สืบแค้นคุณหนูสวมรอย - ตอนที่ 31 ขอร้อง
ตอนที่ 31 ขอร้อง
ต้วนอวิ๋นหลิงแปลกใจเล็กน้อย “พี่ชิงต้องการให้ข้าช่วยอันใดหรือ”
นางคิดไม่ออกว่าตนจะช่วยอันใดพี่ชิงได้
สองสามวันมานี้นางหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่แม่ใหญ่ถูกหย่าหลายรอบ รู้สึกว่ามีเรื่องหนึ่งที่พี่ชิงกล่าวผิด
พี่ชิงบอกว่าผลเช่นนี้เพราะความกล้าหาญของนางเป็นสำคัญ นางขี้ขลาดและเห็นแก่ตัว แต่พี่ชิงมอบความกล้าหาญให้นาง
พี่ชิงเป็นคนเก่งกาจเพียงนี้ ยังต้องการให้นางช่วยอีกหรือ
“ต้วนอวิ๋นหวามาหาเจ้าหรือไม่”
ต้วนอวิ๋นหลิงยิ่งตกใจ ได้ยินพี่ชิงเรียกพี่หวาเช่นนี้ นี่มีเรื่องกันจนแตกหักแล้วหรือนี่
ซินโย่วสีหน้าเรียบเฉย “เฉียวไท่ไทถูกหย่าเพราะข้า ไม่ว่าผู้ใดถูกผู้ใดผิด ต้วนอวิ๋นหวาล้วนเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ ในเมื่อนางเกลียดข้า ข้าก็ย่อมไม่สนใจนาง”
นางกล่าวได้อย่างเปิดเผยไม่หวั่นเกรงสิ่งใด ต้วนอวิ๋นหลิงพลันรู้สึกว่ามีเหตุผล จึงนิ่งไปเป็นนานก่อนจะรู้สึกเหมือนว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก
พี่ชิงมีเรื่องกับท่านพ่อและพี่หวา ไม่เป็นผลดีต่อนางสักนิด
หากเป็นเมื่อก่อน ต้วนอวิ๋นหลิงคงได้แต่แอบคิดในใจ แต่ยามนี้กลับคิดเลียบเคียงถาม
“น้องหลิงบอกข้าก่อน ต้วนอวิ๋นหวามาหาเจ้าหรือไม่” ซินโย่วกุมมือต้วนอวิ๋นหลิงแสดงท่าทางรับน้ำใจ
แม้เรื่องในสวนดอกไม้วันนั้นมีคนเห็นกันไม่น้อย เพราะนายหญิงผู้เฒ่าออกคำสั่งห้ามเอ่ยถึง จึงไม่ได้ถึงหูต้วนอวิ๋นหวา แม้แต่เรื่องที่ซินโย่วเผชิญหน้ากับรองเจ้ากรมต้วนในเรือนหรูอี้ถัง ก็ยิ่งมีคนรู้น้อยมาก
ต้วนอวิ๋นหวาคิดอยากรู้ความจริงกระจ่าง มาหานางแล้ว คนต่อไปอย่างไรก็ต้องเป็นต้วนอวิ๋นหลิง
“พี่หวายังไม่ได้มา” ต้วนอวิ๋นหลิงกระตุกในใจ รู้สึกได้แล้วว่าซินโย่วกำลังกังวลเรื่องใด เอ่ยขึ้นทันทีว่า “พี่ชิง วางใจ หากพี่หวาถามถึงเรื่องวันนั้น ข้าจะไม่พูดไป”
หากให้พี่หวารู้ว่าพี่ชิงบีบท่านพ่อให้หย่า ด้วยนิสัยพี่หวา จะต้องตรงมาลงไม้ลงมือเป็นแน่
“ตรงกันข้าม หากต้วนอวิ๋นหวาถามเจ้าเรื่องวันนั้น เจ้าจำไว้ว่า ต้องบอกนางว่า เดิมท่านลุงคิดให้เฉียวไท่ไทสวดมนต์ไหว้พระอยู่แต่ในเรือนหย่าซินย่วน แต่ข้าไม่ยินยอม จะต้องให้เขียนหนังสือหย่าเฉียวไท่ไทให้ได้จึงจะยอมเลิกรา”
ต้วนอวิ๋นหลิงอึ้งไปทันที “พี่ชิง ข้าไม่เข้าใจ…”
ซินโย่วสีหน้าเคร่งเครียดเอ่ยว่า “น้องหลิง ข้าไม่ได้ล้อเล่น และต้องการความช่วยเหลือนี้จากเจ้าจริงๆ ส่วนสาเหตุนั้น ตอนนี้ยังไม่สะดวกเอ่ย แต่วันหน้าเจ้าก็จะเข้าใจเอง”
ต้วนอวิ๋นหลิงคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ยังคิดไม่เข้าใจเหตุผลของซินโย่ว ถามว่า “พี่ชิง พี่แน่ใจว่าทำเช่นนี้จะไม่ยุ่งยากหรือ”
ซินโย่วพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ดี หากพี่หวามาถาม ข้าก็จะทำตามที่พี่ชิงว่า”
“ขอบคุณน้องหลิง”
ต้วนอวิ๋นหลิงมองไปยังบันทึกการเดินทางของซินโย่ว หลุดปากถามออกไปว่า “พี่ชิงวันนี้ออกไปข้างนอกมา ไปเดินเล่นร้านหนังสือมาหรือ”
“ใช่ ไปร้านหนังสือชิงซง ซื้อหนังสือมาเล่มหนึ่ง”
“เหตุใดพี่ชิงไม่ไปร้านหนังสือหย่าซิน”
เพราะ ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนโลหิตเล่มนั้น ซินโย่วยินดีจะคุยเรื่องร้านหนังสือในเมืองหลวง เดิมเตรียมจะอำลาแล้ว ก็ไม่ได้เอ่ยอำลา แต่กลับเอ่ยถามขึ้นแทนว่า “น้องหลิงชอบไปร้านหนังสือหย่าซิน?”
