สูตรโกงฉบับเด็กเรียน - ตอนที่ 139 การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่
ตอนที่ 139 การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่
P < 0.05 และ P = 0.05 เป็นสิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจสักเท่าไหร่
เป็นสิ่งที่ละเลยไปได้โดยง่าย เพราะมันไม่คุ้มที่จะใช้เวลาศึกษา แม้แต่สถาบันวิจัยหลายแห่งยังคิดว่า P ≤ 0.05 ไม่ต่างกันมาก!
ทว่าไป๋เยี่ยกลับบังเอิญพบเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากเช่นนี้
แน่นอนว่า แม้ว่า P < 0.05 นั้นไม่ได้หมายความว่าจะมีประสิทธิภาพเสมอไป แต่ก็หมายความว่ามีโอกาสถึงเก้าสิบห้าเปอร์เซนต์ที่จะออกมาเป็นผลดี!
กลับมาที่สถิติ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของความน่าจะเป็น แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นก็อาจเป็นความผิดพลาดชนิดที่หนึ่ง [1]หรือความผิดพลาดชนิดที่สอง[2] หรือแม้กระทั่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งที่มีความน่าจะเป็นน้อย
ไป๋เยี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มต้นการคำนวณรอบต่อไป
มันเป็นความผิดพลาดชนิดที่หรือความผิดพลาดชนิดที่สองกันแน่นะ
ไป๋เยี่ยกำลังจะเริ่มคำนวณต่อ ทว่าจู่ๆ ก็มีคุณป้าคนหนึ่งเดินมาข้างๆ เขา “พ่อหนุ่ม ทำไมยังอยู่ที่นี่อีกล่ะ ห้องสมุดจะปิดแล้วนะ”
ไป๋เยี่ยดูเวลา เห็นว่าตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว เขาจึงรีบกล่าวขอโทษคุณป้าคนนั้นทันที
ภาพเหตุการณ์คุ้นๆ แฮะ…คุณป้าคนนี้เนี่ยแหละที่เป็นคนมาปิดห้องสมุดตอนที่เรากำลังเตรียมตัวสอบเข้าปริญญาโท
ไป๋เยี่ยกลับไปที่หอพัก เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นต่อ ได้แต่นั่งพิจารณาถึงข้อมูลส่วนที่หายไปอย่างรอบคอบ
ข้อมูลนี้ไม่ต่างจากข้อมูลอื่นๆ มากนัก บางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าแค่ข้อมูลตัวนี้สูญหายไปตัวเดียวคงไม่มีผลกระทบมากเท่าไหร่
ไป๋เยี่ยไม่มีความเห็นสำหรับเรื่องนี้ เขาจึงปรึกษาคาริสและเดซี่เกี่ยวกับค่า P = 0.05
พวกเขาคิดว่าความน่าจะเป็นคงน้อยมาก และอาจลดความน่าจะเป็นนี้ลงไปได้อีกโดยใช้วิธีการคำนวณแบบอื่น หรืออาจจะเพิ่มข้อมูลที่ไม่จำเป็นเข้ามา
ทว่าไป๋เยี่ยกลับรู้สึกว่าข้อมูลจริงแบบนี้น่าจะสะท้อนถึงปัญหาบางอย่างได้ พอลบข้อมูลบางอย่างออกไปก็กลับกลายเป็นว่าข้อมูลไม่สมบูรณ์!
จะทำอย่างไรดีล่ะ
ทำไมไป๋เยี่ยถึงดึงดันจะแก้ปัญหานี้ ก็เพราะเขาคิดว่าปัญหานี้อาจจะเป็นต้นเหตุสู่ความล้มเหลวในการทดลอง
ประเด็นแรกคือ อาจเป็นเพราะผลการทดลองกับสัตว์ ในความเป็นจริงยาตัวนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงหรือยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไม่ได้
อีกประเด็นหนึ่งก็คือ แม้ว่ายานี้จะใช้ได้ผลกับหนู แต่ก็อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับมนุษย์ก็ได้
จุดประสงค์ของไป๋เยี่ยในตอนนี้คือการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของทั้งสองประเด็นนี้
ไป๋เยี่ยเอาแต่คิดเรื่องนี้ทั้งคืน พอเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็รีบไปที่ห้องสมุดทันที
จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเลเวลวิชาเวชสถิติถึงเลเวลหกแล้วจะมีวิธีการทดลองใหม่ๆ ให้เขาเลือกใช้
ไป๋เยี่ยยังไม่เคยลองใช้วิธีการเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงจัดระเบียบข้อมูลใหม่และเริ่มการคำนวณตามแบบจำลองใหม่
ใช้เวลาไม่นาน ไป๋เยี่ยก็ได้ผลลัพธ์ออกมาแล้ว!
