สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 9 อันธพาลหลิวซานหู่
บทที่ 9 อันธพาลหลิวซานหู่
“ไอ้หนู! นายบอกราคามาได้เลย ฉันจะซื้อมังกรทะเลทั้งสามตัวนี้เอง!” ขณะที่ศาสตราจารย์และฉู่เหินกำลังพูดคุยกันอยู่นั่น จู่ ๆ ก็มีผู้ชายที่มีใบหน้าอวบอ้วนเหมือนก้อนเนื้อเดินออกมาท่ามกลางฝูงชนและประกาศเสียงดังราวกับว่าการไม่ขายให้ตัวเขาคนนี้ถือเป็นความผิดที่ยิ่งใหญ่!
ตอนนี้ฉู่เหินรู้แล้วว่าข้อความที่เขาโพสต์บนอินเทอร์เน็ตมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความที่มังกรทะเลมีแค่สามตัวเท่านั้น แถมถ้าหากขายราคาต่ำเกินไปก็จะไม่พอจ่ายค่ารักษาของพี่ชายเขาอีก ดังนั้นฉู่เหินจึงต้องคิดวิธีที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย
“ไอ้หนู ฉันจะให้นายสามหมื่นหยวน สำหรับมังกรทะเลสามตัวนี้ เอ้า! นี่เงิน” ในขณะที่ฉู่เหินกำลังจะตอบ ชายคนนั้นก็หยิบเงินสามหมื่นหยวนโยนลงบนพื้นจากนั้นก็ทำท่าจะเข้าไปหยิบมังกรทะเลทั้งสามตัว
ฉู่เหินขยับไปขวางอยู่ด้านหน้าของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะใช้มือข้างหนึ่งออกไปจับแขนข้างที่ยื่นออกมาของชายอ้วนตรงหน้า ชายหน้าอ้วนพยายามสะบัดอยู่สองถึงสามครั้ง แต่แล้วก็พบว่าเขาไม่สามารถดึงแขนออกได้ ดังนั้นตัวเขาจึงได้แต่ยืนจ้องหน้าฉู่เหินด้วยท่าทางข่มขู่
“ไอ้หนู แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ปล่อยมือซะ!” เมื่อชายคนนั้นเห็นความแข็งแกร่งของฉู่เหิน เขาก็ไม่กล้าประมาท แต่ก็ไม่ยอมถอยเช่นกัน เพราะวันนี้จุดประสงค์ของเขาคือการเอามังกรทะเลทั้งสามตัวนี้กลับไปให้ได้
“ทำไม? บังคับซื้อไม่ได้เลยจะเปลี่ยนเป็นปล้นรึไง? ฉันไม่รู้ว่านายเป็นใคร เอาแค่ตัวนายรู้ว่านายเป็นใครก็พอแล้วล่ะ
คิดจะเอามังกรทะเลไปจากที่นี่ก็ย่อมได้ แต่ต้องใช้วิธีการของฉันเท่านั้น ไม่งั้นอย่าคิดว่าจะผ่านประตูออกไปได้!” เมื่อได้ยินคำพูดที่หยิ่งยโสของฉู่เหิน ชายร่างใหญ่ก็หัวเราะเสียงดังออกมา
“ไอ้หนู กล้าพูดเรื่องกฎกับฉันงั้นเรอะ! ฉันจะดูว่าแกจะกร่างไปได้อีกสักกี่วัน! แกเคยได้ยินชื่อนี้ไหมห่ะ คนอย่างหลิวซานหู่ ซื้อของแล้วต้องจ่ายเงินที่ไหนกัน”
“ฉันอยากจะเตือนแกสักหน่อยนะ แกควรพอใจกับเงินที่ฉันให้ซะ ถ้าแกยังไม่ยอมอีก แม้แต่สามหมื่น แกก็จะไม่ได้ แถมยังอาจต้องไปนอนโรงพยาบาลเล่นสักเดือนครึ่งเดือนด้วย!”
