ไม่ได้ออกมาอีก
“ข้าไม่รู้” ซินโย่วตอบตามตรง “แต่ข้าคิดว่า ผลจะเลวร้ายอย่างไรก็ไม่เท่ากับถูกบ่าวชั่วกดจมน้ำตายในสระน้ำกระมัง”
ต้วนอวิ๋นหลิงกัดริมฝีปากเบาๆ พยักหน้ามองตามแผ่นหลังซินโย่วหายลับไปท่ามกลางค่ำคืนมืดมิด
กลับถึงเรือนหว่านฉิง ซินโย่วตามฟางหมัวมัวมาบอกว่า “พรุ่งนี้ตระกูลต้วนและเฉียวจะยังมีการแบ่งทรัพย์สิน คุณชายใหญ่กับคุณชายรองก็จะกลับมาจากสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน ที่จวนก็คงต้องวุ่นวายเป็นแน่ แม่นม ข้ามีเรื่องรบกวนท่านสักหน่อย”
“คุณหนูเอ่ยเช่นนี้ทำบ่าวอายุสั้นแล้ว ท่านมีเรื่องอันใดสั่งการมาได้ บ่าวจะต้องทุ่มเทเต็มที่”
เฉียวซื่อถูกหย่า ไม่เพียงทำให้เสี่ยวเหลียนจิตใจแตกตื่น ยังมีฟางหมัวมัวอีกคน
“ท่านช่วยข้าไปสอบถามร้านหนังสือแห่งหนึ่งหน่อย ร้านหนังสือชิงซง”
[1] หลังจากถูกเขียนหนังสือหย่า สถานะก็เป็นคนนอก จึงเปลี่ยนคำเรียกขานเป็นว่า ไท่ไท