ทว่าผลลัพธ์นั้นก็ทำให้ไป๋เยี่ยต้องตะลึง!
มันได้ผล!
ยานี้มีผลกับมะเร็งในทางเดินอาหารของหนูเคเอ็ม…
แต่ทำไมถึงได้ผลแบบนี้ล่ะ
แถมผลยังออกเร็วขึ้นด้วย
เป็นไปได้ไหมที่หนูเคเอ็มจะไม่ค่อยมีประสิทธิผลต่อการทดลองใช้ยาต้านมะเร็งทางเดินอาหาร
ไม่มีใครศึกษาเรื่องความเหมือนหรือต่างกันระหว่างหนูกับมนุษย์เลยเหรอ
โดยทั่วไปแล้ว หนูเคเอ็มมักใช้ในการวิจัยโรคมะเร็งอยู่แล้ว มันจะไม่มีเหตุผลขนาดนั้นเลยเหรอ โดยเฉพาะการเกิดมะเร็งในทางเดินอาหาร หรือว่ามันจะมีปัญหาอะไรซ่อนอยู่
จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีตำรา ‘วิธีเลี้ยงหนู‘ อยู่ เขาจึงรีบเปิดหน้าจอโปร่งแสงขึ้นมาและลองอ่านดู
จะมีไหมนะ…
ไป๋เยี่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ถ้าเขาหาแหล่งอ้างอิงได้…นี่จะกลายเป็นการค้นพบครั้งใหม่ของเขา!
‘หนูเคเอ็มไม่เหมาะสำหรับการนำมาค้นคว้าเรื่องมะเร็งในทางเดินอาหาร’ เมื่อไหร่ที่ทฤษฎีนี้ได้รับการยืนยัน มันต้องจะเป็นการค้นพบครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!
เจอแล้ว! เจอแล้ว!
แซคเกอร์ได้เขียนข้อสรุปจากประสบการณ์ของเขาไว้
‘หนูเคเอ็มมีจะมีการเปลี่ยนลำดับการถอดรหัสดีเอ็นเอในการทดลองยาบางชนิด ซึ่งยาเหล่านั้นจะต้องเป็นยาที่ใช้ในหนูเคเอ็มโดยเฉพาะ ไม่ใช่กับมนุษย์ มิเช่นนั้นการทดลองจะล้มเหลว…’
ไป๋เยี่ยกระจ่างทันที!
เป็นแบบนี้เองสินะ
แล้วมันคือยาอะไร สาเหตุคืออะไรล่ะ
ไป๋เยี่ยรีบอ่านต่อไปและพบว่าลำดับดีเอ็นเอของหนูเคเอ็มเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเผชิญกับสิ่งเร้าที่รุนแรงพอ ซึ่งหมายความว่ามันกลายพันธุ์ได้เร็วกว่ามนุษย์
จากนั้นแซคเกอร์ก็ได้ยกตัวอย่างมากมายเพื่อพิสูจน์ข้อเสียบางประการของหนูเคเอ็ม อีกทั้งบทความยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าการสูญหายของข้อมูลการทดลองบางส่วนก่อให้เกิดช่องโหว่ในการทดลองได้
ในความเป็นจริง นั่นคือโอกาสในการปรับปรุงพันธุ์หนูเคเอ็มต่อไป หากกำจัดสาเหตุของการกลายพันธุ์นั้นได้ บางทีมันอาจจะเป็นหนูพันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาเรื่องโรคมะเร็งต่อไปก็ได้
ไป๋เยี่ยถึงกับตะลึง เขาจึงรีบพลิกไปอ่านชื่อผู้ทำการทดลอง
‘งานวิจัยเรื่องการใช้สารประกอบสังเคราะห์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง: ดร. ไมคัส ทรานส์ลี’
ดร. ไมคัส ทรานส์ลี งั้นเหรอ
ไป๋เยี่ยจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ และโทรหาคาร์ลทันทีโดยไม่สนใจว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงกี่ยามแล้ว
ไป๋เยี่ยตั้งสติและสูดหายใจเข้าลึกๆ “ไงคุณคาร์ล ช่วงนี้งานยุ่งไหมครับ”