หลังจากพูดจบ หลิวซานหู่ก็โบกมือชายฉกรรจ์นับสิบคนเดินเข้ามาทันที ดูจากท่าทางของคนเหล่านั้นแล้วฉู่เหินคิดว่าน่าจะมาร้ายมากกว่ามาดี
“ไอ้หนู! ในเมื่อแกคิดว่าแกแข็งแกร่งนัก แกลองสู้กับคนของฉันทั้งสิบคนดูสักหน่อยไหมล่ะ?” แม้ว่าฉู่เหินจะปล่อยมือของหลิวซานหู่แล้ว แต่หลิวซานหู่ก็ยังคงมีท่าทางระแวดระวังต่อความแข็งแกร่งของฉู่เหินอยู่
ฉู่เหินรู้ดีว่าเหตุผลที่เขาแข็งแกร่งกว่าหลิวซานหู่เป็นเพราะพลังที่ได้จากระบบเชื่อมโลกา! ถึงแม้ว่าตอนนี้พลังกายของเขาจะเพิ่มขึ้นเพียงสองแต้มเท่านั้น แต่มันก็ยังทำให้แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปมากอยู่ดี
“นายชื่อหลิวซานหู่ใช่ไหม? จากคำพูดของนายแสดงว่าคิดจะใช้พวกมากเข้ารุมล่ะสินะ”
หลังจากฉู่เหินได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม พวกมันอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงไหก่างของพวกเขาแท้ ๆ แต่กลับคิดจะรุมทำร้ายเขา ช่างคิดอะไรง่ายดายเกินไปแล้ว! ถ้ามีใครกล้าที่จะมาเล่นเล่ห์เหลี่ยมกับคนในหมู่บ้านแห่งนี้ เด็กและผู้ใหญ่ทั้งหมู่บ้านนี้ก็พร้อมใจที่จะรวมพลังกันต่อสู้!
เดิมทีเมื่อหลิวซานหู่ได้ยินคำพูดของฉู่เหิน เขายังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองเอง แต่แล้วจู่ ๆ ฉู่เหินก็ตะโกนขึ้นมาว่า “พี่น้องในหมู่บ้านชาวประมงไหก่างทั้งหลาย วันนี้ฉันได้ปลาทะเลหายากมาสามตัว แต่มีคนพาลที่ชื่อว่าหลิวซานหู่มาบังคับซื้อ แถมผู้ชายคนนี้ยังบอกว่าเขาเอาคนมามากมาย! เขามารังแกคนของหมู่บ้านไหก่างถึงที่ พี่น้องทั้งหลายพวกคุณยอมไหม!”
“แม่ง! คิดจะโกงในหมู่บ้านไหก่างเหรอ! วันนี้อัดมันให้เลือดอาบไปเลย ไม่อย่างนั้นคนในเมืองอย่างพวกมัน ก็คงไม่รู้ซะแล้วว่าอะไรควรไม่ควร!”
“ใช่แล้ว! อัดพวกมันให้เละ!” หลังจากฉู่เหินพูดจบ ชาวบ้านทั้งหนุ่มทั้งแก่ต่างพากันตะโกนด่าอย่างคึกคัก ผู้คนในหมู่บ้านชาวประมงไหก่างของเราไม่เคยรังแกคนอื่นก็จริง แต่ใช่ว่าเราจะยอมให้คนอื่นมารังแกพวกเราที่นี่!
ขณะที่คนท้องถิ่นกำลังตะโกนด่ากันอย่างวุ่นวายนั้นเอง หลิวซานหู่และพรรคพวกก็ถูกผลักออกไปข้างนอก ตอนแรกหลิวซานหู่ไม่ได้สนใจสายตาของคนในหมู่บ้านเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปจากชาวบ้านยี่สิบถึงสามสิบคนก็เพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยคน
เหตุการณ์นี้ทำให้หลิวซานหู่มุมปากกระตุกอย่างห้ามไม่ได้ ตอนนี้เขามั่นใจว่าถ้าเขาลงมือ พวกชาวบ้านจะต้องกรูกันเข้ามาอย่างแน่นอน หลิวซานหู่สบถคำหยาบออกมา เมื่อมองดูชาวบ้านเหล่านั้น พวกเขาทุกคนถือพลั่วและจอบเหล็ก หากปะทะกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะสู้ชาวบ้านไม่ได้
“หยุดนะ! พวกแกอยากจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่รึไง? ถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาอย่างมากฉันก็ติดคุกสองถึงสามปี เรื่องแค่นี้ฉันชินแล้ว แต่พวกแกทุกคนมีบ้านและงานที่ต้องทำ ถ้าอยากสู้ก็เข้ามาเลย!” เมื่อเหตุการณ์เริ่มเกินการควบคุม หลิวซานหู่ก็รีบตะโกนขู่เสียงดัง