ต้วนอวิ๋นหลิงยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “เดิมชอบไปร้านหนังสือชิงซง ต่อมาท่านผิงอันไปเขียนหนังสือให้ร้านหนังสือหย่าซินแทน ก็เลยย้ายไปร้านหนังสือหย่าซินแล้ว อย่างไรร้านหนังสือใหญ่เช่นนี้ก็ไม่แตกต่างกันมาก ดูแค่นิยายร้านใดสนุกกว่าเท่านั้น”
“ท่านผิงอันร้ายกาจเพียงนี้หรือ”
แววตาต้วนอวิ๋นหลิงกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ท่านผิงอันเขียนนิยายภูติผีปีศาจเก่งที่สุด ปีที่แล้ว ‘บันทึกโบตั๋น’ เดาว่าทุกคนที่รู้หนังสือในเมืองหลวงล้วนต้องมีอยู่ในมือเล่มหนึ่ง พอย้ายไปเขียนให้ร้านหนังสือหย่าซิน ยังเขียน ‘บันทึกจิ้งจอกวิเศษ’ ก็สนุกมาก…พี่ชิงรอสักครู่”
คุณหนูวิ่งตะบึงไปยังห้องตะวันตก ไม่นานก็หอบหนังสือเล่มหนึ่งกลับมา “พี่ชิง พี่ยังไม่ได้อ่านกระมัง”
“หลายเรื่องข้ายังนึกไม่ออก เมื่อก่อนข้าชอบอ่านนิยายด้วยหรือ”
ต้วนอวิ๋นหลิงส่ายหน้า “พี่ชิงไม่ค่อยอ่านของพวกนี้เท่าไร”
คำตอบนี้เหนือความคาดหมายของซินโย่วอยู่บ้าง เห็นเสี่ยวเหลียนคุ้นเคยกับราคาขายของนิยาย นางคิดว่าคุณหนูโค่วเองก็ชอบอ่านของพวกนี้
“พี่ชิงอ่านดูสิ สนุกมากจริงๆ” ต้วนอวิ๋นหลิงนัด ‘บันทึกจิ้งจอกวิเศษ’ ใส่มือซินโย่ว
ซินโย่วไม่ได้ปฏิเสธ “ได้ ข้ากลับไปอ่าน น้องหลิง น้องเอ่ยถึง ‘บันทึกโบตั๋น’ ของท่านผิงอัน คล้ายว่าคนรู้หนังสือต่างซื้อไว้ ถึงกับได้รับความนิยมเพียงนี้หรือ”
“ได้รับความนิยมมากๆ บรรดาสหายที่ข้ามักไปมาหาสู่ ผู้ใดหากไม่มี ‘บันทึกโบตั๋น’ ก็คงถูกหัวเราะเยาะ” ต้วนอวิ๋นหลิงคลำหน้าผาก “พี่ชิงก็ไม่เคยอ่าน ‘บันทึกโบตั๋น’ กระมัง ข้าไปหยิบมาให้พี่”
ต้วนอวิ๋นหลิงเอ่ยถึงตรงนี้ก็เม้มปากเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเก้อเขินว่า “พี่ชิงอ่านจบแล้ว อย่าลืมคืนข้านะ หากทำหาย หาซื้อไม่ได้แล้ว”
ในใจซินโย่วกระตุกวูบ ถามขึ้นอย่างไม่ให้เป็นที่สังเกตว่า “ ‘บันทึกโบตั๋น’ ไม่ใช่ร้านหนังสือชิงซงพิมพ์หรือ เหตุใดหาซื้อไม่ได้แล้ว”
ต้วนอวิ๋นหลิงส่ายหน้า “ก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียด อย่างไรร้านหนังสือชิงซงก็ไม่มีขายแล้ว”
ซินโย่วแอบจดจำไว้ กอดหนังสือลุกขึ้นยืน “ไว้ข้าอ่าน ‘บันทึกจิ้งจอกวิเศษ’ ก่อน หากชอบหนังสือพวกนี้ ก็ค่อยมายืม ‘บันทึกโบตั๋น’ ของน้องหลิง”
อาจเพราะคุยเรื่องที่ตนเองชอบ ต้วนอวิ๋นหลิงก็น้ำเสียงผ่อนคลายลงมาก “พี่ชิงค่อยๆ เดินนะ”