น้ำเสียงของคาร์ลฟังดูขี้เกียจเล็กน้อย “โอ้! ไป๋เยี่ยนี่เอง ตอนนี้กี่โมงแล้ว…”
ไป๋เยี่ยกล่าวขอโทษก่อนจะพูดต่อ “ผมได้ผลลัพธ์แล้วนะครับ ว่าแต่อาจารย์ของคุณชื่ออะไรน่ะ”
คาร์ลถึงกับตื่นเต้นขึ้นเมื่อได้ฟังคำถามจากไป๋เยี่ย “ว่าไงนะ ได้ผลลัพธ์แล้วเหรอ เป็นไงบ้าง”
ไป๋เยี่ยชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวเบาๆ “เกือบน่ะ ถ้าผมได้ผลลัพธ์แล้วจะบอกคุณเอง แต่ตอนนี้ตอบผมมาก่อนว่าใครคือที่ปรึกษาของคุณ”
คาร์ลถอนหายใจ “ที่ปรึกษาของผมชื่อ…ไมคัส ทรานส์ลี! แต่ว่านะ เขาจากไปแล้วน่ะ…เป็นซึมเศร้าแล้วก็ฆ่าตัวตาย”
ไป๋เยี่ยช็อก เป็นเขาจริงๆ ด้วย แต่…ทำไมเขาถึงฆ่าตัวตายล่ะ “ขอโทษที่ถามนะครับ ขอบคุณมาก รอฟังข่าวดีจากผมได้เลย”
ไป๋เยี่ยคุยกับคาร์ลต่ออีกพักหนึ่งก่อนจะวางสายไป เขาบอกเรื่องที่เขาเติมข้อมูลลงไปให้คาร์ลฟังไม่ได้ แต่เขาทำการค้นคว้าต่อไปได้ก็เพราะข้อมูลที่ถูกต้อง
ข้อมูลถูกต้องแล้ว ที่มีปัญหาคือตัวหนูทดลองนั่นเอง แล้วปัญหาคืออะไรล่ะ
ไป๋เยี่ยกลับไปอ่านข้อมูลส่วนที่สอง ข้อมูลที่ขาดหายไปก็ยังคงเป็นข้อมูลสำคัญอยู่ดี…
วันต่อมาไป๋เยี่ยจึงใช้เวลาคำนวณมันทั้งวัน
ไป๋เยี่ยมีประสบการณ์ด้านการค้นหาข้อมูล และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้
คืนที่สาม ไป๋เยี่ยนั่งอ่านข้อมูลด้วยความตื่นเต้น เขาได้ผลลัพธ์แล้ว!
เมื่อรวมข้อมูลนี้เข้ากับข้อมูลส่วนแรก ผลลัพธ์ที่ได้จึงพิสูจน์ให้เห็นว่าลำดับโมเลกุลกวานีนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของดีเอ็นเอระหว่างการถอดรหัสอาร์เอ็นเอได้อย่างง่ายดาย!
ถ้าหากลบกวานีนในหนูเคเอ็มออกไปและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดีเอ็นเอของมันได้ อัตราการกลายพันธุ์จะลดลง
วิธีนี้อาจจะไม่ดีต่อการกลายพันธุ์ของหนูนัก แต่มันดีสำหรับการทดลอง!
ไป๋เยี่ยเริ่มตื่นเต้น
ฉันเกิดมาเพื่อเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์…
เมื่อนึกถึงหนูชนิดใหม่ที่เหมาะสำหรับการวิจัยโรคมะเร็ง ไป๋เยี่ยก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
เราต้องทำการทดลองเดี๋ยวนี้ ถ้าการทดลองประสบผลสำเร็จ…ไป๋เยี่ย ผู้นี้ก็จะกลายเป็นราชาแห่งหนูทดลอง…
ถึงชื่อจะฟังดูไม่ค่อยถูกใจก็เถอะ แต่…
ถ้าตั้งใจทำบางอย่างจนถึงขีดสุด สิ่งนั้นก็คือศิลปะดีๆ นี่เอง!
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ไป๋เยี่ยยังคงแบกรับภารกิจของคาร์ลไว้ ซึ่งภารกิจนี้ก็เป็นภารกิจที่มีรางวัลอู้ฟู่เลยทีเดียว!
[1] ความผิดพลาดชนิดที่ 1 (Type I Error) ความผิดพลาดในการตัดสินใจปฏิเสธ ที่เป็นจริง
[2] ความผิดพลาดชนิดที่ 2 (Type II Error) หมายถึงความผิดพลาดในการตัดสินใจยอมรับที่ไม่จริง