หลังจากได้ยินคำพูดของหลิวซานหู่ พวกชาวบ้านก็เริ่มลังเล เพราะที่สุดแล้วพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่เกรงกลัวกฎหมาย พวกเขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือฉู่เหิน แต่ก็ไม่ต้องการทำผิดกฎหมายเช่นกัน
“หลิวซานหู่ นายอย่ามาทำให้ทุกคนตกใจ นายมาที่นี่เพื่อปล้นพวกเรา พวกเราแค่ปกป้องตัวเอง ต่อให้อัดพวกนาย มันก็เป็นแค่การป้องกันตัว คิดว่าพวกเราทุกคนไม่เข้าใจกฎหมายเหรอ?” เมื่อเห็นชาวบ้านถูกหลิวซานหู่ทำให้จนมุม ฉู่เหินก็ก้าวออกไปข้างหน้าแล้วพูดบ้าง
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เหิน หลิวซานฮูก็ตกตะลึง เขาไม่คิดว่าผู้คนในชนบทจะเข้าใจกฎหมายแบบนี้ นี่ทำให้เขาลังเลที่จะพูดต่อ
“ไอ้หนู ครั้งนี้ฉันจะยอมปล่อยไป แกบอกให้พวกแกหลีกทางซะ ฉันจะได้กลับ” หลิวซานหู่ดพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขาไม่คิดเลยว่าผู้มีอิทธิพลอยู่ในเมืองใหญ่อย่างเขาจะต้องมาพบเจอกับเรื่องราวแบบนี้
“แขกทุกท่าน และลุงป้าน้าอาทั้งหลายที่มาในวันนี้ ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณที่คุณมา ผมรู้ว่าพวกคุณมาที่นี่ในวันนี้เพราะมังกรทะเลทั้งสามตัว ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเปิดประมูลพรุ่งนี้เวลาบ่ายสองโมงตรง มังกรทะเลเหล่านี้จะเป็นของผู้ที่ให้ราคาประมูลสูงสุด”
เหตุผลที่ฉู่เหินทำแบบนี้เป็นเพราะในเวลานี้มีผู้คนนับไม่ถ้วนต้องการพวกมัน และตัวเขาเองก็ไม่ต้องการขายมันไปในทีเดียวทั้งหมด ด้วยวิธีการนี้ฉู่เหินจะได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน
คนที่มาในวันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตไกล ๆ อย่างไรก็ตามถึงแม้เขตฟู่หยวนจะไม่ใช่เขตใหญ่ แต่มันก็เป็นหนึ่งในเขตที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเหลียวโค่ว ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นจะมีคนรวยจำนวนมากที่เต็มใจซื้อมังกรทะเลสามตัวที่นี่ได้ยังไงถูกไหม?
หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน ทุกคนก็รู้ว่าวันนี้คงไม่ได้อะไรแล้ว แต่การมาบ้านของฉู่เหินในวันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี อย่างน้อยวันพรุ่งนี้เมื่อพวกเขากลับมาก็ไม่ต้องคอยถามทางอีก หลังจากนั้นพวกแขกก็พากันอำลาฉู่เหินทีละคน หลิวซานหู่เองก็เตรียมตัวที่จะจากไปเช่นกัน
“หลิวซานหู่! พวกนายรอก่อน” ขณะที่หลิวซานหู่กำลังจะจากไป จู่ ๆ ฉู่เหินก็เรียกหลิวซานหู่เสียงดัง
เมื่อทั้งสองกำลังจะเข้าหมู่บ้านก็มีรถยนต์หลายคันขับเข้ามา ประตูเปิดออกและมีคนหลายคนออกมาจากรถ ทุกคนยิ้มและถามพี่รองว่า “น้องชาย บ้านของฉู่เหินไปทางไหนเหรอ?”