กลับถึงเรือนหว่านฉิง ซินโย่วถามเสี่ยวเหลียน “คุณหนูโค่วไม่ชอบอ่านนิยายหรือ”
เสี่ยวเหลียนพยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้า เผชิญหน้ากับสายตาสงสัยไม่เข้าใจของซินโย่ว ก็เอ่ยว่า “คุณหนูไม่อ่าน แต่บ่าวรู้สึกว่าที่คุณหนูไม่อ่านไม่ใช่เพราะไม่ชอบอ่าน แต่รู้สึกว่าว่าไม่ควรอ่าน เพราะนายหญิงผู้เฒ่าเคยบอกว่า เป็นสาวเป็นนางอย่าได้อ่านนิยายรักๆ ใคร่ๆ ไร้สาระพวกนั้น คุณหนู…เชื่อฟังคำพูดนายหญิงผู้เฒ่ามาก…”
นึกถึงต้วนอวิ๋นหลิงที่หลงใหลการอ่านนิยายแล้ว ซินโย่วก็รู้สึกทอดถอนใจแทนโค่วชิงชิง
ต้วนอวิ๋นหลิงเป็นบุตรสาวอนุที่ต้องหาทางดำรงชีพภายใต้ความเข้มงวดของแม่ใหญ่ หรือว่ากล้าไม่ฟังคำนายหญิงผู้เฒ่า แต่กลับรู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ความจริงผู้ใหญ่ก็แค่เอ่ยไปอย่างนั้น ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอันใด
แต่เพราะท่านยายเอ่ยเพียงคำเดียว โค่วชิงชิงก็เกรงว่าจะถูกคนว่าไม่ดี จึงไม่ไปแตะต้อง เด็กหญิงที่ดำรงชีวิตอย่างระมัดระวังเช่นนี้ จวนรองเจ้ากรมกลับโหดร้ายจนไม่เหลือทางให้มีชีวิต
“เจ้าล่ะเสี่ยวเหลียน อ่านนิยายเป็นไหม”
“บ่าวฟังเอามากกว่า คุณชายรองมักเอาเงินค่าขนมไปซื้อหนังสือหมด พอนิยายเล่มใหม่ออกมาไม่มีเงิน ก็จะหน้าไม่อายมายืมเงินคุณหนูเรา…” เสี่ยวเหลียนพูดไปขอบตาก็เริ่มแดงไป
ที่แท้ที่นางชอบยิ้มต่อว่าคุณชายรองหน้าไม่อายก็เพราะเช่นนี้เอง
“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดร้านหนังสือชิงซงไม่ขาย ‘บันทึกโบตั๋น’ อีกแล้ว”
“บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ คุณหนูคิดอยากซื้อเล่มใหม่อีกเล่มหรือเจ้าคะ บางทีคุณชายรองรู้ หรือว่าพวกเราตรงไปถามจ่างกุ้ยร้านหนังสือชิงซงดู วันนี้บ่าวดูท่าทางจ่างกุ้ยแล้วคุยง่าย”
ซินโย่วพยักหน้าเปิด ‘บันทึกจิ้งจอกวิเศษ’ ออกอ่าน
อ่านจบ นางก็ผิดหวังเล็กน้อย
เรื่องราวอ่านแล้วก็ไม่เลว แต่ไม่ต่างจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ มากนัก ล้วนเป็นสาวงามรักปักใจแม้ตายก็มิเปลี่ยนใจต่อบัณฑิตหนุ่ม แต่หนึ่งคือปีศาจบุปผา อีกหนึ่งคือเซียนจิ้งจอก
“คุณหนูไม่ชอบอ่านหรือ” เสี่ยวเหลียนถามอย่างไม่เข้าใจ
“สองเรื่องนี้ต่างกันไม่มาก น่าเบื่ออยู่สักหน่อย”
“ไม่นะ” สาวใช้ตกใจเบิกตาโต “หนึ่งปีศาจบุปผา หนึ่งเซียนจิ้งจอกนะ”
ซินโย่ว “…”