“พวกคุณมาซื้อปลาของฉู่เหินเหรอ?” ถ้าเป็นเพียงหนึ่งหรือสองคน เขาอาจจะคิดว่าฉู่เหินแค่โชคดี อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่เขาลังเล รถหลายสิบคันก็ขับเข้ามา ที่สำคัญที่สุดคือคนเหล่านี้กำลังมองหาฉู่เหิน นี่เป็นเรื่องน่าตกใจจนพี่รองพูดอะไรไม่ออก
แม้ว่าหมู่บ้านชาวประมงไหก่างจะไม่เล็ก แต่ก็ไม่ใหญ่เกินไป ไม่นานเกือบทุกคนในหมู่บ้านก็ได้ยินเรื่องนี้ ด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เกือบทุกคนจึงพากันเดินไปที่บ้านของฉู่เหิน พวกเขาต้องการดูว่า ปลาอะไรที่ดึงดูดลูกค้าจำนวนมากขนาดนี้
“ฉู่เหิน นายอยู่บ้านรึเปล่า? มีคนต้องการซื้อปลา” หลังจากเดินไปถึงประตูบ้านของฉู่เหิน พี่รองก็ตะโกนเสียงดัง ฉู่เหินที่ถูกเสียงตะโกนของพี่รองปลุกให้ตื่นขึ้นมา เขาขยี้ตาแล้วสวมเสื้อผ้าเดินออกไป อย่างไรก็ตามทันทีที่เขาก้าวออกจากประตู เขาก็รู้สึกตกตะลึงทันที
“แม่เจ้า นี่ฉันฝันอยู่รึเปล่า ทำไมมีคนมากมายอย่างงี้ ที่สำคัญคือฉันไม่รู้จักใครสักคนเลยยกเว้นพี่รอง!” ฉู่เหินคิดขณะเดินออกไป
“พี่รอง พี่รู้ว่าพี่ชายของฉันเข้าโรงพยาบาลเลยพาลูกค้าเหล่านี้มาหาฉันเหรอ!?” ฉู่เหินจ้องมองพี่รองด้วยความสับสนแต่เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องอันตรายอะไร หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน พี่รองก็นิ่งเงียบ เขาไม่รู้พูดอะไรเลยได้แต่ยืนนิ่ง ๆ แล้วก็รอ
“สวัสดีครับ คุณคือฉู่เหินรึเปล่า ผมเห็นในอินเทอร์เน็ตว่าคุณมีมังกรทะเล คุณต้องการที่จะขายหรือเปล่าครับ?” ชายชราที่สวมแว่นสีทองคู่หนึ่งรีบก้าวมาข้างหน้าเพื่อคุยกับฉู่เหิน หลังจากจับมือกันแล้ว เขาก็ถามอย่างกระตือรือร้น
“ใช่แล้วครับ คุณต้องการที่จะซื้อหรือเปล่า?!” ฉู่เหินจ้องมองฝูงชนด้วยความสับสน เมื่อเห็นทุกคนพยักหน้า เขาก็งงเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะพบทางอินเทอร์เน็ตว่า มังกรทะลนั้นมีค่ามากและมีอยู่ไม่กี่แห่งในตลาด แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นที่ต้องการขนาดนี้!
“คุณฉู่ คุณช่วยพาเราไปดูของจริงก่อนได้ไหมครับ?” ขณะที่ฉู่เหินกำลังตกใจ ชายชราก็พูดอีกครั้ง
ตอนที่ฉู่เหินพาทุกคนไปดูมังกรทะเลทั้งสามของเขา เขายังไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าโลกภายนอกนั้นวุ่นวายแค่ไหน ปกติมังกรทะเลธรรมดาก็มีสรรพคุณทางยาดีมากแล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงพันธุ์หายากเหล่านี้เลย มีคนเรียกร้องให้มังกรทะเลเหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติและไม่อนุญาตให้ทำการค้าขายโดยเด็ดขาด! แน่นอนหลังจากคำพูดนี้ถูกพูดออกมา มันได้รับทั้งการสนับสนุนและคำคัดค้าน โดยหนึ่งในผู้ที่ทำการคัดค้านก็คือฉู่เหินนั่นเอง ตอนนี้มังกรทะเลเหล่านี้โด่งดังแล้ว
“โอ้พระเจ้า ที่แท้มันคือไทรเซราทอปส์ และไม่ใช่แค่ไทรเซราทอปส์ธรรมดาเท่านั้น พวกนี้มันตัวใหญ่กว่าปกติอีก ถ้าเราสามารถศึกษาได้ว่าทำไมมันถึงใหญ่มากขนาดนี้ มันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน” เขากล่าว
“คุณคือศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาที่โพสต์ความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตรึเปล่าครับ!” ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งก้าวออกมาถามหลังจากมองดูชายชราคนนั้น
“ศาสตราจารย์อะไรกัน ฉันแค่เรียนชีววิทยา แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็ขอเอาตัวเองเป็นรับประกันเลยว่านี่คือไทรเซราทอปส์พันธุ์หายากที่สุดแน่นอน” หลังจากได้ยินคำยืนยันของศาสตราจารย์ คนเหล่านี้ก็ไม่สามารถสงบได้อีกต่อไป ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ามูลค่าของไทรเซราทอปส์พวกนี้สูงมากแค่ไหน แค่เพียงไม่กี่กรัมก็น่าจะทำเงินได้มหาศาลแล้ว